เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
    
ตอบ: 33424
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 1035 เมื่อ 13 ต.ค. 11, 10:20
|
|
ถ้าจบลงด้วยเมฆครึ้มฟ้า ก็ชวนให้คิดต่อไปว่าคนตัดฟืนจะหลอกพระให้หลงเชื่อหรือไม่ ชะตากรรมของทารกในมือคนตัดฟืนจะเลวร้ายขนาดไหน แต่จบแบบฟ้าเปิด ก็เป็นความหวังว่า ท่ามกลางความมืดในใจมนุษ แสงสว่างแห่งความดีก็ยังหลงเหลืออยู่ในใจคนตัดฟืนอยู่บ้าง ราโชมอนเป็นหนังเรื่องเล็กๆ ไม่มีฉากใหญ่โตมโหฬาร ไม่ขนดาราดังๆมาเพียบ แต่นักแสดงและบท ยอดจริงๆ เป็นหนังเรื่องยอดเยี่ยมที่สุดเรื่องหนึ่งในประวัติการณ์ทำหนัง ขอบคุณในความวิริยะอุตสาหะของคุณ SILA ค่ะ เล่าเรื่องได้ประทับใจมาก
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 1036 เมื่อ 13 ต.ค. 11, 10:26
|
|
^ ขอบคุณครับ อาจารย์
หนังเรื่องนี้ทำให้เกิดคำสำนวน Rashomon Effect ซึ่งมีความหมายว่า
The Rashomon effect is the effect of the subjectivity of perception on recollection, by which observers of an event are able to produce substantially different but equally plausible accounts of it.
(ลองแปลดูได้ความว่า)
ผลของจิตวิสัยต่อการรับรู้(สึก เมื่อระลึก)เรื่องราวย้อนหลัง ทำให้ผู้เห็นเหตุการณ์เดียวกัน หากทว่าต่างคนต่างสามารถสร้างเรื่องที่แตกต่างอย่างชัดเจนแต่เป็นไปได้เท่าๆ กัน
ในเน็ทบ้านเราก็มีการใช้คำราโชมอน ดังนี้
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
watanachai4042
อสุรผัด

ตอบ: 42
|
ความคิดเห็นที่ 1037 เมื่อ 14 ต.ค. 11, 11:38
|
|
มาขอบคุณคุณศิลาด้วยอีกคน 
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
NAVARAT.C
|
ความคิดเห็นที่ 1038 เมื่อ 14 ต.ค. 11, 12:32
|
|
ขอบคุณคุณศิลาด้วยครับ
ตวามจริงก็เคยดูหนังเรื่องนี้ แต่จำรายละเอียดไม่ได้เลย
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 1039 เมื่อ 14 ต.ค. 11, 17:06
|
|
ด้วยความยินดี ครับ
เรื่องเล่าราโชมอนนี้ ได้ถูกผู้กำกับรุ่นหลังซึ่งตอนนี้ก้าวขึ้นมายืนแถวหน้าของเอเชีย - จางอี้โหมว นำมาใช้ในผลงานชิ้นเอกของเขาเรื่อง Hero (2002) หนังทุนหนัก นักแสดงใหญ่ เรื่องไม่ธรรมดา (ตรงกันข้ามกับผลงานเล็กๆ ของเขาอย่างเรื่อง The Road Home) ตัวหนังโดดเด่นด้วยเรื่องราว แง่คิด มุมมอง(การเมืองเรื่องของอำนาจปกครอง) ภาพงดงาม มีการใช้สีเข้มสดสื่อเรื่องและอารมณ์ในแต่ละช่วงได้อย่างตรึงตา (ที่ทำให้คนดูนึกถึงการใช้ สี ของ คุโรซาวาในหนังเรื่อง Ran ด้วย)
เนื่องจากไม่ถนัดประวัติศาสตร์จีนและมีบทความเขียนถึงหนังดังเรื่องนี้มากมายแล้ว จึงคิดว่าจะเล่าถึงอย่างคร่าวๆ ในโอกาสต่อไป ครับ
นักวิจารณ์แถวหน้า Roger Ebert เขียนถึงไว้ว่า
Zhang Yimou's "Hero" is beautiful and beguiling, a martial arts extravaganza defining the styles and lives of its fighters within Chinese tradition. It is also, like "Rashomon," a mystery told from more than one point of view; we hear several stories which all could be true, or false.
... Zhang Yimou once again creates a visual poem of extraordinary beauty.
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
    
ตอบ: 33424
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 1040 เมื่อ 14 ต.ค. 11, 18:08
|
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
    
