๓
พอมาดูการแสดงรามเกียรติ์ ศึกพรหมมาศ ที่จัดแสดงล่าสุด เห็นการรำเบิกโรงของไทยให้เทวดาถือฟ่อนหางนกยูงออกมา ก็นึกถึงการแสดงของเขมรที่มักจะมีนางรำถือฟ่อนหางนกยูงออกมารำเบิกโรง แต่ในนิราศนครวัดบันทึกว่ารำดอกไม้เงินทอง น่าสนใจตรงนี้นะครับ
ก่อนที่จะแสดงละครใน จะต้องมีการแสดงชุดเบิกโรงเสียก่อน โดยผู้แสดงละครใน ๒ คน แต่งกายยืนเครื่องพระ สวมหัวเทวดาโล้น สองมือกำหางนกยูง (หัวเทวดาที่ไม่มีมงกุฏ) ออกมารำเบิกโรง เรียกว่า
รำประเลง จนถึงสมัยรัชกาลที่ ๔ ทรงคิดประดิษฐ์ดอกไม้เงิน ดอกไม้ทอง โดยเอาแบบมาจากเครื่องราชบรรณาการ เป็นอุปกรณ์สำหรับใช้ในการรำเบิกโรง จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เปลี่ยนแปลงการแสดงรำเบิกโรงละครในจากชุด
รำประเลง มาเป็น รำดอกไม้เงิน ดอกไม้ทอง โดยใช้ผู้แสดงละครใน ๒ คน แต่งกายยืนเครื่องพระ สวมชฏาแทนสวมหัวเทวดาโล้น สองมือถือดอกไม้เงินดอกไม้ทองแทนหางนกยูง แล้วทรงพระราชนิพนธ์บทขับร้องประกอบการรำดอกไม้เงินดอกไม้ทองขึ้นใหม่
เมื่อนั้น ไทท้าวเทพบุตรบุรุษสอง
สองมือถือดอกไม้เงินทอง ป้องหน้าออกมาว่าจะรำ
เบิกโรงละครในให้ประหลาด มีวิลาศน่าชมคมขำ
ท่าก็งามตามครูดูแม่นยำ เปนแต่ทำอย่างใหม่มิใช่ฟ้อน
หางนกยูงอย่างเก่าเขาเล่นมาก ไม่เห็นหลากจืดตามาแต่ก่อน
คงแต่ท่าไว้ให้งามตามละคร ที่แต่งตนก้นไม่งอนตามโบราณ
รำไปให้เห็นเปนเกียรติยศ ปรากฏทุกตำแหน่งแหล่งสถาน
ว่าพวกฟ้อนฝ่ายในใช้ราชการ สำหรับพระภูบาลสำราญรมย์
ย่อมช่วงใช้ดอกไม้เงินทอง ไม่เหมือนของเขาอื่นมีถื่นถม
ถึงผิดอย่างไปใครจะไม่ชม ก็ควรนิยมว่าเปนมงคลเอย 