ขนมไทยแม่เอ๊ย

[เทาชมพู]

ใครยังจำโรตีสายไหมได้บ้าง

[เทาชมพู]

น้ำตาลเป่าแบบนี้ละค่ะที่ถูกห้ามกิน   ไปเจอรูปเลยเอามาลงอีกครั้ง  แม้ว่าเคยคุยกันมาแล้วในกระทู้นี้
ก็เพราะเป็นของต้องห้ามนี่แหละ จึงยังคิดถึงจนบัดนี้

[bangplama]

^
เคยได้ลิ้มรส ปีละครั้งเมื่อยังเป็นเด็ก จะมีคนขายที่มากับคณะงิ้วประจำปี
ตลาดบางยี่หน ไปยินรอก็ดูเขาทำ ตื่นตาตื่นใจดี เตี่ยก็ยอมให้ซื้อได้เพราะไม่ได้กินทุกวัน
คงไม่ทำให้ฟันผุหรอก

[เทาชมพู]

นึกออกแล้วว่าเจ้าของบ้านบุนนาค ที่มีตำรับขนมลิ้นแมวคือใคร
   
ท่านชื่อคุณหญิงอรสุมพลาภิบาล  (อายุยืน บุนนาค)  เป็นธิดาพระยาราชานุประพันธ์ (ทุ้ย บุนนาค)   คุณหญิงสมรสกับพระยาอรสุมพลาภิบาล (เด่น บุนนาค) เจ้ากรมพระธรรมนูญ กระทรวงทหารเรือ   
ท่านเป็นแม่เลี้ยงของคุณประดิษ ที่คุณ Bangplama เล่าถึงไงคะ

ถ้าคุณดีดีหาร้านขายที่บองมาเช่ไม่เจอ   ลองไปทำรับประทานเองก็ได้  มีวิธีทำอยู่ในลิ้งค์นี้
http://www.nuihome.com/?p=1137

[เทาชมพู]

ขนมโบราณอีกอย่างที่เกือบลืมนึกถึงไปแล้ว  คือกระเช้าสีดา   ขนมที่ใส่ในกระเช้าคือมะพร้าวแก้ว

[Ruamrudee]

แวะมาคว้าขนมกินค่ะ

คุณ Han Bing ขา หากสามารถหาวิธีทำตังเมกรอบ ที่ห่อกับโรตีกินเหมือนโรตีสายไหมได้ จะเป็นพระคุณยิ่งค่ะ
หวังว่าคนจีนในแผ่นดินใหญ่จะยังจำและ ทำได้ มันสาปสูญไปจากประเทศไทยนานมาก


 

[เทาชมพู]

ใครเคยกินขนมดอกโสนบ้างคะ

[bangplama]

ขนมดอกโสนยังหารับประทานได้อยู่ครับ
เมื่อสมัยยังเป็นเด็กก็เคยพายเรือเก็บดอกโสนตามชายคลอง
นำไปต้มจิ้มน้ำพริกมากกว่าจะนำมาทำเป็นขนม

[เทาชมพู]

ดอกโสนยังมีอยู่สองข้างเมื่อไปชานเมืองด้านพุทธมณฑล    ออกดอกเหลืองไสวอยู่ตามที่ดินว่างๆ ข้างทาง  แต่อีกไม่นานเมื่อตึกแถวและหมู่บ้านจัดสรรตามมาเต็มเนื้อที่    ดอกโสนคงหายไปหมด     อดกินกันทั้งขนมดอกโสนและดอกโสนจิ้มน้ำพริก

[เทาชมพู]

ข้าวตู  เอามาลงในกระทู้หรือยังคะ

[เทาชมพู]

ขนมไป๋ หรือขนมถาดเกสร

[bangplama]

"ท่านเป็นแม่เลี้ยงของคุณประดิษ"
จริงๆแล้วคุณประดิษเป็นลูกของภรรยาลำดับที่๓ของพระยาอรสุมพลาภิบาล (เด่น บุนนาค) เจ้ากรมพระธรรมนูญ กระทรวงทหารเรือ   
แต่คุณหญิงอรสุมพลาภิบาล  (อายุยืน บุนนาค) ท่านเป็นภรรยาใหญ่

[เทาชมพู]

ก็เป็นแม่เลี้ยงกับลูกเลี้ยงนั่นแหละค่ะ  เพราะท่านเป็นภรรยาของเจ้าคุณพ่อ แต่ไม่ใช่แม่คุณประดิษ

[siamese]

จากข้าวน้ำนมสีเขียว กลายเป็น "ขนมข้าวเม่าคลุก" หอมกลิ่นข้าว

[siamese]

"ไข่ในรัง" หรือ "ฝอยเงิน"
๑. นำไข่ขาวมากรองด้วยผ้าขาวบาง พักไว้
๒. ใส่น้ำตาล น้ำลงในกระทะทอง   ตั้งไฟจนเดือด  ใส่ไข่ขาว ลงในกรวยโรยไข่ โรยลงในน้ำเชื่อมจนเต็มกระทะ ตักขึ้น แช่ไว้ในน้ำเชื่อมใส ทำจนหมด
๓. ตักฝอยเงินขึ้นจากน้ำเชื่อมใส พักให้สะเด็ดน้ำเชื่อม  จึงนำ มาจัดเรียงลงในถ้วยตะไล   โดยให้มีลักษณะเหมือนรังนก นำไปผึ่งลมให้แห้ง   จึงแกะออกมาวางแล้วใส่ไข่แมงดา ลงไปในรัง รังละ  10-15 ฟอง   โดยให้มีลักษณะพูน ๆ จึง จะสวยงาม