เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: 1 ... 30 31 [32] 33 34 ... 88
  พิมพ์  
อ่าน: 253787 ฉากประทับใจในหนังเก่า SPOILER ALERT
SILA
หนุมาน
********
ตอบ: 6362


ความคิดเห็นที่ 465  เมื่อ 24 มิ.ย. 11, 17:57

          เรื่องนี้ไปดูที่โรงใหญ่ ครับ

            ชอบแคแรคเตอร์ Edna Mode ที่สุด ครับ

        



บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 466  เมื่อ 24 มิ.ย. 11, 18:01

ยัย E หน้าตาและพูดจากวนมาก   ทีมงานเอาบุคลิกมาจากดาราคนไหนนะคะ
ตอนกำลังพิมพ์ ทรูวิชั่นกำลังออกอากาศหนังเรื่องนี้พอดี    เลยได้ดูอีกครั้ง


บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 467  เมื่อ 24 มิ.ย. 11, 18:12

ขอแถมด้วย IGN's Top Animated Movie of All-Time ขอตอบแค่ 10 อันดับแรก

10  Snow White and the Seven Dwarfs
9    Toy Story
8    The Little Mermaid
7     Up
6    The South Park
5    The Iron Giant
4    Toy Story 2
3    The Incredibles
2    WALL-E,
และ
1      ตกใจ


บันทึกการเข้า
SILA
หนุมาน
********
ตอบ: 6362


ความคิดเห็นที่ 468  เมื่อ 25 มิ.ย. 11, 10:22

         ข้อมูล imdb บอกว่าแคแร็คเตอร์ เอ็ดน่า นี้วาดตามนักออกแบบเครื่องแต่งกาย 2 คน
ได้แก่ Una Jones ผู้มีรูปลักษณ์และบุคคลิกดังในหนัง และ

        Edith Head - costume designer ตัวแม่แห่งฮอลลีวู้ด เจ้าของออสการ์ 8 ตัว
(ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงมากกว่า 30 ครั้ง) ครับ

Edith Head

 


บันทึกการเข้า
SILA
หนุมาน
********
ตอบ: 6362


ความคิดเห็นที่ 469  เมื่อ 25 มิ.ย. 11, 10:25

           แต่ตอนที่ดูอยู่ นึกถึงนักแสดงคนนี้ ครับ

Linda Hunt นักแสดงออสการ์(สาขาดาราสมทบ) ร่างเล็ก


บันทึกการเข้า
SILA
หนุมาน
********
ตอบ: 6362


ความคิดเห็นที่ 470  เมื่อ 27 มิ.ย. 11, 09:32

            ชอบอันดับ 2 Wall - E อนิเมชั่นรักษ์โลกมากๆ ครับ

              โลกในอนาคตปี 2805 ที่รกร้าง - รกขยะที่เป็นผลมาจากสังคมบริโภคนิยม
ร้างผู้คน เพราะต้องอพยพไปอยู่ในยานอวกาศ เนื่องจากสิ่งแวดล้อมอบอวลด้วยมลพิษ ไร้สิ่งมีชีวิต

มิใช่ตึกระฟ้า ทว่า คือ ปิระมิดก้อนขยะ


บันทึกการเข้า
SILA
หนุมาน
********
ตอบ: 6362


ความคิดเห็นที่ 471  เมื่อ 27 มิ.ย. 11, 09:34

           หุ่นยนต์ WALL - E (Waste Allocation Load Lifter, Earth class)
ออกปฏิบัติหน้าที่ประจำ จัดการเก็บขยะมหาศาล วันแล้ววันเล่า

             

วอลล์ อี กับขยะบางชิ้น


บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 472  เมื่อ 27 มิ.ย. 11, 09:37

เคยดู Linda Hunt ในหนังบางเรื่อง แต่ไม่รู้ว่าชื่ออะไร จนคุณ SILA มาเล่าให้ฟัง  จึงไปหาประวัติมาอ่าน  ก็นับว่าเป็นดาราฝีมือดี ที่ไม่ต้องอาศัยรูปโฉมช่วยเหลือ 
พูดถึงดาราหญิง ก็ต้องพูดถึงดาราชายระดับตุ๊กตาทอง ที่ไม่ต้องอาศัยหุ่นมาช่วยฝีมือ    Danny DeVito
คุณ SILA คงจำเรื่อง Twins (1988) ที่เขาเล่นเป็นฝาแฝดของอาโนลด์คนเหล็กได้นะคะ
แฝดคนหนึ่งได้แต่ยีนส์ดี  อีกคนได้แต่ยีนส์ด้อย    แดนนี่เล่นได้เก่งจนเชื่อได้ว่าเป็นฝาแฝดกับอาโนลด์จริง



