NAVARAT.C
|
ความคิดเห็นที่ 105 เมื่อ 18 เม.ย. 11, 21:13
|
|
อย่างแรกคือพระยาละแวกนั้น ไม่ได้ชื่อพระยาละแวก แต่ละแวกหรือ Lovek เป็นชื่อเมืองหลวงของเขมรแต่โบราณเรื่อยมาจนถึงคริสตวรรษที่ 16 ไม่รู้ว่าปัจจุบันคือจังหวัดหรือเมืองอะไรของกัมพูชา จากคุณกู๋ Longvek or Lovek (Khmer: លង្វែក; meaning "intersection" or "crossroads") was a city in ancient Cambodia, the capital city of the country after the sacking of Angkor by the Siamese in 1431. Little more than a village today in Kampong Chhnang Province, it lies just north of Oudong.ละแวก คำเขมรแปลว่าทางแยก หรือจุดที่ถนนตัดกัน (คำนี้ไทยเอามาใช้ว่า ละแวกบ้าน หมายถึงย่านที่อยู่) เป็นชื่อเมืองหลวงของประเทศเขมรหลังจากพระนครหลวงถูกทำลายโดยคนสยามในปีพ.ศ.๑๙๗๔ ทุกวันนี้อยู่ในจังหวัดกำปงฉณัง มีขนาดใหญ่กว่าหมู่บ้านนิดหน่อย ทางทิศเหนือของอุดงมีไชย
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
NAVARAT.C
|
ความคิดเห็นที่ 106 เมื่อ 18 เม.ย. 11, 21:53
|
|
แต่พอไปถึงมะนิลา ทั้งเวโลโซและรูอิซเจอกันอีกครั้ง ลายของนายเวโลโซก็ออก นอกจากทรยศไม่ยอมรับว่าตัวเองเป็นหนึ่งในคณะราชทูตไทยแล้ว ยังพลิกกลับไปอ้างว่าตัวเองคือตัวแทนผู้มีอำนาจเต็มของพระเจ้าแผ่นดินเขมรองค์ก่อน สามารถลงนามในสนธิสัญญา ซึ่งยินยอมให้กองทหารสเปน พ่อค้าและผู้เผยแพร่ศาสนาได้เดินทางเข้าออกเขมร ไปไหนมาไหนได้อย่างเสรี แลกกับการขอกำลังสเปนไปช่วยบ้านเมืองเขมรทำศึกกับอยุธยา แล้วยังสัญญาด้วยว่าพระเจ้าแผ่นดินเขมรกับพระมเหสีจะตกลงเปลี่ยนศาสนามาเป็นชาวคริสต์ เมื่อทำแบบนี้ก็ได้กองกำลังกลับไป ทั้งสองคนนี้ก็เข้าโจมตีพนมเปญ ทีแรกตั้งใจว่าเสร็จศึกแล้วจะกลับมะนิลา แต่ก็เปลี่ยนใจไปขึ้นท่าที่เมืองญวนแล้วเดินทางบกไปที่ลาว เมื่อไปถึงพบว่าพระยาละแวกและพระราชโอรสพระองค์ใหญ่สิ้นพระชนม์กันไปแล้ว สองคนนี้ก็เลยกลับมาพนมเปญ พ่วงพระโอรสองค์รองมาด้วย ตรงนี้ยังมั่วๆอยู่นะครับ หลังจากพระนเรศวรตีเมืองละแวกแตกแล้ว เขมรได้ย้ายไปสร้างเมืองหลวงใหม่ที่อุดงมีชัย(เขมรชอบเรียกว่าอุด้งเฉยๆ ฟังแล้วเหมือนก๋วยเตี๋ยวญี่ปุ่น) และอยู่ที่นั่นเป็นเวลานับร้อยปี ก่อนที่สมเด็จนโรดมจะทิ้งเมืองหลังศึกอานัมสยามยุทธ ไปสร้างใหม่ที่พนมเปญด้วยความช่วยเหลือของฝรั่งเศส รายละเอียดขอให้ท่านผู้อื่นเล่าให้ฟังดีกว่าครับ ผมไม่ค่อยถนัดประวัติศาสตร์เขมรสักเท่าไร
