เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: 1 ... 8 9 [10] 11 12 ... 23
  พิมพ์  
อ่าน: 164716 ภาพพระราชพงศาวดาร สมัยสมเด็จพระนเรศวรมหาราช
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 135  เมื่อ 21 เม.ย. 11, 09:42

ภาพที่๕ สมเด็จพระนเรศวรทำยุทธหัตถีกับพระมหาอุปราชา
เป็นภาพสุดท้ายที่ปรากฏในหนังสือที่ผมมี
 
เหตุการณ์ตอนนี้ยิ่งใหญ่เกินสติปัญญาของผมจะย่อบรรยายกฤดาภินิหารของมหาราชเจ้าของปวงชนชาวไทยได้ ขอเชิญท่านอ่านความในพระราชพงศาวดารโดยตรงเอาเอง

เจ้าพระยาชัยานุภาพ เจ้าพระยาปราบไตรจักรได้ยินเสียงพล และเสียงฆ้องกลองศึกอึงคะนึง ก็เรียกมันครั่นครื้น กางหูชูหางกิริยาป่วนเดินเป็นบาทย่างใหญ่เร็วไปด้วยกำลังน้ำมัน ช้างพระยามุขมนตรี และโยธาหาญซ้ายขวาหน้าหลังทั้งนั้น ตกไปมิทันเสด็จพระคชาธาร สมเด็จพระพุทธเจ้าอยู่หัวทั้งสองพระองค์ใกล้ทัพหน้าข้าศึก ตรัสทอดพระเนตรเห็นพลพะม่ารามัญยกมานั้นเต็มท้องทุ่ง เดินดุจคลื่นในมหาสมุท ข้าศึกไล่พลชาวพระนครครั้งนั้น สลับซับซ้อนกันมิได้เป็นกระบวน สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทั้งสองพระองค์ ก็ขับพระคชาธารเข้าโจมแทงช้างม้ารี้พล ไล่ส่ายเสียถีบฉัตรตะลุมบอน พลพะม่าล้มตายเกลื่อนกลาด ช้างม้าข้าศึกได้กลิ่นน้ำมันพระคชาธาร ก็หกหันตลบปะทะกันเป็นอลหม่าน พลพะม่ารามัญก็โทรมยิงธนูหน้าไม้ปืนไฟระดมเอาพระคชาธารสมเด็จพระพุทธเจ้าอยู่หัวทั้งสองพระองค์ และธุมาการก็ตระหลบมืดเป็นหมอกมัวไปมิได้เห็นประจักษ์ พระบาทสมเด็จพระนเรศวรเป็นเจ้า จึงประกาศแก่เทพดาทั้งปวงว่า ให้บังเกิดมาในประยูรมหาเศวตฉัตร์ จะให้บำรุงพระบวรพุทธสาสนา ไฉนจึงมิช่วยให้สว่างเห็นข้าศึกเล่า พอตกพระโอฏฐ์ลง พระพายก็พัดควันอันเป็นหมอกมืดนั้นสว่างไป ทอดพระเนตรเห็นช้างเศวตฉัตรสิบสองช้าง มีช้างดั้งช้างกันยืนอยู่เป็นอันมาก แต่มิได้เห็นอุปราชา ครั้นเหลือบไปทิศขวาพระหัตถ์ ก็เห็นช้างเศวตฉัตรช้างหนึ่ง ยืนอยู่ ณ ฉายาไม้ข่อยมีเครื่องสูงและทหารหน้าช้างมาก ก็เข้าพระทัยถนัดว่าช้างพระมหาอุปราชา พระเจ้าอยู่หัวทั้งสองพระองค์ ก็ขับพระคชาธารตรงเข้าไป ทหารหน้าช้างข้าศึก ก็วางปืนจ่ารงมณฑกนกสับตระแบงแก้วระดมยิงมิได้ต้องพระองค์และพระคชาธาร สมเด็จพระนเรศวรเป็นเจ้า จึงตรัสร้องเรียกด้วยพระสุรเสียงอันดังว่า พระเจ้าพี่เราจะยืนอยู่ไยในร่มไม้เล่า เชิญออกมาทำยุทธหัตถีด้วยกัน ให้เป็นเกียติยศไว้ในแผ่นดินเถิด ภายหน้าไปไม่มีพระเจ้าแผ่นดินที่จะได้ยุทธหัตถีแล้ว

