เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: [1] 2
  พิมพ์  
อ่าน: 16326 สักวา-อิเหนาตอนเผาเมือง โดย สุดสงวน
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
 เมื่อ 21 ก.พ. 11, 09:10

           เมื่อเวลาแดดร่มลมตกวันอาทิตย์ที่ ๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๔ ณ วังสวนผักกาด ถนนศรีอยุธยา  กองทุนหม่อมราชวงศ์อายุมงคล โสณกุล ซึ่งก่อตั้งมาครบ ๒๕ ปีในปีนี้  ได้เรียนเชิญศาสตราจารย์ท่านผู้หญิงพูนทรัพย์ นพวงศ์ ณ อยุธยา มาเป็นประธาน ในการมอบรางวัลนักเขียนคอลัมน์ดีเด่นประจำปี ๒๕๕๓    ซึ่งได้แก่คุณวรนัยน์ วาณิชกะ คอลัมนิสต์แห่งบางกอกโพสต์
          ศ.ท่านผู้หญิงพูนทรัพย์ นพวงศ์ฯเป็นนิสิตอักษรศาสตร์ จุฬาฯ รุ่นแรก เป็นผู้ก่อตั้งคณะครุศาสตร์  คณบดีคนแรกของคณะ(คณบดีหญิงคนแรกของประเทศไทย) เป็นผู้เสนอรัฐบาลให้วันที่ ๒๙ กรกฎาคมเป็นวันภาษาไทยแห่งชาติ   ท่านอายุครบ ๑๐๐ ปี  เมื่อเดือนตุลาคม ๒๕๕๓


บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 1  เมื่อ 21 ก.พ. 11, 09:16

       คุณวรนัยน์เป็นศิษย์เก่าโรงเรียนอนุบาลจุไรรัตน   (ที่ม.ร.ว.สุมาลยมงคล โสณกุล  เคยเป็นเจ้าของ-ผู้จัดการและอาจารย์ใหญ่  และเพิ่งทราบวันนั้นเอง) เคยศึกษาที่ส.ร.อ.ตั้งแต่อายุ ๑๒ ขวบ    สำเร็จปริญญาตรีด้านปรัชญา ประวัติศาสตร์และการเมืองจากมหาวิทยาลัยเท็กซัส หลังจากกลับมาสอนหนังสือที่เมืองไทย ๑ ปี ได้กลับไปทำปริญญาโททางด้านธุรกิจระหว่างประเทศ ที่กรุงลอนดอน ก่อนจะกลับมาทำงานสื่อมวลชน   และได้เขียนคอลัมน์ประจำในบางกอกโพสต์มาประมาณ ๓ ปี   (ในอดีต ม.ร.ว.อายุมงคล โสณกุล เคยเขียนคอลัมน์ประจำมาแล้ว    ทั้งภาษาอังกฤษในบางกอกโพสต์  บางกอกเวิลด์ เดอะเนชั่น และเดอะมอร์นิ่ง เอ๊กซเพรส  ส่วนภาษาไทยเขียนประจำในสยามรัฐสัปดาหวิจารณ์และนิตยสาร”นะคะ”
      ผู้สนใจเชิญชมได้ที่http://www.ayumong-sonakul.com ซึ่งเป็นเว็บบอร์ดทางวรรณกรรมแห่งแรกของประเทศไทย เพื่อพูดคุย สนทนาและศึกษาผลงานข้อเขียนทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษของเธอ)


บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 2  เมื่อ 21 ก.พ. 11, 09:16

