เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: 1 ... 15 16 [17] 18 19 ... 22
  พิมพ์  
อ่าน: 96193 ๑๐๐ คำถามเรื่องรามเกียรติ์ (สำหรับแฟนพันธุ์แท้และผู้สนใจ) ๓
art47
องคต
*****
ตอบ: 739


ความคิดเห็นที่ 240  เมื่อ 16 ก.พ. 11, 15:00

คำถามข้อที่ ๖๘.

คำถามข้อนี้  ส่งมาจากนักเลงแผงพระเครื่องแถวท่าพระจันทร์
ถามว่า  เรื่องรามเกียรติ์มีอิทธิพลอย่างไร
กับความเชื่อเรื่องเครื่องรางของขลังของคนไทยในปัจจุบัน
จงตอบพร้อมยกตัวอย่างมาประกอบให้เห็นชัดเจน

ข้อนี้  คนถามให้ราคาเริ่มต้นที่ ๑๐ คะแนน
ถ้าตอบดีมีตัวอย่างประกอบ เพิ่มคะแนนให้ สูงสุด ๒๐ คะแนน
ให้ตอบหน้าไมค์  ตั้งแต่เวลา  ๑๕.๐๐ น.
อ้อ ใครตอบหลังจาก ๑๕.๑๕ น. ไปแล้ว  หัก ๒ คะแนนจากคะแนนที่ได้

เครื่องรางของขลังเกิดจากความต้องการของมนุษย์ที่ติดต่อและขอพรจากเทพเจ้าที่ตนนับถือ ดังในศาสนาโบราณทั่วโลก ก็มีเครื่องรางของขลังเทวรูปต่างๆ เกิดมากมาย เช่น อียิปต์ โรมัน กรีก และอารยะธรรมที่เจริญแล้ว และหนึ่งในนั้นที่สำคัญก็คือศาสนาพราหมณ์ ที่นับถือเทพเจ้าองค์สำคัญทั้ง 3 คือ พระนารายณ์ พระอิศวร และพระพรหม ซึ่งก็ต่างมีสิ่งสักการะเหมือนกัน เช่น ศิวลึงค์ เทวรูปเป็นต้น

สำหรับเรื่องรามเกียรติ์นั้น
เนื่องจากว่ามีที่มาจากลัทธิศาสนาพราหมณ์อันเป็นศาสนาเก่าแก่ที่มีเครื่องรางของขลัง หรือเทวรูปให้สักการะบูชามานานมากแล้ว คนไทยสมัยก่อนก็มีเครื่องรางของขลังใช้อยู่เหมือนกัน เช่นตะกรุด ผ้าประเจียด เหล็กไหล ปลัดขิก (ดังปรากฏในเรื่องขุนช้างขุนแผน) แต่สิ่งเหล่านั้นไม่มีอิทธิพลของรามเกียรติ์มาเกี่ยวข้องด้วยเลย เพราะเป็นอิทธิพลมาจากการนับถือสิ่งเร้นลับที่มีมาก่อนศาสนามากกว่า แต่คนไทยในปัจจุบันเริ่มนำเรื่องรามเกียรติ์มาผูกโยงเข้ากับเครื่องรางของขลังต่างๆ ด้วยคิดกันว่า พระรามคือพระนารายณ์อวตาร (คือธรรมะ) ตัวละครต่างๆ ก็คือเทพจุติลงมาเพื่อช่วยพระรามทำสงครามกับทศกัณฐ์ (คืออธรรม) ดังนั้นการบูชาพระรามและตัวละครต่างๆ ก็คล้ายกับการบูชาเทพเจ้าในศาสนาพราหมณ์ด้วย บางทีก็หลายสำนักหลายอาจารย์หลายวัดได้นำตัวละครในเรื่องที่มีคุณสมบัติหรือบุคลิกภาพต่างๆ มาเป็นตัวแทนของสิ่งนั้นๆ ที่ต้องการเชื่อมโยงและส่งผลต่อผู้บูชา เช่น การลงนะหน้าทอง
ตำนานของวิชาพระลักษณ์หน้าทองมาจากเรื่องรามเกียรติ์
เพราะการที่พระลักษณ์นั้นมีกายสีทอง อีกทั้งยังนามว่า “ลักษณ์” นั้นพ้องกับคำว่า “รัก” ด้วย
และเหตุที่พระลักษณ์เป็นน้องสนิทของพระราม เดินทางไปไหนมาไหนด้วยกัน ร่วมทุกข์ร่วมสุขด้วยกัน จึงทำให้พระรามรักใคร่และไว้เนื้อเชื่อใจ หากผู้ลงวิชานี้ไว้กับตัวแล้ว ย่อมแต่จะมีคนรักคนหลงผู้ใหญ่ให้ความสนิทสนม ทำมาค้าขายได้สำเร็จ
ดังนั้น นามพระลักษณ์จึงเป็นตัวแทนแห่งความมีเสน่ห์เมตตามหานิยมได้เป็นอย่างดีที่สุด

