เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: 1 ... 14 15 [16] 17
  พิมพ์  
อ่าน: 78575 ๑๐๐ คำถามเรื่องรามเกียรติ์ (สำหรับแฟนพันธุ์แท้) ๒
art47
องคต
*****
ตอบ: 739


ความคิดเห็นที่ 225  เมื่อ 31 ม.ค. 11, 13:58

คำถามข้อที่ ๔๙.

จงต่อกลอนต่อไปนี้ให้ครบบท  ๑๐ คำกลอน  
แล้วตอบคำถามว่า  กลอนนี้มาจากบทละครรามเกียรติ์
สำนวน/ฉบับใด  ตอนใด  ใครแต่ง  และใช้เพลงอะไรบรรเลงส่ง ?
ข้อนี้  ๒๐  คะแนน   ตอบหน้าไมค์  

ไม่ขอตอบ เพราะตอบไม่ได้ เพราะหาไม่เจอ เพราะไม่อยากเดา เพราะ....... ร้องไห้
รู้แค่ว่า ไม่มีใน บทละครครั้งกรุงธนบุรี
                บทละครครั้งรัชกาลที่ 1
                บทละครครั้งรัชกาลที่ 2
                บทละครครั้งรัชกาลที่ 4 (พระรามเดินดง)

ถ้าเป็นบทละคร คงอยู่ในช่วงรัชกาลที่ 5-6 แต่คงไม่ใช่ฉบับของหลวง
อาจจะเป็นของเชลยศักดิ์ หรือเจ้านายพระองค์ใดหรือขุนนางท่านใดแต่งไว้
บันทึกการเข้า
art47
องคต
*****
ตอบ: 739


ความคิดเห็นที่ 226  เมื่อ 31 ม.ค. 11, 14:00

ใครเห็นคำถาม ข้อที่ ๔๘. บ้างคะ  ฮืม

จริงด้วย
หรือจะล่องหนแบบวิรุญจำบัง ยิงฟันยิ้ม
บันทึกการเข้า
siamese
หนุมาน
********
ตอบ: 7165


หนุ่มรัตนะกับภูเขาทอง


ความคิดเห็นที่ 227  เมื่อ 31 ม.ค. 11, 14:02

วันนี้เห็นน้องอาร์ท ร้องไห้ สองครั้งแล้ว เช้า ๑ บ่าย ๑ ...เหลือตอนค่ำ และกลางดึกอีก ๑ สู้ๆครับ

บันทึกการเข้า
luanglek
นิลพัท
*******
ตอบ: 2894


ความคิดเห็นที่ 228  เมื่อ 31 ม.ค. 11, 14:08

คุณอาร์ท  คุณมีคลังแสงน้อยกว่าผม
จึงไม่พบบทที่ผมเอามาเป็นโจทย์

ผมกำลังคิดเล่นๆ ว่า นักรบท่านหนึ่งซึ่งหายตัวไปในระหว่างรบตอนสายๆ
อาจจะกำลังไปค้นหารามเกียรติ์อย่างผลิกแผ่นดิน
(และคงแอบนินทาคนตั้งคำถามว่า
อีตาคุณหลวง  ไปเอารามเกียรติ์เล่มไหนมาตั้งคำถามเนี่ย
ยากเหลือทน)

อ้างถึง
ถ้าเป็นบทละคร คงอยู่ในช่วงรัชกาลที่ 5-6 แต่คงไม่ใช่ฉบับของหลวง
อาจจะเป็นของเชลยศักดิ์ หรือเจ้านายพระองค์ใดหรือขุนนางท่านใดแต่งไว้

ที่สันนิษฐานมานั้น  (ภาษาปากว่า เดา) นับแต่การเหวี่ยงแหที่ขาดทุนมาก
เพราะได้ปลาเข็มติดมาตัวเดียว
บันทึกการเข้า
siamese
หนุมาน
********
ตอบ: 7165


หนุ่มรัตนะกับภูเขาทอง


ความคิดเห็นที่ 229  เมื่อ 31 ม.ค. 11, 14:17

(และคงแอบนินทาคนตั้งคำถามว่า
อีตาคุณหลวง  ไปเอารามเกียรติ์เล่มไหนมาตั้งคำถามเนี่ย
ยากเหลือทน)