      ม.ร.ว.สุมาลยมงคล โสณกุล (น้องสาวของม.ร.ว.อายุมงคล) ประธานกรรมการกองทุนฯประกาศเกียรติคุณตอนหนึ่งว่า
     “นายวรนัยน์ วาณิชกะ เขียนคอลัมน์ประจำฉบับวันอาทิตย์ ด้วยผลงานที่โดดเด่นทั้งเนื้อหาและลีลาการเขียน สามารถนำเหตุการณ์และปัญหาอันหลากหลายในสังคมปัจจุบัน  ไม่ว่าจะเป็นด้านสังคม การเมือง ค่านิยม ตลอดจนนำแนวความคิด ความเชื่อของคนไทย  มาวิเคราะห์วิพากษ์วิจาณ์ได้อย่างลึกซึ้ง  ด้วยมุมมองที่แปลกใหม่เฉพาะตัว พร้อมทั้งเสนอแนวทางแก้ไข  จุดเด่นอีกประการหนึ่งคือลีลาการใช้ภาษาอังกฤษที่คารมคมคาย  แฝงไว้ด้วยอารมณ์ขัน มีการเล่นคำ เล่นสำนวน ทำให้ข้อความเป็นทำนองเสียดสี  มีน้ำเสียงเป็นการยั่วล้อ  เพิ่มสีสันและอรรถรสให้แก่คอลัมน์  งานเขียนของนายวรนัยน์ วาณิชกะจึงมีคุณค่าและสามารถจุดประกายให้เกิดแสงสว่างในสังคมได้”
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 3  เมื่อ 21 ก.พ. 11, 09:18

      หลังจากผู้รับรางวัลได้กล่าวความรู้สึกสั้นๆแล้ว  ก็เป็นแสดงการบอกสักวาของกวีจากสโมสรสยามวรรณศิลป์      ร่วมกับวงดนตรีไทยคณะดุริยประณีต ในความควบคุมของครูสืบศักดิ์ ดุริยประณีต  พร้อมนักร้องคือครูสุรางค์ ดุริยพันธุ์ ครูดวงเนตร ดุริยพันธุ์ (ทายาทของครูเหนี่ยว ดุริยพันธ์ ยอดนักร้องเพลงไทยเสียงอมตะในหัวใจคนไทย) ครูณรงค์ (แก้วอ่อน) รวมบรรเลง ครูกัญจนปกรณ์ แสดงหาญ  โดยม.ร.ว.อรฉัตร  ซองทอง ผอ.ศูนย์วัฒนธรรมมหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์  ได้แนะนำตามที่แต่ละคนเขียนให้  แต่ผู้บันทึกขอนำมาเรียงลำดับตามอายุดังนี้
คนแรก
    “ชื่อประยอม ซองทอง ชอบกรองกลอน
จบอักษรฯ มาครึ่งศตวรรษกว่า 
เกษียณงานหลายที่หลายปีมา 
จึงรับว่าสักวาเป็นงานประจำ”(ปรบมือ) 

     ตามด้วยคนที่สอง
     “เขียนกลอนได้แต่ไม่ดังดั่งเพื่อนพ้อง
จึงจำต้องเขียนฝันเชิงหรรษา
ชื่อทิดก้อน อินคำ-คนธรรมดา 
ใครตั้งวงสักวาเรียกหาทุกที-
     คุณอำพล สุวรรณธาดาค่ะ”(ปรบมือ)

      คนที่สาม
      “เมื่อหกขวบเคยมารำระบำอวด (อธิบายว่า เมื่อห้าสิบสองปีที่ผ่านมา)
วันประสูติเด็จทวดกรมหลวง (อธิบายว่าคือ พระเจ้าบรมวงศ์เธอ  พระองค์เจ้านภาพรประภา  กรมหลวงทิพยรัตน์กิริฏกุลินี)   
พร้อมพี่เดพี่พิลาศเพื่อนทั้งปวง(คือม.ร.ว.เดือนเด่น กิติยากรและม.ร.ว.พิลาศลักษณ์ บุณยปาณะ)
น้องหนิงด้วยช่วยเป็นห่วงทวงวัยคืน (ม.ร.ว.สุมาลยมงคล โสณกุล ) 
คงไม่ต้องบอกว่าคนนี้ชื่ออะไรนะคะ”(ปรบมือ)
     
       คนที่สี่
“จบครุจุฬาภาษาไทย
 ไปสอนไกลถึงเกาหลีสิบปีกว่า
ปัจจุบันเขียนกลอนสอนวิชา
เกษียณมาเจ็ดปียังมีไฟ-
รศ.นภาลัย สุวรรณธาดา  อดีตผู้ช่วยอธิการบดี มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช ค่ะ”(ปรบมือ)
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 4  เมื่อ 21 ก.พ. 11, 10:01

