เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: [1] 2 3 ... 20
  พิมพ์  
อ่าน: 130220 เจ้าชายยอร์ช วอชิงตัน แห่งสยาม กรมพระราชวังบวรวิไชยชาญ วังหน้าพระองค์สุดท้าย
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
 เมื่อ 17 ก.พ. 11, 20:08


     "...ชาวยุโรปในประเทศสยามส่วนมากเรียกวังหน้าว่า "ยอร์ช" ลักษณะท่าทางของวังหน้าดูออกจะเป็นคนไทยโบราณที่สุภาพอ่อนโยน    ค่อนข้างจะทรงพระเจริญ  ทรงสูงกว่าคนไทยทั่วๆไปมาก  พระพักตร์ยิ้มแย้มแจ่มใส   พระนลาฏกว้าง พระปรางอูม  พระชนมายุอยู่ในมัขฌิมวัยประมาณ ๔๒ พรรษา"
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 1  เมื่อ 17 ก.พ. 11, 20:51

       ย้อนหลังไปเมื่อ พ.ศ. ๒๔๒๔ นักธรรมชาติวิทยาชาวนอร์เวย์ชื่อคาร์ล บ็อก วัย ๓๘ ปี เดินทางมาถึงสยาม      ภารกิจของเขาก็คือมาสำรวจสภาพภูมิศาสตร์ของดินแดนเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทั้งราชอาณาจักรสยามและลาว  บ็อกเคยสำรวจปัตตาเวียและบอร์เนียวมาแล้ว ก่อนจะเลยมาถึงสยาม
       บ็อกเข้าพบเจ้ากรมท่า  แจ้งเรื่องภารกิจของเขา และขอให้ท่านนำเรื่องขึ้นกราบบังคมทูลขอเฝ้าพระมหากษัตริย์แห่งสยาม   ก็ได้รับการต้อนรับจากเจ้ากรมท่าเป็นอย่างดี    นอกจากได้เข้าเฝ้าพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว    เขายังโชคดีได้เข้าเฝ้าพระบรมวงศานุวงศ์ผู้มีความสำคัญรองลงมา  ในฐานะพระมหาอุปราชแห่งราชอาณาจักร   ซึ่งฝรั่งเรียกว่า The Second King  
       คำนี้  ชาวบ้านเรียกกันว่า วังหน้า  พระนามเป็นทางการของวังหน้า  คือกรมพระราชวังบวรสถานมงคล

        นับแต่เริ่มต้นราชวงศ์จักรีพร้อมกับการตั้งเมืองหลวง    รัตนโกสินทร์มีวังหน้ามาแล้ว ๕ พระองค์ ใน ๔ รัชกาล   มีพระองค์เดียวคือเจ้าฟ้าอิศรสุนทร  ได้ทรงเลื่อนขึ้นเสวยสิริราชสมบัติ เป็นพระมหากษัตริย์ในรัชกาลที่ ๒     อีก ๔ พระองค์ดำรงตำแหน่งกรมพระราชวังบวรฯจนสิ้นพระชนม์     
        พระองค์ปัจจุบันเป็นองค์ที่ ๖ ในรัชกาลที่ ๕   ทรงพระนามว่า กรมพระราชวังบวรวิไชยชาญ
  


บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 2  เมื่อ 17 ก.พ. 11, 22:15