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
    
ตอบ: 33479
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 107 เมื่อ 18 เม.ย. 11, 22:25
|
|
ดิฉันคงจะพากระทู้ออกห่างพระยาจีนจันตุไปมากแล้ว จบค.ห.นี้แล้วก็หันหัวเรือกลับมาที่สมเด็จพระนเรศวร จบเรื่องฝรั่งในเขมรเสียทีละค่ะ
แต่ขอส่งท้ายด้วยเรื่องของรูอิซ นักผจญภัยชาวสเปน ประวัติของแกคลาดเคลื่อนจากประวัติที่อ่านมาในตอนแรกนิดหน่อย ที่ตรงกันคือรูอิซกับเวโลโซต่างสนับสนุนนักองค์สัฏฐาขึ้นครองราชย์ ประวัติศาสตร์ส่วนที่บอกตรงกับไทยคือ กองทัพสมเด็จพระนเรศวรตีเมืองละแวกแตก มีรายละเอียดเพิ่มเติมว่าพระโอรสและบรรดาเจ้านายเขมรต่างสวามิภักดิ์ต่ออยุธยา และถอดนักองค์สัฏฐาจากราชบัลลังก์ จากนั้นพระองค์จึงลี้ภัยไปลาว แล้วสิ้นพระชนม์ระหว่างทาง
ทหารฝรั่งสองคนนี้ไปตามนักองค์สัฏฐาในลาว ก่อนกลับมาก่อรัฐประหารขึ้นในเขมร ยกพระเจ้าแผ่นดินองค์ใหม่ขึ้นครองได้ไม่นานก็เกิดสงครามกลางเมือง แต่ว่าทั้งเวโลโซและรูอิซรอดตายไปได้ทั้งคู่ รูอิซกลับไปมะนิลา เวโลโซไปมะละกา จากนั้นเรื่องราวเขาก็หายไปจากหน้าประวัติศาสตร์ พอๆกัน อ้อ มีอีกอย่างคือรูอิซไม่ใช่แค่ทหารธรรมดา เขาสังกัดองค์การ Alas dey algoada หรือองค์การสืบราชการลับของสเปน สรุปอีกทีว่าแกน่าจะเป็นเจมส์บอนด์ในสมัยศตวรรษที่ 16
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
NAVARAT.C
|
ความคิดเห็นที่ 108 เมื่อ 18 เม.ย. 11, 22:50
|
|
เอาแฟชั่นเขมรมาให้ดูคะร้าบ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
katathorn
อสุรผัด

ตอบ: 11
"ไปกับอนาคตได้ต้องไม่ลืมอดีต"
|
ความคิดเห็นที่ 109 เมื่อ 18 เม.ย. 11, 23:00
|
|
ขอคั่นเวลาด้วยการโชว์แสนยานุภาพการสวนสนามของกองทัพเขมรครับ  ตอนท้ายๆคลิปเขาเล่นอะไรกันก็ไม่รู้ 
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
ภริยา ปรมา สขา ภริยาเป็นเพื่อนสนิท, ภรรยาเป็นสหายอย่างยิ่ง
|
|
|
siamese
|
ความคิดเห็นที่ 110 เมื่อ 19 เม.ย. 11, 07:28
|
|
เรื่องการหนี
ลองคิดดูว่า การหนีออกจากกรุงศรีอยุธยา ออกทะเลนั้น เบื้องต้นผู้ที่จะหนีต้องวางแผนอะไรบ้าง