หรือบางทีก็นำเรื่องราวที่ปรากฏในรามเกียรติ์มาผูกขึ้นกับตำนานพื้นบ้านต่างๆ จนกลายเป็นต้นตอของเครื่องรางบางอย่างด้วย เช่น นางกวัก
ตำนานของนางกวักมาจากเรื่องรามเกียรติ์
กล่าวถึงท้าวอุณาราช ถูกพระรามใช้ต้นกกแผลงเป็นลูกศรไปต้องที่หน้าอก คนทั้งหลายเลยพาเรียกกันอีกชื่อหนึ่งว่า ท้าวกกขนาก เมื่อพระรามได้สาปให้ท้าวกกขนาก ถูกตรึงด้วยลูกศรอยู่ที่เขาวงพระจันทร์อย่างทุกข์ทรมาน จนกว่าจะถึงศาสนาพระศรีอารย์จึงจะหลุดพ้นคำสาป เมื่อข่าวนี้ทราบถึงนางประจันทร์ซึ่งเป็นธิดาของท้าวอุณาราชจึงได้มาอยู่ ณ สถานที่แห่งนี้เพื่อมาอยู่ปฏิบัติดูแลพระบิดาและได้พยายามทอจีวรด้วยใบบัว เพื่อไว้ถวายพระศรีอารย์ ในกาลอนาคต ซึ่งจะเสด็จมาโปรดพระบิดาของนางจึงจะพ้นคำสาป
เหตุนี้ชาวเมืองทั่วไปต่างพากันเกรงกลัวท้าวกกขนาก ว่าหากหลุดพ้นจากคำสาปจะออกมาอาละวาดฆ่าฟันเหล่ามวลมนุษย์จึงทำให้ชาวบ้าน ทั่วไปพากันเกลียดชังนางประจันทร์ไปด้วย ทำให้นางประจันทร์ได้รับการทุกข์ทรมานจากการกระทำต่าง ๆ นานา แต่นางประจันทร์ก็ไม่เคยปริปากพยายามอดทนเพื่อดูแลพระบิดา เป็นเหตุให้ปู่เจ้าเขาเขียวซึ่งเป็นเพื่อนสนิทมิตรสหายร่วมตายกับท้าวอุณาราช ส่งนางกวักบุตรสาวของท่านให้มาอยู่เป็นเพื่อนกับนางประจันทร์
เมื่อนางกวักได้เข้ามาอยู่เป็นเพื่อนกับนางประจันทร์แล้วก็ปรากฏว่าผู้คนที่เคยเกลียดชังนางประจันทร์มาก่อนก็พากันกลับมารักใคร่นางอย่างไม่คาดคิด และถึงแม้ที่อยู่ของนางจะทุรกันดารสักแค่ไหนก็จะมีผู้คนนำเอาลาภสักการะและแก้วแหวนเงินทองไปสู่สำนักของนางประจันทร์เป็นจำนวนมากอย่างไม่ขาดสาย
ด้วยเหตุนี้จึงพากันประดิษฐ์คิดแต่งรูปแม่นางกวักขึ้นไว้เพื่อบูชาด้วยทัพสัมภาระต่างๆ เพื่อให้คนบูชาได้รับอานิสงส์เฉกเช่นเดียวกับนางประจันทร์นั่นเอง

บันทึกการเข้า
:D :D
นิลพัท
*******
ตอบ: 2333


ความคิดเห็นที่ 241  เมื่อ 16 ก.พ. 11, 15:02

คำถามข้อที่ ๖๘.

คำถามข้อนี้  ส่งมาจากนักเลงแผงพระเครื่องแถวท่าพระจันทร์
ถามว่า  เรื่องรามเกียรติ์มีอิทธิพลอย่างไร
กับความเชื่อเรื่องเครื่องรางของขลังของคนไทยในปัจจุบัน
จงตอบพร้อมยกตัวอย่างมาประกอบให้เห็นชัดเจน

ข้อนี้  คนถามให้ราคาเริ่มต้นที่ ๑๐ คะแนน
ถ้าตอบดีมีตัวอย่างประกอบ เพิ่มคะแนนให้ สูงสุด ๒๐ คะแนน
ให้ตอบหน้าไมค์  ตั้งแต่เวลา  ๑๕.๐๐ น.
อ้อ ใครตอบหลังจาก ๑๕.๑๕ น. ไปแล้ว  หัก ๒ คะแนนจากคะแนนที่ได้

ขอตอบค่ะ
 ยิงฟันยิ้ม
ความเชื่อเรื่องเครื่องรางของขลัง มีมาแตโบราณ เนื่องจากมนุษย์ทุกยุคทุกสมัย ล้วนมีความกลัวเป็นที่ตั้ง กลัวเจ็บ กลัวตาย กลัวไม่เก่ง เพราะเป็นสิ่งที่อยู่เหนือความควบคุม out of control มนุษย์จึงต้องสร้างกลอุบายเพื่อกลบความกลัวเหล่านั้น  เครื่องรางของขลัง จึงเป็นสิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้น เพื่อเป็นการสร้างความมั่นคงทางจิตใจ สร้างขวัญกำลังใจ ให้มีความหวังในสิ่งที่ปรารถนาคือ สุขภาพ เงินทอง ความปลอดภัย ความเก่งกล้าสามารถเหนือคนอื่น ฯลฯ
เครื่องรางของขลังของคนไทย ส่วนมากจะสร้างจาก วัตถุที่หายาก มีความนิยมว่าศักดิ์สิทธิ์ นำมาผูกเข้ากับอักขระเลขยันต์ และกำกับด้วยคาถาอาคม เพื่อหวังผลให้เกิดอานุภาพแบบครอบคลุม หรือนำมาผูกอักขระเลขยันต์เฉพาะด้านโดยกำหนดให้มีคาถาอาคมกำกับเป็นการเฉพาะ
   เรื่องรามเกียรติ์ เป็นความเชื่อทางศาสนาผสมผสานเข้ากับกับคติธรรม ได้รับความนิยมแพร่หลายไปทั่วโลก ตัวละครแต่ละตัวมีความเก่งกาจสามารถ ล้วนเป็นเทพเจ้าจากสวรรค์ เก่งทั้งวิชาความรู้ ความสามารถและมีเสน่ห์ จึงได้รับความนิยมในหมู่คนไทยเป็นอย่างมาก โดยนำมาผูกเข้ากับความเชื่อ จัดทำเป็น เครื่องรางของขลัง โดยใช้วัสดุที่มีความขลัง เช่นกะลาตาเดียว ฯลฯ  ผนวกเข้ากับอักขระเลขยันต์ กำกับด้วยคาถาอาคม จากพระสงฆ์ และอาจารย์ผู้มีวิชาอาคม ต่างๆ
  
