เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: 1 ... 12 13 [14] 15 16 ... 23
  พิมพ์  
อ่าน: 164391 ภาพพระราชพงศาวดาร สมัยสมเด็จพระนเรศวรมหาราช
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 195  เมื่อ 25 เม.ย. 11, 22:08

พอดีจับพลัดจับผลู searchไปเจอภาพถ่ายทางอากาศ ที่อังกฤษถ่ายเมืองตองอูไว้ในช่วงสงครามโลกครั้งที่2 เลยเอามาให้ดูกันครับ


บันทึกการเข้า
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 196  เมื่อ 25 เม.ย. 11, 22:18

อ้างถึง
คาดว่า ผ่านมากว่า ๕๐๐ ปีเส้นทางน้ำคงไม่ใช่อย่างที่เราเห็นในปัจจุบันนี้

ข้อสันนิฐานของคุณหนุ่มสยาม เราจะมองข้ามไม่ได้  รูปทั้งสองนี้เวลาต่างกันประมาณ๗๐ปี ในขณะที่กายภาพของตัวเมืองแทบจะไม่มีความเปลี่ยนแปลงอะไรเลย แต่แนวตลิ่งของแม่น้ำกลับเปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด

สมัยกองทัพของสมเด็จพระนเรศวรล้อมเมืองตองอู แม่น้ำอาจเป็นอย่างที่คุณหนุ่มสยามว่า


บันทึกการเข้า
siamese
หนุมาน
********
ตอบ: 7165


หนุ่มรัตนะกับภูเขาทอง


ความคิดเห็นที่ 197  เมื่อ 25 เม.ย. 11, 22:27

ให้ อ.NAVARAT.C ดูแผนผังเมืองตองอูส่วนตะวันออกเฉียงใต้ เป็นที่ตั้งของป้อมขนาดใหญ่ และขวามือเป็นบึงน้ำ (ยังไม่เป็นสี่เหลี่ยม) ภาพนี้ทำเมื่อ ค.ศ. 1873


บันทึกการเข้า
siamese
หนุมาน
********
ตอบ: 7165


หนุ่มรัตนะกับภูเขาทอง


ความคิดเห็นที่ 198  เมื่อ 26 เม.ย. 11, 14:17

ได้อ่านจดหมายเหตุ มองซิเออร์ เซเบเรต์ ซึ่งเป็นเอกอัตรราชทูตของพระเจ้ากรุงฝรั่งเศส ไปเจริญทางพระราชไมตรีกับพระเจ้ากรุงสยาม เมื่อ พ.ศ. ๒๒๓๐ - ๒๒๓๑ มีบางช่วงที่ราชทูตได้เดินทางออกจากกรุงศรีอยุธยา เพื่อเดินทางมายังบางกอก เห็นว่าเดินทางในช่วงเดือนธันวาเช่นกัน จึงน่าจะเปรียบเทียบระยะเวลาการเดินทางอย่างพระเจ้าจีนจันตุได้

"ในวันที่ ๑๕ เดือนธันวาคม เวลาเที่ยงข้าพเจ้าได้ออกเรือจากกรุงศรีอยุธยาล่องลงไปบางกอก และได้ไปถึงบางกอกในราว ๒ ยาม (เที่ยงคืน)"

จะเห็นว่าระยะทางแต่นี้ใช้เวลาเดินทาง ๑๒ ชั่วโมง แต่ในสมัยพระนเรศวรนั้น แม่น้ำเจ้าพระยาบางช่วงยังไม่ได้ขุดลัด คงใช้เวลามากกว่านี้หลายชั่วโมงอยู่


บันทึกการเข้า
luanglek
นิลพัท
*******
ตอบ: 2894


ความคิดเห็นที่ 199  เมื่อ 26 เม.ย. 11, 14:31

แต่นั่นเป็นการเดินทางทางเรือโดยไม่เร่งรีบมิใช่หรือ
เวลา  ๑๒  ชั่วโมง  คงถือว่าเป็นปกติของการเดินทางทางเรือ
จากปากน้ำบางเจ้าพระยาถึงพระนครศรีอยุธยา