      ปีที่คาร์ล บ็อกเข้ามา    วิกฤตวังหน้า ในพ.ศ. ๒๔๑๗   อันเป็นเหตุการณ์ระทึกทางการเมืองที่ทำให้วังหน้ากับวังหลวงหวุดหวิดจะมีเรื่องปะทะกัน  และอาจลุกลามจนสยามถูกแบ่งแยกออกเป็นสยามเหนือ-สยามใต้    ได้จบลงเรียบร้อยไปแล้ว ๗ ปี   จากนั้นก็ไม่มีเรื่องราวกระทบกระทั่งอะไรกันอีก
     ช่วงเวลาที่บ็อกได้เข้าเฝ้ากรมพระราชวังบวรวิไชยชาญ เป็น ๔ ปีก่อนเสด็จทิวงคต     ดังนั้นเหตุการณ์ที่บ็อกได้พบเมื่อเข้าเฝ้าวังหน้า  และได้เข้าไปถึงพระราชฐานฝ่ายใน  ก็เป็นบรรยากาศในช่วงปลายรัชสมัยของวัง    ซึ่งทางประวัติศาสตร์ของไทยไม่ได้เอ่ยถึงกี่มากน้อย
     บ็อกเข้ามาในกรุงเทพช่วงระยะสั้นๆ แต่ก็ไปทำความรู้จักกับฝรั่ง(ซึ่งมีอยู่หยิบมือเดียว)ได้หลายคน      ตามบันทึกของเขา พวกฝรั่งยุโรปแม้ต่างประเทศกัน  มีความเป็นมิตรระหว่างกันอย่างดี    ให้ความช่วยเหลือร่วมมืออย่างเต็มอกเต็มใจ ในการสำรวจของบ็อก      ดิฉันเชื่อว่าบ็อกเองก็คงได้พูดคุยกับมิตรใหม่พวกนี้มากพอจะได้รับการถ่ายทอดความรู้สึกที่พวกเขามีต่อราชสำนักและบุคคลสำคัญของสยามได้อย่างไม่ปิดบัง    แม้ว่าอาจไม่ได้ลงลึกในรายละเอียดอะไรมากนัก
    ดังนั้นพอจะอนุมานได้ว่า ความรู้สึกที่พวกฝรั่งมีต่อกรมพระราชวังบวรวิไชยชาญ  ออกไปในทางเป็นมิตรดี     การที่เจ้านายพระองค์นี้ตรัสภาษาอังกฤษได้คล่อง   ทรงมีงานอดิเรกหลายอย่างที่แสดงถึงวิชาความรู้ทางตะวันตก   เป็นทั้งกวี ศิลปินและช่าง    คล้ายกับสมเด็จพระบวรราชชนกคือพระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว  ก็ทำให้ฝรั่งพวกนี้ให้การยอมรับนับถืออยู่มาก
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 3  เมื่อ 18 ก.พ. 11, 09:43

    กรมพระราชวังบวรวิไชยชาญ ทรงใช้เวลาไปในการทำอะไรบ้าง ในช่วงปลายพระชนม์ชีพ  บ็อกได้ให้คำตอบ ซึ่งก็คงเป็นความรู้ที่เห็นเองส่วนหนึ่ง  และได้รับถ่ายทอดมาจากชาวต่างประเทศด้วยกันในกรุงเทพฯ อีกส่วนหนึ่ง   เพราะตัวเขาเองอยู่ในเมืองหลวงช่วงสั้นๆ   ไม่มากพอจะเห็นรายละเอียดได้     ก่อนจะเดินทางขึ้นไปสำรวจสภาพทางภูมิศาสตร์ของภาคเหนือ
    
    "...พระองค์ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องการเมืองนัก    ทรงเป็นนักศึกษาเกี่ยวกับแร่ธาตุต่างๆ    และได้สะสมแร่ไว้เป็นจำนวนมาก   ทั้งยังโปรดวิชาวิศวกรรมเครื่องกล    พระองค์มีแบบจำลองของโรงงานที่ใช้เครื่องยนต์ และได้ให้ข้าพเจ้าชมเครื่องยนต์ไอน้ำ ที่พระองค์ทรงสร้างขึ้นมาเองด้วย  
     วังหน้าทรงมีตำแหน่งเป็นแม่ทัพของกองทัพไทย   ซึ่งคงไม่เหมาะกับพระองค์เลย   ถ้าเกิดรบทัพจับศึกกันขึ้นมาจริงๆ"


     บ็อกบันทึกไว้ต่อไปว่า ในวันที่ ๒ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๒๔   เขาได้เข้าเฝ้ากรมพระราชวังบวรฯ เพื่อรับพระราชทานเลี้ยงอาหารค่ำ   เพราะเป็นธรรมเนียมที่พระราชทานเลี้ยงในวันนี้ เพื่อการฉลองวันประสูติของพระองค์มาหลายปีแล้ว   พร้อมกับเป็นวันสำคัญอีกวันหนึ่ง คือพระชนนีมีอายุ ๖๔ ปี พอดี

