๑๐๐ คำถามเรื่องรามเกียรติ์ (สำหรับแฟนพันธุ์แท้) ๒

[art47]

คำถามข้อที่ ๓๖   บทละครเรื่องรามเกียรติ์  ชุด พิเภษณ์ถูกขับ  พระราชนิพนธ์รัชกาลที่ ๖  
มีรายละเอียดแตกต่างจากบทละครเรื่องรามเกียรติ์ พระราชนิพนธ์รัชกาลที่ ๑ และรัชกาลที่ ๒  
ในเนื้อเรื่องตอนเดียวกัน  อย่างไร  จงอธิบายและเปรียบเทียบ  ข้อนี้  ๑๐  คะแนน

หมายเหตุ  ห้ามโพสต์คำตอบก่อน  ๑๑.๓๐ น.  
ใครโพสต์คำตอบก่อนเวลา  จะไม่ตรวจให้คะแนน
ในความเห็นที่ตอบก่อนเวลา

คำตอบ
บทละครรามเกียรติ์ ในรัชกาลที่ 1 และที่ 2
มีเนื้อความว่า ทศกัณฐ์เกิดฝันจึงให้พิเภกทำนายฝัน
พิเภกก็จับยามสามตาแล้วทำนายว่ากรุงลงกาจะเกิดเคราะห์จากพระราม ทศกัณฐ์ต้องคืนนางสีดาไป เพื่อหายเคราะห์กรรม
ทศกัณฐ์โกรธเลยขับพิเภกออกจากเมือง

ส่วนบทละครดึกดำบรรพ์เรื่องรามเกียรติ์ ตอนพิเภษณ์ถูกขับ พระราชนิพนธ์ รัชกาลที่ 6
มีเรื่องราวว่า ทศกรรฐ์ กุมภกรรณ พิเภษณ์ อินทรชิต และเหล่าเสนายักษ์ ประชุมสภาเสนามารกัน
เพื่อปรึกษาเกี่ยวกับการป้องกันกรุงลงกาจากกองทัพพระราม
เนื้อเรื่องให้เป็นการโต้ตอบ การแสดงความคิดเห็นระหว่างทศกรรฐ์ กุมภกรรณ อินทรชิต เหล่าเสนายักษ์
แต่พิเภษณ์บอกว่าให้ทศกรรฐ์คืนนางสีดาให้พระราม ทศกรรฐ์โกรธจึงไล่พิเภษณ์ออกจากเมืองลงกา

ความแตกต่างคือ บทละครรามเกียรติ์เรื่องแรก เป็นการโต้ตอบของทศกัณฐ์และพิเภก เพียงสองตน
ส่วนเรื่องที่สอง เป็นการโต้ตอบของสภาเสนามาร อันมีพญายักษ์หลายๆ ตนร่วมแสดงความคิดเห็นกัน

[siamese]

คำถามข้อที่  ๓๗   พระราชนิพนธ์รัชกาลที่ ๖  ที่มีเนื้อเรื่องเกี่ยวกับรามเกียรติ์มีเรื่องอะไรบ้าง   
ให้คะแนนตามชื่อตอบมา  ชื่อละ ๑  คะแนน   ถ้าเป็นชื่อชุดบทละครพระราชนิพนธ์
ให้แยกเป็นชื่อตอนย่อยในชุดนั้นด้วย  ถ้าไม่แยกจะนับ ๑ คะแนนเท่านั้น   


บทละครพระราชนิพนธ์ ร.6
ตอนสีดาหาย
ตอนเผาลงกา
ตอนพิเภกถูกขับ
ตอนจองถนน
ตอนประเดิมศึกลงกา
ตอนนาคบาศ
ตอนอภิเษกสมรส
ตอนนางลอย
ตอนพิธีกุมภนียา
ตอนพรหมาสตร์
ความแตกต่างระหว่างรามเกียรติ์ ร.1 กับการแปลเรื่องรามยณะในบ่อเกิดแห่งรามเกียรติ์ มีดังนี้
1.   รามายณะแบ่งเป็นเจ็ดกัณฑ์ คือ พาลกัณฑ์, อโยธากัณฑ์, อรัณยกะกัณฑ์, กิษกินธากัณฑ์, สุนทรกัณฑ์ , ยุทธกัณฑ์ และ อุตตรกัณฑ์
1.1   พาลกัณฑ์ เริ่มด้วยฤาษีวาลมีกิ อาราธนาฤษีนารถให้แสดงรามายณะ จนถึงพระยามยกศร ได้นางสีดากลับอโยธยา
1.2   อโยธากัณฑ์ จับท้าวทศรส ปรารภให้อภิเษกพระรามเป็นยุพราช จนถึงพระรามเดินดง
1.3   อรัณยกะกัณฑ์ ตั้งแต่พระราม นางสีดา พระลักษณ์ เข้าป่าทัณฑก พระรามรบกับอูสรร้าย (พิราพ) จนถึงทศกัณฑ์ลักนางสีดา สองกษัตริย์ติดตามไปถึงเขาฤษยมูก
1.4   กิษกินธากัณฑ์ สองกษัตริย์พบพหมุมานได้สุครีพเป็ยฝากฝ่าย ฆ่าพาลี จนถึงหนุมานอาสาถวายแหวน
1.5   สุนทรกัณฑ์ หนุมานถวายแหวน จนถึงเผาเมืองลงกา
1.6   ยุทธกัณฑ์ พระรามยกพลไปพักที่เชิงเขามเหรนทร (รามเกียรต์ ร.1 เรียกว่า เหมติรัน) จองถนนข้ามไปลงกา จนถึงทศกัณฐ์ล้ม พานางสีดากลับอโยธยา
1.7   อุตตรกัณฑ์ ว่าด้วยอสุรพงศ์ วานรพงศ์ เนรเทศนางสีดา
ส่วนรามเกียรติ์ของไทยเดินเรื่องเรื่อยจนจบ
2.   รามายณะ ในพาลกัณฑ์ มีฤาษีวิศวามิตรเล่าเรื่องบรมโบราณหลายเรื่องแก่พระราม เช่น แม่น้ำคงมามาจากสวรรค์, เรื่องกวนน้ำอมฤต, ตำนานรัตนธนู  ส่วนเรื่องรามเกียรติ์ใน ร.1 ไม่กล่าวถึงเลย แต่กล่าวถึงนารายณ์อวตารปางก่อนๆ เหนือสมัยพระรามขึ้ป และกล่าวถึง อสุรพงศ์ วานรพงศ์ ซึ่งตรงกัน