ในพระราชพงศาวดารกรุงศรีอยุธยาไม่ได้บอกว่า
กองเรือที่สมเด็จพระนเรศวรเสด็จไปตามตีเรือพระยาจีนจันตุ
เริ่มต้นทางที่ไหนแน่   กรุงศรีอยุธยา หรือเป็นตำบลที่อยู่ล่างลงมา
กองเรือที่ตามเรือพระยาจีนจันตุในช่วงแรก
อาจจะเป็นเรือชาวด่านที่รักษาด่านด่านตามลำน้ำเจ้าพระยา
(เช่นแถวตลาดขวัญ  บางกอก  พระประแดง ฯลฯ)
ที่ไล่ตีเรือพระยาจีนจันตุทำให้เรือพระยาจีนจันตุเดินทางได้ไม่เร็ว
ทำให้กองเรือ(เรือเร็ว)สมเด็จพระนเรศวรตามทันก็ได้
ทั้งนี้  สมเด็จพระนเรศวรอาจจะไม่ได้เสด็จลงเรือ
มาตั้งแต่กรุงศรี  แต่อาจจะทรงม้ามาเสด็จลงเรือแถบตำบลล่างๆ
ก็ได้กระมัง   เพราะถ้าเส้นทางแม่น้ำคดอ้อมขนาดนั้น
กว่าจะพายเรือเร็วมาทันกัน  ดูจะยากนัก

อันนี้คิดเล่นๆ นะ  อย่าถือเป็นจริงเป็นจัง
บันทึกการเข้า
siamese
หนุมาน
********
ตอบ: 7165


หนุ่มรัตนะกับภูเขาทอง


ความคิดเห็นที่ 200  เมื่อ 26 เม.ย. 11, 15:18

ทั้งนี้  สมเด็จพระนเรศวรอาจจะไม่ได้เสด็จลงเรือ
มาตั้งแต่กรุงศรี  แต่อาจจะทรงม้ามาเสด็จลงเรือแถบตำบลล่างๆ
ก็ได้กระมัง   เพราะถ้าเส้นทางแม่น้ำคดอ้อมขนาดนั้น
กว่าจะพายเรือเร็วมาทันกัน  ดูจะยากนัก

อันนี้คิดเล่นๆ นะ  อย่าถือเป็นจริงเป็นจัง

เมื่อคุณหลวงเล็กบ่นว่าคึกนัก จึงจะถามต่อนะครับว่า

ในกรณีที่เห็นด้วยว่าสมเด็จพระนเรศวรทรงขี่ม้าและมาขึ้นเรือแถบตำบลต่างๆ นั้น
๑. ประการแรกต้องนึกเตรียมพลฝีพาย ไว้ให้พร้อม เมื่อท่านเสด็จลงเรือได้เลย
๒. มาลงตำบลไหนละท่าน ที่จะมีเรือรบได้พรั่งพร้อมหลายลำ พร้อมกำลังพลได้ขนาดนี้ ดังคุณหลวงยกกองแรลลี่ไปต่างจังหวัด จัดหาเรือสัก ๓๐ ลำด่วนจะหาจากไหน ถ้าไม่ใช่สั่งกองกำลังพลจากกรุงศรีอยุธยา
๓. ถ้าได้เรือจริงคงไม่ได้เรือรบ พร้อมกำลังพลหรอก คงได้แต่เรืออีโปง สำปั้น เข็ม เท่านั้น  ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม

คำเตือน อันนี้คิดเล่นๆ นะ  อย่าถือเป็นจริงเป็นจัง
บันทึกการเข้า
luanglek
นิลพัท
*******
ตอบ: 2894


ความคิดเห็นที่ 201  เมื่อ 26 เม.ย. 11, 15:41

เมื่อคุณหลวงเล็กบ่นว่าคึกนัก จึงจะถามต่อนะครับว่า

ในกรณีที่เห็นด้วยว่าสมเด็จพระนเรศวรทรงขี่ม้าและมาขึ้นเรือแถบตำบลต่างๆ นั้น
๑. ประการแรกต้องนึกเตรียมพลฝีพาย ไว้ให้พร้อม เมื่อท่านเสด็จลงเรือได้เลย
๒. มาลงตำบลไหนละท่าน ที่จะมีเรือรบได้พรั่งพร้อมหลายลำ พร้อมกำลังพลได้ขนาดนี้
๓. ถ้าได้เรือจริงคงไม่ได้เรือรบ พร้อมกำลังพลหรอก คงได้แต่เรืออีโปง สำปั้น เข็ม เท่านั้น  ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม

