ฉากประทับใจในหนังเก่า SPOILER ALERT

[SILA]

             ที่สหรัฐอเมริกา ในพิธีมอบรางวัลผู้รายงานข่าวแห่งปีจากข่าวกัมพูชาสิ้นชาติ
ซิดนีย์ได้กล่าวยกย่องดิธปรานในงานนี้ โดยมีเพื่อนในวงการกล่าวโทษเขาในเวลาต่อมาว่า
เป็นต้นเหตุทำให้ดิธปรานติดอยู่ในแดนเขมรแดงเพราะเขา(จำเป็นต้องอาศัย)ให้ดิธอยู่
เป็นผู้ช่วยทำข่าวต่อ
               ซิดนีย์ได้พยายามติดต่อหน่วยงาน เช่น กาชาดสากล เพื่อตามหาดิธปราน
แต่ไร้ร่องรอย ข่าวการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์โดยเขมรแดงทำให้น่าเชื่อว่าดิธปรานน่าจะสิ้นลมปราณแล้ว

ภาพงามเหงา - ซิดนีย์ยืนเดียวดายกับตึกคู่สูงเสียดฟ้าแห่งมหานครนิวยอร์ค

[SILA]

คลิปรวมเหตุการณ์ในค่ายนรก ทุ่งสังหาร

            

[SILA]

          จวบจนเวลาล่วงเลยได้ 4 ปี  ช่วงปลายทุรยุคเมื่อกองกำลังของเวียตนามรุกเข้าตีเขมรแดง
ดิธปรานได้หลบหนีออกจากค่ายและเดินเท้าเข้าป่า ข้ามเขาพนมดงรักสู่ชายแดนไทย

             ในที่สุด สองสหายได้กลับมาพบกันในค่ายผู้อพยพชายแดนไทย

[SILA]

           ซิดนีย์ถามว่า You forgive me?  ดิธปรานตอบเขาว่า

             Nothing to forgive, Sydney. Nothing.

       

[SILA]

           ความตายหลังจากทุ่งสังหาร -

           Dith Pran เสียชีวิตลงเมื่อ 30 มีนาคม  2008 จากมะเร็งตับอ่อน

เพื่อนรักกลับคืนจากแดนแห่งความตาย

[SILA]

            ก่อนหน้านั้น  (Dr.) Haing S. Ngor ผู้ได้รับรางวัลออสการ์นักแสดงสมทบ
จากหนังเรื่องนี้ได้ถูกสังหารด้วยปืนที่หน้าบ้านใน  Los Angeles เมื่อปี 1996 โดยพลพรรค
แห่ง gang "Oriental Lazy Boyz"

           (แน่นอน)ทุกคนเห็นว่าความตายของเขาคือ sad irony
           เขาผู้รอดตายจากการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในบ้านเกิด แต่ในที่สุดต้องมาจบชีวิตลง
ด้วยการถูกฆ่าในบ้านใหม่ที่เป็นบ้านตายต่างแดน

              Ngor เคยให้สัมภาษณ์หลังจากประสบความสำเร็จกับชีวิตใหม่ในอเมริกาว่า

              "I have a house, I have everything, but I have no family"

ดิธปรานทั้งสอง

[SILA]

            Dr. Haing S Ngor เป็นสูตินรีแพทย์ เมื่อเขมรแดงเข้าปกครองเขาต้องแปลงตน
เป็นคนไม่สวมแว่น(เครื่องหมายคนมีการศึกษา) เป็นชาวบ้านไม่ใช่แพทย์
            ระหว่างอยู่ในค่ายกักกันภรรยาของเขาเสียชีวิตจากการคลอดเนื่องจากภาวะตกเลือด
เธอไม่ยอมให้สามีที่เป็นสูติแพทย์ได้รับรู้ เพราะหากทำเช่นนั้นเท่ากับเป็นการเปิดเผย
สถานะของเขาที่จะนำไปสู่ความตาย ในที่สุดเธอจึงตกเลือดตายไปโดยไม่ปริปากเอ่ยความลับนี้