พระมหาอุปราชาได้ฟังดังนั้นแล้ว ละอายพระทัยมีขัตติยราชมานะก็บ่ายพระคชาธารออกมารับ เจ้าพระยาชัยานุภาพเห็นช้างข้าศึกก็ไปด้วยฝีน้ำมันมิทันยั้งเสียที พลายพัทกอได้ล่างแบกรุนมา พระมหาอุปราชาจ้วงฟันด้วยพระแสงของ้าว สมเด็จพระนเรศวรเป็นเจ้าเบี่ยงพระมาลารับ พระแสงขอมิได้ต้องพระองค์ เจ้าพระยาชัยานุภาพสะบัดลงได้ล่างแบกถนัด พลายพัทกอเพลี่ยงเบนไป สมเด็จพระนเรศวรเป็นเจ้าได้ที จ้วงฟันด้วยพระแสงพลพ่าย ต้องพระอังสาเบื้องขวาพระมหาอุปราชาตลอดลงมาจนประจิมุราประเทศ ซบลงกับคอช้าง และนายมหานุภาพควาญพระคชาธารของพระนเรศวรเป็นเจ้านั้น ต้องปืนข้าศึกตายขณะเมื่อสมเด็จพระนเรศวรเป็นเจ้า ชนช้างด้วยมหาอุปราชานั้น เจ้าพระยาปราบไตรจักรซึ่งเปนพระคชาธารสมเด็จพระเอกาทศรฐ ก็เข้าชนช้างด้วยพลายพัชเนียงช้างมางจาชะโร เจ้าพระยาปราบไตรจักรได้ล่างพัชเนียงเสียทีเบนไป สมเด็จพระเอกาทศรฐจ้วงฟันด้วยพระแสงของ้าวต้องคอมางจาชะโรขาดตายกับคอช้าง หมื่นภักดี ศวรกลางช้างสมเด็จพระเอกาทศรฐนั้น ต้องปืนข้าศึกตาย

ขณะเมื่อสมเด็จพระพุทธเจ้าอยู่หัวทั้งสองพระองค์ ทำคชสงครามได้ชัยชนะมหาอุปราชา และมางจาชะโรแล้ว บรรดาท้าวพระยามุขมนตรี นายทัพนายกองซ้ายขวาหน้าหลังทั้งปวงจึงมาทันเสด็จ เข้ารบพุ่งแทงฟันข้าศึกเป็นสามารถและพวกพลพะม่ารามัญทั้งนั้น ก็แตกกระจัดกระจายไปเพราะพระเดชเดชานุภาพ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวตรัสให้นายทัพนายกองทั้งปวงยกไปตามจับข้าศึก แล้วเสด็จคืนมายังพลับพลา พระราชทานชื่อเจ้าพระยาชัยานุภาพเป็นเจ้าพระยาปราบหงสาวดี บรรดามุขมนตรี นายทัพนายกองทั้งปวง ซึ่งตามข้าศึกนั้น ได้ฆ่าฟันพะม่ามอญโดยทางไปไปถึงกาญจนบุรี ศพเกลื่อนไปแต่ตะพังตรุนั้น ประมาณสองหมื่นเศษ จับได้เจ้าเมืองมะลวน และนายทัพนายกองกับไพร่เป็นอันมาก ได้ช้างใหญ่สูงหกศอกสามร้อย ช้างพลายพังระวางเพรียวห้าร้อย ม้าสองพันเศษมาถวาย