ท่านเดาถูกอย่างกับตาเห็น  ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม ได้รับทราบรับรู้เมื่อเวลา ๑๐.๔๒ น. ช่วงนั้นท่านมีอาการคัดจมูก ครั่นเนื้อครั่นตัวไหม เป็นกลศึกของพวกเรา อิอิ...
บันทึกการเข้า
luanglek
นิลพัท
*******
ตอบ: 2894


ความคิดเห็นที่ 230  เมื่อ 31 ม.ค. 11, 14:18

เล่นกันมาตั้งแต่เช้า  คิดว่าจะไม่มีคนเอะอะเสียแล้ว

คำถามข้อที่ ๔๘.  ฤาษีวาลมีกิ ผู้แต่งมหากาพย์รามายณะ
มีประวัติเป็นมาโดยละเอียดอย่างไร  ทำไมถึงได้ชื่อว่าวาลมีกิ

ข้อนี้  ๒๐  คะแนน   ตอบหน้าไมค์  ก่อนถึงเวลา ๐๘.๐๐ น.
ของวันพรุ่งนี้ (๑ กุมภาพันธ์)  ตอบหลังจากนั้น
คะแนนลดลง ครึ่งชั่วโมงละ ๒ คะแนน
บันทึกการเข้า
luanglek
นิลพัท
*******
ตอบ: 2894


ความคิดเห็นที่ 231  เมื่อ 31 ม.ค. 11, 14:24

(และคงแอบนินทาคนตั้งคำถามว่า
อีตาคุณหลวง  ไปเอารามเกียรติ์เล่มไหนมาตั้งคำถามเนี่ย
ยากเหลือทน)



ท่านเดาถูกอย่างกับตาเห็น  ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม ได้รับทราบรับรู้เมื่อเวลา ๑๐.๔๒ น. ช่วงนั้นท่านมีอาการคัดจมูก ครั่นเนื้อครั่นตัวไหม เป็นกลศึกของพวกเรา อิอิ...

มิน่าเล่า   ถึงได้มีอาการบ้างเมื่อยามสายของวันนี้
เป็นกลศึกพวกเสือป่าแมวเซาที่แอบแฝงพงหญ้าคอยตีตัดกำลังทัพใหญ่
แต่เสียใจ บ่ยั่นครับ
บันทึกการเข้า
:D :D
นิลพัท
*******
ตอบ: 2333


ความคิดเห็นที่ 232  เมื่อ 31 ม.ค. 11, 14:26

คำถามข้อที่ ๔๘.  ฤาษีวาลมีกิ ผู้แต่งมหากาพย์รามายณะ
มีประวัติเป็นมาโดยละเอียดอย่างไร  ทำไมถึงได้ชื่อว่าวาลมีกิ

ขอตอบค่ะ(รีบตอบ กลัวโดนลดคะแนน   ยิงฟันยิ้ม )
 
พระมหาฤๅษีวาลมีกิ ผู้แต่งมหากาพย์รามายณะ เกิดในสกุลพราหมณ์ มีชื่อว่า รัตนากร (แปลว่าบ่อเกิดแห่งแก้วมณี) บิดามารดาของท่านมีนามใดไม่ปรากฏ เมื่อเยาว์วัยชอบสมาคมกับชาวป่าและพวกโจร จนกระทั่งกลายเป็นโจรป่าไปด้วย ท่านเป็นมหาโจรที่ผู้คนพากันเกรงขามเป็นอันมาก

