SILA
|
ความคิดเห็นที่ 60 เมื่อ 03 มี.ค. 11, 09:32
|
|
ความจริงยังคงไม่ถูกเปิดเผย จนเมื่อเขาบอกลาและกำลังจะเดินจากไป แต่ยังมีอีกสิ่งหนึ่ง ที่มีความหมายระหว่างทั้งสองที่เขาต้องกล่าวถึง นั่นคือภาพวาดฝีมือของเขาเป็นรูป(ผู้หญิงสองคน ที่เขารัก นั่นคือ) เธอและคุณยาย ภาพนั้นเขาไม่คิดจะขายแต่ได้นำไปแขวนโชว์ไว้ในแกลเลอรี่ ที่ต่อมาผู้จัดการได้มอบภาพนั้น ด้วยความสงสารให้กับหญิงพิการนั่งรถเข็นผู้แสดงความชื่นชอบภาพนั้นอย่างมากมายแต่ไม่มีเงินพอจะซื้อได้ เมื่อเล่าถึงตอนนี้ เขาก็ฉุกคิดขึ้นมาทันที เขากวาดสายตามองไปรอบห้องแล้วจึงเดินเข้าไปดู ในห้องนอน และได้พบภาพนั้นแขวนอยู่ในห้องนอนของเธอ
ผู้กำกับภาพ เลือกนำเสนอภาพที่ตัวละครมองเห็นเป็นแบบภาพเงาสะท้อนในกระจกอีกครั้ง
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 61 เมื่อ 03 มี.ค. 11, 09:35
|
|
"Why didn't you tell me? If it had to happen to one of us, why did it have to be you?"
"I was looking up - it was the nearest thing to heaven. You were there." เธอปลอบเขาและบอกตัวเองว่า
"Don't worry, darling...if you can paint, I can walk. Anything can happen."
ผู้ชมยิ้มด้วยความสุขทั้งน้ำตา
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 62 เมื่อ 03 มี.ค. 11, 09:39
|
|
รับชมตอนจบที่ซาบซึ้งประทับใจได้ที่ยูทูบ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
    
ตอบ: 33416
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 63 เมื่อ 03 มี.ค. 11, 10:00
|
|
เรื่องนี้ถ้าไม่ใช่ฝีมือดาราระดับแครี่ แกรนท์ กับเดเบอร่าห์ คาร์ ละก็ ก็เป็นเรื่องยุงชุมบินว่อนนี่เอง แต่ว่าดาราทำให้มันดูดีขึ้นจนกลายเป็นหนังรักคลาสสิค เอามาเล่าต่อใน Sleepless in Seattle ก็ทำได้น่ารักมาก ที่บรรดาสาวๆเพื่อนของเม็ก ไรอันร้องไห้น้ำตาเป็นเผาเต่าเวลาเล่าเรื่องนี้ (เป็นครั้งที่ ๔๔๙) แถมพระเอกนางเอกก็นัดพบกันที่ยอดตึกเอมไพร์สเตท เหมือนในเรื่อง AATR ด้วย
ฉากสุดท้ายแสนประทับใจที่นางเอกนั่งหงอยเหงาอยู่คนเดียวในวันคริสต์มาส ปฏิเสธแม่บ้านที่เชิญไปร่วมกินอาหารฉลองกันที่บ้านเธอ ด้วยความหยิ่งในศักดิ์ศรีว่าไม่รับความสงสารจากใคร เธอนั่งเหยียดขาบนโซฟามีผ้าคลุมขามิดชิด แต่ไม้ยันหรือเก้าอี้เข็นไม่ยักกะมีในห้อง ทำให้ดิฉันสงสัยว่าถ้าอยากเข้าห้องน้ำจะทำยังไง หรือแม้แต่อยากจะกลับเข้าไปนอน จะพยุงตัวไปอย่างไร
แต่นั่นแหละ ถ้ามีไม้ยันเทอะทะวางพิงเก้าอี้ หรือมีรถเข็นให้เห็น พระเอกก็จับได้ตั้งแต่เดินเข้ามาว่าเธอพิการน่ะซีคะ ไคลแมกซ์ที่พระเอกมารู้เอาตอนจบ ก็จะพังไม่เป็นท่า แม้แต่ตอนจบที่นางเอกบอกว่า ตัวเองจะหายพิการ จะเป็นไปได้อย่างไร หรือเธอแค่ปลอบใจตัวเอง พระเอก และคนดู ก็ไม่รู้ ดูเรื่องนี้ต้องลืมๆ เหตุบังเอิญและรายละเอียดเล็กๆน้อยๆที่ไม่สมจริง ถึงจะสนุก
ส่งท้ายด้วยเสียงอมตะนิรันดร์กาลของแนท คิง โคล ค่ะ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
    