ตัวอย่าง เรื่องรามเกียรติ์มีอิทธิพลกับความเชื่อเรื่องเครื่องรางของขลังของคนไทยในปัจจุบัน
 
-หนุมาน ได้รับความนิยมจัดทำเป็นเครื่องรางของขลังมาก เนื่องจากมีอิทธิฤทธิ์แบบครอบจักรวาล  เก่งมีฤทธิ์เดชมาก มีเสน่ห์ เพราะมีภรรยาหลายตน อยู่ยงคงกระพัน เมตตามหานิยม จึงได้รับความนิยมสูง วัสดุที่ใช้จัดทำก็มีหลากหลาย รวมถึงมีการเพิ่มความขลังด้วยการผนวกสัตว์ต่างๆ เข้ามาร่วมด้วยในรูปแบบหนุมานผสานกาย วัตถุมงคลเครื่องรางของขลังที่เกี่ยวกับหนุมาน เช่น
หนุมานงาช้างแกะสลักของหลวงพ่อสุ่น วัดศาลากุน
หนุมานจากด้ามตาลปัตร ของ หลวงพ่อเชย วัดบางกระสอบ
หนุมานเชิญธงขี่สิงห์ ของหลวงปู่ทองสุข วัดโตนดหลวง

-พระลักษมณ์หน้าทอง มีความสามารถสูง มีเสน่ห์ ใจเย็น จึงนิยมจัดทำเป็นวัตถมงคล ด้านเมตตามหานิยม ค้าขายเจริญรุ่งเรือง วัตถุมงคลเครื่องรางของขลังที่เกี่ยวกับพระลักษมณ์ เช่น
พระลักษมณ์หน้าทอง ของหลวงปู่กาหลงเขี้ยวแก้ว ใช้เสกแป้งทาหน้า เมตตามหานิยม  มีคนอุปถัมภ์
พระผง พระลักษมณ์หน้าทอง วัดเกษตรสุข จ.พะเยา

- นางกวัก มีความเชื่อมาจาก เรื่อง "รามเกียรติ์ " โดยกล่าวถึงท้าวอุณาราช เจ้าเมืองสิงขรเป็นฝ่ายยักษ์ ขณะที่พระรามกำลังตามหานางสีดาที่ดำดินหนีได้ไปพบท้าวอุณาราช  จึงได้ใช้ต้นกกแผลงเป็นลูกศรไปต้องท้าวอุณาราชที่หน้าอก คนทั้งหลายเลยพาเรียกกันอีกชื่อหนึ่งว่า "ท้าวกกขนาก" เมื่อพระรามได้สาปให้ท้าวกกขนาก ถูกตรึงด้วยลูกศรอยู่ ณ ที่เขาวงพระจันทร์อย่างทุกข์ทรมาน จนกว่าจะถึงศาสนาพระศรีอารย์จึงจะหลุดพ้นคำสาป เมื่อข่าวนี้ทราบถึงนางประจันทร์ซึ่งเป็นธิดาของท้าวอุณาราชจึงได้มาอยู่ ณ สถานที่แห่งนี้เพื่อมาอยู่ปฏิบัติดูแลพระบิดาและได้พยายามทอจีวรด้วยใบบัวเพื่อไว้ถวายพระศรีอารย์ ในกาลอนาคต ซึ่งจะเสด็จมาโปรดพระบิดาของนางจึงจะพ้นคำสาป
         ด้วยเหตุนี้ชาวเมืองทั่วไปต่างพากันเกรงกลัวท้าวกกขนาก ว่าหากหลุดพ้นจากคำสาปจะออกมาอาละวาดฆ่าฟันเหล่ามวลมนุษย์จึงทำให้ชาวบ้านทั่วไปพากันเกลียดชังนางประจันทร์ไปด้วย ทำให้นางประจันทร์ได้รับการทุกข์ทรมานจากการกระทำต่าง ๆ นานา แต่นางประจันทร์ก็ไม่เคยปริปากพยายามอดทนเพื่อดูแลพระบิดา เป็นเหตุให้ปู่เจ้าเขาเขียวซึ่งเป็นเพื่อนสนิทมิตรสหายร่วมตายกับท้าวอุณาราช  ท่านจึงได้ส่งนางกวักบุตรสาวของท่านให้มาอยู่เป็นเพื่อนกับนางประจันทร์
         เมื่อนางกวักได้เข้ามาอยู่เป็นเพื่อนกับนางประจันทร์แล้วก็ปรากฎว่าผู้คนในเมืองที่เคยเกลียดชังนางประจันทร์มาก่อนก็พากันกลับมารักใคร่นางอย่างไม่คาดคิด และถึงแม้ที่อยู่ของนางจะทุรกันดารสักแค่ไหนก้จะมีผู้คนนำเอาลาภสักการะและแก้วแหวนเงินทองไปสู่สำนักของนางประจันทร์เป็นจำนวนมากอย่างไม่ขาดสาย
ด้วยเหตุนี้ท่านโบราณจารย์ผู้ชาญฉลาดตั้งแต่ยุคอดีตจนถึงปัจจุบัน จึงพากันประดิษฐ์คิดแต่งรูปแม่นางกวักขึ้นไว้เพื่อบูชาด้วยทัพสัมภาระต่าง ๆ ดังเช่น หลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ จังหวัดนครสวรรค์ จะนิยมแกะรูปนางกวักด้วยงาช้าง ส่วนหลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว จังหวัดนครปฐม จะแกะด้วยไม้ไผ่สีสุก และท่านอาจารย์เฮง ไพรยวัล ก็นิยมแกะรูปนางกวักด้วยเช่นกัน พร้อมทั้งบรรจุอิทธิคุณและพุทธคุณต่าง ๆ ไว้ภายใน เพื่อให้ที่ลูกศิษย์ลูกหาได้รับอานิสงส์เฉกเช่นเดียวกับนางประจันทร์




บันทึกการเข้า
siamese
หนุมาน
********
ตอบ: 7165


หนุ่มรัตนะกับภูเขาทอง


ความคิดเห็นที่ 242  เมื่อ 16 ก.พ. 11, 15:08

คำถามข้อที่ ๖๘.