วันหนึ่ง สัปตฤๅษี คือ ฤๅษี 7 ตน ได้แก่ พระวิศวามิตร พระชมทัคนี พระภรัทวาช พระเคาตมะ พระอัตริ พระวศิษฐ์ และพระไกศยปะ ได้ผ่านมาในละแวกที่โจรรัตนากรพักอาศัยอยู่ โจรรัตนากรได้ทราบข่าวจึงมาดักจับฤๅษีทั้งเจ็ดนั้นเพื่อฉกชิงเครื่องบริขาร สัปตฤๅษีก็แปลกใจที่โจรผู้นี้ปล้นไม่เลือกแม้กระทั่งฤๅษี
ฤๅษีตนหนึ่งจึงเอ่ยถามโจรรัตนากรว่า รู้หรือไม่ว่าพวกท่านทั้งเจ็ดนี้เป็นผู้ใด โจรรัตนากรก็ตอบว่า ไม่ต้องใส่ใจว่าจะเป็นใครมาจากไหน ตนมีหน้าที่ปล้นก็ต้องทำหน้าที่นั้น เพื่อหาเลี้ยงครอบครัว บุตร ภรรยา พระฤๅษีจึงถามต่อไปว่า เมื่อโจรต้องรับผลร้ายแห่งอกุศลกรรมนี้แล้ว ลูกเมียของโจรที่ได้แบ่งทรัพย์สินไปนั้นจะยอมรับแบ่งผลแห่งกรรมร้ายไปด้วยหรือ
เพื่อให้หายสงสัยโจรก็จะกลับไปถามลูกเมียดู โดยจะมัดฤๅษีทั้งเจ็ดไว้กับต้นไม้ก่อนเพื่อกันมิให้หนี เมื่อตนไปถามลูกเมียแล้ว หากยินยอมรับแบ่งผลแห่งอกุศลกรรมที่ตนกระทำไปเพื่อลูกเมียแล้ว ก็จะกลับมาสังหารสัปตฤๅษีเสีย แต่ถ้าพวกเขาไม่ยอมรับแบ่งผลแห่งกรรมชั่วนั้น ตนก็จะกลับมาปล่อยฤๅษีทั้งหมดให้เป็นอิสระ แล้วโจรรัตนากรก็รีบเดินทางมายังที่พักของตน
เมื่อถึงที่พัก โจรรัตนากรก็ถามลูกของตนว่า ทุกคนจะยอมรับผลของการโจรกรรมของตนด้วยหรือไม่ ลูกๆก็พากันตอบว่า ไม่ขอรับรู้รับเห็นผลกรรมใดๆที่บิดาก่อไว้ทั้งสิ้น ครั้นโจรรัตนากรหันไปถามภรรยา ภรรยาก็ปฏิเสธในทำนองเดียวกัน เมื่อการณ์กลับกลายไปจากที่ตนคิด โจรรัตนากรก็เศร้า เสียใจ จึงนำเครื่องบริขารทั้งปวงที่ตนปล้นกลับมาคืนสัปตฤๅษี แล้วปลดปล่อยให้เป็นอิสระ พร้อมกับสารภาพผิด แล้วก็ขอให้ฤๅษีทั้งเจ็ดนั้นช่วยบอกวิธีแก้บาปที่ทำมาแล้วให้ด้วย ฤๅษีทั้งเจ็ดนั้นก็บอกคาถาให้โจรรัตนากร
โจรรัตนากรเป็นผู้ที่มีความตั้งใจอันแน่วแน่ ได้นั่งสมาธิภาวนาว่า “ราม ราม ราม” อยู่ใต้ต้นไม้นั้นต่อเนื่องกันโดยไม่ยอมรับประทานอาหารใดๆเลย กาลเวลาผ่านไปหลายร้อยปีจนปลวกทำรังขึ้นรอบร่างของโจรรัตนากรที่กลับใจแล้วคงเหลือแต่จมูกไว้หายใจเท่านั้น

ในที่สุดพระรามก็สำแดงพระองค์ให้ปรากฏ จอมปลวกนั้นก็หายไป ดังนั้นโจรรัตนากรจึงได้นามว่า “วาลมีกิ” แปลว่า “ผู้เกิดจากจอมปลวก” พระรามได้แตะศีรษะของวาลมีกิแล้วประทานพรให้เป็นผู้ทรงวิทยาคุณทุกสิ่งสรรพ์ แต่นั้นมาโจรรัตนากรก็ได้เป็นพระมหาฤๅษีวาลมีกิ (รามเกียรติ์ของไทยเรียกฤๅษี “วัชมฤคี”)
บันทึกการเข้า
luanglek
นิลพัท
*******
ตอบ: 2894