ตอบ: 33416
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 64 เมื่อ 03 มี.ค. 11, 15:16
|
|
ขอนำหนังเก่าที่เป็นหนังน้ำกลั่นสะอาดบริสุทธิ์ของแท้มาให้คุณ SILA รำลึกความหลังบ้าง แม้เป็นหนังเยาวชน แต่ Mary Poppins ซึ่งออกฉายในค.ศ. ๑๙๖๔ ก็คว้าถึง ๕ ตุ๊กตาทอง เป็นหนังทำเงินอันดับ ๑ ของปี ๑๙๖๕ และส่งจูลี่ แอนดรูว์ขึ้นทำเนียบดาราแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมของรางวัลออสการ์
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
    
ตอบ: 33416
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 65 เมื่อ 03 มี.ค. 11, 19:00
|
|
Mary Poppins ทำจากวรรณกรรมเด็กของนักเขียนชาวอังกฤษชื่อ P. L. Travers เป็นเรื่องของนางฟ้าที่มาเป็นพี่เลี้ยงให้เด็กชายหญิงในสกุลแบ๊งค์ เธอเนรมิตโลกแสนวิเศษให้เด็กๆได้ตื่นตาตื่นใจ แต่ก็ไม่ใช่โลกที่จะเอาอะไรก็ได้ดังปรารถนาแบบตะเกียงวิเศษของอะลาดิน เป็นการผจญภัย พร้อมกันนั้นก็เรียนรู้ไปด้วย
ตัวอย่างการจัดระเบียบข้าวของในห้องเด็ก แมรี่สอนว่า น้ำตาลหนึ่งช้อนช่วยให้กลืนยาขมลงคอไปได้ ชีวิตก็ควรหาอะไรเช่นนั้น คือ พยายามหาความรื่นรมย์เล็กๆน้อยๆให้ได้ในงานเหนื่อย แล้วจะไม่เป็นทุกข์
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
    
ตอบ: 33416
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 66 เมื่อ 03 มี.ค. 11, 19:06
|
|
แมรี่ พาเด็กไปเที่ยวในโลกของเธอในวันหยุด เพลงSupercalifragilisticexpialidocious (อย่าถามว่าออกเสียงยังไง) ได้ตุ๊กตาทองในปีนั้นด้วย
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
    
ตอบ: 33416
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 67 เมื่อ 03 มี.ค. 11, 19:09
|
|
อีกฉากหนึ่งของนักแสดง ผสมกับฉากการ์ตูนพื้นหลัง
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
    
ตอบ: 33416
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 68 เมื่อ 03 มี.ค. 11, 20:49
|
|
ฉากใหญ่อีกฉากของเรื่องนี้ คือฉากนักเต้นบนปล่องไฟหลังคา ประกอบเพลงดังอีกเพลงหนึ่งของหนังเรื่องนี้ - Chim Chim Cher-ee
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 69 เมื่อ 04 มี.ค. 11, 10:12
|
|
ดูและฟังไป อมยิ้มไป ครับ
นึกถึง หนัง-การ์ตูนใสๆ กับโลกวัยเด็กอันสดใส ที่ผ่านไปน.า.นแล้ว
คลิปจากยูทูบนี้เป็นการลำดับภาพใส่เสียง(หลอน)ใหม่ให้ออกมาเป็น Scary 'Mary Poppins' Recut Trailer ครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
    