         คนที่ห้า
        “สระเอ-อยู่หน้าชื่อเอนก
เรียนจบเอกบริหารการศึกษา
แจ่มขำคือนามสกุลคุ้นนานมา
ชอบสักวารักวงการงานร้อยกรอง
       เป็นผอ.โรงเรียนอยู่หลายแห่ง
เบื่อตำแหน่งเลยเออร์ลี่ปีสี่สอง
มาทำงานช่วยสังคมสมใจปอง
มีเมียหนึ่งลูกสาวสองเขยไม่มี”(ฮา-ปรบมือ ถูกแซวว่าถือโอกาสประกาศหาลูกเขย แต่ดีที่ไม่สลับกันว่า”มีลูกสาวหนึ่งเมียสอง”)
   
       คนที่หก
       “ตุลาการหัวหน้าคณะศาลปกครองกลาง   
ไม่เคยว่างว่าคดีกี่พันหมื่น?
 ศิลปินแห่งชาติผู้หยัดยืน 
ทั้งหลับตื่นเขียนลำนำเป็นคำกลอน –
     คุณอดุล จันทรศักดิ์  ศิลปินแห่งชาติสาขาวรรณศิลป์ ๒๕๕๑ ค่ะ”(ปรบมือ)
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 5  เมื่อ 21 ก.พ. 11, 10:04

          คนที่เจ็ด
         “เป็นนักเขียนนักแปลมาแก่เก่า
       ชื่อแก้วเก้าคงมีใครจำได้บ้าง 
       หรือ ว.วินิจฉัยกุลพอคุ้นหูอยู่เบาบาง  (ผู้แนะนำบอกว่า “ตรงกันข้าม ทุกคนรู้จักดี วันนี้ก็มีเพื่อนร่วมรุ่นอักษรศาสตร์จุฬาฯและแฟน  คลับ  ตามมาอีกสองโต๊ะ)
       เป็นมือวางอันดับท้ายในวงกวี
        –รศ. ดร. คุณหญิงวินิตา ดิถียนต์  ศิลปินแห่งชาติสาขาวรรณศิลป์ปี ๒๕๔๗ ค่ะ” (ปรบมือ)

       ส่วนน้องนุชสุดท้ายเธอเขียนว่า
     “เป็นครูมายี่สิบห้าปีสาวขี้เล่น   
    ดุไม่เป็นเลยเกษียณเขียนหนังสือ 
    ทำวิทยุหลายที่ ฝึกฝีมือ
    คนคุ้นชื่อญาดา อารัมภีร” (เป็นลูกสะใภ้ครูแจ๋ว สง่า อารัมภีร ศิลปินแห่งชาติค่ะ-ปรบมือ)
 
        จากนั้นโต้โผสโมสรฯก็บอกบทไหว้ครูว่า
   “สักวาบังคมบรมบาท 
   นวมินทราธิราชฉัตรสยาม
   ทรงเปล่งแสงแห่งความสุขทุกโมงยาม
   เลื่องพระนามเกริกก้องทั่วโลกา 
        แปดสิบสี่พรรษามหาราช 
    ธ ประสาทธรรมสถิตทุกทิศา 
    น้อมสำนึกในพระเดชพระเมตตา
    กราบรำลึกพระกรุณานิรันดร์เอย”
 
    บทนี้ครูณรงค์ รวมบรรเลง อดีตหัวหน้าวงดนตรีไทยกรมประชาสัมพันธ์ก่อนเกษียณ ก็ขับร้องด้วยเพลง  แขกโหม่ง


บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 6  เมื่อ 22 ก.พ. 11, 08:47

      แล้วอาจารย์อำพล สุวรรณธาดา  อดีตผอ.ศูนย์ศิลปวัฒนธรรมมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย(และต่อมา)มหาวิทยาลัยรังสิต ก็บอกบทเกริ่นชวนว่า
     ”สักวามาวังสวนผักกาด 
หลายคนอาจนานทีปีละหน 
เพื่อรำลึกถึงคุณอายุมงคล 
จึงไม่พ้นชวนเล่นสักวา
      พบคนเก่าสาวเก่าเก่าหน้าเก่าเก่า (เน้นคำว่าเก่าๆ เรียกเสียงฮาเบาๆ)
ไม่ต้องเล้าโลมเลียมเหนียมกถา  (แล้วทำเสียงขึงขังว่า)
จะตอนรับหรือไม่ให้บอกมา 
เชิญคุณหญิงวินิตาตอบทีเอย”(ฮา ปรบมือ)