   


คำถามข้อที่ ๓๗  “ลิงแม่ลูกอ่อน”   จากคำที่ให้มา  จงตั้งคำถามที่มีคำดังกล่าวเป็นคำตอบ 
พร้อมอธิบายเหตุผลประกอบว่าเกี่ยวข้องกันอย่างไร   ข้อนี้  ๕  คะแนน

คำถาม ลิงแม่ลูกอ่อนให้ข้อคิดเรื่องการเลี้ยงลูกแก่นางสีดาอย่างไร
ตอบ นางสีดาให้กำเนิดโอรสที่มีรูปกายงดงาม หลังจากที่นางสีดาให้กำเนิดบุตรแล้ว ก็ได้ไปอาบน้ำ โดยที่นางสีดาได้นำโอรสน้อยฝากไว้ให้ฤๅษีวัชมฤคช่วยดูแล
          ขณะที่นางสีดาอาบน้ำอยู่นั้น ได้มีฝูงลิงออกหากิน ในฝูงลิงนั้น มีลิงแม่ลูกอ่อนตัวหนึ่งให้ลูกเกาะหลังออกมาหากินด้วย เมื่อนางสีดาเห็นดังนั้นก็ตกใจจึงถามว่า เหตุใดจึงพาลูกออกมาเช่นนี้ ไม่กลัวลูกตกลงมาหรืออย่างไร แม่ลิงก็ตอบว่า ถึงอย่างไรลูกก็ยังอยู่ใกล้ตัว หากเกิดภัยอันตรายอะไรขึ้น ก็ยังช่วยลูกได้ทันท่วงที ไม่เหมือนนางสีดาที่ฝากลูกไว้กับพระฤๅษีที่นั่งบำเพ็ญเพียรอยู่ตลอดเวลา หากมีเสือ สิงห์อะไรเข้ามาคาบลูกไปก็ไม่รู้ แล้วนางสีดาจะเสียใจ นางสีดาเห็นดีด้วยกับคำพูดของแม่ลิง จึงได้เดินไปอุ้มลูกออกมาโดยไม่ได้บอกพระฤๅษี ด้วยเกรงจะรบกวน
         เมื่อพระฤๅษีวัชมฤคลืมตาขึ้นไม่พบโอรสของนางสีดาก็ตกใจ คิดว่า คงถูกเสือ สิงห์คาบไปกินเป็นแน่แท้ พระฤๅษีจึงได้วาดรูปทารกน้อยใส่กระดาน เตรียมทำพิธีชุบขึ้นมาเป็นโอรสองค์ใหม่ให้นางสีดา แต่นางสีดาอุ้มลูกกลับมาพอดี พระฤๅษีจึงเตรียมลบรูปทิ้ง แต่นางสีดาก็ขอให้พระฤๅษีทำพิธีชุบต่อไป เพื่อที่เด็กคนใหม่นี้จะเป็นเพื่อนเล่นกับโอรสของนาง พระฤๅษีจึงชุบทารกน้อยขึ้นมา และได้ตั้งชื่อให้โอรสอันเกิดจากนางสีดาว่า พระมงกุฎ และตั้งชื่อโอรสที่ชุบขึ้นมาว่า พระลบ

[:D :D]

คำถามข้อที่ ๓๗  “ลิงแม่ลูกอ่อน”   จากคำที่ให้มา  จงตั้งคำถามที่มีคำดังกล่าวเป็นคำตอบ 
พร้อมอธิบายเหตุผลประกอบว่าเกี่ยวข้องกันอย่างไร   ข้อนี้  ๕  คะแนน
ขอตอบว่า
ใครที่เป็นสาเหตุให้พระฤๅษีวัชมฤค ต้องชุบพระโอรสนามว่า ”พระลบ” ขึ้นมา
คำตอบของคำถามนี้ก็คือ “ลิงแม่ลูกอ่อน” นั่นเอง
เพราะ นางสีดาได้ฝากโอรสชื่อพระมงกุฎไว้กับพระฤๅษีวัชมฤค แล้วนางก็ไปอาบน้ำ เจอ ”ลิงแม่ลูกอ่อน” อุ้มลูกออกมาหากิน  นางสีดาเห็นก็ตกใจจึงถามว่า เหตุใดจึงพาลูกออกมาเช่นนี้ ไม่กลัวลูกตกลงมาหรืออย่างไร แม่ลิงก็ตอบว่า ถึงอย่างไรลูกก็ยังอยู่ใกล้ตัว หากเกิดภัยอันตรายอะไรขึ้น ก็ยังช่วยลูกได้ทันท่วงที นางสีดาได้ฟังก็ห่วงลูกจึงกลับไปอุ้มลูกมาในขณะที่พระฤษีกำลังหลับอยู่ พอพระฤษีตื่นไม่เห็นพระมงกุฏ ก็นึกว่าคงถูกเสืองาบไปแล้ว เลยวาดพระกุมารขึ้นมาใหม่ พอดีนางสีดาอุ้มลูกกลับมา พระฤษีก็เลยจะลบรูปพระกุมารทิ้งแต่สีดาขอไว้ พระฤษีก็เลยชุบพระลบขึ้นมา

[art47]

คำถามข้อที่  ๓๗   พระราชนิพนธ์รัชกาลที่ ๖  ที่มีเนื้อเรื่องเกี่ยวกับรามเกียรติ์มีเรื่องอะไรบ้าง   
ให้คะแนนตามชื่อตอบมา  ชื่อละ ๑  คะแนน   ถ้าเป็นชื่อชุดบทละครพระราชนิพนธ์
ให้แยกเป็นชื่อตอนย่อยในชุดนั้นด้วย  ถ้าไม่แยกจะนับ ๑ คะแนนเท่านั้น   

บทละครเบิกโรงดึกดำบรรพ์
1. มหาพาลี
2. ฤษีเสี่ยงลูก
3. พระนรสิงหาวตาร
4. พระคเนศเสียงา