ตอบ: 33416
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 70 เมื่อ 04 มี.ค. 11, 10:29
|
|
^ ทำเสียเรื่องหลอนไปเลยค่ะ ต้องรีบจบ Mary Poppins ด้วยเพลง Fly a Kite ที่ครอบครัวแบ๊งค์กลับมา พร้อมหน้ากันพ่อแม่ลูก ชวนกันไปเล่นว่าวอย่างเป็นสุข พร้อมกับเพื่อนบ้าน ก็ถึงเวลาที่พี่เลี้ยงกายสิทธิ์จะต้องจากครอบครัวนี้ไปแล้ว
คุณ SILA มีฉากหนังเรื่องอะไรมาเล่าอีกคะ จะรอดู
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 71 เมื่อ 04 มี.ค. 11, 15:22
|
|
จาก Mary Poppins ตามมาด้วยฉากประทับใจจากการ์ตูนดิสนีย์ สองเรื่อง แต่ว่า เป็นฉากเศร้าบีบน้ำตาทั้งคู่ ครับ
เรื่องแรก Dumbo (1941)
แม่ช้าง Jumbo ถูกขังเดี่ยว พร้อมป้ายกำกับว่า "Mad Elephant" หลังจากที่เธอในฐานะผู้เป็นแม่ ปกป้องลูกน้อยจัดการสั่งสอนเจ้าวายร้าย(เด็กเกเร) ที่แกล้งลูกช้างหูกาง - Dumbo ของเธอ ถึงยามค่ำคืนในขณะที่ลูกสัตว์ทุกตัวต่างนอนหลับปุ๋ยอยู่กับแม่ตน ลูกช้างน้อยเหว่ว้ามาหาแม่ที่กรง แม่ซึ่งถูกล่ามโซ่ไว้ไม่อาจโผล่หน้ามามอง คงได้แต่ยื่นงวงผ่านลูกกรงลงมาลูบไล้แล้วช้อนลูกน้อยขึ้นนอน ไกวต่างเปล
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 72 เมื่อ 04 มี.ค. 11, 15:24
|
|
เชิญรับชม และ รับฟัง ฉากประทับใจพร้อมเพลง Baby Mine ครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 73 เมื่อ 04 มี.ค. 11, 15:31
|
|
และ Bambi (1942)
ปลายฤดูหนาวที่หิวโหย แม่พาแบมบี้ไปเสาะหาหญ้ากิน สองแม่ลูกต่างดีใจเมื่อได้เห็น ต้นหญ้าอ่อนผลิใบ เป็นสัญญาณบอกว่าหนาวนี้กำลังจะผ่านพ้นไป ขณะที่และเล็มหญ้าอยู่แม่กวางได้กลิ่น สัตว์มนุษย์ในระยะไม่ห่าง นางรีบสั่งลูกน้อยให้วิ่งกลับเข้าป่าไปไม่ต้องเหลียวมามอง สองชีวิตหนีตายวิ่งข้ามทุ่งหิมะ โดยมีเสียงปืนไล่หลัง
แบมบี้ที่วิ่งอย่างเร็วรี่สุดฝีเท้าเข้ามาถึงป่าแล้วหยุดพักหอบหายใจ ในวินาทีนี้เองที่ลูกกวางน้อย ได้ตระหนักว่าแม่ไม่ได้ตามมาด้วย แบมบี้ท่องไปในป่าท่ามหลางหิมะพรำพร่ำเพรียกหาแม่ แต่ไร้เสียงตอบรับ
"Mother, where are you?"
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 74 เมื่อ 04 มี.ค. 11, 15:35
|
|
ทันใดนั้นโดยไม่ทันคาดคิด พ่อกวางมาปรากฏตัวอยู่เบื้องหน้าและบอกลูกชายว่า แม่ไม่อาจตามมาอยู่กับลูกได้อีกแล้ว
"Your mother can't be with you anymore" แบมบี้หลับตาก้มหน้าลงก่อนที่จะเงยขึ้นมาน้ำตาริน
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|