ความคิดเห็นที่ 233  เมื่อ 31 ม.ค. 11, 14:28

คุณดีดี  ไวปานกามนิตหนุ่ม   ตอบได้ครบถ้วน
เอาไป  ๒๐ คะแนน
บันทึกการเข้า
siamese
หนุมาน
********
ตอบ: 7165


หนุ่มรัตนะกับภูเขาทอง


ความคิดเห็นที่ 234  เมื่อ 31 ม.ค. 11, 14:40

ตอบข้อ ๔๘.
พระมหาฤๅษีวาลมีกิ ผู้แต่งมหากาพย์รามายณะ ท่านผู้นี้ เกิดในสกุลพราหมณ์ มีประวัติว่าเมื่อเยาว์วัยชอบสมาคมกับชาวป่าและพวกโจร จนกระทั่งกลายเป็นโจรป่าไปด้วย ท่านมีชื่อว่า รัตนากร (แปลว่าบ่อเกิดแห่งแก้วมณี) บิดามารดาของท่านมีนามใดไม่ปรากฏ ท่านเป็นมหาโจรที่ผู้คนพากันเกรงขามเป็นอันมาก
วันหนึ่ง สัปตฤๅษี คือ ฤๅษี 7 ตน ได้แก่ พระวิศวามิตร พระชมทัคนี พระภรัทวาช พระเคาตมะ พระอัตริ พระวศิษฐ์ และพระไกศยปะ ได้ผ่านมาในละแวกที่โจรรัตนากรพักอาศัยอยู่ โจรรัตนากรได้ทราบข่าวจึงมาดักจับฤๅษีทั้งเจ็ดนั้นเพื่อฉกชิงเครื่องบริขาร สัปตฤๅษีก็แปลกใจที่โจรผู้นี้ปล้นไม่เลือกแม้กระทั่งฤๅษี
ฤๅษีตนหนึ่งจึงเอ่ยถามโจรรัตนากรว่า รู้หรือไม่ว่าพวกท่านทั้งเจ็ดนี้เป็นผู้ใด โจรรัตนากรก็ตอบว่า ไม่ต้องใส่ใจว่าจะเป็นใครมาจากไหน ตนมีหน้าที่ปล้นก็ต้องทำหน้าที่นั้น เพื่อหาเลี้ยงครอบครัว บุตร ภรรยา พระฤๅษีจึงถามต่อไปว่า เมื่อโจรต้องรับผลร้ายแห่งอกุศลกรรมนี้แล้ว ลูกเมียของโจรที่ได้แบ่งทรัพย์สินไปนั้นจะยอมรับแบ่งผลแห่งกรรมร้ายไปด้วยหรือ
เพื่อให้หายสงสัยโจรก็จะกลับไปถามลูกเมียดู โดยจะมัดฤๅษีทั้งเจ็ดไว้กับต้นไม้ก่อนเพื่อกันมิให้หนี เมื่อตนไปถามลูกเมียแล้ว หากยินยอมรับแบ่งผลแห่งอกุศลกรรมที่ตนกระทำไปเพื่อลูกเมียแล้ว ก็จะกลับมาสังหารสัปตฤๅษีเสีย แต่ถ้าพวกเขาไม่ยอมรับแบ่งผลแห่งกรรมชั่วนั้น ตนก็จะกลับมาปล่อยฤๅษีทั้งหมดให้เป็นอิสระ แล้วโจรรัตนากรก็รีบเดินทางมายังที่พักของตน
เมื่อถึงที่พัก โจรรัตนากรก็ถามลูกของตนว่า ทุกคนจะยอมรับผลของการโจรกรรมของตนด้วยหรือไม่ ลูกๆก็พากันตอบว่า ไม่ขอรับรู้รับเห็นผลกรรมใดๆที่บิดาก่อไว้ทั้งสิ้น ครั้นโจรรัตนากรหันไปถามภรรยา ภรรยาก็ปฏิเสธในทำนองเดียวกัน เมื่อการณ์กลับกลายไปจากที่ตนคิด โจรรัตนากรก็เศร้า เสียใจ จึงนำเครื่องบริขารทั้งปวงที่ตนปล้นกลับมาคืนสัปตฤๅษี แล้วปลดปล่อยให้เป็นอิสระ พร้อมกับสารภาพผิด แล้วก็ขอให้ฤๅษีทั้งเจ็ดนั้นช่วยบอกวิธีแก้บาปที่ทำมาแล้วให้ด้วย ฤๅษีทั้งเจ็ดนั้นก็บอกคาถาให้โจรรัตนากร
