เป็นคนกรุงเทพนะคะ เมื่อก่อนกรุงเทพก็มีงานวัดค่ะ
เวลานึกถึงงานวัดจะนึกถึง....

-
เวลากลางคืน เพราะงานวัดมักจะไปเที่ยวกันตอนกลางคืน อากาศเย็นๆ
ซึ่งเป็นความพิเศษสำหรับเด็กๆ อย่างพวกเรา (ในสมัยนั้น)
เพราะนานทีปีหนถึงจะมีโอกาสได้ออกไปสูดอากาศนอกบ้านยามค่ำคืน..
-
ชิงช้าสวรรค์ ซึ่งเป็นเหมือนสัญญลักษณ์ของงานวัด
ตอนเป็นเด็กเวลาได้ขึ้นชิงช้าสวรรค์ทีไร รู้สึกเหมือนว่ามันหมุนขึ้นไปสูงจังเลย
ยิ่งตอนที่เขาหยุดชิงช้าเพื่อให้คนอื่นๆ ขึ้น แล้วเราได้อยู่ข้างบนสุด รู้สึกเหมือนกับ
ว่าเราจะเอื้อมมือไปจับดาวได้เลย มองไปเห็นวิว มีแสงไฟสวยมากๆ เพราะสมัยที่เป็นเด็กๆ
ตึกสูงๆ มีน้อย โอกาสที่จะได้ขึ้นไปมองเห็นวิวบนที่สูงมีน้อยครั้ง
-
ลูกโป่ง สีสวยๆ หลายๆ ใบ อยู่ในกำมือ ที่บางครั้งก็เสียน้ำตาเพราะทำหลุดมือ
ได้แต่แหงนมองลูกโป่งหลุดลอยไปบนฟ้า แต่แม่ก็ทำให้มันกลายเป็นความสุขและเสียงหัวเราะได้
เพราะชี้แนะให้เราได้มองในแง่ที่สวยงามของลูกโป่งที่ลอยคว้างหลากสีบนท้องฟ้านั้น
-
ขนมแปลกๆ ที่ในยามปกติ ไม่ค่อยมีโอกาสได้รับประทาน เช่น สายไหม สีสวยฟูฟ่อง
ที่พอแตะลิ้นก็ละลายเป็นน้ำตาลหวานๆ
-
การแสดงต่างๆ ที่ดูน่าตื่นตา ตื่นใจไปซะทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็น ลิเก ลำตัด
หรือการแสดงที่ต้องเสียเงินเข้าชม เช่น รถไต่ถัง เมียงู คนสองหัว ...
- เสียงอึกทึกครึกโครม เสียงประกาศ เสียงเพลง ผู้คน ละลานตา แสงสีเสียง ที่น่าตื่นตาตื่นใจ
นึกถึงงานวัดทีไร เราจะรู้สึกมีความสุข นึกถึงอากาศเย็นๆ ที่ได้ไปเที่ยวกันอย่างอบอุ่นกับคุณพ่อคุณแม่
เอ...จำไม่ได้แล้วว่าไปเที่ยวงานวัดครั้งสุดท้าย เมื่อไหร่ ... แล้วงานวัดสมัยนี้เป็นอย่างไรนะ..