คำเตือน อันนี้คิดเล่นๆ นะ  อย่าถือเป็นจริงเป็นจัง

เลียนแบบนะครับ  คิดเองดิ

๑.ฝีพายนะ  ไม่ยาก  คนไทยสมัยนั้นพายเรือเหมือนกับขับรถ
ทหารทุกคนพายเรือได้   ตำบลที่ตั้งด่านทางน้ำทุกแห่งมีเรือไว้ใช้ในราชการ
เพราะไว้ใช้ในราชการด่วนและในการตระเวนทางน้ำ
เรือข้าราชการหัวเมืองก็มีใช้การได้  เรือพวกนี้ลำเล็ก แต่ว่องไวคล่องแคล่ว
คงไม่มีใครคิดเอาเรือพระราชพิธีที่ลำยาวมาก ไปพายคัดวาดในเวลาเร่งรีบหรอก
เหนื่อยแรง   ถ้าพลาดท่าก็คว่ำได้ง่าย   แต่ก่อนเรือหัวสัตว์เคยมีใช้ในราชการมาก


๒.เสด็จมาลงตรงไหนนะหรือ   อันนี้พงศาวดารไม่บอก
แต่ถ้าคิดว่า   หากทรงทราบข่าวหลังจากพระยาจีนจันตุ
เดินทางออกมากจากกรุงศรีได้สัก ๑ ชั่วยาม  ผมคิดว่า แถวๆ
บางกอก นนทบุรีก็น่าจะพอทันการ  ส่วนการเตรียมการคนนั้น
ก็เมื่อมีเหตุอย่างนี้การระดมคนไม่ใช่เรื่องยาก  เพราะทุกด่าน
จะมีไพร่หลวงหัวเมืองที่มีหน้าที่รักษาด่านเข้าเดือนออกเดือน
รักษาการอยู่ไม่ขาด   โปรดดูบรรดาศักดิ์เจ้าเมืองต่างๆ
สมัยก่อน  มักจะมีคำเกี่ยวกับการทำสงครามปรากฏอยู่ด้วย
ก็เพราะเจ้าเมืองต้องทำหน้าที่กองกำลังรักษาเมืองหลวงด้วย
ทหารจึงไม่ได้มีแต่ที่เมืองหลวง   แต่มีทุกหัวเมือง  
โดยเฉพาะหัวเมืองที่เป็นเส้นทางคมนาคมและเดินทัพ

๓.เรือนั้น   คุณอย่าได้ดูถูกเรือชาวบ้าน  ในยามคับขันเรือชาวบ้านลำเล็ก
แต่คล่องแคล่วดี   และเรือรบที่คุณว่านั้น  สมัยก่อนมันมีหน้าตาอย่างไร
มีพู่ห้อยไหม  มีฉัตรธงประกอบไหม   ต้องพายแบบนกบินไหม ต้องขานยาวไหม
(แต่คงไม่ต้องเห่หรอก  เสียเวลา)
ผมบอกแล้วว่าเรือขุนนางนั้นเป็นเรือขนาดใหญ่พอที่ใช้เรือรบเร็วได้
คนไทยถนัดรบด้วยเรือเล็ก ไม่ถนัดรบเรือใหญ่   เราจึงถนัดรบในแม่น้ำ
ถ้าออกทะเลแล้ว  เมาคลื่น  นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมจึงต้องรีบตามเรือพระยาจีนจันตุให้ทัน
ก่อนออกปากน้ำ  เพราะเรือเล็กออกทะเลสู้คลื่นไม่ไหว  
บันทึกการเข้า
siamese
หนุมาน
********
ตอบ: 7165


หนุ่มรัตนะกับภูเขาทอง


ความคิดเห็นที่ 202  เมื่อ 26 เม.ย. 11, 15:46

แล้วคุณหลวงคิดว่า เรือสำเภาที่พระยาจีนจันตุใช้ จะเป็นเรือลักษณะใด  ฮืม
บันทึกการเข้า
art47
องคต
*****
ตอบ: 739


ความคิดเห็นที่ 203  เมื่อ 26 เม.ย. 11, 15:52

อย่าทะเลากัน รักกันไว้เถิด ยิงฟันยิ้ม

อันนี้เล่นๆ นะ อย่าคิดจริงจัง
บันทึกการเข้า
luanglek
นิลพัท
*******
ตอบ: 2894


ความคิดเห็นที่ 204  เมื่อ 26 เม.ย. 11, 15:55

แล้วคุณหลวงคิดว่า เรือสำเภาที่พระยาจีนจันตุใช้ จะเป็นเรือลักษณะใด  ฮืม

เป็นสำเภาไทย (กี่เสาไม่ทราบ) ออกทะเลแล้วโคลงมาก
ไม่ใช่สำเภาเจ๊กขายสินค้าสมัยรัชกาลที่ ๓  อย่างนั้นโคลงน้อยกว่า
เพราะท้องเรือออกแบนกว้าง   เพื่อใช้บรรทุกสินค้ามากๆ
แต่รูปร่างอย่างไรนั้น  ขอไปหาภาพก่อน  อยู่ที่บ้านนี่แหละ