บันทึกการเข้า
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 136  เมื่อ 21 เม.ย. 11, 09:44

หลวงพิศณุกรรม์ เป็นผู้เขียนภาพ


คลิกที่รูปเพื่อขยาย/ย่อ


บันทึกการเข้า
siamese
หนุมาน
********
ตอบ: 7165


หนุ่มรัตนะกับภูเขาทอง


ความคิดเห็นที่ 137  เมื่อ 21 เม.ย. 11, 09:56

"องค์พระนเรศวร ทรงดำ สวมหมวกพระมาลาเบี่ยง ส่วนพระมหาอุปราช ทรงเครื่องอย่างพม่า แต่ทำไมฉัตรขาวหลังช้าง จึงเหมือนกัน  ฮืม"


บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 12600



ความคิดเห็นที่ 138  เมื่อ 21 เม.ย. 11, 09:58

หลวงพิศณุกรรม์ เป็นผู้เขียนภาพ

ในหนังสือโคลงภาพพระราชพงศาวดาร ระบุไว้อีกอย่างหนึ่ง

 ฮืม


บันทึกการเข้า
siamese
หนุมาน
********
ตอบ: 7165


หนุ่มรัตนะกับภูเขาทอง


ความคิดเห็นที่ 139  เมื่อ 21 เม.ย. 11, 10:15

ภาพยุทธหัตถีภายในพระอุโบสถ วัดสุวรรณาดาราม อันเป็นจิตรกรรมฝาผนังรูปยุทธหัตถีของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช วาดโดยพระยาอนุศาสน์จิตรกร

เป็นที่น่าสังเกตว่าช้างทรงของกษัตริย์ทั้งสองพระองค์ในภาพนี้ วาดออกมาในลักษณะที่ไม่มีเครื่องผูกช้างของจอมพล เรื่องนี้วารสารเมืองโบราณ ปี 29 ฉ.4 (ตุลาคม-ธันวาคม 2546) ได้ค้นลายพระหัตถ์สมเด็จฯกรมพระยาดำรงราชานุภาพ ที่ทรงมีไปยังพระยาอนุสาสน์จิตรกร ความว่า




"...เครื่องผูกช้างของจอมพล เข้าใจกันมาว่าผูกพระคชาธารทั้งช้างทรงเมื่ออำนวยศึก และช้างทรงเมื่อทำยุทธหัตถี นักโบราณคดีตัดสินในชั้นหลัง ว่าช้างทรงเมื่อทำยุทธหัตถีนั้น ถ้าผูกคชาธารเป็นอันตราย ต้องเป็นช้างผูกเครื่องมั่นหลังเปล่า มีคนขี่ ๓ คน คนขี่คอถือของ้าว คนขี่กลางช้างถือทวน เป็นผู้ช่วย ควาญท้ายถือขอยาว เป็นคนขับช้าง เหมือนกันทั้ง ๒ ฝ่าย..."




แสดงว่าท่านผู้ใหญ่สมัยก่อนทรงทำงานอย่างละเอียดลออมาก แต่ดูเหมือนว่าในชั้นหลังฉากการจัดแต่งบนหลังช้างแบบนี้ไม่เป็นที่แพร่หลายนัก ไม่ทราบด้วยเหตุใด เราจึงได้เห็นมีแต่ช้างผูกคชาธารกันทุกการแสดงไป-ช่างไม่ปลอดภัยเอาเสียเลย



บันทึกการเข้า
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 140  เมื่อ 21 เม.ย. 11, 10:21

^


บันทึกการเข้า
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 141  เมื่อ 21 เม.ย. 11, 10:26