ละครดึกดำบรรพ์
1. ชุดพรหมาสตร์
2. ชุดนางลอย
3. ชุดอรชุนกับทศกัณฐ์
4. ชุดจองถนน
5. ชุดประเดิมศึกลงกา

บทโขน (บทร้องและบทพากย์)
1. สีดาหาย
2. เผาลงกา
3. ประเดิมศึกลงกา
4. จองถนน
5. พิเภกษณ์ถูกขับ
6. นาคบาศ

ลิลิตนารายณ์สิบปาง

บ่อเกิดแห่งรามเกียรติ์

พระราชนิพนธ์รามเกียรติ์ ตอนอภิเษกสมรส  แบ่งเป็น ๒ ตอน
1. ปราบตาฑะกา
2. อภิเษกสมรส

[:D :D]

คำถามข้อที่  ๓๕   ตัวละครที่มีชื่อต่อไปนี้ มีบทบาทอย่างไรในเรื่องพระราม

หนูดีดีขอตอบอีกทีค่ะ  

๒.ชาวาลิ
พระฤษี ชาวาลิ
เป็นพงศ์ฤษีจากพระฤษีกศป ปรากฏในตอนที่ทำพิธีอัศวเมธ
ท้าวทศรฐได้นิมนต์ฤษี 5 ตน มาในพิธีอัศวเมธ มี
พระฤษีกศป พระฤษีฤษยศฤงค์ และพระฤษีชาวาลิ ส่วนอีก 2 ตน ไม่ปรากฏนามค่ะ

[luanglek]

ท่าทางจะอัดอั้นมาก  ราวกับว่าอกจะแตกระหว่างรอเวลา ๑๑.๓๐ น.
พอถึงเวลาเป๊ะ  ก็เลยโพสต์ข้อความมาเป็นวา  
 

คำถามข้อที่ ๓๗  “ลิงแม่ลูกอ่อน”   จากคำที่ให้มา  จงตั้งคำถามที่มีคำดังกล่าวเป็นคำตอบ  
พร้อมอธิบายเหตุผลประกอบว่าเกี่ยวข้องกันอย่างไร   ข้อนี้  ๕  คะแนน
ขอตอบว่า
ใครที่เป็นสาเหตุให้พระฤๅษีวัชมฤค ต้องชุบพระโอรสนามว่า ”พระลบ” ขึ้นมา
คำตอบของคำถามนี้ก็คือ “ลิงแม่ลูกอ่อน” นั่นเอง
เพราะ นางสีดาได้ฝากโอรสชื่อพระมงกุฎไว้กับพระฤๅษีวัชมฤค แล้วนางก็ไปอาบน้ำ เจอ ”ลิงแม่ลูกอ่อน” อุ้มลูกออกมาหากิน  นางสีดาเห็นก็ตกใจจึงถามว่า เหตุใดจึงพาลูกออกมาเช่นนี้ ไม่กลัวลูกตกลงมาหรืออย่างไร แม่ลิงก็ตอบว่า ถึงอย่างไรลูกก็ยังอยู่ใกล้ตัว หากเกิดภัยอันตรายอะไรขึ้น ก็ยังช่วยลูกได้ทันท่วงที นางสีดาได้ฟังก็ห่วงลูกจึงกลับไปอุ้มลูกมาในขณะที่พระฤษีกำลังหลับอยู่ พอพระฤษีตื่นไม่เห็นพระมงกุฏ ก็นึกว่าคงถูกเสืองาบไปแล้ว เลยวาดพระกุมารขึ้นมาใหม่ พอดีนางสีดาอุ้มลูกกลับมา พระฤษีก็เลยจะลบรูปพระกุมารทิ้งแต่สีดาขอไว้ พระฤษีก็เลยชุบพระลบขึ้นมา

คำถามข้อที่ ๓๗  “ลิงแม่ลูกอ่อน”   จากคำที่ให้มา  จงตั้งคำถามที่มีคำดังกล่าวเป็นคำตอบ  
พร้อมอธิบายเหตุผลประกอบว่าเกี่ยวข้องกันอย่างไร   ข้อนี้  ๕  คะแนน

คำถาม ลิงแม่ลูกอ่อนให้ข้อคิดเรื่องการเลี้ยงลูกแก่นางสีดาอย่างไร
ตอบ นางสีดาให้กำเนิดโอรสที่มีรูปกายงดงาม หลังจากที่นางสีดาให้กำเนิดบุตรแล้ว ก็ได้ไปอาบน้ำ โดยที่นางสีดาได้นำโอรสน้อยฝากไว้ให้ฤๅษีวัชมฤคช่วยดูแล
          ขณะที่นางสีดาอาบน้ำอยู่นั้น ได้มีฝูงลิงออกหากิน ในฝูงลิงนั้น มีลิงแม่ลูกอ่อนตัวหนึ่งให้ลูกเกาะหลังออกมาหากินด้วย เมื่อนางสีดาเห็นดังนั้นก็ตกใจจึงถามว่า เหตุใดจึงพาลูกออกมาเช่นนี้ ไม่กลัวลูกตกลงมาหรืออย่างไร แม่ลิงก็ตอบว่า ถึงอย่างไรลูกก็ยังอยู่ใกล้ตัว หากเกิดภัยอันตรายอะไรขึ้น ก็ยังช่วยลูกได้ทันท่วงที ไม่เหมือนนางสีดาที่ฝากลูกไว้กับพระฤๅษีที่นั่งบำเพ็ญเพียรอยู่ตลอดเวลา หากมีเสือ สิงห์อะไรเข้ามาคาบลูกไปก็ไม่รู้ แล้วนางสีดาจะเสียใจ นางสีดาเห็นดีด้วยกับคำพูดของแม่ลิง จึงได้เดินไปอุ้มลูกออกมาโดยไม่ได้บอกพระฤๅษี ด้วยเกรงจะรบกวน
         เมื่อพระฤๅษีวัชมฤคลืมตาขึ้นไม่พบโอรสของนางสีดาก็ตกใจ คิดว่า คงถูกเสือ สิงห์คาบไปกินเป็นแน่แท้ พระฤๅษีจึงได้วาดรูปทารกน้อยใส่กระดาน เตรียมทำพิธีชุบขึ้นมาเป็นโอรสองค์ใหม่ให้นางสีดา แต่นางสีดาอุ้มลูกกลับมาพอดี พระฤๅษีจึงเตรียมลบรูปทิ้ง แต่นางสีดาก็ขอให้พระฤๅษีทำพิธีชุบต่อไป เพื่อที่เด็กคนใหม่นี้จะเป็นเพื่อนเล่นกับโอรสของนาง พระฤๅษีจึงชุบทารกน้อยขึ้นมา และได้ตั้งชื่อให้โอรสอันเกิดจากนางสีดาว่า พระมงกุฎ และตั้งชื่อโอรสที่ชุบขึ้นมาว่า พระลบ