      บทนี้ครูกัญจนปกรณ์ แสดงหาญ-หนุ่มเสียงนุ่มแห่งสำนักการสังคีต กรมศิลปากร ขับร้องออดอ้อนเจื้อยแจ้วด้วยเพลงลงสรงแขก (ตามที่ครูสุดจิตต์ ดุริยประณีต ศิลปินแห่งชาติ-สังคีตศิลป์ปี ๒๕๓๖ ผู้เพิ่งฟื้นจากการป่วยนอนอยู่ที่บ้าน  แต่ด้วยความเป็นห่วง จึงจดบัญชีชื่อเพลงมายืดยาวให้นักร้องเลือกร้องให้เข้ากับบรรยากาศของกลอนแต่ละบทในตอนนั้นๆ)
     แล้วนักเขียนผู้โด่งดังก็ตอบเกริ่นว่า

     “สักวาสามสาวคราวคุณย่า (ฮา) 
เว้นแต่น้องญาดาคนหน้าใส 
ยินเสียงเชิญมองดูรู้ว่าใคร 
สี่กวีหนุ่มใหญ่ล้วนวัยทอง  (ฮา) 
       เจ้าคารมคมคายมิใช่น้อย 
ต่ออายุเหยียบร้อยไม่มีหมอง 
จึงขอรับร่วมประชันตามครรลอง 
คลอเพลงร้องเสนาะใสจับใจเอย”(ปรบมือ)
      บทนี้ครูดวงเนตร ดุริยพันธุ์แห่งกรมศิลปากรขับร้องด้วยเพลงดาวล่อ ซึ่งมีทำนองหวานไพเราะเสนาะยิ่ง

บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 7  เมื่อ 22 ก.พ. 11, 08:51

      ต่อจากนั้น อดีตนายกสมาคมนักกลอน-เอนก แจ่มขำ  ก็แจกตัว ๒ บทติดต่อกันไปดังนี้
          “สักวาอิเหนาตอนเผาเมือง 
     อาจจะไม่ตรงเรื่องดังปรารถนา
     กวีหยิกแกมหยอกบอกสักวา 
     ท้าวดาหาแก่ดี..เอ๊ย..เหมาะดีมอบพี่ประยอม(ฮา) 
          อรฉัตรเป็นพี่เลี้ยงเคียงคู่คิด 
     ญาดาสนิทบทบุษบาน่าถนอม 
     นภาลัยเป็นประไหมสุหรีที่สวยพร้อม 
     เอนกยอมเป็นจรกาว่าง่ายเอย - 

           สักวาให้อำพล สุวรรณธาดา 
     เป็นสังคามาระตาตามหน้าที่   (บ่นว่าชื่อยาวทั้งคนรับบทและตัวละคร)
     อดุลรับบทอิเหนาคงเข้าที 
     มะเดหวีวินิตาดิถียนต์ 
           สโมสรสยามวรรณศิลป์ 
     สืบกวินสร้างงานสืบสานผล 
     ฟังกวีดนตรีพร้อมกล่อมกมล 
      งานอายุมงคลวันนี้เอย”(ปรบมือ)
      ๒บทนี้ครูณรงค์ รวมบรรเลงก็ “ขับเสภา”เสียงเจื้อยแจ้วติดต่อกัน
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 8  เมื่อ 22 ก.พ. 11, 08:53