โจรรัตนากรเป็นผู้ที่มีความตั้งใจอันแน่วแน่ ได้นั่งสมาธิภาวนาว่า “ราม ราม ราม” อยู่ใต้ต้นไม้นั้นต่อเนื่องกันโดยไม่ยอมรับประทานอาหารใดๆเลย กาลเวลาผ่านไปหลายร้อยปีจนปลวกทำรังขึ้นรอบร่างของโจรรัตนากรที่กลับใจแล้วคงเหลือแต่จมูกไว้หายใจเท่านั้น
ในที่สุดพระรามก็สำแดงพระองค์ให้ปรากฏ จอมปลวกนั้นก็หายไป ดังนั้นโจรรัตนากรจึงได้นามว่า “วาลมีกิ” แปลว่า “ผู้เกิดจากจอมปลวก” พระรามได้แตะศีรษะของวาลมีกิแล้วประทานพรให้เป็นผู้ทรงวิทยาคุณทุกสิ่งสรรพ์ แต่นั้นมาโจรรัตนากรก็ได้เป็นพระมหาฤๅษีวาลมีกิ (รามเกียรติ์ของไทยเรียกฤๅษี “วัชมฤคี”)
มูลเหตุที่ท่านมหาฤๅษีวาลมีกิจะแต่งมหากาพย์รามายณะขึ้นนั้นได้มีเรื่องเล่าว่า ครั้งหนึ่ง พระนารทมหาฤๅษีได้มาเยี่ยมพระมหาฤๅษีวาลมีกิที่อาศรม พระมหาฤๅษีวาลมีกิจึงได้ถามท่านว่าในบรรดาวีรบุรุษทั้งหลายในโลกนี้นั้น ผู้ใดที่ทรงคุณธรรมและปัญญาสูงสุด พระนารทก็ตอบว่า ผู้นั้นคือพระราม ผู้ครองกรุงอโยธยา แล้วก็เล่าเรื่องราวของพระรามให้พระวาลมีกิฟัง พระวาลมีกิก็ฝังใจในเรื่องที่พระนารทกล่าวยกย่องพระรามอยู่ตลอดเวลา
จนกระทั่งวันหนึ่ง พระวาลมีกิได้ไปที่ฝั่งน้ำตมสาใกล้แม่น้ำคงคา เพื่อสรงน้ำตามพิธีพราหมณ์ ขณะนั้นท่านก็ได้เห็นนกกระเรียนสองตัวผัวเมียโลดแล่นคลอเคลียกันอยู่ ครู่หนึ่งนกกระเรียนตัวผู้ก็ถูกธนูของนายพรานตาย นกกระเรียนตัวเมียก็โศกเศร้าอาลัยอาวรณ์มาก พระวาลมีกิเห็นภาพนั้นแล้วก็เกิดความสังเวชใจ จึงเปล่งสำเนียงแสดงความสงสารอันจับใจออกมาที่ความไพเราะมาก พระพรหมจึงเสด็จลงมาตรัสให้พระวาลมีกิแต่งเรื่องรามายณะขึ้นโดยใช้ฉันท์โศลกนั้น พระวาลมีกิจึงเข้าสมาธิเล็งญาณ เห็นเรื่องราวของพระรามจันทร์ครองกรุงอโยธยาอยู่นั้นเอง หลังจากนั้น พระวาลมีกิก็ได้เล่าสอนเรื่อง รามายณะนี้ให้แก่ศิษย์จดจำสืบต่อกันมาอย่างต่อเนื่อง นานาฤๅษีก็ได้ขับสวดโศลกอันไพเราะจับใจนี้เป็นเพลงสรรเสริญพระรามต่อเนื่องกันมาจนบัดนี้ สมดังคำตรัสของพระพรหมว่า “ตราบใดที่ขุนคีรียังยืนตระหง่านง้ำและธารน้ำยังหลั่งไหล ตราบนั้นรามายณะก็จะสถิตสถาพรอยู่ตลอดไป บรรดาเหล่าชน ผู้ประพฤติธรรมจึงได้หลุดพ้นจากบาปกรรมทั้งปวง”