พระยาจีนจันตุ เป็นเจ้าเขมรที่หนีเข้ามาพึ่งสยาม
และตอนหลังก็ยังยกทัพเรือมาตีเมืองเพชรบุรีอีกหลายครั้ง
อย่าเผลอคิดคล้อยตามชื่อว่าเป็นเจ๊กเป็นจีน

ถ้าเป็นสำเภาอย่างในภาพพงศาวดาร  
พระยาจีนจันตุคงไปปล้นเจ้สัวคนไหนในพระนครมากระมัง
มันคนละยุคสมัยกัน   อยุธยา ไม่ใช่รัตนโกสินทร์นะครับ




บันทึกการเข้า
luanglek
นิลพัท
*******
ตอบ: 2894


ความคิดเห็นที่ 205  เมื่อ 26 เม.ย. 11, 15:57

อย่าทะเลาะกัน รักกันไว้เถิด ยิงฟันยิ้ม

อันนี้เล่นๆ นะ อย่าคิดจริงจัง

นี่ก็เลียนแบบอีกคน  คิดเองดิ
ไม่ได้ทะเลาะกัน  แต่กำลังอภิปรายอย่างออกรสชาติ
จริงไหม คุณไซมีส ยิงฟันยิ้ม
บันทึกการเข้า
siamese
หนุมาน
********
ตอบ: 7165


หนุ่มรัตนะกับภูเขาทอง


ความคิดเห็นที่ 206  เมื่อ 26 เม.ย. 11, 16:06

อย่าทะเลาะกัน รักกันไว้เถิด ยิงฟันยิ้ม

อันนี้เล่นๆ นะ อย่าคิดจริงจัง

นี่ก็เลียนแบบอีกคน  คิดเองดิ
ไม่ได้ทะเลาะกัน  แต่กำลังอภิปรายอย่างออกรสชาติ
จริงไหม คุณไซมีส ยิงฟันยิ้ม

มาเลยคุณ Art47 มาร่วมเสวนากันเลย เขาไม่ได้ทะเลาะกันนิ
กระซิบให้คุณ Art47 ฟังนะ  เขาบอกว่าเขากำลังคึก  ยิงฟันยิ้ม หละ 
บันทึกการเข้า
art47
องคต
*****
ตอบ: 739


ความคิดเห็นที่ 207  เมื่อ 26 เม.ย. 11, 19:05

มาเลยคุณ Art47 มาร่วมเสวนากันเลย เขาไม่ได้ทะเลาะกันนิ
กระซิบให้คุณ Art47 ฟังนะ  เขาบอกว่าเขากำลังคึก  ยิงฟันยิ้ม หละ 

มาตามคำชวน ยิงฟันยิ้ม
เสนอตามความคิดเห็นแล้วกันนะ

1. เรือที่สมเด็จพระนเรศวรและเหล่าท้าวพระยาทั้งหลายใช้ในการไล่ล่าพระยาจีนจันตุ คงเป็นเรือกราบกันยาอย่างพระราชพงศาวดารว่า
เพราะเป็นเรือลำเล็ก ปราดเปรียว คล่องแคล่วดีนักแล บรรทุกไพร่พลเป็นฝีพายไปในตัว
ส่วนการไล่ล่านั้น คงไม่ต้องเต็มกระบวนอิสสริยยศหรอกกระมังครับ มีเพียงเรือกราบสักห้าหกลำ รีบจ้ำพายอย่างแข่งเรือกันมาก็คงพอทัน

2. "เรือพระที่นั่ง" ที่ทรงในการศึกครั้งนี้ ก็อาจจะเป็นเรือกราบอย่างขุนทหารใช้ด้วยเช่นกัน ไม่จำเป็นต้องใช้เรือพระที่นั่งอันวิจิตรงดงาม
ปิดทองพรายแพรว พร้อมราชวัตรฉัตรธง อย่างคุณหลวงเล็กว่าไว้ เพราะไม่ว่าพระมหากษัตริย์จะเสด็จเรือประเภทไหนก็ตาม
เรือลำนั้นก็ขึ้นชื่อว่า "เรือพระที่นั่ง" แล้ว
บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 12599