            จากนั้นก็เริ่มเรื่องโดยคุณประยอม ซองทอง-อดีตนายกสมาคมนักเขียนฯ(๒๕๓๘-๔๑)ในบทท้าวดาหาก็เริ่มปูเรื่องตอนนี้ ดังนี้ 
                   “สักวาท้าวดาหาสง(กะ)สัย   
           อิเหนาไยไม่กลับบ้านไปหมันหยา 
           ยังก่อม็อบชวนหงุดหงิดระอิดระอา 
           คุณมหาห้าขันมาไล่ลาโรง 
                    ข้างตุ๊ดตู่ขู่ว่ามีปฏิวัติ 
            เดี๋ยวจะถูกเสธ์ดาวอัดเอาตายโหง  (ฮา-ออกตัวว่าไม่ได้ตั้งใจหยาบคาย เผอิญลงเสียงโองไว้ ซึ่งหาสัมผัสยาก) 
            เจ๊มิ่งจะอภิปรายให้ท้ายคนโกง 
            มาชี้โพรงให้กระรอก..เดี๋ยวศอกกลับเอย”(ฮา-ปรบมือ  ที่คนหัวเราะนี่เพราะกลอนวรรคยาวๆหรือตีความตามได้ว่าเอ่ยถึงใครบ้างก็ไม่ทราบ)
            บทกวนอารมณ์อย่างนี้   ก็เข้าทางคุณกัญจนปกรณ์ แสดงหาญเขาละ นักร้องหนุ่มเสียงใสอนาคตใสแห่งกรมศิลป์ฯ  จึงร้องด้วย “เพลงศรีวิชัย” ซึ่งเป็นเพลงไทยสำเนียงคุ้นหูจากระบำโบราณคดีชุดศรีวิชัยอันจับใจไพเราะ  และด้วยความสามารถเฉพาะตัว ทำให้บทร้องคึกคักชื่นใจผู้ฟังผู้ชม
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 9  เมื่อ 22 ก.พ. 11, 14:58

      เมื่อท้าวดาหาบ่นเรื่องสภาพบ้านเมืองดังนั้น   รศ.นภาลัย ในฐานะมเหสีผู้เป็นพระมารดาของบุษบาก็ออกมาทูลให้ต้องพระทัยว่า

           “สักวาประไหมสุหรีเมียที่หนึ่ง (อธิบายว่า ต้องย้ำหน่อยว่าเมียที่หนึ่ง -ฮา) 
      ยังโกรธขึ้งอิเหนาเจ้าปัญหา 
      มาปักหลักหน้าทำเนียบจะทำนา (ฮา) 
      หรือคิดมาปฏิวัติให้ขัดใจ  (ออกตัวว่า “ไม่ได้แอบดูกันมาก่อนนะ แต่ใจตรงกันค่ะ”) 
              แม้นไม่กลับหมันหยาจะพาส่ง 
      ไปแวะลงภูมิสรอลก่อนดีไหม (ฮา-ทันเหตุการณ์ดีจริงๆ ยิ่งวรรคสุดท้าย....) 
      บุษบาไม่มาพบหลบข้างใน 
      นั่งนับไข่ชั่งกิโลโมโหเอย” (ฮาดัง-ปรบมือ)

           ครูดวงเนตร ดุริยพันธุ์รีบคว้าบทไปร้องในทำนอง “งิ้วอาหรับ” ที่แปลกหูน่าฟังมากเพราะเพลงชื่องิ้วแต่ออกสำเนียงแขกอาหรับ   ผู้อ่านคงสงสัยว่าถ้าได้วีดิโอที่กองทุนฯให้คนมาถ่ายไว้  ถ่ายสำเนาแจกผู้สนใจได้   คงได้เห็นทั้งภาพ  ได้ลิ้มรสกลอนและสำเนียงเพลงไพเราะ  ได้อารมณ์สุขหรรษาเต็มที่ด้วย  ดีกว่าอ่านแล้วนึกภาพเอาเองแน่ๆ
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 10  เมื่อ 23 ก.พ. 11, 08:47

        แต่ฝ่ายคุณหญิงวินิตา ดิถียนต์ –นักเขียนผู้โด่งดัง-ศิลปินแห่งชาติ สาขาวรรณศิลป์ปี ๒๕๔๗ ในฐานะมเหสีที่สองกลับมีความเห็นเป็นอีกมาตรฐานว่า
            “สักวามะเดหวีดูทีท่า 
        อิเหนาหน้าหล่อดีมีมาตรฐาน 
        มีแม่ยกมากมายอยู่หลายล้าน  (ฮา-ผู้ฟังคงนึกถึงนายกรัฐมนตรีหนุ่มหล่อบางประเทศ ?) 
       เก็บคะแนนสงสารอยู่เรื่อยมา 
             จึงทูลขอพระทรงชัยให้โอกาส 
       คงไม่พลาดอีกครั้งกระมังหนา 
       เสร็จปัญหาชายแดนกัมพูชา (ฮา-นึกแล้วไม่ผิดเชียว) 
       บุษบาเรายกให้ดีไหมเอย”(ปรบมือ)

