เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: 1 ... 15 16 [17]
  พิมพ์  
อ่าน: 78393 ๑๐๐ คำถามเรื่องรามเกียรติ์ (สำหรับแฟนพันธุ์แท้) ๒
siamese
หนุมาน
********
ตอบ: 7165


หนุ่มรัตนะกับภูเขาทอง


ความคิดเห็นที่ 240  เมื่อ 31 ม.ค. 11, 16:05

นักรบๆ ต้องหากำลังใจ ดังกุมภกรรณดังนี้

"สู้ตายไม่เสียดายชีวี    จะต่อตีไปกว่าจะบรรลัย
  ว่าแล้วขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน   กระทืบบาทสนั่นหวั่นไหว
  ชวนพระพี่เลี้ยงผู้ร่วมใจ    เข้าไล่ตีโยธาวาน"



ว่าแต่เห็นบอกว่ามีรางวัลพิเภกทอง สาขากำสรวลดีเด่น งั้นผมเสนอแบบขำๆ ได้ไหมว่า "รางวัล ๑๘ มงกุฎ" ไปเลย  ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม


บันทึกการเข้า
Wandee
หนุมาน
********
ตอบ: 4006


ความคิดเห็นที่ 241  เมื่อ 31 ม.ค. 11, 17:36

คำถามข้อที่ ๔๘.  ฤาษีวาลมีกิ ผู้แต่งมหากาพย์รามายณะ
มีประวัติเป็นมาโดยละเอียดอย่างไร  ทำไมถึงได้ชื่อว่าวาลมีกิ


       โดยละเอียดฤา
      

       ขอเล่าฉบับของข้าพเจ้าเองดังต่อไปนี้


       ในไตรดายุค   รัตนกร Ratnakara เกิดในในสกุลนาคาแห่งกลุ่ม พระเชษฐษ์ Prachetasa  บางเล่มบอกว่าบิดาคือพระเชษฐษ์ผู้ถือศีลภาวนามาสร้างอาศรมอยู่ริมป้าที่รกชัฎ  

เมื่อเป็นเด็ก  รัตนกรหลงทางเข้าไปในป่า  พรานป่ามาพบและเก็บไปเลี้ยงไว้  เพราะเด็กเป็นแรงงานในสังคมกสิกรรม      รัตนากรจำความไม่ได้ก็ถือเอานายพรานและภรรยาเป็นพ่อแม่

ได้ฝึกหัดศิลปของการล่าสัตว์และยิงธนูได้แม่นยำ       ต่อมาก็ถืออาชีพพราน    แต่งงานกับสาวสวยและมีลูกหลายคน      การล่าสัตว์นำรายได้

มาไม่พอเลี้ยงครอบครัว    ก็เลยเป็นโจร      พออายุได้ ๓๐ กว่าก็เป็นที่เกรงกลัวทั่วไป