คำถามข้อนี้  ส่งมาจากนักเลงแผงพระเครื่องแถวท่าพระจันทร์
ถามว่า  เรื่องรามเกียรติ์มีอิทธิพลอย่างไร
กับความเชื่อเรื่องเครื่องรางของขลังของคนไทยในปัจจุบัน
จงตอบพร้อมยกตัวอย่างมาประกอบให้เห็นชัดเจน

ข้อนี้  คนถามให้ราคาเริ่มต้นที่ ๑๐ คะแนน
ถ้าตอบดีมีตัวอย่างประกอบ เพิ่มคะแนนให้ สูงสุด ๒๐ คะแนน
ให้ตอบหน้าไมค์  ตั้งแต่เวลา  ๑๕.๐๐ น.
อ้อ ใครตอบหลังจาก ๑๕.๑๕ น. ไปแล้ว  หัก ๒ คะแนนจากคะแนนที่ได้
+++
เข้าทางเลย
๑.   หนุมานและตระกูลลิง
พระเกจิอาจารย์ของไทยได้นำหนุมานมาแกะเพื่อเป็นเครื่องราง วัตถุประสงค์นำไปใช้ในด้านเมตตามหานิยมเป็นหลัก ซึ่งมีด้วยกันหลายสำนัก ซึ่งได้แก่
๑.๑ หลวงพ่อสุ่น วัดศาลากุน นนทบุรี (แกะหนุมานนั่ง) นิยมเป็นหนุมานทรงเครื่อง มีนั่งยองและนั่งราบ ทำด้วยวัสดุงาช้างแกะ และรากพุด ซึ่งต้องทำกรรมวิธีบริกรรมคาถาปลุกเสก เพื่อเพิ่มความขลัง ปัจจุบันสวยๆหลักแสน ธรรมดาหลักหมื่น
๑.๒ ลิงหลวงพ่อดิ่ง วัดบางวัว ฉะเชิงเทรา , หลวงพ่อดิ่งพระเกจิอาจารย์สายตะวันออกนำรากไม้พุด มาแกะสร้างเป็นลิงจับหลักเพื่อเน้นด้านเมตตาค้าขายและมหานิยม มีกรรมวิธีการขุดรากต้นพุดที่ซอนไปทางตะวันออกเท่านั้น เงาคนขุดห้ามทับรากพุด และบริกรรมคาถาเพื่อความขลัง หายากมาก ปัจจุบันสวยๆหลักแสน ธรรมดาหลักหมื่น
๑.๓ องคต หลวงพ่อปาน วัดบางกระสอบ เป็นพระเกจิรุ่นเดียวกับหลวงพ่อดิ่ง ช่วงสงครามโลก ท่านสร้างวัตถุมงคลไว้มากมาย หนึ่งในนั้นเป็นองคต ซึ่งเน้นเมตตามหานิยม แกะด้วยวัสดุหลักคือ ด้ามตาลปัตร นั่งบนหางตนเอง การพิจารณาจะดูจากความเก่าและศิลปะการแกะ หากสวยๆหลักหมื่นปลาย

๒.   นางกวัก
ตำนานนางกวัก ได้อ้างถึงเรื่องรามเกียรติ์เมื่อพระรามพบกับท้าวอุณาราช ซึ่งเป็นพญายักษ์เจ้านครสิงขร พระรามได้แผลงศรตรึงท้าวอุณาราชไว้กับภูเขาถ้ำวงพระจันทร์ ซึ่งในนั้นมีนางประจันทร์ ซึ่งเป็นธิดามาคอยปรนิบัติอยู่ตลอดเวลา ความรู้ไปถึงปู่เจ้าเขาเขียว จึงได้ส่ง “พระธิดา” องค์หนึ่งให้มาอยู่เป็นเพื่อนนาง ตั้งแต่พระธิดามาอยู่ด้วยแล้ว ประชาชนต่างก็กลับรักนางประจันทร์ เขาของมาให้ มาเยี่ยมมาเยียนเสมอมิได้ขาด ตรงนี้เองทำให้นางประจันทร์เรียกพระธิดาว่า “นางกวัก”
ซึ่งไทยเองก็ถือคตินี้จึงได้มีการสร้างรูปนางกวักขึ้นเพื่อการค้าขายเป็นส่วนมาก ซึ่งขึ้นชื่อยู่หลายสำนัก เช่น นางกวัก (แกะบนงาช้าง ของหลวงพ่อเดิม นครสวรรค์), นางกวักหลวงพ่อกวย สิงห์บุรี, นางกวักหลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง เป็นต้น
๓.ช้างเอราวัณ
พาหนะของพระอินทร์อันทรงฤทธิเดชมากมาย เดิมไม่มีการไหว้ในทางวัตถุมงคล แต่ปัจจุบันได้มีการนับถือช้างเอราวัณมากขึ้น เมื่อมีการสร้างช้างเอราวัณใหญ่ที่สุดในโลก ที่สมุทรปราการขึ้นมา ทำให้ผู้คนพากันกราบไหว้ ขอพรเพื่อความเป็นสิริมงคลและมีการรำแก้บนอย่างมากมาย
อย่างที่แทรกภาพนี้เป็นภาพองคต หลวงพ่อปานวัดบางกระสอบให้ชมกัน