๓๘.         ลิงแม่ลูกอ่อน          ให้ตั้งคำถาม

ในตอนบ่ายที่นางสีดาถูกทศกัณฐ์ลักมา  นางต้องลงเดินเพราะตัวร้อน ทศกัณฐ์สิ้นแรงเหาะไปในหมู่เมฆ
นางพบฝูงอะไร  ที่นางฝากสไบที่ทรงอยู่ไว้ให้พระราม

ตรวจข้อ ๓๗ ก่อน  คุณดีดี คุณไซมิส  ตอบถูก อธิบายได้แจ่มแจ้ง  เอาไปคนละ  ๕ คะแนน
ส่วนคุณวันดี   ผมขอหักหาญน้ำใจ  ไม่สามารถเจียดคะแนนให้ได้ในข้อนี้

[Wandee]

อพิโธ่  คุณหลวง   ตอบผิดก็ตอบผิดซิคะ       น้ำใจไม่ต้องการ   ไมตรีก็ไม่รับ

[:D :D]

คำถามข้อที่ ๓๖   บทละครเรื่องรามเกียรติ์  ชุด พิเภษณ์ถูกขับ  พระราชนิพนธ์รัชกาลที่ ๖  
มีรายละเอียดแตกต่างจากบทละครเรื่องรามเกียรติ์ พระราชนิพนธ์รัชกาลที่ ๑ และรัชกาลที่ ๒  
ในเนื้อเรื่องตอนเดียวกัน  อย่างไร  จงอธิบายและเปรียบเทียบ  ข้อนี้  ๑๐  คะแนน

หนูดีดีขอตอบค่ะ 
พระราชนิพนธ์รัชกาลที่ ๑ และรัชกาลที่ ๒ ตอนพิเภษณ์ถูกขับ เป็นตอนที่ทศกัณฑ์ฝัน แล้วให้พิเภกษ์ทำนายฝัน
พิเภกษ์ทำนายว่าทศกัณฑ์จะรบกับพระราม กรุงลงกาจะเดือนร้อนลุกเป็นไฟ เห็นควรส่งสีดาคืนให้พระราม
ทศกัณฑ์โกรธมากจึงขับไล่พิเภกษ์ออกจากลงกา(สมบูรณาญาสิทธิราช อำนาจอยู่ที่กษัตริย์แต่เพียงผู้เดียว)

ส่วนของรัชกาลที่ 6 ทรงมีกุศโลบายสอดแทรกประชาธิปไตยลงในบทพระราชนิพนธ์  
จึงทรงเปลี่ยนเนื้อเรื่องให้เป็นการโต้ตอบ การแสดงความคิดเห็นระหว่างทศกัณฑ์ กุมภกรรณ อินทรชิต เหล่าเสนายักษ์
ซึ่งรัชกาลที่ 6 ทรงใช้คำว่า “ประชุม” และทรงเรียกองค์ประชุมว่า “สภาเสนามาร”
การประชุมสิ้นสุดลง พิเภษณ์ถูกขับออกจากเมืองลงกา โดยความเห็นชอบของผู้เข้าประชุม (ประชาธิปไตย เสียงข้างมาก)
และโดยอำนาจของทศกัณฑ์ ผู้เป็นประธานการประชุม
การที่รัชกาลที่ 6 ทรงพระราชนิพนธ์เนื้อเรื่องตอนพิเภษณ์ถูกขับให้เป็นไปในรูปแบบการประชุม
ด้วยพระราชประสงค์เพื่อปลูกฝัง สอนการปกครองแบบประชาธิปไตย
ซึ่งในสมัยนั้นเริ่มมีการตื่นตัวในหมู่คนไทยบางส่วน เนื่องด้วยมีบุคคลชั้นสูง เจ้านาย เชื้อพระวงศ์ ส่วนหนึ่ง
ไปศึกษาวิทยาการจากโลกตะวันตก และกลับมามีบทบาทอยู่ในวงสังคม
ดังนั้นจึงนับเป็นพระราโชบายที่ชาญฉลาดอย่างยิ่งที่ทรงนำวรรณคดีและการแสดงละครมาเป็นสื่อกระจายแนวคิดสมัยใหม่
ซึ่งย่อมแพร่หลายในหมู่คนไทยโดยง่าย

[:D :D]

 คำถามข้อที่  ๓๗   พระราชนิพนธ์รัชกาลที่ ๖  ที่มีเนื้อเรื่องเกี่ยวกับรามเกียรติ์มีเรื่องอะไรบ้าง  
ให้คะแนนตามชื่อตอบมา  ชื่อละ ๑  คะแนน   ถ้าเป็นชื่อชุดบทละครพระราชนิพนธ์
ให้แยกเป็นชื่อตอนย่อยในชุดนั้นด้วย  ถ้าไม่แยกจะนับ ๑ คะแนนเท่านั้น