ขอขมายข้อมูลจากคุณไซมีส

วันหนึ่ง สัปตฤๅษี คือ ฤๅษี 7 ตน ได้แก่ พระวิศวามิตร พระชมทัคนี พระภรัทวาช พระเคาตมะ พระอัตริ พระวศิษฐ์ และพระไกศยปะ ได้ผ่านมาในละแวกที่โจรรัตนากรพักอาศัยอยู่ โจรรัตนากรได้ทราบข่าวจึงมาดักจับฤๅษีทั้งเจ็ดนั้นเพื่อฉกชิงเครื่องบริขาร สัปตฤๅษีก็แปลกใจที่โจรผู้นี้ปล้นไม่เลือกแม้กระทั่งฤๅษี
ฤๅษีตนหนึ่งจึง เอ่ยถามโจรรัตนากรว่า รู้หรือไม่ว่าพวกท่านทั้งเจ็ดนี้เป็นผู้ใด โจรรัตนากรก็ตอบว่า ไม่ต้องใส่ใจว่าจะเป็นใครมาจากไหน ตนมีหน้าที่ปล้นก็ต้องทำหน้าที่นั้น เพื่อหาเลี้ยงครอบครัว บุตร ภรรยา พระฤๅษีจึงถามต่อไปว่า เมื่อโจรต้องรับผลร้ายแห่งอกุศลกรรมนี้แล้ว ลูกเมียของโจรที่ได้แบ่งทรัพย์สินไปนั้นจะยอมรับแบ่งผลแห่งกรรมร้ายไปด้วย หรือ
เพื่อให้หายสงสัยโจรก็จะกลับไปถามลูกเมียดู โดยจะมัดฤๅษีทั้งเจ็ดไว้กับต้นไม้ก่อนเพื่อกันมิให้หนี เมื่อตนไปถามลูกเมียแล้ว หากยินยอมรับแบ่งผลแห่งอกุศลกรรมที่ตนกระทำไปเพื่อลูกเมียแล้ว ก็จะกลับมาสังหารสัปตฤๅษีเสีย แต่ถ้าพวกเขาไม่ยอมรับแบ่งผลแห่งกรรมชั่วนั้น ตนก็จะกลับมาปล่อยฤๅษีทั้งหมดให้เป็นอิสระ แล้วโจรรัตนากรก็รีบเดินทางมายังที่พักของตน
เมื่อถึงที่พัก โจรรัตนากรก็ถามลูกของตนว่า ทุกคนจะยอมรับผลของการโจรกรรมของตนด้วยหรือไม่ ลูกๆก็พากันตอบว่า ไม่ขอรับรู้รับเห็นผลกรรมใดๆที่บิดาก่อไว้ทั้งสิ้น ครั้นโจรรัตนากรหันไปถามภรรยา ภรรยาก็ปฏิเสธในทำนองเดียวกัน เมื่อการณ์กลับกลายไปจากที่ตนคิด โจรรัตนากรก็เศร้า เสียใจ จึงนำเครื่องบริขารทั้งปวงที่ตนปล้นกลับมาคืนสัปตฤๅษี แล้วปลดปล่อยให้เป็นอิสระ พร้อมกับสารภาพผิด แล้วก็ขอให้ฤๅษีทั้งเจ็ดนั้นช่วยบอกวิธีแก้บาปที่ทำมาแล้วให้ด้วย ฤๅษีทั้งเจ็ดนั้นก็บอกคาถาให้โจรรัตนากร
โจรรัตนากรเป็นผู้ที่มีความ ตั้งใจอันแน่วแน่ ได้นั่งสมาธิภาวนาว่า “ราม ราม ราม” อยู่ใต้ต้นไม้นั้นต่อเนื่องกันโดยไม่ยอมรับประทานอาหารใดๆเลย กาลเวลาผ่านไปหลายร้อยปีจนปลวกทำรังขึ้นรอบร่างของโจรรัตนากรที่กลับใจแล้ว คงเหลือแต่จมูกไว้หายใจเท่านั้น

          
     เรื่องก็ต้องเหมือนกันอยู่บ้าง

     แต่ของข้าพเจ้าฟังมาว่าพระฤาษีนารถผ่านมา     วัลมิกิกับศิษย์ก็ต้อนรับด้วยน้ำนมและผลไม้โอชารส  ได้สนทนากัน

วัลมิกิถามพระนารทว่า    ท่านไปมาทั้งสามโลกแล้ว  ย่อมรู้ทุกสิ่งทุกอย่าง  ใครเล่าเป็นผู้บริสุทธิ์แท้จริง  พูดแต่ความจริง  และมีสติเยือกเย็นอยู่เป็นนิจ   คำพูดของท่านพระเจ้ายังอวยพร

เป็นผู้สูงส่งในโลกนี้

พระนารทตอบว่า  พระราม    และได้เรื่องพระรามตั้งแต่ต้นให้ฟัง  เลยไปจนจบ  เล่นพิณไปด้วย      วัลมิกิสุขใจใดจะปานเพราะคงไม่มีใครมาเล่าเรื่องได้ยืดยาวขนาดนี้