บันทึกการเข้า
art47
องคต
*****
ตอบ: 739


ความคิดเห็นที่ 243  เมื่อ 16 ก.พ. 11, 15:10

คุณวันดีตอบข้อ ๖๖.มา ชัดเจนดี  เอาไป ๑๐ คะแนน
แต่ผมสงสัยต่อไปว่า  แม่นมที่ผิวดำ หรือขาว(เกินไป)  
เป็นลักษณะไม่ดีหรือผลต่อน้ำนมอย่างไร  

โบราณท่านให้เหตุผลไว้ว่า

แม่สูงที่ลูกเกินไป จะทำให้เด็กคอยาว เพราะเวลาดื่มนมต้องยืดคอ
แม่นมที่เตี้ยเกินไป จะทำให้เด็กคอสั้น เพราะเวลาดื่มนมต้องหดคอ
แม่นมที่ผอมเกินไป จะทำให้เด็กเจ็บตัว
แม่นมที่อ้วนเกินไป จะทำให้เด็กเมื่อยตัว เพราะทั้ง 2 อย่างเวลาดื่มนมจะอยู่ในท่าที่ไม่ถนัด
แม่นมที่ผิวดำเกินไป จะทำให้น้ำนมเย็น
แม่นมที่ผิวขาวเกินไป จะทำให้น้ำนมร้อน น้ำนมทั้ง 2 อย่างนี้ไม่เป็นผลดีแก่เด็ก
แม่นมที่มีเต้านมที่ยาน จะทำให้เด็กจมูกแบน เพราะเต้านมจะย้อยลงมาทับจมูกในเวลาให้เด็กดื่มนม
แม่นมที่เป็นโรคหืด น้ำนมจะเปรี้ยว
แม่นมที่เป็นโรคมองคร่อ นมจะมีรสเผ็ด
บันทึกการเข้า
siamese
หนุมาน
********
ตอบ: 7165


หนุ่มรัตนะกับภูเขาทอง


ความคิดเห็นที่ 244  เมื่อ 16 ก.พ. 11, 15:15

ตอบหนุมานซ้ำกันเหลือเกิน ขอตอบเพิ่ม

พระพิราพ พญายักษ์ เทพแห่งการนาฏศิลป์และดนตรีแทน โดยมีการออกเครื่องรางของหลวงพ่อกาหลง ได้ทำออกมา

พระพิราพเป็นยักษ์ที่มีฤทธิ์มาก


บันทึกการเข้า
Wandee
หนุมาน
********
ตอบ: 4006


ความคิดเห็นที่ 245  เมื่อ 16 ก.พ. 11, 15:20

คำถามข้อที่ ๖๘.

คำถามข้อนี้  ส่งมาจากนักเลงแผงพระเครื่องแถวท่าพระจันทร์
ถามว่า  เรื่องรามเกียรติ์มีอิทธิพลอย่างไร
กับความเชื่อเรื่องเครื่องรางของขลังของคนไทยในปัจจุบัน
จงตอบพร้อมยกตัวอย่างมาประกอบให้เห็นชัดเจน

ข้อนี้  คนถามให้ราคาเริ่มต้นที่ ๑๐ คะแนน
ถ้าตอบดีมีตัวอย่างประกอบ เพิ่มคะแนนให้ สูงสุด ๒๐ คะแนน
ให้ตอบหน้าไมค์  ตั้งแต่เวลา  ๑๕.๐๐ น.
อ้อ ใครตอบหลังจาก ๑๕.๑๕ น. ไปแล้ว  หัก ๒ คะแนนจากคะแนนที่ได้


ตัวอย่างประกอบอยู่ในข้อเขียน      โปรดอย่าอ่านข้าม


รามเกียรติ์เป็นเรื่องปรำปราที่อยู่กับสังคมไทยมานาน      ก่อนที่พุทธศาสนาจะเข้ามาสู่ประเทศเรา

พิธีกรรมต่างๆของพราหมณ์  อันเป็นเรื่องลึกลับ  อลังการ  ไทยเราก็รับมาเป็นเครื่องมือในการปกครอง
สร้างระเบียบของสังคมให้ยอมรับผู้นำ  ที่มีความกล้าหาญ  เก่งในการต่อสู้ สามารถคุ้มครองไพร่บ้านพลเมืองได้

ในปัจจุบันไทยเราสามารถปนพิธีกรรมทางพุทธศาสนาเข้ากับลัทธิความเชื่อดั้งเดิมได้     มีสวดมนตร์เลี้ยงพระใน
พิธีพราหมณ์เช่นยกศาลพระภูมิ  โกนจุก ได้

สังคมในปัจจุบันว้าเหว่เพราะเศรษฐกิจเป็นตัวนำในความมั่นคงทางจิตใจ   เด็กแรกเกิดก็ผูกยันต์ท้าวเวสสุวรรณผู้มี
ชื่อว่าเป็นผู้มีทรัพย์มาก  ไว้หัวที่นอน