ตอบ: 33424
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 1041 เมื่อ 16 ต.ค. 11, 18:11
|
|
ขอคั่นโปรแกรม ก่อนคุณ SILA จะกลับมา พร้อมกับหนังดีเรื่องต่อไป ด้วยหนังอังกฤษเรื่องหนึ่ง ชื่อ The Moonstone โปรดัคชั่นไม่ใหญ่โตอะไร แต่เสื้อผ้า ฉากและบรรยากาศประณีตตามแบบหนังย้อนยุคของอังกฤษ ดูแล้วก็ได้บรรยากาศย้อนกลับไปเมื่อปลายศตวรรษที่ 19 ที่สำคัญคือ The Moonstone ทำจากวรรณคดีสำคัญเรื่องหนึ่งของอังกฤษ แต่งโดยวิลกี้ คอลลินส์ เมื่อค.ศ. 1868 เป็นเรื่องเด่นที่สุด 1 ใน 2 เรื่องของเขา อีกเรื่องคือ The Woman in White วิลกี้ คอลลินส์เขียนเรื่องนี้เป็นเรื่องลึกลับสืบสวนสอบสวน และเป็นแบบฉบับให้นิยายนักสืบทั้งหลายเดินรอยตามองค์ประกอบต่างๆในเรื่อง มาจนถึงทุกวันนี้ เช่น คดีเกิดขึ้นในคฤหาสน์ใหญ่ในชนบท มีแพะรับบาป มีหักมุม ฯลฯ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
    
ตอบ: 33424
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 1042 เมื่อ 16 ต.ค. 11, 18:14
|
|
เนื้อเรื่องพูดถึงสมัยปลายศตวรรษที่ 19 เมื่ออังกฤษเข้าครอบครองอินเดีย เพชรบนหน้าผากเทวรูปถูกขโมยมาโดยนายทหารอังกฤษ แล้วมอบให้หลานสาวเป็นของขวัญวันเกิด เพชรนี้มีชาวอินเดียที่เป็นสาวกของเทวรูปติดตามมาไม่ละลด เพื่อจะเอากลับไป คืนเกิดเหตุ เพชรหายไปจริงๆ จากนั้นสาวใช้ในบ้านก็จมน้ำตาย และมีเรื่องซับซ้อนซ่อนเงื่อนเกิดขึ้น หักมุมกันไปมา
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
    
ตอบ: 33424
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 1043 เมื่อ 16 ต.ค. 11, 18:16
|
|
จะเล่า เดี๋ยวไม่ตื่นเต้น เชิญติดตามเอง เอามาให่ดูแค่ 2 ตอนค่ะ ที่เหลือไปหาเองในยูทูป เรื่องนี้คุณอ.สายสุวรรณเคยแปลไว้ ชื่อว่า "ศิลาจันทร์"
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 1044 เมื่อ 18 ต.ค. 11, 14:51
|
|
หนังพีเรียดของอังกฤษมีเสน่ห์ชวนชม ชอบเรื่องที่สร้างจากวรรณกรรม เรื่องเกี่ยวกับ ประวัติศาสตร์ และเรื่องแนว Gothic ครับ
ช่วงนี้คอยติดตามเรื่องราวน้ำท่วมจนเกือบเป็นกิจกรรมหลัก ส่วนงานการเป็นรอง ครับ
นึกถึงหนังเก่าเกี่ยวกับมนุษย์สู้กับธรรมชาติ - อุทกภัย เรื่องนี้ขึ้นมา The River (1984) นำแสดงโดยนักแสดงมีชื่อ Sissy Spacek และ Mel Gibson รับบทเป็นเกษตรกรสู้ภัยน้ำ พยายามรักษาพื้นที่ฟาร์มของตัวเองไว้ไม่ให้ล่มแล้วถูกธนาคารยึด
ยูทูบมีคลิปตอนนี้ที่เป็นเสียงพาย์ภาษา(น่าจะ)สเปน ครับ
http://www.youtube.com/watch?v=y43e8qswhuw
ตอนจบจำได้ว่า ในที่สุดเกษตรกรสามารถก่อทำนบกั้นน้ำรักษาฟาร์มของตัวเองไว้ได้สำเร็จ เจ้าหน้าที่จาก โครงการสร้างเขื่อนในบริเวณนี้ที่มาคอยดูหายนะของชาวบ้าน(เหมือนแร้งรอศพ) ยอมรับชัยชนะของชาวไร่ช่วยนำกระสอบลูกหนึ่งกั้นปิดทางน้ำที่เหลือเอ่อล้นอยู่เล็กน้อยให้
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
    