ความคิดเห็นที่ 208  เมื่อ 26 เม.ย. 11, 19:18

พระยาจีนจันตุ เป็นเจ้าเขมรที่หนีเข้ามาพึ่งสยาม
และตอนหลังก็ยังยกทัพเรือมาตีเมืองเพชรบุรีอีกหลายครั้ง
อย่าเผลอคิดคล้อยตามชื่อว่าเป็นเจ๊กเป็นจีน

อย่าเผลอคิดคล้อยตามชื่อว่าเป็นเจ๊กเป็นจีน

ถ้าไม่ใช่คนจีน แล้ว จีนจันตุ หมายถึงอะไร  ฮืม

พ.ศ.๒๑๒๑ พระยาจีนจันตุ ขุนนางจีนของกัมพูชา รับอาสาพระสัฎฐามาปล้นเมืองเพชรบุรี แต่ต้องพ่ายแพ้ตีเข้าเมืองไม่ได้จะกลับกัมพูชาก็เกรงว่าจะต้องถูกลงโทษ จึงพาสมัครพรรค พวกมาสงามิภักดิ์อยู่กับคนไทย โดยสมเด็จพระมหาธรรมราชาทรงชุบเลี้ยงไว้ ต่อมาไม่นาน ก็ลงเรือสำเภาหนีออกไป เวลานั้นสมเด็จพระนเรศวรมหาราชมีพระชนมายุได้ ๒๔ พรรษา ตระหนักในพระทัยดีว่า พระยาจีนจันตุเป็นผู้สืบข่าวไปให้เขมร พระองค์จึงเสด็จลงเรือกราบ กันยารับตามไป เสด็จไปด้วยอีกลำหนึ่งตามไปทันกันเมื่อใกล้จะออกปากน้ำ พระยาจีนจันตุยิง ปีนต่อสู้ สมเด็จพระนเรศวรจึงเร่งเรือพระที่นั่งขึ้นหน้าเรือลำอื่น ประทับยืนทรงยิงพระแสงปืนนก สับที่หน้ากัน ยาไล่กระชั้นชิดเข้าไปจนข้าศึกยิงมา ถูกรางพระแสงปืนแตกอยู่กับพระหัตถ์ก็ไม่ ยอมหลบ พระเอกาทศรถพระเชษฐาหล้านักเกรงจะเป็นอันตราย จึงตรัสสั่งให้เรือที่ทรงเข้าไป บังเรือสมเด็จพระเชษฐา ก็พอดีกับเรือที่ทรงเข้าไป บังเรือสมเด็จพระเชษฐาก็พอดีกับเรือ สำเภา ของพระยาจีนจันตุ ได้ลมแล่นออกทะเลไป ครั้งนั้นนับว่าเป็นการใช้กำลังทางเรือต่อสู้กับ ข้าศึกครั้งแรกของพระองค์

http://www.navy.mi.th/navic/document/840101a.html

 ยิงฟันยิ้ม





บันทึกการเข้า
puyum
พาลี
****
ตอบ: 245


ความคิดเห็นที่ 209  เมื่อ 26 เม.ย. 11, 21:06

เมื่อประมาณปี ๒๕๐๕ ผมยังเห็สำเภา แบบ คห.๘๑ ทิ้งสมออยู่แถวท่าน้ำราชวงค์ ลำ สองลำบ้าง
และยังเห็นมาอีกหลายปี แต่หายไปตอนไหนไม่ทราบ เป็นสำเภาที่มารับส่งสินค้า แต่ของใครไม่ทราบ
ช่วงเดือนธันวา ก็น้ำกำลังลง เดินเรือตามลำน้ำ อาจใช้เวลาน้อยลง 
เรือรบสมัยนั้น ก็เข้าใจว่าเป็นเรือแซง เรือดั้ง ที่เห็นในปัจจุบัน อาจเป็นเรือรูปสัตว์ด้วย
ใช้ฝีพายชุดเดียวก็คงไม่ไหว คิดว่าผ่านไปตามที่ต่างๆ คงต้องมีฝีพายพลัด ก็จะเร็วขึ้น
แต่ท่าน้ำยังนองตลิ่ง เรือรบแบบนั้นก็จะตัดทุ่ง ตัดท่าได้ ไม่ต้องไปตามลำน้ำ
นี่ก็คิดเองเหมือนกัน
บันทึกการเข้า
หน้า: 1 ... 12 13 [14] 15 16 ... 23
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.053 วินาที กับ 20 คำสั่ง