โดย อาจารย์ฉลวย มงคล
คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์
บันทึกการเข้า
luanglek
นิลพัท
*******
ตอบ: 2894


ความคิดเห็นที่ 235  เมื่อ 31 ม.ค. 11, 15:01

คุณไซมิสก็เร็วเหมือนกัน  เอาไป ๒๐ คะแนน
แต่ผมจะหักคะแนน ๑ คะแนน  เหลือ ๑๙ คะแนน
เพราะรัตนากรไม่ได้บริกรรมว่า ราม ราม
แต่บริกรรมว่า  มะรา มะรา  ต่างหาก
บันทึกการเข้า
luanglek
นิลพัท
*******
ตอบ: 2894


ความคิดเห็นที่ 236  เมื่อ 31 ม.ค. 11, 15:05

วันนี้เห็นน้องอาร์ท ร้องไห้ สองครั้งแล้ว เช้า ๑ บ่าย ๑ ...เหลือตอนค่ำ และกลางดึกอีก ๑ สู้ๆครับ



เห็นท่าจะต้องร้องไห้ไปจนตลอดรุ่งสางของวันใหม่
ถ้าหนักหน่อย ก็อาจจะร้องไห้จนขี้ตามากเป็นจอมปลวก ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม
บันทึกการเข้า
art47
องคต
*****
ตอบ: 739


ความคิดเห็นที่ 237  เมื่อ 31 ม.ค. 11, 15:28

คุณอาร์ท  คุณมีคลังแสงน้อยกว่าผม
จึงไม่พบบทที่ผมเอามาเป็นโจทย์

อ้างถึง
ถ้าเป็นบทละคร คงอยู่ในช่วงรัชกาลที่ 5-6 แต่คงไม่ใช่ฉบับของหลวง
อาจจะเป็นของเชลยศักดิ์ หรือเจ้านายพระองค์ใดหรือขุนนางท่านใดแต่งไว้

ที่สันนิษฐานมานั้น  (ภาษาปากว่า เดา) นับแต่การเหวี่ยงแหที่ขาดทุนมาก
เพราะได้ปลาเข็มติดมาตัวเดียว

มิเป็นไรดอกท่านแม่ทัพ
เพียงปลาเข็มตัวเดียวก็พอจะปะทังชีวิตให้อยู่รอด ในยามสงครามเช่นนี้ ข้าวปลาอาหารมันช่างอัตคัดนัก
พูดเรื่องอาวุธ ก็มีเพียงจอบ เสียม พร้า ประตัก เท่านั้น
เรามันชาวไร่ชาวนาถูกเกณฑ์ไปสงคราม
แม้ด้วยความเต็มใจ แต่จะสู้อะไรกับชนชั้นซามูไรได้เล่า

วันนี้เห็นน้องอาร์ท ร้องไห้ สองครั้งแล้ว เช้า ๑ บ่าย ๑ ...เหลือตอนค่ำ และกลางดึกอีก ๑ สู้ๆครับ



เห็นท่าจะต้องร้องไห้ไปจนตลอดรุ่งสางของวันใหม่
ถ้าหนักหน่อย ก็อาจจะร้องไห้จนขี้ตามากเป็นจอมปลวก ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม

ดีที่สงครามจบแล้ว
ไม่งั้นนายกองไซมีสแลคุณหลวงแม่ทัพคงได้เห็นเด็กร้องไห้ขี้มูกโป่งเป็นแน่
 ร้องไห้ ร้องไห้ ร้องไห้ (เบิ้ลสามทีให้เลย)
บันทึกการเข้า
luanglek
นิลพัท
*******
ตอบ: 2894