หนูดีดีขอตอบค่ะ  
1. ลิลิตนารายณ์สิบปาง
2. บ่อเกิดรามเกียรติ์
3. บทละครเบิกโรงเรื่องดึกดำบรรพ์
      3.1 เรื่องมหาพลี
      3.2 เรื่องฤษีเสี่ยงลูก
      3.3 เรื่องนรสิงห์หาวตาร
      3.4 เรื่องพระคเณศร์เสียงา
4. โขนเรื่องรามเกียรติ์ บทร้อง และบทพากย์ 6 ชุด คือ
     4.1ชุดสีดาหาย
     4.2ชุดเผาลงกา
     4.3ชุดพิเภกถูกขับ
     4.4ชุดจองถนน
     4.5ชุดประเดิมศึกลงกา
     4.6ชุดนาคบาศ
5.พระราชนิพนธ์เบิกโรง เรื่องอัปสราวตาร หรืออัจฉราวตาร
6. พระราชนิพนธ์คำร้องเพลง ฉุยฉายพราหมณ์ (จากบทละครรามเกียรติ์ภาคสวรรค์ ตอนพระคเณศเสียงา พระนารายณ์แปลงเป็นพราหมณ์รำให้พระแม่อุมาดู)
7. บทละครดึกดำบรรพ์ ตอนพิเภษณ์ถูกขับ
8. บทเสภาสามัคคีเสวก
9.พระราชนิพนธ์คำอธิบายและอภิธานประกอบเรื่องนารายณ์สิบปาง(ทรงพระราชนิพนธ์เมื่อพ.ศ.2466 ยาวประมาณ 15 ยกเพื่อเป็นคู่มือในการอ่านนารายณ์สิบปาง และเพื่อเป็นข้อเปรียบเทียบเรื่องนารายณ์สิบปางฉบับของหอพระสมุด และลิลิตนารายณ์สิบปางที่ ร.6 ทรงพระราชนิพนธ์)

[luanglek]

คำถามข้อที่ ๓๖   บทละครเรื่องรามเกียรติ์  ชุด พิเภษณ์ถูกขับ  พระราชนิพนธ์รัชกาลที่ ๖
มีรายละเอียดแตกต่างจากบทละครเรื่องรามเกียรติ์ พระราชนิพนธ์รัชกาลที่ ๑ และรัชกาลที่ ๒
ในเนื้อเรื่องตอนเดียวกัน  อย่างไร  จงอธิบายและเปรียบเทียบ  ข้อนี้  ๑๐  คะแนน



พิเภษณ์ อุปราชลงกาได้ยืนยันขอให้ส่งนางสีดา และในวันรุ่งขึ้นได้ยืนยันในที่อสุรสภาให้ส่งนางคืนอีกครั้งหนึ่ง
ทศกัณฐ์กริ้ว เตะน้องชายตกเตียง  พิเภษณ์เงื้อตะบอง  แต่นึกได้ว่าเป็นพี่และราชา  จึงงดตะบองลง
และชี้หน้าว่า ขืนดื้อไปจะถึงตาย  
พิเภษณ์ไม่ขี้ขลาดเพราะเป็นชาติพรหมณ์พงศ์เหมือนกัน

ได้ออกจากท้องพระโรงพร้อมเสนา ๔ ตน ชื่อ  
อนิล
อนล
สัมปาติ และ ประมติ                                                     ตอนนี้เป็นตอนที่แตกต่าง
แล้วเหาะข้ามสมุทรไป

ในเรื่องไม่มีไปลาลูกเมีย  เมียชื่อสรมา
ของเราเรียกตรีชดา
ธิดาชื่อ นันทา  ของเราเรียกเบญกาย

สุครีพเห็นพิเภษณ์พาไปเฝ้าพระราม  พิเภกถูกขับ  จากเมือง  
ถวายตัวกับพระราม  ทูลสาเหตุที่ถูกขับ  ถือน้ำ
                                                                           พิเภกกลัวพี่ชายมาก   ทศกัณฐ์ไล่และริบสมบัติ  ไปลาเมียและลูก
                                                                           เปาวนาสูรตรวจสมบัติแล้วไล่ให้ออกจาดเมืองไปก่อนมืด
                                                                           พิเภกเดินไป  ชาวเมืองสงสารและร้องไห้
                                                                           พิเภกเหาะข้ามมหาสมุทรไปเขาคันธกาลา    
ทหารลิงจับไว้  พาตัวมาถามหน้าพระที่นั่ง  
ทุกคนเห็นด้วยว่าให้รับไว้
                                                                           ให้ถือน้ำที่ชุบศรพรหมมาสตร์


ทุกคนไม่เห็นด้วยที่จะรับไว้
หนุมานเห็นว่าควรรับไว้  และพระรามเห็นชอบด้วย
จึงเสด็จไปรับถึงริมฝั่งสมุทร

คำตอบ
บทละครรามเกียรติ์ ในรัชกาลที่ 1 และที่ 2
มีเนื้อความว่า ทศกัณฐ์เกิดฝันจึงให้พิเภกทำนายฝัน
พิเภกก็จับยามสามตาแล้วทำนายว่ากรุงลงกาจะเกิดเคราะห์จากพระราม ทศกัณฐ์ต้องคืนนางสีดาไป เพื่อหายเคราะห์กรรม
ทศกัณฐ์โกรธเลยขับพิเภกออกจากเมือง

ส่วนบทละครดึกดำบรรพ์เรื่องรามเกียรติ์ ตอนพิเภษณ์ถูกขับ พระราชนิพนธ์ รัชกาลที่ 6
มีเรื่องราวว่า ทศกรรฐ์ กุมภกรรณ พิเภษณ์ อินทรชิต และเหล่าเสนายักษ์ ประชุมสภาเสนามารกัน
เพื่อปรึกษาเกี่ยวกับการป้องกันกรุงลงกาจากกองทัพพระราม
เนื้อเรื่องให้เป็นการโต้ตอบ การแสดงความคิดเห็นระหว่างทศกรรฐ์ กุมภกรรณ อินทรชิต เหล่าเสนายักษ์
แต่พิเภษณ์บอกว่าให้ทศกรรฐ์คืนนางสีดาให้พระราม ทศกรรฐ์โกรธจึงไล่พิเภษณ์ออกจากเมืองลงกา

ความแตกต่างคือ บทละครรามเกียรติ์เรื่องแรก เป็นการโต้ตอบของทศกัณฐ์และพิเภก เพียงสองตน
ส่วนเรื่องที่สอง เป็นการโต้ตอบของสภาเสนามาร อันมีพญายักษ์หลายๆ ตนร่วมแสดงความคิดเห็นกัน