หนุมานเป็นตัวอย่างของนักต่อสู้ผู้กล้าหาญ  เป็นอมตะ  อยู่ยงคงกะพัน   จึงนิยมสักยันต์ต่างๆที่เกี่ยวข้องกับหนุมาน
เช่นลิงลม  เพราะเมื่อบาดเจ็บสาหัสลมพัดมาถูกตัวจะฟื้น        ข้อห้ามบางอย่างเป็นอันตรายแก่ผู้ที่จิตใจอ่อน  เมื่อหลง
คิดว่าตนเองเก่งขึ้นมากระทันหัน  ก็จะแสดงฤทธิ์ที่ตนไม่มี  ใช้อาวุธทำร้ายผู้คนรอบด้าน  ด้วยจิตใจที่ระแวงว่าจะมีผู้มาทำร้าย  เพราะตนเองมีความสำคัญมาก
การที่อ้างว่ามีอาการต่างๆนั้น  เป็นอาการทางจิตประเภทหนึ่ง  คือเจ้าตัวมีความทุกข์  ตกอยู่ในความอดกลั้นทรมานไม่สามารถแสดงออก  เพราะเกรงสังคมตำหนิ   เมื่อมีการสักหรือมีวัตถุมงคลอยู่กับตัว  ก็จะเกิดอาการระเบิดความโกรธ  น้อยใจ  เจ็บใจ  สู้ไม่ได้ออกมา  คือขาดสติสัมปชัญญะไปชั่วหนึ่ง

ยันต์ที่สร้างความร่ำรวยนั้นไม่มีอันตราย  เพราะเจ้าตัวหมั่นอยู่ในบ้าน  ภาวนาชักลูกประคำไป  ไม่ดื่มสุรา  ไม่เที่ยวกลางคืน
ก็จะประหยัดอันเป็นบ่อเกิดของการสะสมทรัพย์นั่นเอง   น้ำที่ไหลเข้านั้น  ถ้าเก็บไว้ได้ส่วนหนึ่ง  ถึงจะไม่มาก   ผู้ปฎิบัติจะไม่มีวันยากจน


ยันต์หนุมานตัวเก้าบ้าง  หนุมานทรงฤทธิ์บ้าง  เมื่อใช้กับทหาร ตำรวจ  มือปราบ  ผู้รักษากฎหมาย     สร้างกำลังใจอย่างยวดยิ่ง
เพราะสตินั้น  มาจากสมาธิ      นำปัญญามาสู่  ไม่มีความเกรงกลัวที่จะต่อสู้ผู้ผิดกฎหมาย  เพราะเชื่อว่า อำนาจของสิ่งศักดิ์สิทธิ์อยู่
ข้างตน    เมื่อใจเป็นสมาธิก็จะจำการสั่งสอนอบรมที่ได้รับมา   เมื่อทำไปตามคำสั่ง  งานก็จะได้ผลสำเร็จ

ที่นี่ถามเรื่องรามเกียรติ์  ก็พยายามจะไม่ออกนอกเรื่อง   แต่ได้รู้เป็นมาว่า  มือปราบหรือมือสังหารผู้รักษากฎหมายนั้น  นิยมฝังเหล็กไหลเข้าในส่วนต่างๆของร่างกาย  เป็นตะปุ่มตะป่ำทีเดียว
เป็นสัญญลักษณ์ของการรวมกลุ่มพิเศษ   ที่มีอำนาจเหนือผู้อื่น   ไปไหนคนเกรงใจ



สมัยเมื่อไทยเราเสียกรุงแล้วนั้น   มีสำนักอาจารย์เกิดขึ้นทั่วไป  แจกสิ่งศักดิ์สิทธิ์ วัตถุมงคล  ผ้ายันต์ต่าง ๆ   ก็เกิดแตกสามัคคีเพราะต่างสำนักกัน  

กว่าจะออกรบได้ก็ทำร้ายกันไปมาก       ผู้นำของเราจึงเก็บผ้ายันต์ทั้งหมดและเขียนผ้ายันต์ให้ใหม่  มีอักษรน้อยตัว       เป็นสัญญลักษณ์ของความสามัคคี

ประกอบกับความฉลาดเฉลียว  กล้าหาญ  ชำนาญศึก    ทหารไทยก็รบตลุยมาจนสร้างบ้านสร้างเมืองให้พวกเราดั่งนี้แล  ผ้าขาวที่ฉีกและลงอักษรจากผู้นำที่เป็นที่ยอมรับ

กษัตริย์ของไทยนั้นมีสัญญลักษณ์เป็นพระรามผู้ทรงความดีงาม
บันทึกการเข้า
art47
องคต
*****
ตอบ: 739


ความคิดเห็นที่ 246  เมื่อ 16 ก.พ. 11, 15:32


สมัยเมื่อไทยเราเสียกรุงแล้วนั้น   มีสำนักอาจารย์เกิดขึ้นทั่วไป  แจกสิ่งศักดิ์สิทธิ์ วัตถุมงคล  ผ้ายันต์ต่าง ๆ   ก็เกิดแตกสามัคคีเพราะต่างสำนักกัน    กว่าจะออกรบได้ก็ทำร้ายกันไปมาก       ผู้นำของเราจึงเก็บผ้ายันต์ทั้งหมดและเขียนผ้ายันต์ให้ใหม่  มีอักษรน้อยตัว       เป็นสัญญลักษณ์ของความสามัคคี
ประกอบกับความฉลาดเฉลียว  กล้าหาญ  ชำนาญศึก    ทหารไทยก็รบตลุยมาจนสร้างบ้านสร้างเมืองให้พวกเราดั่งนี้แล


