นอกจากฉบัง บทบรรยายสถานที่ที่เรือผ่านไป ก็ยังใช้ อินทรวิเชียรฉันท์ ๑๑ ด้วย
อินทรวิเชียร์ ๑๑ เป็นฉันท์ที่มีบังคับน้อย จึงค่อนข้างง่ายเมื่อเทียบกับฉันท์ชนิดอื่นเช่นวสันตดิลก ๑๔ หรือสัททุล ฯ ๑๙ อินทรวิเชียร มีลหุหรือสระเสียงสั้นเพียง ๘ ตัวใน ๑ บท(๔ วรรค) นอกนั้นเป็นครุหรือสระเสียงยาว และมีลหุคู่บังคับเพียง ๒ คู่เท่านั้น
ทำให้สามารถใส่คำไทยที่ส่วนใหญ่เป็นครุลงไปได้ง่าย ไม่ผิดฉันทลักษณ์
เช่นในบทนี้ มีชื่อ คุ้งคอแหลม (บางคอแหลม?) และชื่อผลไม้ต่างๆ เรียงเข้าด้วยกัน
ขนบการชมธรรมชาติในเรื่องนี้เป็นภาพ realistic เป็นแบบเดียวกับนิราศเรื่องต่างๆ ก่อนหน้านี้ อย่างของนายนรินทร์ธิเบศร์และนิราศสุนทรภู่ มองเห็นต้นหมากรากไม้และป่าไม้สองข้างเจ้าพระยา เมื่อพ้นตัวเมืองหลวงออกมาแล้ว ว่าเขียวชอุ่มอุดมสมบูรณ์ด้วยไม้ยืนต้น
มีไม้ยืนต้นบางชื่อที่ไม่คุ้นหูกันแล้วในสมัยนี้ คือทิ้งถ่อน เป็นชื่อไม้เนื้อแข็งชนิดหนึ่ง เป็นไม้ยืนต้นสูง ออกดอกสีขาวกลมฟู อย่างในรูปนี้
เมื่อ ๑๐๐ กว่าปีก่อน สองฟากแม่น้ำคงจะมีไม้ยืนต้นอยู่มาก

อีกอย่างคือพุมเรียง หรือชำมะเลียง