หนูดีดีขอตอบค่ะ 
พระราชนิพนธ์รัชกาลที่ ๑ และรัชกาลที่ ๒ ตอนพิเภษณ์ถูกขับ เป็นตอนที่ทศกัณฑ์ฝัน แล้วให้พิเภกษ์ทำนายฝัน
พิเภกษ์ทำนายว่าทศกัณฑ์จะรบกับพระราม กรุงลงกาจะเดือนร้อนลุกเป็นไฟ เห็นควรส่งสีดาคืนให้พระราม
ทศกัณฑ์โกรธมากจึงขับไล่พิเภกษ์ออกจากลงกา(สมบูรณาญาสิทธิราช อำนาจอยู่ที่กษัตริย์แต่เพียงผู้เดียว)

ส่วนของรัชกาลที่ 6 ทรงมีกุศโลบายสอดแทรกประชาธิปไตยลงในบทพระราชนิพนธ์ 
จึงทรงเปลี่ยนเนื้อเรื่องให้เป็นการโต้ตอบ การแสดงความคิดเห็นระหว่างทศกัณฑ์ กุมภกรรณ อินทรชิต เหล่าเสนายักษ์
ซึ่งรัชกาลที่ 6 ทรงใช้คำว่า “ประชุม” และทรงเรียกองค์ประชุมว่า “สภาเสนามาร”
การประชุมสิ้นสุดลง พิเภษณ์ถูกขับออกจากเมืองลงกา โดยความเห็นชอบของผู้เข้าประชุม (ประชาธิปไตย เสียงข้างมาก)
และโดยอำนาจของทศกัณฑ์ ผู้เป็นประธานการประชุม
การที่รัชกาลที่ 6 ทรงพระราชนิพนธ์เนื้อเรื่องตอนพิเภษณ์ถูกขับให้เป็นไปในรูปแบบการประชุม
ด้วยพระราชประสงค์เพื่อปลูกฝัง สอนการปกครองแบบประชาธิปไตย
ซึ่งในสมัยนั้นเริ่มมีการตื่นตัวในหมู่คนไทยบางส่วน เนื่องด้วยมีบุคคลชั้นสูง เจ้านาย เชื้อพระวงศ์ ส่วนหนึ่ง
ไปศึกษาวิทยาการจากโลกตะวันตก และกลับมามีบทบาทอยู่ในวงสังคม
ดังนั้นจึงนับเป็นพระราโชบายที่ชาญฉลาดอย่างยิ่งที่ทรงนำวรรณคดีและการแสดงละครมาเป็นสื่อกระจายแนวคิดสมัยใหม่
ซึ่งย่อมแพร่หลายในหมู่คนไทยโดยง่าย

ก่อนตรวจ  ขออธิบายดังนี้
รัชกาลที่ ๖ ทรงพระราชนิพนธ์ บทละครเรื่องรามเกียรติ์
ตอน พิเภษณ์ถูกขับ  ให้แตกต่างจากบทละครรามเกียรติ์
ฉบับพระราชนิพนธ์รัชกาลที่ ๑ และรัชกาลที่ ๒

โดยในชั้นแรก ยังทรงใช้ชื่อ "พิเภก" เหมือนในรามเกียรติ์รัชกาลที่ ๑และ ๒
แต่ต่อมาทรงเปลี่ยนไปใช้ชื่อ พิเภษณ์ ตามข้างรามายณะ
นอกจากนี้ยังทรงปรับบทบาทของพิเภษณ์ให้เป็นอย่างมนุษย์มากขึ้น
มีการแทรกบทปรึกษาราชการในสภาเสนามารอย่างการประชุมรัฐสภา
อันทำให้คิดได้ว่า น่าจะเป็นเค้าพระราชดำริเรื่องประชาธิปไตยของรัชกาลที่ ๖ ด้วย

ในรามเกียรติ์ ร.๑ พิเภกทำนายฝันทศกัณฐ์และทูลทศกัณฐ์ให้ส่ง
นางสีดาคืนแก่พระราม  หากไม่ต้องการใหคำทำนายในฝันเป็นจริง
ทศกัณฐ์โกรธมาก  คว้าพระขรรค์ไล่ฟัน และรับสั่งให้ขับพิเภกออกจากลงกา
พิเภกจึงต้องออกจากเมืองลงกาไป

รามเกียรติ์ ร. ๒ พิเภกทำนายฝันทศกัณฐ์และทูลทศกัณฐ์ให้ส่ง
นางสีดาคืนแก่พระราม  ทศกัณฐ์โกรธมาก  จึงรับสั่งให้ส่งพิเภก
ลงเรือไปขึ้นฝั่งคงคา  ให้ไปเป็นพวกเดียวกับพระราม

ส่วนรามเกียรติ์ของรัชกาลที่ ๖ พิเภกทูลเสนอทศกัณฐ์เองในสภาเสนามาร
ว่าควรส่งสีดาคืนพระรามไป  ทศกัณฐ์โกรธ  และเตะพิเภษณ์ออกจากสภา
พิเภษณ์เห็นว่าตนจะอยู่ในลงกาต่อไปไม่ได้  จึงหนีไปอยู่กับพระราม


ข้อนี้  คุณวันดี ได้ ๕ คะแนน  (ไม่ได้เปรียบเทียบให้เห็นรายละเอียดเนื้อเรื่องที่ต่างกัน)
คุณอาร์ท ได้ ๘ คะแนน (เก็บรายละเอียดไม่หมด)
คุณดีดี ได้ ๘ คะแนน (เก็บรายละเอียดไม่หมด)

[luanglek]

คำถามข้อที่  ๓๗   พระราชนิพนธ์รัชกาลที่ ๖  ที่มีเนื้อเรื่องเกี่ยวกับรามเกียรติ์มีเรื่องอะไรบ้าง  
ให้คะแนนตามชื่อตอบมา  ชื่อละ ๑  คะแนน   ถ้าเป็นชื่อชุดบทละครพระราชนิพนธ์
ให้แยกเป็นชื่อตอนย่อยในชุดนั้นด้วย  ถ้าไม่แยกจะนับ ๑ คะแนนเท่านั้น    

บทละครเบิกโรง
มหาพาลี  x
ฤษีเสี่ยงลูก /
พระนรสิงหาวตาร x
พระคเนศเสียงา x
บทละครเบิกโรง เรื่องดึกดำบรรพ์

พระราชนิพนธ์
ชุดสีดาหาย /
ชุดเผาลงกา /
ชุดพิเภษณ์ถูกขับ /
ชุดจองถนน /
ชุดประเดิมศึกลงกา /
ชุดนาคบาศ /