ความคิดเห็นที่ 238  เมื่อ 31 ม.ค. 11, 15:51


มิเป็นไรดอกท่านแม่ทัพ
เพียงปลาเข็มตัวเดียวก็พอจะปะทังชีวิตให้อยู่รอด
ในยามสงครามเช่นนี้ ข้าวปลาอาหารมันช่างอัตคัดนัก
พูดเรื่องอาวุธ ก็มีเพียงจอบ เสียม พร้า ประตัก เท่านั้น
เรามันชาวไร่ชาวนาถูกเกณฑ์ไปสงคราม
แม้ด้วยความเต็มใจ แต่จะสู้อะไรกับชนชั้นซามูไรได้เล่า


............
ดีที่สงครามจบแล้ว
ไม่งั้นนายกองไซมีสแลคุณหลวงแม่ทัพคงได้เห็นเด็กร้องไห้ขี้มูกโป่งเป็นแน่
 ร้องไห้ ร้องไห้ ร้องไห้ (เบิ้ลสามทีให้เลย)

อืมม์ สถานการณ์ตกต่ำย่ำแย่อย่างนี้ 
คุณอาร์ทจะไปร่วมรบในกระทู้ด่านที่ ๓ ไหวหรือนี่
อาวุธดี  เสบียงพร้อม กลศึกที่สุขุมแยบยล
และนักรบที่กำลังใจกำลังกายดี ย่อมกรำศึกได้โดยไม่ย่นย่อ

ดูก่อนเด็กน้อย   สงครามยังเพิ่งมาถึงกลางทาง
อย่าได้วางใจเด็ดขาด  บางทีถ้าเจ้าร้องเสียงดีถึงบทบาท
ตอนท้ายเราอาจจะมอบรางวัลพิเภกทอง สาขากำสรวลดีเด่น ก็ได้
แต่ต้องดูก่อนว่ามีคนอื่นจะเข้ามาแข่งสาขานี้หรือไม่
(เอ...จำได้ว่า มีคุณหนูดีดีเคยทำบทเด่นในสาขานี้ด้วย)

บันทึกการเข้า
art47
องคต
*****
ตอบ: 739


ความคิดเห็นที่ 239  เมื่อ 31 ม.ค. 11, 16:02

อืมม์ สถานการณ์ตกต่ำย่ำแย่อย่างนี้  
คุณอาร์ทจะไปร่วมรบในกระทู้ด่านที่ ๓ ไหวหรือนี่
อาวุธดี  เสบียงพร้อม กลศึกที่สุขุมแยบยล
และนักรบที่กำลังใจกำลังกายดี ย่อมกรำศึกได้โดยไม่ย่นย่อ

ดูก่อนเด็กน้อย   สงครามยังเพิ่งมาถึงกลางทาง
อย่าได้วางใจเด็ดขาด  บางทีถ้าเจ้าร้องเสียงดีถึงบทบาท
ตอนท้ายเราอาจจะมอบรางวัลพิเภกทอง สาขากำสรวลดีเด่น ก็ได้
แต่ต้องดูก่อนว่ามีคนอื่นจะเข้ามาแข่งสาขานี้หรือไม่
(เอ...จำได้ว่า มีคุณหนูดีดีเคยทำบทเด่นในสาขานี้ด้วย)

ดูราก่อนเถิดขุนพลใหญ่
แม้อาวุธ เสบียง และกลศึกจะไม่เข้มแข็งเท่าท่าน
แต่หากกระผมทำสงครามกองโจรตัดชิงเสบียง วางยาในแหล่งน้ำ ระเบิดภูเขา เผากระท่อม แล้วไซร้
ศึกหน้าคงยืดยาวยาวนานเป็นแน่แท้ แลบลิ้น

ขอสมาด้วยที่ปัดไมตรี
แต่ชายชาติทหารทำสงครามก็เพื่อเกียรติยศของตนให้เป็นที่เลื่องลือทั้งไตรภพ
รางวัลบำเหน็จทรัพย์สินเงินทองใดๆ หาต้องการไม่

...บางทีหากสงครามใหม่สิ้นสุด กระผมอาจจะหลบลี้จากเมืองใหญ่ เข้าป่าดงพงไพรไปถือศีลภาวนาชำระบาปบำเพ็ญพรตก็เป็นได้
บันทึกการเข้า
หน้า: 1 ... 14 15 [16] 17
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.114 วินาที กับ 20 คำสั่ง