     ขอแยกซอยออกไปหน่อย ว่า
     ๑   กรมพระราชวังบวรวิไชยชาญ ตามหลักฐานในหนังสือราชสกุลวงศ์ ประสูติเมื่อวันที่ ๖ กันยายน   แต่บ็อกบอกว่า ทรงฉลองวันประสูติในวันที่ ๒ กรกฎาคม  ซึ่งตรงกับวันครบรอบวันเกิดของเจ้าคุณจอมมารดาเอม  เจ้าจอมมารดาของพระองค์ท่าน
     ๒ จากบันทึกของบ็อก ทำให้รู้ว่าเจ้าจอมมารดาเอม เกิดประมาณวันที่ ๒ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๖๐  
     ที่ใช้คำว่าประมาณ  เพราะทางไทยนับวันเดือนปีแบบจันทรคติ    ไม่ใช่สุริยคติแบบฝรั่ง  เพราะฉะนั้น ดิฉันก็เลยคิดมาก เผื่อไปว่า วันที่ ๒ กรกฎาคม ๒๔๒๔ ที่บ็อกเข้าไปรับพระราชทานเลี้ยง อาจจะตรงกับวันเกิดทางจันทรคติของเจ้าคุณจอมมารดาเอม  ซึ่งในปีพ.ศ. ๒๔๒๔ มาตรงกับ ๒ กรกฎาคม   แต่เมื่อย้อนกลับไปเมื่อพ.ศ. ๒๓๖๐  อันเป็นปีเกิดของท่าน   นับทางจันทรคติปีนั้น อาจไม่ตรงกับ ๒ ก.ค. จะเป็น ๑ ก.ค. หรือ ๓ ก.ค. ก็เป็นได้
     แต่ถ้ากรมพระราชวังบวรวิไชยชาญทรงนับวันเกิดของเจ้าจอมมารดาของท่านแบบสุริยคติ ก็แสดงว่าเจ้าคุณเอมเกิดเมื่อ ๒ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๓๖๐    
      ทำให้อยากจะรู้ต่อไปว่าเมื่อสมเด็จพระปิ่นเกล้าฯสมัยเป็นเจ้าฟ้าน้อย ผนวชเป็นพระภิกษุ  มาพบกับท่านนั่งรอตักบาตรพระสงฆ์อยู่ที่ท่าน้ำ   จนเกิดกรณีทรงปิดฝาบาตรงับทัพพีตักข้าวของลูกสาวเจ้าของบ้าน จนทัพพีตกน้ำไป     ปีนั้นเจ้าคุณเอมอายุเท่าใด  
     สมเด็จพระปิ่นเกล้าประสูติเมื่อปี พ.ศ. ๒๓๕๑    แก่กว่าเจ้าคุณเอม ๙ ปี    ผนวชเมื่อใดไม่ทราบ แต่น่าจะมากกว่าพระชนม์ ๒๐ หรือ ๒๑ ตามประเพณี    เพราะถ้าผนวชเมื่อพระชนม์ ๒๐ แล้วมารับบาตรที่บ้านเจ้าคุณเอม  เจ้าคุณเอมท่านก็อายุแค่ ๑๑ ขวบเท่านั้น    หรือเพิ่มอีกสักปีก็ ๑๒  คงจะเพิ่งพ้นโกนจุกใหม่ๆ      
     จึงยังไม่ได้คำตอบในข้อนี้อยู่ดี
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 4  เมื่อ 18 ก.พ. 11, 11:20

    บ็อกบรรยายว่าเขาเข้าเฝ้าในท้องพระโรง  เห็นจะเป็นพระที่นั่งอิศเรศราชานุสรณ์?    วังหน้าประทับอยู่บนพระเก้าอี้เท้าแขนตัวหนาเทอะทะ   มีฝรั่งชื่อมิสเตอร์เพลเกรฟ และมิสเตอร์นิวแมนประทับอยู่ทางขวาและซ้ายตามลำดับ    มหาดเล็กนำน้ำชากาแฟเข้ามาเสิฟ
มิสเตอร์นิวแมนทำหน้าที่ล่ามให้ตามเคย
    ถึงตรงนี้คงมีผู้สงสัยว่ากรมพระราชวังบวรวิไชยชาญตรัสภาษาอังกฤษได้คล่อง   เหตุใดจึงต้องใช้ล่าม      ข้อนี้บ็อกอธิบายไว้เมื่อคราวเข้าเฝ้าพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว    เขาเล่าว่าพระเจ้าอยู่หัวตรัส เขียนและอ่านภาษาอังกฤษได้ดี     ทรงเข้าพระทัยทุกคำที่ฝรั่งพูด    แต่เมื่อตรัสตอบผู้ที่มาเข้าเฝ้า จะตรัสเป็นภาษาไทย   เพราะไม่สมควรที่พระมหากษัตริย์แห่งสยาม จะมีพระราชดำรัสเป็นภาษาอื่นนอกจากภาษาไทย
    ข้อนี้คงใช้สำหรับวังหน้าด้วยเช่นกัน

