ระหว่างที่ท่านทั้งหลายไปปราบฮ่อกันอยู่ ดิฉันขอกลับไปสังเกตการณ์ฝรั่งเศสปิดปากอ่าวก่อน เพราะศึกยังไม่จบ

ขอต่อจากที่คุณ Navarat.C โพสค้างเอาไว้ ในเรื่องสงครามปิดปากอ่าวไทยครั้งนั้น มีบันทึกถึงความไม่พร้อมรบทางฝ่ายสยามกันอยู่ ไม่ใช่แค่ฝรั่งเศสบุกเข้ามาแบบเจ้าพ่อเท่านั้น
ทางฝ่ายสยาม มีเรือรบ ๒ ลำ คือ เรือมกุฎราชกุมาร และ เรือมูรธาวสิตสวัสดิ์ ที่เอาไว้ต่อกรกับข้าศึก แต่ก็เป็นเรือล้าสมัย เพราะเป็นเรือโดยสารไม่ใช่เรือรบ ส่วนกองทัพบกก็ล้าสมัย มีทหารทำหน้าที่รักษาพระนครรอบนอก กระจายกำลังไปตามแนวแม่น้ำเจ้าพระยา ตั่งแต่เมืองสมุทรปราการยันพระโขนง ภายในกำแพงพระนครก็ได้กระจายกำลังไปรักษาพื้นที่ย่านสระปทุม บางรักและฝั่งธนบุรี พร้อมกันนั้นยังมีทหารอาสาสมัคร ของพระยาสุรศักดิ์มนตรี อีกประมาณ 1,800 คน กระจายกำลังกันรักษาพระนครอยู่ทั่วไป
คืนวันที่ 13 กรกฎาคม เรือรบฝรั่งเศสก็บุกผ่านเข้าปากแม่น้ำเจ้าพระยามา โดยมีเรือ เจ.เบ.เซย์ (Jean Baptist Say) เป็น เรือนำร่อง ป้อมพระจุลจอมเกล้าจึงได้ยิงปืนใหญ่เข้าสกัด ต่างฝ่ายก็ระดมยิงตอบโต้กัน เรือรบไทยที่จอดอยู่เหนือป้อม ก็เข้าระดมยิงไปยังเรือรบฝรั่งเศส เรือนำร่องของฝรั่งเศสถูกยิงจนไปเกยตื้นอยู่ริมฝั่ง การรบดำเนินไปได้เพียงครึ่งชั่วโมงเศษ ก็สิ้นสุดลงเพราะเป็นคืนเดือนมืด เรือรบฝรั่งเศสทั้งสองลำจึงสามารถตีฝ่าแนวป้องกันของสยาม เข้ามาได้เทียบเท่าอยู่หน้าสถานทูตฝรั่งเศสในพระนครได้สำเร็จ และได้หันปืนใหญ่เข้าสู่พระบรมมหาราชวัง