อ้างถึง
อ้างถึง
หลวงพิศณุกรรม์ เป็นผู้เขียนภาพ

ในหนังสือโคลงภาพพระราชพงศาวดาร ระบุไว้อีกอย่างหนึ่ง

อ้าว...อีกแระ


บันทึกการเข้า
ShopperKimpy
อสุรผัด
*
ตอบ: 11



ความคิดเห็นที่ 142  เมื่อ 21 เม.ย. 11, 10:47

ช่วยลงภาพขยายใหญ่ประกอบการสนทนาให้ครับ  เจ๋ง







 ยิ้มเท่ห์
บันทึกการเข้า
ShopperKimpy
อสุรผัด
*
ตอบ: 11



ความคิดเห็นที่ 143  เมื่อ 21 เม.ย. 11, 10:50




ปล.ภาพนี้พระคชาธารดูใหญ่โตอย่างกับ Mumakil ใน The Lord of the Rings  ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม

บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 12600



ความคิดเห็นที่ 144  เมื่อ 21 เม.ย. 11, 11:10

เหตุการณ์ตอนนี้ยิ่งใหญ่เกินสติปัญญาของผมจะย่อบรรยายกฤดาภินิหารของมหาราชเจ้าของปวงชนชาวไทยได้ ขอเชิญท่านอ่านความในพระราชพงศาวดารโดยตรงเอาเอง

พระบาทสมเด็จพระนเรศวรเป็นเจ้า จึงประกาศแก่เทพดาทั้งปวงว่า ให้บังเกิดมาในประยูรมหาเศวตฉัตร์ จะให้บำรุงพระบวรพุทธสาสนา ไฉนจึงมิช่วยให้สว่างเห็นข้าศึกเล่า พอตกพระโอฏฐ์ลง พระพายก็พัดควันอันเป็นหมอกมืดนั้นสว่างไป ทอดพระเนตรเห็นช้างเศวตฉัตรสิบสองช้าง มีช้างดั้งช้างกันยืนอยู่เป็นอันมาก แต่มิได้เห็นอุปราชา ครั้นเหลือบไปทิศขวาพระหัตถ์ ก็เห็นช้างเศวตฉัตรช้างหนึ่ง ยืนอยู่ ณ ฉายาไม้ข่อยมีเครื่องสูงและทหารหน้าช้างมาก ก็เข้าพระทัยถนัดว่าช้างพระมหาอุปราชา พระเจ้าอยู่หัวทั้งสองพระองค์ ก็ขับพระคชาธารตรงเข้าไป ทหารหน้าช้างข้าศึก ก็วางปืนจ่ารงมณฑกนกสับตระแบงแก้วระดมยิงมิได้ต้องพระองค์และพระคชาธาร สมเด็จพระนเรศวรเป็นเจ้า จึงตรัสร้องเรียกด้วยพระสุรเสียงอันดังว่า พระเจ้าพี่เราจะยืนอยู่ไยในร่มไม้เล่า เชิญออกมาทำยุทธหัตถีด้วยกัน ให้เป็นเกียติยศไว้ในแผ่นดินเถิด ภายหน้าไปไม่มีพระเจ้าแผ่นดินที่จะได้ยุทธหัตถีแล้ว