   ในฐานะนักธรรมชาติวิทยาและทำงานด้านภูมิศาสตร์  บ็อกก็เลยบันทึกสถานที่ไว้ละเอียดลออดี     เขาเล่าว่าภายนอกท้องพระโรงเป็นสวนตกแต่งแบบจีน   มีไม้ดัดเป็นรูปต่างๆ  มีอ่างปลาประดับด้วยสะพานกระเบื้องเล็กๆแบบจีน     ใบหนึ่งเลี้ยงปลาหมอซึ่งพ่นน้ำจับเหยื่อได้แม่นยำ  และมีปลากัดสีต่างๆด้วย     
บันทึกการเข้า
bookaholic
ชมพูพาน
***
ตอบ: 145


ความคิดเห็นที่ 5  เมื่อ 18 ก.พ. 11, 13:02

มาลงทะเบียนเข้าเรียนในชั้นครับ  อาจารย์

พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว  บรรพชาเป็นสามเณร เมื่อพระชนม์ 14 พรรษา   ผนวชเมื่อพระชนม์ 21 พรรษา ที่วัดระฆังโฆษิตาราม ครับ
บันทึกการเข้า
Wandee
หนุมาน
********
ตอบ: 4006


ความคิดเห็นที่ 6  เมื่อ 18 ก.พ. 11, 14:43



มารายงานตัวอีกคนค่ะ  คุณเทาชมพู

ตามอ่านประวัติเจ้าหน้าที่กงสุลอังกฤษมาบ้าง
บันทึกการเข้า
siamese
หนุมาน
********
ตอบ: 7165


หนุ่มรัตนะกับภูเขาทอง


ความคิดเห็นที่ 7  เมื่อ 19 ก.พ. 11, 08:55

เข้ามาอ่านครับ และจะรออ่านต่อไปครับ ยิงฟันยิ้ม
บันทึกการเข้า
Khonsu
อสุรผัด
*
ตอบ: 9


ความคิดเห็นที่ 8  เมื่อ 19 ก.พ. 11, 12:58

รออ่านต่อค่ะ
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 9  เมื่อ 21 ก.พ. 11, 09:44

สวัสดีทุกท่านค่ะ  มาปูเสื่อ วางน้ำร้อนน้ำชาหมากพลูบุหรี่บนนอกชานเรือนไทย    เพื่อเชิญร่วมวงสนทนา ตามอัธยาศัย

คุณบุ๊ค   ถ้าหากว่าสมเด็จพระปิ่นเกล้าฯผนวชเมื่อพระชนม์ ๒๑     ส่วนเจ้าคุณจอมมารดาเอมอ่อนกว่าท่าน ๙ ปี  ก็แปลว่าท่านทรงพบเมื่อเจ้าคุณเอมอายุ ๑๒ เท่านั้นเอง
ดิฉันเห็นจะต้องรอข้อมูลอื่นๆมากกว่านี้ละค่ะ

ขอเชิญคุณวันดีบอกเล่าเรื่องกงสุลอังกฤษ ค่ะ
**********************
บ็อกเล่าต่อว่า เขาโชคดี ได้ตามเสด็จวังหน้าเข้าไปในเขตพระราชฐานชั้นใน  เพื่อไปอวยพรวันเกิดเจ้าจอมมารดาของพระองค์ท่าน  ทำให้บ็อกตื่นเต้นมาก    เขาเคยไปหลายประเทศ ที่มี "ฝ่ายใน" แต่ก็ไม่เคยได้รับอนุญาตให้เข้าไปในสถานที่หวงห้ามแบบนั้น
สิ่งหนึ่งที่ฝรั่งนักเดินทางมาตะวันตก ชอบบันทึกกันเอาไว้คือจำนวนพระสนมมากมายของกษัตริย์และเจ้าชายในประเทศตะวันออก     คงเป็นเพราะประเทศพวกเขาไม่มี      จึงตื่นตาตื่นใจกับเรื่องนี้ ไม่ว่าคนไหนคนนั้น
นายบ็อก เท่าที่อ่านจากบันทึก นอกจากเป็นคนละเอียดลออด้านภูมิศาสตร์แล้ว ยังน่าจะชอบเรื่องซุบซิบประเภทเบื้องหลังคนดัง        เพราะแกบันทึกเกร็ดเล็กๆน้อยๆเกี่ยวกับจำนวนเจ้าจอมหม่อมห้ามของวังหน้าเอาไว้  ว่า

