เมื่อประมาณปีพุทธศักราช ๒๕๐๐ มีคณะต่าง ๆ เกิดขึ้นมากมาย จึงต้องโค่นต้นจามจุรีเพื่อสร้าง ตึกใหม่ ต้นจามจุรีจึงลดน้อยลงอย่างน่าใจหาย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจึงรับสั่งว่าต้นจามจุรีมีความผูกพันกับคนแถวนี้มาก หากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยไม่ปลูกจะเสด็จพระราชดำเนินมาปลูกต้นจามจุรีเอง และในวันที่ ๑๕ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๐๕ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้เสด็จพระราชดำเนินมาทรงปลูกต้นจามจุรี ๕ ต้น หน้าหอประชุม และได้พระราชทานพระราชดำรัชถึงความผูกพันระหว่างชาวจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยกับต้นจามจุรี ทรงเน้นว่าดอกสีชมพูเป็นสัญลักษณ์สูงสุดอย่างหนึ่งของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ทรงเล่าว่า ทรงปลูกต้นไม้ที่พระตำหนักไกลกังวล ต้นจามจุรีงอกขึ้นบริเวณต้นไม้ที่ทรงปลูกไว้ จึงทรงถือว่าทรงปลูกจามจุรีเหล่านั้นด้วย เมื่อจามจุรีโตขึ้นแล้วเห็นว่าควรเข้ามหาวิทยาลัยเสียที ก่อนจบกระแสพระราชดำรัส ได้รับสั่งว่า ฝากต้นไม้ไว้ ๕ ต้นให้เป็นเครื่องเตือนใจตลอดกาล จามจุรีพระราชทานห้าต้นจึงยืนต้น อย่างแข็งแรงเป็นศรีสง่าและสิริมงคลแก่ชาวจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยมาจนถึงปัจจุบันและตลอดไป
เมื่อต้นปีจามจุรีงามล้น เครื่องหมายแทนสิ่งมงคล ทุกคนเริ่มต้นสนใจ
เริ่มเวลารับชาวจุฬาน้องใหม่ เบิกบานสำราญฤทัย น้องเรามาใหม่หลายคน
เห็นจามจุรีสีงาม ทุกยามต้องงามล้ำล้น น้องเราเข้ามาทุกคน เบิกบานกมลเริ่มต้นด้วยดี
พร้อมกันในวันนี้เอง ร้องเพลงครื้นเครงเต็มที่ หมายเอาจามจุรี เป็นเกียรติเป็นศรีของชาวจุฬา
เมื่อกลางปีจามจุรีฝักหล่น ถึงเวลาหน้าฝนลำต้นก็ลื่นหนักหนา
ฝักหล่นไปทั้งยางก็ไหลลงมา ถ้าเดินพลั้งพลาดท่าจะล้มทันที
ฉันใดก็ดียางจามจุรีเตือนใจ ว่ายางที่ไหลนั่นคือยางอายเรานี้
พลาดการศึกษาแสนอายหนักหนาทั้งตาปี จำยางจามจุรีเตือนใจ
เมื่อปลายปีดอกจามจุรีร่วงหล้น ทิ้งใบเกลื่อนถนน เหลือเพียงลำต้นยืนไว้
เหล่าจุฬาทิ้งความสุขาทันใด พ่อแม่น้องพี่ไกลใกล้อยู่ไหนลืมพลัน
ที่กินถิ่นนอน มิได้อาวรณ์นำพา มีความปรารถนาเหลือเพีงตำราเท่านั้น
เพื่อนเชือนชักทิ้งจนคนรักสารพัน หวังมิให้ตกชั้นรีไทร์
ฮึกเหิมครับ

เขียนจากความทรงจำ (จำชื่่อเพลงไม่ได้แล้ว)
นี่ก็เป็นอานิสงฆ์จากการได้ทบทวนกระทู้ดีๆหลังจากรู้วิธีเรียงลำดับกระทู้จากท่าน Admin