             คดีฆาตกรรมของเขามีหนึ่งข้อมูลดรามาจากอัยการว่า เป็นเพราะเขาขัดขืน
ไม่ยอมให้ล็อคเก็ทซึ่งมีรูปภรรยาผู้จากไปอยู่ข้างในแก่คนร้าย หลังจากที่เขาได้ถอดนาฬิกา
โรเล็กซ์ให้พวกนั้นไปแล้ว

อีกผลงานของเขา Survival in the Killing Fields

[SILA]

           ถ้าเทียบกับ คนล่ากวาง แล้ว โดยส่วนตัวชอบคนล่ากวางมากกว่า ครับ
              
             คนล่ากวางเป็น "ดรามา" และ ตัวละครชวนติดตามมากกว่า ในขณะที่
ทุ่งสังหาร มีตัวละครหลักสองคน มิตรภาพระหว่างกันไม่ซาบซึ้งเท่า บรรยากาศหนัง
ออกแนวสารคดีเพราะสร้างอิงเรื่องจริง

              และ อีกจุดหนึ่งซึ่งสำคัญมาก คือเพลงตอนจบ  - Imagine ของ John Lennon ในทุ่งสังหาร
              ตอนที่เพลงขึ้นมาขณะนั่งดูอยู่ก็รู้สึกได้ทันทีว่า "ไม่ใช่"
(และ ไม่กระทบใจได้อย่าง God Bless America ในคนล่ากวาง)

              ลองค้นดูในเน็ทพบบางความเห็นที่ไม่ชอบการเลือกใช้เพลงฮิทเพลงนี้เช่นกัน  
                   very nearly descends into Hallmark Channel territory,
                   uninspired and corny, a severe error of judgment,
                   preferred scoring, not just whatever was popular at the time
และที่เป็นเรื่องก็คือ
                   That decision was named the lowest point of the year in
Time Magazine's Cultural Highs and Lows of the Year.          

[เทาชมพู]

ส่งเพลง Imagine มาประกอบค่ะ

[เทาชมพู]

ขอคลายความประทับใจที่แสนหดหู่จากหนัง Killing Fields ข้างบนนี้ ด้วยผู้หญิงบานฉ่ำที่คุณวัฒนชัยขอมา

Pretty Woman  หนังปี 1990 เป็น Romantic comedy ของซินเดอเรลลายุคใหม่   สร้างฝันปลอบใจสาวๆว่า ไม่ว่าเธอจะอาภัพอับโชคแค่ไหน วันหนึ่งราชรถของเจ้าชายก็จะมาเกย
จูเลียเล่นเป็นโสเภณีสาวที่สะอาดสะอ้านไร้เดียงสา    ดำเนินชีวิตตามลำพัง  ไม่กลัวตำรวจ  ไม่ติดยา ไม่มีสังกัด ไม่มีแมงดาคุม  (ซึ่งมีได้แต่ในหนังเรื่องนี้เท่านั้น)   วันหนึ่งเศรษฐีหนุ่มใหญ่ก็มาติดต่อให้เธอไปเป็นสาวเอสคอร์ตเขา ชั่วระยะสั้นๆ    แต่ด้วยความน่ารักและนิสัยดี  ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ก็พัฒนาไปจนกระทั่งหมดเวลาว่าจ้าง  เธอก็ตัดสินใจเลิกอาชีพอย่างง่ายดาย ปานประหนึ่งลาออกจากงานบริษัทอะไรสักแห่ง   
จากนั้นก็แฮปปี้เอนดิ้ง

เรื่องนี้ในตอนวางโครงการไว้แต่แรก ตั้งใจจะให้เป็นหนังดราม่าหนักๆของด้านมืดโสเภณีในนิวยอร์ค   แต่ผู้สร้างกับผู้กำกับเปลี่ยนใจ จะด้วยเก่งบวกเฮงหรืออะไรไม่แน่    สร้างเป็นหนังเบาอารมณ์เรื่องนี้แทน     ผลก็คือเรื่องนี้ประสบผลสำเร็จมหาศาล  ได้ทั้งเงินได้ทั้งกล่อง เป็นประวัติการณ์ในปีที่ออกฉาย