ตอบ: 33424
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 1045 เมื่อ 18 ต.ค. 11, 15:40
|
|
คุณ SILA คงเคยอ่านเรื่องของพระเจ้าอาเธอร์กับอัศวินโต๊ะกลม มันเป็นตำนานของอังกฤษมาตั้งแต่ก่อนอังกฤษจะรวมกันเป็นประเทศ กลายมาเป็นวรรณคดีหลายเรื่อง เรื่องหนึ่งคือ Morte d'Arthur ทำหนังและละครมาหลายครั้ง แม้แต่วอลท์ ดิสนีย์ ก็เอามาทำหนังการ์ตูน The Sword in the Stone เพราะเนื้อเรื่องมีสีสันจัดจ้านแบบดราม่า และตอนจบ จบได้กินใจแบบโศกนาฏกรรม จึงเอามาเล่นประเด็นกันใหม่ได้ไม่รู้เบื่อ หนึ่งในจำนวนนั้นคือหนังเพลง Camelot ปี 1967 มีดาราดังของอังกฤษ ริชาร์ด แฮริส วาเนสซา เรดเกรฟ และฟรังโก เนโรแสดงนำ ริชาร์ด เล่นเป็นกษัตริย์อาเธอร์ผู้ยิ่งใหญ่ เป็นชายที่เต็มไปด้วยศักดิ์ศรีแต่ก็อ่อนไหวอย่างมนุษย์ปุถุชน วาเนสซาเป็นราชินีสาว เจนิเวียร์ ผู้ขี้เล่นและเจ้าเสน่ห์ ส่วนฟรังโกเป็นอัศวินหนุ่มลานซล็อต ทั้งสามคนก่อเรื่องรักสามเส้าของหนึ่งหญิงสองชาย จนจบลงแบบโศกนาฏกรรมที่ไม่มีใครเป็นสุขได้เลยสักคน
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
    
ตอบ: 33424
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 1046 เมื่อ 18 ต.ค. 11, 21:12
|
|
Camelot เป็นหนังที่ทำแบบละครเวทีเพลง ถ้าเป็นของไทยคงเติมคำว่า เดอะ มิวสิคัลลงไปด้วย เรื่องนี้น่าดูมากๆที่เพลง อย่างเพลงนี้
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
    
ตอบ: 33424
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 1047 เมื่อ 18 ต.ค. 11, 21:28
|
|
เรื่องนี้แสดงให้เห็นอารมณ์หญิงที่ไม่มีชายใดเข้าใจได้ทะลุปรุโปร่ง อาเธอร์กับเจนิเวียร์ไม่ใช่ว่าอภิเษกกันโดยไม่ได้รัก ทั้งสองรักกัน แต่งกัน อยู่กันด้วยความสุข แต่เจนิเวียร์ก็ไม่สามารถห้ามใจเธอมิให้รักขุนนางหนุ่มคู่พระทัยของพระสวามี แม้เธอพยายามจะเกลียดเขาสักแค่ไหนก็ตาม อาเธอร์เองก็ตระหนักดีในความลึกล้ำเหลือกำหนด ของผู้หญิง
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
    
ตอบ: 33424
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 1048 เมื่อ 21 พ.ย. 11, 12:32
|
|
คุณ SILA หายไปกับน้ำท่วมหลายเพลาแล้ว หวังว่าน้ำแห้งเมื่อไร จะกลับมาเรือนไทยอีกครั้ง แฟนๆที่ติดตามกระทู้นี้อยู่ ยังคอย
ดูข่าวทีวีสองสามวันนี้ เจอเรื่องจริงในชีวิตดาราที่ทำให้นึกถึง "ราโชมอน" ขึ้นมาอีกครั้ง คือการเสียชีวิตของดาราสาว นาตาลี วู้ด เมื่อเดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 1981
นาตาลีเป็นดาราเด็กมาก่อนจะเป็นดาราสาวโด่งดังในยุค 1950s ได้รับเสนอชื่อเข้าชิงตุ๊กตาทองถึง 3 ครั้งด้วยกัน เธอแต่งงานกับโรเบิร์ต แวกเนอร์ ดาราชายรูปหล่อที่สวยสมกันเหมือนกิ่งทองใบหยก
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
    
ตอบ: 33424
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 1049 เมื่อ 21 พ.ย. 11, 12:41
|
|
แต่ชีวิตคู่ของดารามักไม่ยั่งยืน อาจเป็นเพราะแต่งกันเมื่ออายุน้อย ยังเปราะบางต่ออุปสรรค จึงไปไม่รอด ทั้งคู่หย่ากัน ต่างคนต่างไปมีคู่ใหม่ จนกระทั่งหย่ากับคู่ครองใหม่ กลับมาเจอกันอีก ถ่านไฟเก่ายังไม่สิ้นเชื้อ จึงได้แต่งงานกันอีกครั้งในวัยที่ต่างก็อายุมากพอแล้วทั้งคู่ มีลูกสาวด้วยกันคนหนึ่ง นอกเหนือจากลูกติดสามีเก่า งานในอาชีพดาราก็ก้าวหน้าไปด้วยดีทั้งสองฝ่าย เป็นชีวิตที่ลงตัวสวยงามคู่หนึ่งของดาราฮอลลีวู้ด จนกระทั่งถึงเดือนพฤศจิกายน 1981 จึงพบศพของนาตาลี จมน้ำตายอยู่ใกล้ๆเรือชูชีพที่ปลดลงมาจากเรือยอทส่วนตัวของเธอและสามี ใกล้เกาะคาทาลีนา นอกชายฝั่งคาลิฟอร์เนีย นายอำเภอที่ไปสอบสวน และชันสูตรศพ ลงความเห็นว่า เป็นการจมน้ำตายโดยอุบัติเหตุ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|