พระราชนิพนธ์รามเกียรติ์ตอนอภิเษกสมรส  แบ่งเป็น ๒ ตอน
ปราบตาฑะกา /
อภิเษกสมรส  เมื่อพระรามยกศรได้  พระชนกก็ตั้งพิธี /

ได้ทรงเรื่องเกร็ดต่างๆไว้อีก  โดยอาศัยอุตตรกัณฑ์แห่งรามายณ  เช่นเรื่องพระอรชุนกับทศกัณฐ์ /

บทละครพระราชนิพนธ์ ร.6
ตอนสีดาหาย /
ตอนเผาลงกา /
ตอนพิเภกถูกขับ /
ตอนจองถนน /
ตอนประเดิมศึกลงกา /
ตอนนาคบาศ /
ตอนอภิเษกสมรส /
ตอนนางลอย /
ตอนพิธีกุมภนียา /
ตอนพรหมาสตร์/
(((ความแตกต่างระหว่างรามเกียรติ์ ร.1 กับการแปลเรื่องรามยณะในบ่อเกิดแห่งรามเกียรติ์ มีดังนี้
1.   รามายณะแบ่งเป็นเจ็ดกัณฑ์ คือ พาลกัณฑ์, อโยธากัณฑ์, อรัณยกะกัณฑ์, กิษกินธากัณฑ์, สุนทรกัณฑ์ , ยุทธกัณฑ์ และ อุตตรกัณฑ์
1.1   พาลกัณฑ์ เริ่มด้วยฤาษีวาลมีกิ อาราธนาฤษีนารถให้แสดงรามายณะ จนถึงพระยามยกศร ได้นางสีดากลับอโยธยา
1.2   อโยธากัณฑ์ จับท้าวทศรส ปรารภให้อภิเษกพระรามเป็นยุพราช จนถึงพระรามเดินดง
1.3   อรัณยกะกัณฑ์ ตั้งแต่พระราม นางสีดา พระลักษณ์ เข้าป่าทัณฑก พระรามรบกับอูสรร้าย (พิราพ) จนถึงทศกัณฑ์ลักนางสีดา สองกษัตริย์ติดตามไปถึงเขาฤษยมูก
1.4   กิษกินธากัณฑ์ สองกษัตริย์พบพหมุมานได้สุครีพเป็ยฝากฝ่าย ฆ่าพาลี จนถึงหนุมานอาสาถวายแหวน
1.5   สุนทรกัณฑ์ หนุมานถวายแหวน จนถึงเผาเมืองลงกา
1.6   ยุทธกัณฑ์ พระรามยกพลไปพักที่เชิงเขามเหรนทร (รามเกียรต์ ร.1 เรียกว่า เหมติรัน) จองถนนข้ามไปลงกา จนถึงทศกัณฐ์ล้ม พานางสีดากลับอโยธยา
1.7   อุตตรกัณฑ์ ว่าด้วยอสุรพงศ์ วานรพงศ์ เนรเทศนางสีดา
ส่วนรามเกียรติ์ของไทยเดินเรื่องเรื่อยจนจบ
2.   รามายณะ ในพาลกัณฑ์ มีฤาษีวิศวามิตรเล่าเรื่องบรมโบราณหลายเรื่องแก่พระราม เช่น แม่น้ำคงมามาจากสวรรค์, เรื่องกวนน้ำอมฤต, ตำนานรัตนธนู  ส่วนเรื่องรามเกียรติ์ใน ร.1 ไม่กล่าวถึงเลย แต่กล่าวถึงนารายณ์อวตารปางก่อนๆ เหนือสมัยพระรามขึ้ป และกล่าวถึง อสุรพงศ์ วานรพงศ์ ซึ่งตรงกัน))) อันนี้ไม่ได้ถามเลย  ใส่มาทำไมเยอะแยะยาวมาก  ไม่ตัดคะแนน  แต่ก็ไม่ได้คะแนน

บทละครเบิกโรงดึกดำบรรพ์
1. มหาพาลี X
2. ฤษีเสี่ยงลูก /
3. พระนรสิงหาวตาร  X
4. พระคเนศเสียงา  X

ละครดึกดำบรรพ์
1. ชุดพรหมาสตร์ /
2. ชุดนางลอย /
3. ชุดอรชุนกับทศกัณฐ์ /
4. ชุดจองถนน /
5. ชุดประเดิมศึกลงกา X

บทโขน (บทร้องและบทพากย์)
1. สีดาหาย /
2. เผาลงกา /
3. ประเดิมศึกลงกา /
4. จองถนน /
5. พิเภกษณ์ถูกขับ /
6. นาคบาศ /

ลิลิตนารายณ์สิบปาง /

บ่อเกิดแห่งรามเกียรติ์ /

พระราชนิพนธ์รามเกียรติ์ ตอนอภิเษกสมรส  แบ่งเป็น ๒ ตอน
1. ปราบตาฑะกา /
2. อภิเษกสมรส /

คำถามข้อที่  ๓๗   พระราชนิพนธ์รัชกาลที่ ๖  ที่มีเนื้อเรื่องเกี่ยวกับรามเกียรติ์มีเรื่องอะไรบ้าง  
ให้คะแนนตามชื่อตอบมา  ชื่อละ ๑  คะแนน   ถ้าเป็นชื่อชุดบทละครพระราชนิพนธ์
ให้แยกเป็นชื่อตอนย่อยในชุดนั้นด้วย  ถ้าไม่แยกจะนับ ๑ คะแนนเท่านั้น

หนูดีดีขอตอบค่ะ  
1. ลิลิตนารายณ์สิบปาง/
2. บ่อเกิดรามเกียรติ์/
3. บทละครดึกดำบรรพ์ ตอนพิเภษณ์ถูกขับ/
4. โขนเรื่องรามเกียรติ์ บทร้อง และบทพากย์ 6 ชุด คือ
     4.1ชุดสีดาหาย /
     4.2ชุดเผาลงกา /
     4.3ชุดพิเภกถูกขับ /
     4.4ชุดจองถนน /
     4.5ชุดประเดิมศึกลงกา /
     4.6ชุดนาคบาศ /
5.พระราชนิพนธ์เบิกโรง เรื่องอัปสราวตาร หรืออัจฉราวตาร /
6. พระราชนิพนธ์คำร้องเพลง ฉุยฉายพราหมณ์ (จากบทละครรามเกียรติ์ภาคสวรรค์ ตอนพระคเณศเสียงา พระนารายณ์แปลงเป็นพราหมณ์รำให้พระแม่อุมาดู)