๑. มีการติดต่อไปยังเมืองที่จะหนีไว้ล่วงหน้าบ้าง ๒. เลือกวัน เวลา ที่เหมาสม...ซึ่งเลือกในช่วงหน้าหนาว (ลมเหนือพัดเหนือสู่ใต้ เวลาค่ำเพื่อหลบสายตา) ๓. พาหนะเดินทางต้องเหมาะสม รวดเร็ว พร้อมผู้คน ... น่าจะใช้เรือสำเภาที่ย่อมกว่านี้ ในภาพเป็นเรือสำเภาจีน บรรทุกสินค้าอุ้ยอ้ายเกินไป ๔. เครื่องอาวุธสำหรับต่อสู้ ๕. เสบียงอาหาร และ เงินตรา
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
    
ตอบ: 33479
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 111 เมื่อ 19 เม.ย. 11, 09:10
|
|
ข้อ ๓ ของคุณ siamese ก็ตรงกับที่ท่าน NAVARAT ตั้งข้อสันนิษฐานไว้แล้ว เรื่องพระนเรศวรตามล่าพระยาจีนจันตุนี้ ผมสันนิฐานดังนี้ครับ
๑ เรือสำเภาของพระยาจีนจันตุ ไม่น่าจะเป็นสำเภาที่ใหญ่เทอะทะ ออกแบบสำหรับจะขนสินค้าให้มากอย่างเดียวเช่นเรือค้าขายที่ขึ้นล่องถึงกวางตุ้ง แต่ใหญ่พอที่จะเดินเรือเลียบชายฝั่งได้ และต้องเล็กพอที่จะคล่องตัวในแม่น้ำ ซึ่งทั้งกรุงศรีอยุธยาและเมืองละแวกอยู่ไกลจากปากอ่าวพอๆกัน
๒ เมื่อเรือมีขนาดเล็กลง ก็มีแจวได้ เพื่อไว้ใช้เคลื่อนตัวได้เองโดยไม่ต้องมีเรือจูง(ต้องใช้หลายลำดังภาพของคุณหนุ่มสยามด้วย) ที่ต้องหนักแรงคนเพิ่มขึ้นไปอีก เรือจูง คงต้องใช้บ้างเพื่อเบนหัวออกจากท่า
๓ อย่างไรก็ดี เมื่อลมอำนวย เรือนี้ก็สามารถวิ่งได้ ช้าหรือเร็วเป็นอีกเรื่องหนึ่ง ถ้าลมไม่แรงพอและอยู่ในภาวะรีบเร่ง เช่นกำลังหนีเรือเร็วที่ตามมา ก็ต้องแจวเสริมแรงเข้าไปด้วยเพื่อหนีตาย
๔ ฤดูกาลที่คิดหนีก็สำคัญ จะมีช่วงฤดูหนาวเท่านั้นที่จะมีลมเหนือ พัดจากอยุธยาลงมาใต้ และเป็นลมแรงเสียด้วย จะคิดหนี ก็ต้องหนีช่วงนั้น เรือจะกินลมตั้งแต่ยังไม่ถึงปากอ่าว แต่เมื่อเข้าคุ้งน้ำ ก็ต้องวิ่งซิกแซกให้ใบกินลมเสียเวลาไปบ้าง จุดนี้เรือดั้งใช้ฝีพาย มีคนคัดท้ายจะได้เปรียบ
๕ จีนก็เป็นจ้าวของปืนยาวในยุคนั้นเช่นกัน แม้จะไม่ค่อยแม่นยำแต่ก็จะทำให้เรือพระนเรศวรเข้าใกล้ลำบาก พื้นที่บนเรือใหญ่ก็เอื้ออำนวยต่อการบรรจุกระสุนแต่ละชุดได้คล่องกว่าคนบนเรือดั้ง จำนวนพลยิงก็มากกว่า อำนาจการยิงจึงน่าจะเป็นของพระยาจีนจันตุ สำเภาจึงประคองตัวหนีเรือรบของกรุงศรีไปได้ตลอดจนถึงทางตรงที่เป็นร่องลม
๖ เท็จจริงแล้ว พระนเรศวรอาจจะไม่ได้ตามไปถึงปากน้ำก็ได้ เพราะระยะทางร้อยกว่ากิโล ฝีพายคงสิ้นกำลังไปก่อน ข้าวน้ำก็ไม่รู้จะได้กินหรือเปล่า
ส่วนรูปก็อย่างที่ท่านนำลงในค.ห. 81  แน่นอนว่าการหนีต้องมีการเตรียมล่วงหน้า แบบเดียวกับม.จ.ฉวีวาด แม้ว่าระยะเวลาห่างกันหลายร้อยปี เมื่อใช้เรือสำเภาเป็นพาหนะเหมือนกัน การเตรียมตัวก็ต้องแบบเดียวกัน