พระนารทฤาษีสอนให้ภาวนา ราม ราม  จนจอมปลวกจับร่าง(เรื่องต่อไปก็เป็นที่ทราบดีกันอยู่แล้ว)


      
       ต่อมาก็มีเรื่องนกกะเรียน ที่ใครๆก็ลอกตามกันเป็นพัลวัน  แต่ฉบับของข้าพเจ้า  วัลมิกิเตืองพรานผู้ล่านกเป็นอาหารมาก  เพราะกำลังเพลินกับน้ำที่ใสสะอาด  มีเสียงนกร้อง

ไพเราะ  กำลังจะเดินลงไปที่ชายฝั่ง  ตลิ่งสูง  เรียกว่ากำลังอารมณ์ดีเป็นพิเศษ  

ชะตากรรมของนกกระทบความเมตตาของวัลมิกิมาก  เศร้าสลดรันทดปานหัวใจสลาย

เผลอสาปพรานผู้ยิงด้วยล่ะ  สาปว่า

เจ้าผู้ทำลายคู่ชมที่กำลังจะชื่น    จงอย่ามีอายุยืนยาวต่อไปเลย (เนื่องจากแปลเอง เลยไม่ต้องเปิดเครื่องหมายคำพูด) แปลจากภาษาอังกฤษ ที่แปลมาจากสันกฤตอีกที    

ตอนจะไปอาบน้ำนั้นมีศิษย์ชื่อ ภรัตวาจาตามไปด้วย   คงจะไปด้วยกันเฉยๆ ไม่ได้ไปช่วยถือเสื้อผ้าหรอก   เพราะพระฤาษีก็คงนุ่งเตี่ยวเท่านั้น

(ผ้าแพงมาก  และฟืมก็แคบ  คันธียังทอผ้าชิ้นแคบๆไปถวายราชินีอังกฤษเลย)


อาบน้ำแบบพราหมณ์ก็ต้องมีสายธุรำใส่เฉวียงบ่าขวา  ทำด้วยด้ายใส่อยู่ด้วย

ที่จริงวัลมิกิคงบ่นไว้ยาว  รำพัน  เป็นโศลกขึ้นมา

พระพรหมก็ปรากฎขึ้น  ว่า บรรดาลใจนั้นมาจากเราเอง(the royal we)   เรื่องต่อไปแทบทุกท่านก็ทราบดีอยู่แล้ว  จึงขมายต่อมาจากสหาย

 พระพรหมจึงเสด็จลงมาตรัสให้พระวาลมีกิแต่งเรื่องรามายณะขึ้นโดยใช้ฉันท์โศลก นั้น พระวาลมีกิจึงเข้าสมาธิเล็งญาณ เห็นเรื่องราวของพระรามจันทร์ครองกรุงอโยธยาอยู่นั้นเอง หลังจากนั้น พระวาลมีกิก็ได้เล่าสอนเรื่อง รามายณะนี้ให้แก่ศิษย์จดจำสืบต่อกันมาอย่างต่อเนื่อง นานาฤๅษีก็ได้ขับสวดโศลกอันไพเราะจับใจนี้เป็นเพลงสรรเสริญพระรามต่อเนื่อง กันมาจนบัดนี้ สมดังคำตรัสของพระพรหมว่า “ตราบใดที่ขุนคีรียังยืนตระหง่านง้ำและธารน้ำยังหลั่งไหล ตราบนั้นรามายณะก็จะสถิตสถาพรอยู่ตลอดไป บรรดาเหล่าชน ผู้ประพฤติธรรมจึงได้หลุดพ้นจากบาปกรรมทั้งปวง”