"วันหนึ่งพระเจ้าอยู่หัวได้มีพระราชดำรัสถามวังหน้าว่ามีชายาทั้งหมดเท่าไร    เพราะพระองค์มีพระราชประสงค์จะพระราชทานแหวนให้คนละวง   วังหน้าไม่สามารถจะนึกจำนวนที่ถูกต้องได้ทันที   จึงทูลตอบว่ามีอยู่ราว ๕๐ คน  ซึ่งก็นับว่าเป็นการคาดคะเนที่ใกล้เคียงต่อความจริงอยู่  แต่เมื่อได้รับพระราชทานแหวน ๕๐ วง ในระยะสองสามวันต่อมาเป็นการแสดงความโปรดปราน   และวังหน้าได้นำแหวนเหล่านี้ไปวัดนิ้วประทานแก่บรรดาสนมทั้งหลายแล้ว  จึงได้ทราบว่าแหวนขาดไป ๔ วง    เลยต้องกราบบังคมทูลพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวว่าพระองค์ทรงกะพลาดไปเล็กน้อย    เพราะมีชายาทั้งหมด ๕๔ องค์ด้วยกัน    ชายาอีก ๔ องค์ย่อมจะริษยาบรรดาชายาอีก ๕๐ องค์เป็นแน่   ถ้าพวกตนมิได้รับพระราชทานแหวนด้วย"


นายบ็อกไม่ได้เล่าตอนจบว่า พระเจ้าอยู่หัวพระราชทานแหวนเพิ่มอีก ๔ วงหรือไม่    แต่ก็คิดว่าน่าจะพระราชทานเพิ่มตามที่ทูลขอ

ฝรั่งมักอยากทราบจำนวนเจ้าจอม   หมอสมิธแพทย์หลวงประจำองค์สมเด็จพระพันปีก็เคยทูลถามเรื่องนี้เหมือนกัน    หมอได้คำตอบว่า พระพันปีก็ไม่ทรงทราบจำนวนที่แน่นอนว่าพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าฯ ทรงมีเจ้าจอมทั้งหมดเท่าไรกันแน่
ที่เราทราบจำนวนกันแน่ๆคือจำนวนเจ้าจอมมารดา  เพราะมีหลักฐานบันทึกไว้   แต่เจ้าจอมที่ไม่มีพระองค์เจ้า อาจมีมากกว่าที่คิดกันก็ได้  ในกระทู้เก่าของเรือนไทยก็เคยค้นหากันเรื่องเจ้าจอมกิมเนียว   ซึ่งคนทั่วไปไม่เคยได้ยินชื่อมาก่อน
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 10  เมื่อ 21 ก.พ. 11, 09:59

ขอแยกซอยหน่อย

บ็อกบอกว่าบรรดาเจ้าจอมทั้งหมดของกรมพระราชวังบวรวิไชยชาญ มีจำนวน ๕๔ คน  ดิฉันก็เลยขอนับเจ้าจอมมารดาดูบ้างว่ามีกี่ท่าน   เปิดหนังสือราชสกุลวงศ์   นับออกมาได้ตามนี้