ชนกลางอากาศกับคุณ SILA   งั้นดิฉันฟังคุณเล่าเรื่องแอนนิเมชั่นต่อละค่ะ   เก็บแดนนี่ไว้แค่นี้ก่อน  จะลบทิ้งก็เสียดาย
บันทึกการเข้า
SILA
หนุมาน
********
ตอบ: 6362


ความคิดเห็นที่ 473  เมื่อ 27 มิ.ย. 11, 09:39

ต่อครับ
            วันหนึ่ง วอลล์ อีค้นพบเมล็ดพืช และนำไปเพาะในห้องพัก
            อีกวันหนึ่ง ได้พบกับหุ่นยนต์ส่งมาจากยานอวกาศเพื่อค้นหาสัญญาณสิ่งมีชีวิตบนโลก
นามของเธอคือ อีวา
            
            หนังการ์ตูน ตัวนำก็เป็นหุ่นยนต์ บทสนทนาก็แทบไม่มี แต่ทำไปได้ สามารถทำให้คนดู
เกิดอารมณ์ซาบซึ้งคล้อยตาม โดยเฉพาะฉากรักในอวกาศของทั้งสอง

คลิปไม่ค่อยคมชัดนัก ครับ      

            

Lostve in Space


บันทึกการเข้า
SILA
หนุมาน
********
ตอบ: 6362


ความคิดเห็นที่ 474  เมื่อ 27 มิ.ย. 11, 09:48

           หุ่นยนต์ทั้งสองได้กลับมาโลก แต่วอลล์ อี เปลี่ยนไปเพราะหน่วยความจำลบเลือน อีวาผู้ตรอมตรม
จุมพิตวอลล์ อี ก่อนจากลา แต่ทว่า รอยจูบนั้นทำให้เกิดไฟฟ้าสปาร์คส่งผลให้วอลล์ อี ถูกรีบู๊ทกลับคืนเป็นดังเดิม

             


บันทึกการเข้า
SILA
หนุมาน
********
ตอบ: 6362


ความคิดเห็นที่ 475  เมื่อ 27 มิ.ย. 11, 10:01

          หนังจบลงตามขนบการ์ตูน คือสุข สมหวัง อิ่มใจ ครับ

หนึ่งในหลายภาพประทับใจจากวอลล์ อี

           


บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 476  เมื่อ 28 มิ.ย. 11, 20:36

ขอเล่าตอบแทนบ้างค่ะ  ด้วยเรื่องหมายเลข 10  Snow White and the Seven Dwarfs
การ์ตูนแห่งปีค.ศ. 1937   ก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 คือการ์ตูนเรื่องยาวเรื่องแรกของดิสนีย์ และเรื่องแรกของประวัติหนังการ์ตูน

ก่อนหน้านี้การ์ตูนเป็นเพียงเรื่องสั้นๆ 5 นาทีจบ   เอาไว้ฉายเกริ่นนำหน้าหนังในโรง    เป็นการ์ตูนขาวดำไม่มีเสียงพูด ก่อนจะมาถึงการ์ตูนสี    ถูกมองว่าเป็นความบันเทิงเล็กๆน้อยๆของเด็ก   แต่ไร้ความสลักสำคัญมากไปกว่านั้น
เมื่อชายหนุ่มผู้สร้างหนังการ์ตูน ชื่อวอลท์ ดิสนีย์ ริอ่านจะทำการ์ตูนเรื่องยาวขึ้นมา ให้ยาวเท่ากับหนังทั่วไป      จึงไม่มีใครเชื่อว่าโครงการนี้จะไปรอด  แม้แต่ภรรยาของวอลท์เองก็ออกปากว่า "ไม่มีใครหน้าไหนเขายอมจ่ายสตางค์เข้ามาดูการ์ตูนของคุณหรอก"