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ShopperKimpy
อสุรผัด

ตอบ: 11
|
ความคิดเห็นที่ 112 เมื่อ 19 เม.ย. 11, 10:00
|
|
ไหนๆ เห็นทุกท่านพูดถึงเรื่องเรือสำเภา ก็ขออนุญาตออกอ่าว ออกทะเลนิดนึงนะครับ คือ กระผมข้องใจประเด็นจากหนังเรื่่องที่ว่า เรือสำเภาจีนลำเดียวในโลก อ่ะครับ เห็นจากเว็ปนี้ http://www.timedesign.de/ship/ship.htmlตรงหัวข้อ South East Asian Junk มันก็มีเรือสำเภาตั้งหลายลำนี่หว่า เอ่ หรือว่าผมเข้าใจผิดประการใด 
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
    
ตอบ: 33479
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 113 เมื่อ 19 เม.ย. 11, 10:24
|
|
เห็นคำว่า Southeast Asian Junks มันก็เรือหลายลำนี่คะ รูปไหนที่บอกว่าเป็นเรือสำเภาจีนลำเดียวในโลก ช่วยก๊อปมาให้ดูหน่อย
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ShopperKimpy
อสุรผัด

ตอบ: 11
|
ความคิดเห็นที่ 114 เมื่อ 19 เม.ย. 11, 10:45
|
|
เห็นคำว่า Southeast Asian Junks มันก็เรือหลายลำนี่คะ รูปไหนที่บอกว่าเป็นเรือสำเภาจีนลำเดียวในโลก ช่วยก๊อปมาให้ดูหน่อย
คือ เห็นหนังท่านมุ้ยมีการโฆษณาว่าเรือที่ท่านสร้างเป็นเรือสำเภาจีนลำเดียวในโลก ผมสงสัยตรงจุดนี้อ่ะครับ เพราะในลิ้งข้างบนก็เห็นมีเรือสำเภาจีนตั้งหลายลำ แล้วที่ท่านสร้างมันลำเดียวในโลกอย่างไร หว่า ? 
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
bookaholic
|
ความคิดเห็นที่ 115 เมื่อ 19 เม.ย. 11, 16:44
|
|
จริงนะครับ เป็นลำเดียวในโลกที่ท่านมุ้ยสร้างไงครับ ลำอื่นๆก็คนอื่นสร้าง
ผมสนใจพงศาวดารเขมร ตอนทหารรับจ้างปอร์ตุเกสกับสเปนมาร่วมกันค้ำบัลลังก์พระยาละแวกอ่ะครับ ไม่ทราบว่าอาจารย์เทาชมพูจะแยกกระทู้ออกไปเล่าให้ฟังได้หรือไม่ครับ ถ้าเล่าได้ก็เป็นพระคุณครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
siamese
|
ความคิดเห็นที่ 116 เมื่อ 20 เม.ย. 11, 07:42
|
|
เมื่อคืนนั่งดูที่ตั้งของป้อมเมืองบางกอก พร้อมโซ่ล่ามขวางลำน้ำเจ้าพระยา เลยนึกถึงเอกสารที่มีอยู่ชิ้นหนึ่ง เป็นภาพลายเส้นแผนที่ประวัติศาสตร์เมืองสมุทรปราการ โดยคณะกรรมการอำนวยการจัดงานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว, วัฒนธรรมพัฒนาการทางประวัติศาสตร์เอกลักษณ์และภูมิปัญญาจังหวัดสมุทรปราการ. 45.