๑  จอมมารดาม.ล. ปริก
๒  จอมมารดา กรุด
๓  จอมมารดา เข็ม
๔  จอมมารดา ปริกเล็ก
๕  จอมมารดา เวก
๖   จอมมารดา ละม้าย
๗  จอมมารดา เลี่ยมเล็ก
๘  จอมมารดา เลี่ยมใหญ่
๙  จอมมารดา เขียวใหญ่
๑๐  จอมมารดา ปุ้ย
๑๑  จอมมารดา จั่น
๑๒  จอมมารดา ม.ล.นวม ปาลกวงศ์
๑๓ จอมมารดาป้อม
๑๔ จอมมารดาม.ร.ว.กลีบ
๑๕ จอมมารดา อิน
๑๖ จอมมารดา ต่วน
๑๗ จอมมารดา สมบุญ
๑๘ จอมมารดา สุ่นใหญ่
๑๙ จอมมารดา เขียวเล็ก
๒๐ จอมมารดา ปริกใหญ่
๒๑ จอมมารดา สุ่นเล็ก
๒๒ จอมมารดา ยิ้ม
๒๓ จอมมารดา สอาด
๒๔ จอมมารดา ม.ร.ว. เชื้อ อิศรางกูร
๒๕ จอมมารดา แข

อีก ๒๙ ท่าน ไม่มีพระองค์เจ้า
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 11  เมื่อ 21 ก.พ. 11, 12:17

ที่เดาตอนแรกว่า กรมพระราชวังบวรวิไชยชาญ ประทับอยู่ ณ พระที่นั่งอิศเรศราชานุสรณ์  สืบต่อจากสมเด็จพระปิ่นเกล้าฯ   นายบ็อกเข้าเฝ้าที่นั่น   กลับไปเช็คแล้ว น่าจะผิด
บ็อกน่าจะเข้าเฝ้าพระองค์ท่าน ที่"พระที่นั่งสาโรชรัตนประพาส" อันเป็นสถานที่ประทับที่ทรงสร้างขึ้นมากกว่า     ส่วนทรงนำนายบ็อกไปเข้าพบพระชนนี   น่าจะเป็นส่วนที่โปรดให้เจ้าคุณจอมมารดาเอม ขึ้นมาอยู่    ตรงที่มุขตะวันออก อันเรียกว่า "พระที่นั่งบูรพาภิมุข"

คุณ siamese มีรูปหรือแผนที่ ไหมคะ?

มาดูกันต่อว่า  พระที่นั่งบูรพาภิมุข เป็นยังไง
บ็อกเล่าว่า เขาถูกนำผ่านห้องโถง ๒ ห้อง  มีผู้หญิงอยู่หลายคน  ส่วนใหญ่เป็นหญิงแก่ผมหงอก   จากนั้นก็มาถึงห้องสูงยาว หน้าตาเหมือนห้องพักผ่อน หรือห้องแต่งตัวของผู้หญิง  มีผู้หญิงอยู่ในห้องนี้หลายคน ดูอายุจะยังสาวอยู่บ้าง  มีเด็กหญิงไว้จุกปักดอกไม้กลิ่นหอมแรง (เดาว่าเป็นมะลิ หรือเขี้ยวกระแต)
ทางซ้ายมีฉากจีนเก่าแก่แต่สวยงามมาก ทำด้วยไม้สลักทาสี ปิดทองสวยงาม  บ็อกสงสัยว่ามีผู้หญิงสาวๆอยู่หลังฉากบ้างหรือเปล่า    ดิฉันคิดว่าอาจเป็นได้ที่ฉากนี้กั้นทางเดินของฝ่ายใน  เป็นระเบียงยาวหรืออะไรทำนองนั้น   ไม่ให้คนภายนอกมองเข้าไปเห็นได้
พอพ้นตรงนี้ บ็อกก็มาถึงห้องที่ตกแต่งอย่างสวยงาม   ตรงนี้เองมีหญิงชราจำนวนมากหมอบเฝ้าอยู่     แต่ไม่มีสาวๆ เพราะพวกสาวๆหลบเข้าข้างในไปเสียก่อนแล้วที่อาคันตุกะจะมาถึง
เดาว่าหญิงชราที่หมอบเฝ้าน่าจะเป็นพวกท้าวนาง หรือเจ้าจอมอาวุโสในวังหน้ารัชกาลก่อนๆ    แวดล้อมสตรีสำคัญ ๒ ท่านที่ยืนอยู่ตรงกลาง  คือเจ้าคุณจอมมารดาเอม   และพระเจ้าลูกเธอในสมเด็จพระปิ่นเกล้าฯ ที่ประสูติจากเจ้าคุณจอมมารดาเอม คือพระองค์เจ้าหญิงวงจันทร์ พระขนิษฐาของวังหน้า
อีกด้านหนึ่งของพระที่นั่งบูรพาภืมุข ออกไปเป็นสนามกว้าง   มาถึงตรงนี้ก็เกือบจะกึ่งกลางพระราชฐานแล้ว   
บันทึกการเข้า
siamese
หนุมาน
********
ตอบ: 7165