เคยได้ยินเรื่องนี้เช่นกัน
จำมิได้ว่าข้อเขียนของใคร ส. พลายน้อย หรือหม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์
ที่ว่า ในคราวสงครามเก้าทัพ โปรดให้เกณฑ์ทหารมาชุมนุมกันที่ท้องสนามหลวง แต่เพราะต่างคนต่างมีของดีคนละสำนักอาจารย์กัน
จึง "ลองของ" ต่อสู้กันเองจนบาดเจ็บล้มตายก็หลายนาย พระเจ้าอยู่หัวปฐมวงศ์กับกรมพระราชวังจึงทรงปรึกษากันว่า
จะเผาทำลายของขลังที่มีให้หมด แล้วจะทำของขลังชิ้นใหม่ เขียนผ้ายันต์เป็นรูปอุณาโลม แจกเป็นผ้าประเจียดให้ทหารทุกนายที่ไปรบ
ครั้นต่อมาทหารไทยก่อนเปลี่ยนแปลงการปกครอง จึงนำรูปอุณาโลมไปติดที่หน้าหมวก ดังนี้
บันทึกการเข้า
luanglek
นิลพัท
*******
ตอบ: 2894


ความคิดเห็นที่ 247  เมื่อ 16 ก.พ. 11, 15:40

โอ้โฮ   นี่เจ้าของแผงพระเครื่องมาตอบเองหรือเปล่าเนี่ย
ดีนะว่า ไม่มีใครบอกบอกรายละเอียดสำหรับพิจารณาของแท้ของปลอม ราคาซื้อขายมาด้วย


คุณอาร์ท  ตอบมาดีมาก   
โบราณท่านให้เหตุผลไว้ว่า

แม่สูงที่ลูกเกินไป จะทำให้เด็กคอยาว เพราะเวลาดื่มนมต้องยืดคอ
แม่นมที่เตี้ยเกินไป จะทำให้เด็กคอสั้น เพราะเวลาดื่มนมต้องหดคอ
แม่นมที่ผอมเกินไป จะทำให้เด็กเจ็บตัว
แม่นมที่อ้วนเกินไป จะทำให้เด็กเมื่อยตัว เพราะทั้ง 2 อย่างเวลาดื่มนมจะอยู่ในท่าที่ไม่ถนัด
แม่นมที่ผิวดำเกินไป จะทำให้น้ำนมเย็น
แม่นมที่ผิวขาวเกินไป จะทำให้น้ำนมร้อน น้ำนมทั้ง 2 อย่างนี้ไม่เป็นผลดีแก่เด็ก

แม่นมที่มีเต้านมที่ยาน จะทำให้เด็กจมูกแบน เพราะเต้านมจะย้อยลงมาทับจมูกในเวลาให้เด็กดื่มนม
แม่นมที่เป็นโรคหืด น้ำนมจะเปรี้ยว
แม่นมที่เป็นโรคมองคร่อ นมจะมีรสเผ็ด

เอาไป  ๕  คะแนน  (เพราะเป็นคำถามที่ผมถามเพิ่มภายหลัง
จึงต้องให้คะแนนน้อยกว่าคะแนนเต็มในข้อ)


บันทึกการเข้า
Wandee
หนุมาน
********
ตอบ: 4006


ความคิดเห็นที่ 248  เมื่อ 16 ก.พ. 11, 15:46

คุณอาร์ตสหาย


       ดวงท่านตกมีผู้อุปการะเป็นเสนาบดีฝ่ายบุ๋น         ตัวท่านนั้นยังจะเจริญไปภายหน้าอีกมาก
       โปรดระวังชายผิวขาว  ผมดำสนิท    มาในรูปปุโรหิต
       สตรีสกุลสูงจะเป็นที่พึ่งได้


       คงมีโอกาสในวันหน้า  ที่จะเล่าเรื่องกลอุบายศึกที่มีการบันทึกไว้แต่ยังไม่เป็นที่รู้ทั่วไป     ผู้นำของเราและพระญาติพระวงศ์ล้วนกรำศึก

ทหารอาทมาตที่ออกไปดูข่าวทัพพม่านั้น    เจ้านายคายหมากอาพัดให้เป็นกำลังใจ          ความจงรักภักดีนั้นมีเหตุอยู่
บันทึกการเข้า
siamese
หนุมาน
********
ตอบ: 7165


หนุ่มรัตนะกับภูเขาทอง


ความคิดเห็นที่ 249  เมื่อ 16 ก.พ. 11, 15:47

โอ้โฮ   นี่เจ้าของแผงพระเครื่องมาตอบเองหรือเปล่าเนี่ย
ดีนะว่า ไม่มีใครบอกบอกรายละเอียดสำหรับพิจารณาของแท้ของปลอม ราคาซื้อขายมาด้วย


กะอยู่แต่เกรงใจจะยาว  ยิ้มเท่ห์ ส่วนราคาซื้อขายได้บอกไปในเรื่องหนุมานแล้ว  ยิงฟันยิ้ม
บันทึกการเข้า
luanglek
นิลพัท
*******
ตอบ: 2894


ความคิดเห็นที่ 250  เมื่อ 16 ก.พ. 11, 15:54

ก่อนจะตรวจเครื่องรางของขลังของแต่ละคนว่าใครแท้ใครปลอม
ผมขอตั้งคำถามเพิ่ม

คำถามข้อที่ ๖๙.

จากภาพต่อไปนี้  เป็นประติมากรรมเรื่องรามเกียรติ์ตอนใด (เล่ามาพอรู้เรื่อง)
และของสิ่งนี้  ใครเป็นคนทำ  ทำขึ้นเมื่อใด  ทำขึ้นในโอกาสใด  และทำขึ้นเพื่อประโยชน์อะไร

ข้อนี้ ๓๐ คะแนน  ตอบหน้าไมค์  ให้เวลาตอบจนถึงวันจันทร์ที่ ๒๑  กุมภาพันธ์ ๒๕๕๔
เวลา ๐๘.๐๐ น.  พ้นนี้แล้วจะเฉลยคำตอบ


บันทึกการเข้า
siamese
หนุมาน
********
ตอบ: 7165


หนุ่มรัตนะกับภูเขาทอง


ความคิดเห็นที่ 251  เมื่อ 16 ก.พ. 11, 16:07

ก่อนจะตรวจเครื่องรางของขลังของแต่ละคนว่าใครแท้ใครปลอม
ผมขอตั้งคำถามเพิ่ม

คำถามข้อที่ ๖๙.