              บทนี้ครูสุรางค์ ดุริยพันธุ์ พนักงานเกษียณจาก “อสมท” พี่สาวคนโตในบรรดาทายาทครูเหนี่ยว  ขับร้องด้วยทำนองเพลง “แขกอะหวังชั้นเดียว”ซึ่งคนไทยคุ้นทำนองดี
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 11  เมื่อ 23 ก.พ. 11, 08:48

             เมื่อมเหสีที่หนึ่งพระมารดาแท้ๆของบุษบาไม่โปรดหลานว่าที่คู่หมั้นที่เปลี่ยนใจไปหลงรักหลานสาวอีกเมือง แต่พระเจ้าน้ามเหสีที่สองกลับมีพระทัยเอนเอียงเข้าทางอิเหนา  ท้าวดาหาประยอม ซองทองต้องตัดสินพระทัยยืนยันไปว่า
                “สักวาท้าวดาหายืนขาแข็ง 
             แม้อ่อนแรงแข็งขาล้าหน้าแดงก่ำ 
             เป็นกษัตริย์ตรัสแล้วไม่คืนคำ 
             จรกาแม้อ้วนล่ำแต่จริงใจ 
                  หลานอิเหนาแม้เขาหล่อก็หน้าเหลี่ยม (ฮา) 
             จิตส่วนลึกนึกโหดเหี้ยมก็เป็นได้ 
             ซุกหุ้นในนามคนอื่นหมื่นล้านปะไร 
             เชื่อได้ไงเดี๋ยวหลานรักหักเหลี่ยมเอย” (ปรบมือ)
                 
             บทนี้ครูณรงค์ รวมบรรเลง ขับร้องด้วยทำนอง”แขกเจ้าเซ็น”ซึ่งคนไทยน่าจะคุ้นทำนองดี
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 12  เมื่อ 24 ก.พ. 11, 09:35

      ในฐานะมารดาย่อมห่วงและหวงลูกสาว ประไหมสุหรีนภาลัย สุวรรณธาดาอดีตประธานวรรณศิลป์จุฬาฯคนที่ ๓ จึงยืนยันตามท้าวดาหาไปอีกว่า
            “สักวาเมียใหญ่ประไหมสุหรี (ต้องย้ำบ่อยๆหน่อย-ฮา) 
      เป็นเมียหลวงชั้นดีไม่หึงหวง 
      ไม่อยากให้ลูกสาวต้องเศร้าทรวง 
      เป็นเมียหลวงเหมือนแม่ไม่แพ้ใคร (แล้วบ่นว่า “ความจริงก็ไม่ชอบหรอกตำแหน่งนี้ ชอบเป็นเมียเฉยๆ...ฮา) 
             อิเหนามีจินตะหรา,มาหยารัศมี   
      ทั้งสะการะวาตีที่สวยใส (แยกให้เห็นชัดว่ามีตั้งสาม) 
      กลัว “มงกุฎดอกส้ม”ตรมฤทัย (ฮา ไปถึงละครดังที่เจ้าสัวนก-ฉัตรชัย มีเมียสี่คนเข้าจนได้)   
      มัน “ไม่ล่ายหลั่งใจ” ประไหมเอย” (ฮา..ยืมเอาประโยคเด็ดของคุณนายที่ ๓ ในมงกุฎดอกส้ม มาใส่เข้าเหมาะที่เหมาะทางพอดี...) 
            ครูดวงเนตร ดุริยพันธุ์แห่งกรมศิลปากร  ทายาทคนรองของครูเหนี่ยวฯขับร้องทำนอง “แขกบันตน” สนุกสนาน ถึงตรง “ไม่ล่ายหลั่งใจ” ก็พูดย้ำด้วยสำเนียงจีน  ทำเอาคนฟังฮาและปรบมือดัง