คุณวันดี ได้ ๑๐ คะแนน
คุณไซมิส  ได้ ๑๐ คะแนน
คุณอาร์ท ได้ ๑๕ คะแนน
คุณดีดี  ได้  ๑๐  คะแนน

ไม่ไหว  ตาลายจริงๆ

[:D :D]

คำถามข้อที่  ๓๗   พระราชนิพนธ์รัชกาลที่ ๖  ที่มีเนื้อเรื่องเกี่ยวกับรามเกียรติ์มีเรื่องอะไรบ้าง

ยังมีอีกเรื่องที่ยังไม่มีใครตอบค่ะ
พระราชนิพนธ์คำอธิบายและอภิธานประกอบเรื่องนารายณ์สิบปาง
(ทรงพระราชนิพนธ์เมื่อพ.ศ.2466 ยาวประมาณ 15 ยก
เพื่อเป็นคู่มือในการอ่านนารายณ์สิบปาง และเพื่อเป็นข้อเปรียบเทียบ
เรื่องนารายณ์สิบปางฉบับของหอพระสมุด และลิลิตนารายณ์สิบปางที่ ร.6 ทรงพระราชนิพนธ์)


คำถามข้อที่  ๓๕   ตัวละครที่มีชื่อต่อไปนี้ มีบทบาทอย่างไรในเรื่องพระราม
(ยกมาจากความคิดเห็นที่ 79  เมื่อ วันนี้ เวลา 11:44 เผื่อ คุณ luanglek ตาลายมองข้ามไปค่ะ)

๒.ชาวาลิ
พระฤษี ชาวาลิ
เป็นพงศ์ฤษีจากพระฤษีกศป ปรากฏในตอนที่ทำพิธีอัศวเมธ
ท้าวทศรฐได้นิมนต์ฤษี 5 ตน มาในพิธีอัศวเมธ มี
พระฤษีกศป พระฤษีฤษยศฤงค์ และพระฤษีชาวาลิ ส่วนอีก 2 ตน ไม่ปรากฏนามค่ะ

[luanglek]

คำถามข้อที่  ๓๗   พระราชนิพนธ์รัชกาลที่ ๖  ที่มีเนื้อเรื่องเกี่ยวกับรามเกียรติ์มีเรื่องอะไรบ้าง

ยังมีอีกเรื่องที่ยังไม่มีใครตอบค่ะ
พระราชนิพนธ์คำอธิบายและอภิธานประกอบเรื่องนารายณ์สิบปาง
(ทรงพระราชนิพนธ์เมื่อพ.ศ.2466 ยาวประมาณ 15 ยก
เพื่อเป็นคู่มือในการอ่านนารายณ์สิบปาง และเพื่อเป็นข้อเปรียบเทียบ
เรื่องนารายณ์สิบปางฉบับของหอพระสมุด และลิลิตนารายณ์สิบปางที่ ร.6 ทรงพระราชนิพนธ์)


คำถามข้อที่  ๓๕   ตัวละครที่มีชื่อต่อไปนี้ มีบทบาทอย่างไรในเรื่องพระราม
(ยกมาอีกทีเผื่อ คุณ luanglek ตาลายมองข้ามไปค่ะ)
๒.ชาวาลิ
พระฤษี ชาวาลิ
เป็นพงศ์ฤษีจากพระฤษีกศยป ปรากฏในตอนที่ทำพิธีอัศวเมธ
ท้าวทศรฐได้นิมนต์ฤษี 5 ตน มาในพิธีอัศวเมธ มี
พระฤษีกศยป พระฤษีฤษยศฤงค์ และพระฤษีชาวาลิ ส่วนอีก 2 ตน ไม่ปรากฏนามค่ะ

ข้อ ๓๗ ให้คุณดีดี  อีก ๑ คะแนน เป็น ๑๑ คะแนน
ข้อ ๓๕  ผมลืมอ่านไป  ฤาษีทั้ง ๕ ตนนั้น  คือ  วสิษฐ  สุยัญญะ  วามเทพ  ชาวาลิ  ฤษยศฤงค
ข้อนี้คุณ ดีดีได้ไป ๓ คะแนน

ผมจำไม่ได้แล้วว่าเหลือตัวละครชื่ออะไรที่ยังไม่มีคนตอบ คุณดีดีช่วยหน่อยนะครับ

[:D :D]

สรุปคะแนนและคำถามที่ยังไม่มีผู้ตอบถูกหรือตอบยังไม่ครบค่ะ

คำถามข้อที่ ๓๑

๓๑.๑.ธรรมดารณรงค์ในสงคราม  
จะคุมโทษถือความกระไรได้
ต่างตนต่างหมายจะเอาชัย      
เป็นวิสัยทั่วโลกโลกา
...........?............
............?...........
............?............
............?............

๓๑.๓.ทศเศียรเล้าโลมโดยดี         ว่าการราวี
นี้ยากจะเห็นสุดไป
..........................        ...........
........................
........................          ..........
........................

๓๑.๕.จัดงานสมรสพร้อม      แปดองค์
หาฤกษ์ประเสริฐยาม       เลิศแล้ว
....................        .........
...................         ..........
พระรามครองคู่เจ้า          สีดา
บุรุษนารีรัตน์                 เหมาะแท้
.................          ..........
.................          ..........
.................          ..........
.................          .........
.................          ........
.................          ..........

คำถามข้อที่  ๓๕
๓๕.๕.สุนทะ


ส่วนข้อที่ ๓๒. และข้อที่ ๓๔. คุณ luanglek เฉลยแล้วแต่ยังไม่ได้ตรวจให้คะแนนค่ะ 

[siamese]

ระหว่างพักรบ รอคุณหลวงตาลายไปแล้ว นักรบหน้าจอ ก็ฟังระบำดาวดึงส์ไปพลางๆ