[เทาชมพู]

เวลาล่วงมาถึงปัจจุบัน  โรแมนติคคอมเมดี้เรื่องนี้กอบโกยรายได้เป็นล่ำเป็นสันถึง $463.4ล้านดอลล่าร์    จูเลีย โรเบิร์ตส์มีราชรถมาเกยจริงๆ ได้รางวัลลูกโลกทองไปจากบทนางเอก    และเข้ารอบสุดท้ายในรางวัลออสการ์ด้วย  ส่งให้เธอเป็นซินเดอเรลลาตัวจริงของโลกมายา
ผลพลอยได้คือผู้เขียนบทชื่อ J.F. Lawton เข้ารอบสุดท้ายชิงรางวัล  Writers Guild Award และ BAFTA Award
ความดังของหนังเรื่องนี้ทำให้มีหนังทำนองเดียวกันตามมาอีกหลายเรื่อง   ริชาร์ด เกียร์ และจูเลียก็ถูกจับคู่กันอีกครั้ง โดยผู้กำกับคนเดียวกัน ในเรื่อง Runaway Bride (1999)



สรุปว่าแม้เรื่องนี้มียุงบินว่อนอยู่บ้าง   คนดูก็ยินดีจะตบยุงอยู่ยาวนาน

[watanachai4042]

ขอบพระคุณอาจารย์เทาชมพูมากฮะ ขอบคุณคุณศิลาด้วยเรื่องทุ่งสังหารที่แสนน่ากลัว เพราะมันเป็นความจริง เคยอ่านเรื่อง 4 ปีนรกในเขมร นั่นก็น่ากลัวเหลือเกิน คนไทยโชคดีกว่าเขาจนไม่รู้จะเอามาตราไหนมาวัดความโชคดีที่ไม่ต้องบ้านแตกอย่างเขาได้

[เทาชมพู]

ในทศวรรษ 1970 ต้นๆ เมื่ออเมริกาพ่ายแพ้ในสงครามเวียตนาม  ไซ่ง่อนแตก   เราเคยกลัวทฤษฎีโดมิโน คือถ้าประเทศหนึ่งล้ม อีกประเทศหนึ่งก็จะล้ม  ตามๆกันไปเหมือนตัวโดมิโน  ประเทศไทยก็กำลังเผชิญมรสุมการเมืองนอกประเทศรุนแรงมาก ในระยะนั้น   บางจังหวัดกลายเป็นถิ่นอันตราย เหยียบเข้าไปไม่ได้เลย
แต่อย่างไรก็ตาม  การเมืองนอกประเทศเปลี่ยน ไทยก็เปลี่ยนนโยบายได้ทัน  จึงรอดมาได้ไม่กลายเป็นเขมร 2

ในค.ศ. 1987  ฮอลลีวู้ดทำหนังเรื่อง Good Morning, Vietnam  ย้อนไปถึงความหลังครั้งทศวรรษก่อน    เขายกกองมาถ่ายทำในประเทศไทย  มีดาราไทยไปเล่นด้วย คือจินตะหรา สุขพัฒน์ เล่นเป็นสาวเวียตนาม  คู่กับโรบิน วิลเลียมส์

[เทาชมพู]

ใครอยากดูจินตะหรา   หาได้ในตอนนี้ค่ะ

[SILA]

            แม่พลอย จินตะหรา น่าจะเป็นนางเอกไทยที่ได้แสดง "หนังใหญ่" ประกบพระเอกแถวหน้า
ของฮอลลีวู้ด อย่างเป็นเรื่องเป็นราวที่สุด คือ มีบทบาท(แม้จะสมทบ)พอสมควรตลอดเรื่อง

              นางเอกไทยแถวหน้าอีกคนหนึ่ง ที่ได้ร่วมแสดงในหนังใหญ่จากฮอลลีวู้ด รับบทเป็นภรรยา
ของพระเอก เมล กิ๊บสัน แต่ปรากฏตัวในหนังฉากเดียว แป๊บเดียวคือ สินจัย หงษ์ไทย ใน Air America (1990)