จากภาพต่อไปนี้  เป็นประติมากรรมเรื่องรามเกียรติ์ตอนใด (เล่ามาพอรู้เรื่อง)
และของสิ่งนี้  ใครเป็นคนทำ  ทำขึ้นเมื่อใด  ทำขึ้นในโอกาสใด  และทำขึ้นเพื่อประโยชน์อะไร

ข้อนี้ ๓๐ คะแนน  ตอบหน้าไมค์  ให้เวลาตอบจนถึงวันจันทร์ที่ ๒๑  กุมภาพันธ์ ๒๕๕๔
เวลา ๐๘.๐๐ น.  พ้นนี้แล้วจะเฉลยคำตอบ

คงเป็นตอนที่พระรามปราบยักษ์ตนใดตนหนึ่ง น่าจะเป็นพระยาขร  มีนางสีดาอยู่ด้วยด้านหลัง วัตถุนี้มีอยู่หลายชิ้น ปัจจุบันตั้งอยู่ในพระบรมมหาราชวัง ทำขึ้นมาเพื่อเป็นเครื่องประดับพระเมรุแห่งสมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ เมื่องานพระเมรุในวันพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ ครับผม

วัสดุนั้นน่าจะทำด้วยไม้ระกำ ไม้กลึง ปิดทอง เขียนสี ครับ ประดิษฐ์ขึ้นโดยพระองค์เจ้าประดิษฐ์วรการ หัวหน้าช่างสิบหมู่เป็นผู้ควบคุมการประดิษฐ์ จัดอยู่ในครอบแก้ว สูงประมาณ ๒๐ ซม. เมื่อ พ.ศ. ๒๔๒๔


บันทึกการเข้า
siamese
หนุมาน
********
ตอบ: 7165


หนุ่มรัตนะกับภูเขาทอง


ความคิดเห็นที่ 252  เมื่อ 16 ก.พ. 11, 16:27

ตะแล๊บแก๊บ มาว่า อยากเห็นเสียนี่กระไร จึงจัดให้อีก คงจะตาลุกวาวยิ่งกว่านกฮูก


บันทึกการเข้า
siamese
หนุมาน
********
ตอบ: 7165


หนุ่มรัตนะกับภูเขาทอง


ความคิดเห็นที่ 253  เมื่อ 16 ก.พ. 11, 16:32

ปัจจุบันอยู่ในพระบรมมหาราชวัง น่าจะคล้ายๆตรงหมู่พระที่นั่งไพศาลทักษิณ ในบริเวณที่ตั้งของพระที่นั่งอัฐทิศ และพระที่นั่งภัทรบิศ


บันทึกการเข้า
luanglek
นิลพัท
*******
ตอบ: 2894


ความคิดเห็นที่ 254  เมื่อ 16 ก.พ. 11, 16:45

ก่อนจะตรวจเครื่องรางของขลังของแต่ละคนว่าใครแท้ใครปลอม
ผมขอตั้งคำถามเพิ่ม

คำถามข้อที่ ๖๙.

จากภาพต่อไปนี้  เป็นประติมากรรมเรื่องรามเกียรติ์ตอนใด (เล่ามาพอรู้เรื่อง)
และของสิ่งนี้  ใครเป็นคนทำ  ทำขึ้นเมื่อใด  ทำขึ้นในโอกาสใด  และทำขึ้นเพื่อประโยชน์อะไร

ข้อนี้ ๓๐ คะแนน  ตอบหน้าไมค์  ให้เวลาตอบจนถึงวันจันทร์ที่ ๒๑  กุมภาพันธ์ ๒๕๕๔
เวลา ๐๘.๐๐ น.  พ้นนี้แล้วจะเฉลยคำตอบ

คงเป็นตอนที่พระรามปราบยักษ์ตนใดตนหนึ่ง น่าจะเป็นพระยาขร  มีนางสีดาอยู่ด้วยด้านหลัง วัตถุนี้มีอยู่หลายชิ้น ปัจจุบันตั้งอยู่ในพระบรมมหาราชวัง ทำขึ้นมาเพื่อเป็นเครื่องประดับพระเมรุแห่งสมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ เมื่องานพระเมรุในวันพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ ครับผม

วัสดุนั้นน่าจะทำด้วยไม้ระกำ ไม้กลึง ปิดทอง เขียนสี ครับ ประดิษฐ์ขึ้นโดยพระองค์เจ้าประดิษฐ์วรการ หัวหน้าช่างสิบหมู่เป็นผู้ควบคุมการประดิษฐ์ จัดอยู่ในครอบแก้ว สูงประมาณ ๒๐ ซม. เมื่อ พ.ศ. ๒๔๒๔

ว้า  ท่าทางจะง่าย   งั้นขอเลื่อนเวลาหมดกำหนดตอบมาอยู่วันศุกร์ที่ ๑๘ กุมภาพันธ์นี้
เวลา ๑๘.๐๐ น.


ข้อความที่เส้นใต้นั้น  ถูกต้อง   นอกนั้นยังไม่ถูก
ตอนนี้ได้มาแล้ว  ๑๕ คะแนน   คะแนนอีกครึ่งอยู่ที่เนื้อเรื่องของประติมากรรม
ขอให้หาคำตอบได้เร็วๆ  เอาใจช่วยจริงๆ นะเนี่ย ยิงฟันยิ้ม
บันทึกการเข้า
หน้า: 1 ... 15 16 [17] 18 19 ... 22
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.112 วินาที กับ 20 คำสั่ง