คุณหลวงเล็กต้องกลับไปอ่านชาติพันธุ์วรรณาในขุนช้างขุนแผน ส่วนที่คุณ NAVARAT เขียนอธิบายไว้ชัดเจนเรื่องค่าย การทำค่ายซึ่งใช้ไม้จำนวนมาก เขาก็ตัดไม้ในป่าได้ ไม่ต้องขนไม้ไปจากอยุธยา เอาไปแต่อาวุธหนัก เพราะผลิตในป่าไม่ได้

ถ้ากองทัพอยุธยาจะใช้ belfry จริงๆ ไม่จำเป็นต้อง copy มาทุกกระเบียดนิ้ว ดัดแปลงเอาแต่โครงสร้างได้ ในกรณีที่มีการใช้บันไดแบบอื่น ที่ปลอดภัยว่าพาดขึ้นไปดื้อๆ ไหนจะถูกศัตรูคั่วกรวดทรายเทลงมา ยิงธนูเป็นห่าฝนลงมา แถมถ้าทางอยุธยายิงธนูสวนขึ้นไปอีก คนปีนบันไดอาจมีสิทธิ์ถูกลูกหลงทั้งสองทาง
แต่ต้องไม่ลืมว่า เราไม่ได้ตั้งค่ายกันในระยะประชิดค่ายข้าศึก
การที่ขนบันไดไม้ดังกล่าวเข้าไปใกล้ค่าย โดยที่ข้าศึกไม่ทำอะไรเลยคงยาก
การตั้งค่ายรบใช้ไม้มากก็จริง แต่ไม้เหล่านั้นนำมาใช้โดยไม่มีพิธีรีตองมาก
อย่างที่คุณไซมีสว่า ก็ถ้ามีของเช่นนี้ใช้ในสยามมาก่อน ทำไมไม่มีการกล่าวถึง
หรือภาพวาดในจิตรกรรมฝาผนังให้เราเห็นบ้าง
การรบของคนไทยสมัยก่อน ถ้าเป็นการโจมตีค่ายเวลาค่ำอย่างนี้
ต้องเงียบ และเคลื่อนที่รวดเร็ว ให้ข้าศึกรู้ตัวช้าที่สุด
พลธนูหน้าไม้ เขายิงใส่ข้าศึก โดยยืนหรือนั่งเล็งห่างออกไปจากกำแพง
ไม่ใช่ไปยืนยิงที่ตีนบันได ชุลมุนขนาดนั้น อย่าว่าจะยิงโดนฝ่ายตัวเองเลย
จะเล็งยังยาก อาวุธพวกหน้าไม้ ธนู ไม่ใช่อาวุธที่ใช้สู้ในที่ประชิดตัว
ต้องใช้ในระยะห่างจากข้าศึกพอสมควร
ถ้าเป็นเหตุการณ์การรบจริง ผมคิดว่าพวกพลธนูฝ่ายข้าศึกคงไม่มาอออยู่บนเชิงเทิน
เพราะกว่าจะเล็งกว่าจะยิงกินเวลา ถึงยิงได้คนหนึ่ง
แต่คนที่ต่อหลังขึ้นบันไดมาก็คงฟันหรือแทงไปแล้ว