คณะทูตกลับไปแล้ว แต่ทิ้งชาวโปรตุเกสไว้คนหนึ่งชื่อ Fragoso (อ่านว่าฟรากูซู เพิ่งเจอว่าตัว o ในภาษาโปรตุเกสออกเสียงเป็น อู) นายคนนี้ไม่รีบกลับ แต่ปักหลักอยู่กรุงศรีอยุธยาประมาณ 2 ปี เขียนบันทึกรายละเอียดเกี่ยวกับกรุงศรีอยุธยามากมาย ทั้งพิกัดและที่ตั้ง รวมทั้งเมืองท่าต่างๆ ในอาณาจักร บอกรายละเอียดเรื่องสินค้า การแต่งกาย ขนบธรรมประเพณีของชาวสยามด้วย แกคงจะทำหน้าที่คล้ายๆเจ้าหน้าที่กรมประมวลข่าวกลางละกระมัง
Manuel Fra gozo มานูเอล ฟราโกซู (คุณกุ๊กอ่านว่า
ฟราโกซู ) คนนี้เองที่ได้รับการบันทึกว่าเป็นจารชนชาวยุโรปในสยามคนแรก
คุณภาสกร วงศ์ตาวันเขียนไว้ในบทความเรื่อง
ชาวโปรตุเกสในกรุงศรีอยุธยา มีทั้งทหารรับจ้าง จารชน และโจรสลัดนายฟรานโกซู คนนี้มีหน้าที่โดยได้รับคำสั่งว่าให้อาศัยอยู่ในสยามเพื่อรวบรวมข้อมูลสำคัญต่าง ๆ ให้แก่ฝ่ายโปรตุเกส ข้อมูลสำคัญต่าง ๆ ที่ว่านี้ได้แก่ ชนิดของสินค้าที่สามารถ หาได้ในสยาม ขนบประเพณีและการแต่งกายของชาวสยาม ตำแหน่งทางภูมิศาสตร์ที่ชัดเจนของเมืองอยุธยา ความลึกของท่าเรืออยุธยา
นอกจากนั้นยังต้องเสาะแสวงหา และรวบรวมข้อมูลด้านแสนยานุภาพทางทหารของสยามอีกด้วย
ไม่เพียงเท่านั้นอันที่จริงแล้วการสืบราชการลับเริ่มต้นมาตั้งแต่การเดินทางของทูตครั้งนี้แล้วคือ เพื่อให้รู้จักเส้นทางของการเข้าสู่อยุธยา ทูตชุดนี้จึงได้เลือกเดินทางสำรวจมาโดยช่วงแรกเดินทางทางเรือมาขึ้นฝั่งที่เมืองมะริดก่อน แล้วเดินทางบกสำรวจเส้นทางบกไปเรื่อยจนเข้าสู่เมืองอยุธยา
ด้วยภารกิจดังว่า และได้รับพระบรมราชานุญาตให้อาศัยอยู่ในสยามได้ นายฟราโกซูเลยอยู่อย่างสะดวกสบายในสยามถึง ๒ ปี เป็นเวลา ๒ ปีที่สืบราชการลับโดยมีบรรดาขุนนางข้าราชการให้การต้อนรับ และพร้อมที่จะให้ข้อมูลที่อยากได้ทุกเรื่องหมดเวลา ๒ ปี นายฟราโกซูก็เดินทางออกนอกประเทศนำข้อมูลที่ตัวเองได้ไปรายงานกับผู้สำเร็จราชการโปรตุเกสที่เมืองกัวได้อย่างพร้อมมูล
เรื่องราวของนายฟราโกซู ได้รับการบันทึกเอาไว้ในประวัติศาสตร์ของโปรตุเกสอย่างชัดเจนเสียอย่างเดียวที่จนถึงวันนี้รายงานฉบับของเขานั้นได้หายสาบสูญไปเสียแล้ว เลยไม่มีใครในปัจจุบันที่ได้อ่าน และได้รู้จนถึงผลงานที่เขาได้ทำเอาไว้ในฐานะจารชนคนแรกของชาวตะวันตกในสยามประเทศ
ในเวลาต่อมาไม่ปรากฏว่าโปรตุเกสคิดจะเข้ามายึดกรุงศรีอยุธยาเหมือนกับที่ทำกับหลายเมืองที่ผ่านมา กระนั้นเกมการเมืองครั้งนี้ของโปรตุเกสหากเรามาพิจารณากันในปัจจุบันแล้ว ก็ดูน่าหวาดเสียวอยู่ไม่น้อย ที่สำคัญยังมีประเด็นพ่วงอีกเรื่องหนึ่ง คือ ช่วงเวลาดังกล่าวโปรตุเกสไม่แต่เพียงเข้ามาสืบราชการลับเท่านั้น ยังส่งคนเข้ามาทำอะไรอีกอย่างหนึ่ง ซึ่งในปัจจุบันถือเป็นความลับทางราชการของชาติด้วย นั่นก็คือส่งนายเปรู เรยเนล (Pero Reinal) เข้ามาทำแผนที่เดินเรือของอ่าวสยาม ซึ่งถือเป็นการทำแผนที่เดินเรือและการสำรวจน่านน้ำของสยามครั้งแรกโดยชาวตะวันตก
คิด ๆ ไปแล้วในแง่ประวัติศาสตร์ ข้อมูลของนายฟราโกซู ที่สูญหายไปนั้นน่าเสียดายอย่างยิ่ง ไม่รู้ว่าเขาบันทึกอะไรเอาไว้บ้าง ซึ่งหากมีอยู่ก็น่าจะสามารถเป็นข้อมูลเกี่ยวกับอยุธยาที่สำคัญอีกชิ้นหนึ่ง ซึ่งไม่ต่างจากของยุโรปชาติอื่นที่ทำกันมาอย่างต่อเนื่องและยังมีหลงเหลือกลายเป็นหลักฐาน และข้อมูลทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญ เช่น ของฮอลันดา ที่มีนาย โยสต์ เซาเต็น และนายฟาน ฟลีต บันทึกหรือของฝรั่งเศสที่มีหลายคนหลายสำนวน แต่ที่ได้รับการนับถืออย่างมากก็เช่นของลาลูแบร์ หรือของบาทหลวงตาชาร์ด เป็นต้น ซึ่งแท้จริงมันก็คือข้อมูลในเชิงของการสืบราชการลับ หรือข้อมูลของจารชนทั้งสิ้นนั่นเอง