          ถูกกีดกันถูกประชดประชันท่าโน้นท่านี้  อิเหนาในร่างคุณอดุล จันทรศักดิ์นักกลอนมือรางวัลเกียรตินิยมวรรณศิลป์และอดีตประธานวรรณศิลป์จุฬาฯก็ออกมาบ่นออด  และขอความเห็นจากสังคามาระตา(น้องเลี้ยงซึ่งทำหน้าที่ที่ปรึกษาทุกเรื่อง)ว่าเอาอย่างไรกัน
              “สักวาอิเหนาเข้าไม่ติด 
          แทบหมดสิทธิ์เข้าเฝ้าท้าวดาหา 
          เหมือนเปลี่ยนขั้วไปเข้ากับกัมพูชา..ขอโทษ..ไปเข้ากับจรกา (ฮา) 
          บุษบาก็หมางก็เมินไป  (บ่นน้อยใจเชิงต่อว่าแล้วทวงบุญคุณว่า)
                เสร็จศึกกะหมังกุหนิงเรารบหนัก 
          คิดว่าท้าวเธอจะรักก็มิใช่ 
          สังคามาระตาว่าอย่างไร 
          ถึงยุให้ใช้กำลังก็ฟังเอย”(ปรบมือ)
          บทออกอารมณ์นี้  คุณกัญจนปกรณ์ แสดงหาญ จึงขับร้องในทำนองเพลง “แขกสุ่ม” ซึ่งมีลูกคู่คอยร้องรับสุ่มๆเป็นช่วงๆ  ครึกครื้นทีเดียว
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 13  เมื่อ 25 ก.พ. 11, 09:12

      อาจารย์อำพล สุวรรณธาดาผู้พาครอบครัวไปสอนหนังสือไทยที่เกาหลีกว่า ๑๐ ปีมาในบทสังคามาระตา-ที่ปรึกษาที่อิเหนาไว้วางใจมาก  จึงทูลไปว่า
          “สักวาสังคามาระตา
      ชื่อยาวเป็นวาได้วรรคหนึ่ง (ฮา) 
      ครั้นอิเหนาปรึกษามาคำนึง 
      เบื้องหลังซึ่งบุษบาขอหย่าร้าง 
            เพราะดาหาใช้มือที่มองไม่เห็น (ฮา ประโยคฮิตของใครคนหนึ่งและบริวาร) 
      เปิดประเด็นปฏิวัติเกินขัดขวาง 
      ถึงก่อม็อบไม่มีเส้นไม่เห็นทาง (ประโยคฮิตของพวกเสื้อสีแสบตา พูดประชดว่าพวกเสื้ออีกสีเส้นใหญ่เลยไม่ถูกจับและได้รับการประกันตัว  ไม่เหมือนพวกตน) 
      ยังต้องอ้างเอกสิทธิ์สอสอเอย (ฮา-ปรบมือ)เหมือนแกนนำนักก่อม็อบที่ใช้เส้น..เอ๊ย..เอกสิทธิ์การเป็น ส.ส.คุ้มหัว..เอ๊ย..คุมตัว)
       บทนี้ครูณรงค์ รวมบรรเลงขับร้องด้วยทำนอง “แขกต่อยหม้อ”เข้าบรรยากาศกลอนดีเพราะว่าด้วยการสู้รบตบมือ
บันทึกการเข้า
กาลีเศียรขาด
อสุรผัด
*
ตอบ: 7


ความคิดเห็นที่ 14  เมื่อ 26 ก.พ. 11, 10:43

     สักวาลอบมาดูไม่เป็นนิจ 
ยามว่างกิจเข้ามาหน้าสล่อน
ไม่เก่งกาจสามารถการกาพย์กลอน
ศิษย์อักษรฯเข้ามาขอกราบครู

    เมื่อชมภาพอ่านคำที่ครูเล่น
ใคร่จะเห็นคลิปเคลื่อนลีลาไหว
เพราะกระผมติดงานมิว่างไป
จึงฝากใจขอคลิปครูเมตตาเอย

   
บันทึกการเข้า
หน้า: [1] 2
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.05 วินาที กับ 19 คำสั่ง