ระบุตำแหน่งของเรือของสมเด็จพระนเรศวร ซึ่งไล่ทันเรือสำเภาของจีนจันตุได้ บริเวณแห่งนี้ ซึ่งเลยโค้งบางกระเจ้า จะล่วงเข้าออกปากอ่าวแล้วครับ จึงนำมาให้ดูวิเคราะห์กันต่อไปครับ
|
 คลิกที่รูปเพื่อขยาย/ย่อ
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
samun007
|
ความคิดเห็นที่ 117 เมื่อ 20 เม.ย. 11, 08:48
|
|
เห็นคำว่า Southeast Asian Junks มันก็เรือหลายลำนี่คะ รูปไหนที่บอกว่าเป็นเรือสำเภาจีนลำเดียวในโลก ช่วยก๊อปมาให้ดูหน่อย
คือ เห็นหนังท่านมุ้ยมีการโฆษณาว่าเรือที่ท่านสร้างเป็นเรือสำเภาจีนลำเดียวในโลก ผมสงสัยตรงจุดนี้อ่ะครับ เพราะในลิ้งข้างบนก็เห็นมีเรือสำเภาจีนตั้งหลายลำ แล้วที่ท่านสร้างมันลำเดียวในโลกอย่างไร หว่า ?  ก็เป็นวิธีโฆษณาหนังครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
NAVARAT.C
|
ความคิดเห็นที่ 118 เมื่อ 20 เม.ย. 11, 09:17
|
|
เมื่อคืนนั่งดูที่ตั้งของป้อมเมืองบางกอก พร้อมโซ่ล่ามขวางลำน้ำเจ้าพระยา เลยนึกถึงเอกสารที่มีอยู่ชิ้นหนึ่ง เป็นภาพลายเส้นแผนที่ประวัติศาสตร์เมืองสมุทรปราการ โดยคณะกรรมการอำนวยการจัดงานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว, วัฒนธรรมพัฒนาการทางประวัติศาสตร์เอกลักษณ์และภูมิปัญญาจังหวัดสมุทรปราการ. 45.
ระบุตำแหน่งของเรือของสมเด็จพระนเรศวร ซึ่งไล่ทันเรือสำเภาของจีนจันตุได้ บริเวณแห่งนี้ ซึ่งเลยโค้งบางกระเจ้า จะล่วงเข้าออกปากอ่าวแล้วครับ จึงนำมาให้ดูวิเคราะห์กันต่อไปครับ ผมมิได้ดึงดันว่าข้อสันนิฐานของผมถูก คนอื่นผิดนะครับ แต่อยากจะทราบเหตุผลที่มาของข้อสรุปด้งกล่าว มีคำอธิบายอยู่ในภาพไหมครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
NAVARAT.C
|
ความคิดเห็นที่ 119 เมื่อ 20 เม.ย. 11, 09:19
|
|
เรือสำเภาจีนของแท้นั้น อยู่ในบัญชีที่ยูเนสโก้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก ประเภท Intangible Cultural Heritage in Need of Urgent Safeguarding ตามlinkข้างล่างนี้ครับ ของแท้คงมีสร้างไว้หลายลำแล้วละครับ ส่วนของเทียมเพื่อถ่ายหนังไทย คงจะเป็นลำเดียวในโลกจริงๆ เพราะจะไม่นับที่สร้างขึ้นมาเพื่อถ่ายทำหนังจีนด้วยไง The watertight-bulkhead technology of Chinese junks http://www.unesco.org/culture/ich/index.php?lg=en&pg=00011&USL=00321
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|