พระมหาอุปราชาได้ฟังดังนั้นแล้ว ละอายพระทัยมีขัตติยราชมานะก็บ่ายพระคชาธารออกมารับ เจ้าพระยาชัยานุภาพเห็นช้างข้าศึกก็ไปด้วยฝีน้ำมันมิทันยั้งเสียที พลายพัทกอได้ล่างแบกรุนมา พระมหาอุปราชาจ้วงฟันด้วยพระแสงของ้าว สมเด็จพระนเรศวรเป็นเจ้าเบี่ยงพระมาลารับ พระแสงขอมิได้ต้องพระองค์ เจ้าพระยาชัยานุภาพสะบัดลงได้ล่างแบกถนัด พลายพัทกอเพลี่ยงเบนไป สมเด็จพระนเรศวรเป็นเจ้าได้ที จ้วงฟันด้วยพระแสงพลพ่าย ต้องพระอังสาเบื้องขวาพระมหาอุปราชาตลอดลงมาจนประจิมุราประเทศ ซบลงกับคอช้าง และนายมหานุภาพควาญพระคชาธารของพระนเรศวรเป็นเจ้านั้น ต้องปืนข้าศึกตายขณะเมื่อสมเด็จพระนเรศวรเป็นเจ้า ชนช้างด้วยมหาอุปราชานั้น เจ้าพระยาปราบไตรจักรซึ่งเปนพระคชาธารสมเด็จพระเอกาทศรฐ ก็เข้าชนช้างด้วยพลายพัชเนียงช้างมางจาชะโร เจ้าพระยาปราบไตรจักรได้ล่างพัชเนียงเสียทีเบนไป สมเด็จพระเอกาทศรฐจ้วงฟันด้วยพระแสงของ้าวต้องคอมางจาชะโรขาดตายกับคอช้าง หมื่นภักดี ศวรกลางช้างสมเด็จพระเอกาทศรฐนั้น ต้องปืนข้าศึกตาย


พงศาวดารพม่าบอกไว้อีกอย่าง พระมหาอุปราชาตายเพราะถูกปืนยิง   ฮืม

การรบครั้งนี้หนังสือพงศาวดารพม่าว่า  รบกันในชานพระนคร  ว่าในวันรบนั้นพระมหาอุปราชายืนช้างอยู่กลาง  พระเจ้าแปรยืนช้างอยู่ข้างขวา  นัตจินหน่องยืนช้างอยู่ข้างซ้าย  ต่อไปข้างขวาเจ้าเมืองจาปโร (เห็นจะเป็นที่ในพระราชพงศาวดารเรียกว่า มังจาชโร พี่เลี้ยง) ขี่ช้างตัว ๑  กำลังติดน้ำมันหน้าหลัง  ช้างนั้นดุร้ายต้องเอาผ้าคลุมกระพองปิดตาไว้  สมเด็จพระนเรศวรทรงพระคชาธารยกกองทัพมาจากพระนคร  พอแลเห็นพระมหาอุปราชา  ก็ขับช้างพระที่นั่งตรงเข้าไปที่พระมหาอุปราชายืนช้างอยู่  ขณะนั้นเจ้าเมืองจาปโรจึงเปิดผ้าที่คลุมตาช้างน้ำมัน  หวังจะขับเข้าชนช้างพระที่นั่งสมเด็จพระนเรศวร  ช้างน้ำมันกลับแล่นเข้าแทงเอาช้างพระมหาอุปราชาเจ็บป่วยสาหัส  ถึงต้องเอายืนพิงไว้กับต้นไม้  พอข้าศึกยิงปืนมาต้องพระมหาอุปราชาสิ้นพระชนม์บนคอช้าง แต่นายท้ายช้างพยุงพระองค์ไว้  

สมเด็จพระนเรศวรสำคัญว่าพระมหาอุปราชายังดีอยู่จึงยั้งช้างพระที่นั่ง  ในขณะนั้นนัดจินหน่องจึงไสช้างเข้าชนช้างพระที่นั่งสมเด็จพระนเรศวร  ช้างสมเด็จพระนเรศวรทานกำลังช้างนัดจินหน่องไม่ได้  สมเด็จพระนเรศวรก็ถอยกลับเข้าพระนคร  
พระเจ้าแปร พระเจ้าตองอู บิดานัตจินหน่อง (ซึ่งอาสามาด้วยอีกพระองค์ ๑) พากันติดตาม  แต่กองทัพไทยเข้าเมืองได้ก่อน  เจ้าเมืองตันโบ เจ้าเมืองวินรอ ตามเลยเข้าไป  ไทยจับไว้ได้ ข้างฝ่ายพม่าก็จับออกญาจักรีกับออกญาบาต (แปลไม่ออกว่าตำแหน่งใด) ไว้ได้  กองทัพหงสาวดีเมื่อเสียพระมหาอุปราชาแล้ว  จึงถอยออกไปตั้งห่างพระนคร  นายทัพนายกองปรึกษาเห็นพร้อมกันว่า  พระมหาอุปราชาผู้เป็นจอมพลสิ้นพระชนม์เสียแล้ว  ควรจะเลิกทัพกลับไปเมืองหงสาวดี  จึงเลิกทัพพาศพพระมหาอุปราชากลับไป  ถึงเมืองหงสาวดีในเดือน ๓ ปีนั้น  เรื่องสงครามคราวพระมหาอุปราชาชนช้าง หนังสือพงศาวดารพม่าว่าดังกล่าวมานี้
จาก อธิบายเรื่องในรัชกาลสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ในท้ายพระราชพงศาวดาร ฉบับพระราชหัตถเลขา
พระนิพนธ์ในสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าดิศวรกุมาร กรมพระยาดำรงราชานุภาพ