ดิสนีย์กัดฟันทำไปจนกระทั่งจบ  งบประมาณบานปลายออกไปจนต้องเอาบ้านไปจำนอง หาทุนมาเพิ่ม     ผลักดันทีมงานซึ่งล้วนแต่เป็นหนุ่มไฟแรงแต่ค่อนข้างโนเนมด้วยกัน มาทำงานต่อเนื่องกันไปจนการ์ตูนจบลงได้
การ์ตูนสมัยนั้นวาดด้วยมือ ทีละแผ่น ทีละแผ่น   ไม่มีคอมพิวเตอร์ช่วยอย่างเดี๋ยวนี้



บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 477  เมื่อ 28 มิ.ย. 11, 20:53

ในการ์ตูนเรื่องนี้ ดิสนีย์ใส่เพลงไว้หลายเพลง อย่างเพลงแรกที่สโนไวท์ร้องกับเสียงสะท้อนของตัวเอง

บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 478  เมื่อ 28 มิ.ย. 11, 20:57

ดิสนีย์ใช้เพลงเป็นตัวขับเคลื่อนเรื่องให้เดินหน้าต่อไปเรื่อยๆ  ไม่ให้น่าเบื่อในเนื้อเรื่องที่ถูกมองว่าเป็นแค่นิทานเด็ก     เพลงทำให้คนดูได้รับรสทั้งตาดูและหูฟัง  จนนั่งอยู่ได้นานๆตลอดเรื่อง

ดังนั้นในฉากสำคัญๆ เช่นเปิดตัวคนแคระทั้งเจ็ด  ในถ้ำเพชรพลอย  จึงเปิดตัวด้วยเพลง    เพลงมาร์ช  ไฮโฮ  Heigh-Ho ตอนท้ายเรื่อง ฮิทมากจนกลายมาเป็นเพลงบรรเลงในกองทัพทหารอเมริกันในสงครามโลกครั้งที่ 2



เพลง Silly Song  ที่สโนไวท์กับคนแคระเต้นรำกัน



ตามมาด้วยเพลงรักหวาน Someday My Prince will Come

บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 479  เมื่อ 28 มิ.ย. 11, 21:42

หนังการ์ตูนเรื่องนี้กินเวลา 3 ปีกว่าจะสร้างเสร็จ  นำออกฉายในปี 1937   ระหว่าง 3 ปี ทุกคนที่แวดล้อมดิสนีย์พยายามหว่านล้อมให้เขาล้มเลิกความคิดจะทำเรื่องนี้     เพราะยังไงก็ล้มเหลว     งบประมาณที่ตั้งไว้ 250,000 ดอลล่าร์นับว่ามากมายเกินเหตุสำหรับหนังการ์ตูน    มิหนำซ้ำเอาเข้าจริง ยังบานปลายไปถึงหนึ่งล้านกว่าดอลล่าร์      แสดงว่าสภาพล้มละลายรออยู่เห็นๆ
แต่เช่นเดียวกับอัจฉริยบุคคลทั้งหลายที่จะต้องผ่านด่านทรหด เพื่อทดสอบความสามารถ    ดิสนีย์ก็ฟันฝ่าทุ่มเทเงินแม้แต่จำนองบ้านตัวเอง เอาเงินไปลงให้หนังเรื่องนี้สร้างจนเสร็จ   หมดเงินไปถึง $1,488,422.74  ซึ่งถือว่าเป็นเงินก้อนมหาศาลทีเดียวสำหรับหนังเรื่องหนึ่ง

แต่เมื่อเรื่องนี้ออกฉาย   ดิสนีย์ก็สร้างปรากฏการณ์ให้วงการฮอลลีวู้ด    ดาราดังๆที่ไปชมในรอบปฐมทัศน์ลุกขึ้นยืนปรบมือให้พร้อมเพรียงกันเมื่อหนังจบลง   6 วันต่อมา ดิสนีย์กับคนแคระทั้งเจ็ดก็ไปปรากฏเป็นปกของไทม์แมกกาซีน   ส่วนนิวยอร์คไทมส์ใช้คำว่า
"ขอบคุณครับคุณดิสนีย์"

ผลจากสโนไวท์   ดิสนีย์ได้รับ Academy Honorary Award เป็นตุ๊กตาทองออสคาร์ขนาดมาตรฐาน 1 ตัว  และตุ๊กตาทองตัวเล็กๆอีก 7 ตัว   ผู้มอบให้คือยอดดาราเด็ก เชอร์ลี่ เทมเปิ้ล


บันทึกการเข้า
หน้า: 1 ... 30 31 [32] 33 34 ... 88
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.064 วินาที กับ 19 คำสั่ง