หนุ่มรัตนะกับภูเขาทอง


ความคิดเห็นที่ 12  เมื่อ 21 ก.พ. 11, 14:00

ที่เดาตอนแรกว่า กรมพระราชวังบวรวิไชยชาญ ประทับอยู่ ณ พระที่นั่งอิศเรศราชานุสรณ์  สืบต่อจากสมเด็จพระปิ่นเกล้าฯ   นายบ็อกเข้าเฝ้าที่นั่น   กลับไปเช็คแล้ว น่าจะผิด
บ็อกน่าจะเข้าเฝ้าพระองค์ท่าน ที่"พระที่นั่งสาโรชรัตนประพาส" อันเป็นสถานที่ประทับที่ทรงสร้างขึ้นมากกว่า     ส่วนทรงนำนายบ็อกไปเข้าพบพระชนนี   น่าจะเป็นส่วนที่โปรดให้เจ้าคุณจอมมารดาเอม ขึ้นมาอยู่    ตรงที่มุขตะวันออก อันเรียกว่า "พระที่นั่งบูรพาภิมุข"

คุณ siamese มีรูปหรือแผนที่ ไหมคะ?

   

แนบแผนผังหมู่พระวิมาน ซึ่งแสดงถึง พระที่นั่งบูรพาภิมุข ครับ


บันทึกการเข้า
siamese
หนุมาน
********
ตอบ: 7165


หนุ่มรัตนะกับภูเขาทอง


ความคิดเห็นที่ 13  เมื่อ 21 ก.พ. 11, 14:19

ปัจจุบันพระที่นั่งบูรพาภิมุข ใช้เป็นห้องจัดแสดงเครื่องดนตรีไทย

จากที่นายบ๊อก บรรยายไว้ก็ไม่ไม่ผิดเพี้ยน ซึ่งมุมนี้มองออกไปด้านนอกจะเป็นสวนโปร่ง ซึ่งมีอยู่ ๒ ฝั่งของหมู่พระวิมาน รูปร่างสี่เหลี่ยมผืนผ้า เป็นสระปลูกบัวนิดๆไว้




บันทึกการเข้า
siamese
หนุมาน
********
ตอบ: 7165


หนุ่มรัตนะกับภูเขาทอง


ความคิดเห็นที่ 14  เมื่อ 21 ก.พ. 11, 15:17

"ทางซ้ายมีฉากจีนเก่าแก่แต่สวยงามมาก ทำด้วยไม้สลักทาสี ปิดทองสวยงาม  บ็อกสงสัยว่ามีผู้หญิงสาวๆอยู่หลังฉากบ้างหรือเปล่า    ดิฉันคิดว่าอาจเป็นได้ที่ฉากนี้กั้นทางเดินของฝ่ายใน  เป็นระเบียงยาวหรืออะไรทำนองนั้น   ไม่ให้คนภายนอกมองเข้าไปเห็นได้"

สำหรับเรื่องฉากจีน ผมมีความเห็นต่างกับ อ.เทาชมพูครับ กระผมนึกถึงฉากสำหรับกั้นแบ่งห้อง ๑ กับ ฉากไม้ใหญ่ๆ ที่ขวางกั้นทางเดินตรงประดูทางเข้า ๑  ทำด้วยเครื่องไม้สลับการกรุกระจก ระบายสีน้ำมันลายดอกไม้ (มีตัวอย่างให้เห็นที่พระอุโบสถวัดพระแก้ว)

สำหรับฉากไว้สำหรับกั้นห้องก็จะขอนำภาพหมู่พระวิมานในพระบรมมหาราชวังประกอบ เพื่อให้เห็นลักษณะของฉากยาวๆที่ขวางไว้ เพื่อแบ่งเป็นห้อง ตรงนี้เองที่นายบ๊อก อาจจะสงสัยว่า มีใครอยู่หลังฉากนี้ครับ


บันทึกการเข้า
หน้า: [1] 2 3 ... 20
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.062 วินาที กับ 20 คำสั่ง