 ยิงฟันยิ้ม

บันทึกการเข้า
art47
องคต
*****
ตอบ: 739


ความคิดเห็นที่ 145  เมื่อ 21 เม.ย. 11, 19:16

อ้างถึง
อ้างถึง
หลวงพิศณุกรรม์ เป็นผู้เขียนภาพ

ในหนังสือโคลงภาพพระราชพงศาวดาร ระบุไว้อีกอย่างหนึ่ง


หลวงพิศณุกรรม์ หลวงเพชวกรรม นั้นเป็นตำแหน่งเดียวกันครับ ยิงฟันยิ้ม

ในกฏหมายตราสามดวง เขียนว่า
"หลวงเพชวะกัน เจ้ากรมช่างเขียนขวา ศักดินา ๘๐๐"
คู่กันกับ
"หลวงพรหมพิจิตร เจ้ากรมช่างเขียนซ้าย ศักดินา ๘๐๐"
บันทึกการเข้า
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 146  เมื่อ 21 เม.ย. 11, 20:23

ภาพถ่ายชุดนี้ ทำให้เราสร้างมโนภาพยุทธหัตถีได้ดีที่สุดชุดหนึ่ง

http://www.konrakmeed.com/webboard/upload/lofiversion/index.php?t840.html

ลองคิดดู ถ้ามีเครื่องคชาธารผูกติดหลังและช้างหกขึ้นสูงอย่างนี้ คนที่นั่งอยู่บนนั้นคงไม่มีอันต้องทำอะไรอีกแล้ว นอกจากจะต้องรักษาตนไม่ให้ตกลงมาคอหัก หรือถ้าไม่ถูกช้างเหยียบก็คงถูกฝ่ายตรงข้ามฆ่าตายอยู่ดี

(ขอแนะนำให้ท่านdownloadทุกภาพมาก่อน แล้วใช้โปรแกรมดูภาพที่เปลี่ยนแต่ละภาพได้ไวๆ จะเห็นการเคลื่อนไหวที่น่าดูเป็นอย่างยิ่ง)


บันทึกการเข้า
siamese
หนุมาน
********
ตอบ: 7165


หนุ่มรัตนะกับภูเขาทอง


ความคิดเห็นที่ 147  เมื่อ 21 เม.ย. 11, 21:06

ทำเป็น GIF แต่ไฟล์ใหญ่มาก เลยภาพเล็กหน่อยนะครับ พอดูถูๆไถๆ เอาอารมณ์ได้ระดับหนึ่ง


บันทึกการเข้า
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 148  เมื่อ 21 เม.ย. 11, 21:13

^
แค่นี้ก็เยี่ยมยอดแล้วครับ
บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 12600



ความคิดเห็นที่ 149  เมื่อ 21 เม.ย. 11, 21:19

ช่วยทำเพลงประกอบ



 ยิงฟันยิ้ม
บันทึกการเข้า
หน้า: 1 ... 8 9 [10] 11 12 ... 23
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.078 วินาที กับ 19 คำสั่ง