เรื่องนี้น่าจะละเอียดกว่าเรื่องอื่นๆ  


บันทึกการเข้า
Wandee
หนุมาน
********
ตอบ: 4006


ความคิดเห็นที่ 242  เมื่อ 31 ม.ค. 11, 19:15

       
ชื่อของวาลมิกิ  แปลว่าจอมปลวก  เพราะได้นั่งสมาธิอยู่หลายปีจนเกิดรังปลวกขึ้นคลุมร่าง

พระนารทฤาษีกลับมาเยี่ยมและเป็นผู้แกะจอมปลวกออกจากร่าง  และให้นามนี้

ประวัติของวัลมิกิไม้ได้บันทึกไว้เป็นลายลักษณ์อักษร  เมื่อเป็นโจรก็ได้ฆ่าคน

เล่ากันต่อมาว่า วัลมิกิได้รับนางสีดาไว้เมื่อโดนไล่ออกจากราชอาณาจักร  และได้สอนพระมงกุฎและพระลบให้ท่องจำ รามายะนะ และร้องเป็นเพลง

กล่าวกันว่า รามายานา  เป็นวรรณกรรมที่ยิ่งใหญ่ไม่มีเสมอเหมือน  แต่ประวัติของวัลมิกีที่เขียนไว้ไม่มี
บันทึกการเข้า
luanglek
นิลพัท
*******
ตอบ: 2894


ความคิดเห็นที่ 243  เมื่อ 01 ก.พ. 11, 09:47

ผมให้คุณวันดี  ๒๐ คะแนน  ที่เล่าได้ละเอียด
แต่ขอหักคะแนนจากชื่อเขียนผิดหลายแห่ง  สัก ๑ ๑/๒ คะแนน
เหลือคะแนน ๑๘ ๑/๒ คะแนน
บันทึกการเข้า
Wandee
หนุมาน
********
ตอบ: 4006


ความคิดเห็นที่ 244  เมื่อ 01 ก.พ. 11, 10:07


แขกพูดไม่ชัด
บันทึกการเข้า
luanglek
นิลพัท
*******
ตอบ: 2894


ความคิดเห็นที่ 245  เมื่อ 01 ก.พ. 11, 10:07

เฉลยคำถามข้อที่ ๔๙.

จงต่อกลอนต่อไปนี้ให้ครบบท  ๑๐ คำกลอน 
แล้วตอบคำถามว่า  กลอนนี้มาจากบทละครรามเกียรติ์
สำนวน/ฉบับใด  ตอนใด  ใครแต่ง  และใช้เพลงอะไรบรรเลงส่ง ?
ข้อนี้  ๒๐  คะแนน   ตอบหน้าไมค์ 
เริ่มโพสท์คำตอบได้ในเวลา  ๑๐.๐๐ น.


เมื่อนั้น
พิราพร้องว่ากล่าวกับบ่าวไพร่
ชวนกันกินก่อนนายสบายใจ
เอออะไรไม่รออยู่ท่ากู
เช่นนี้ชอบแต่ถองสักสองศอก
มัดไว้ให้ออกอ่อนหู
ว่าพลางทางเดินเข้าไปดู
ถึงที่อยู่โรงใหญ่ในนั้น

เห็นพ่อครัวหัวป่าหากับเข้า
แกล้มเหล้าหลายสิ่งมหิงส์หัน
เนื้อพะแนงแกงช้างกวางทอดมัน
กุมภัณฑ์นั่งลงตรงโต๊ะโต
ชิมเนื้อช้างลองสิ้นสองขา
เทสุราดื่มพลางทางพูดโอ้
เรียกบ่าวช่วยฉีกซีกโครงโค
เคี้ยวคำโตโตยิ่งติดใจ

เอาไม้ลำทำตะเกียบหยิบแกล้ม
ซ้ำแถมเหล้าเข้มอีกเต็มไห
แล้วรินใส่ถ้วยลงส่งไป
บ่าวไพร่พร้อมพรั่งนั่งทำที

ฯ๑๐ คำฯ เพลงเซ่นเหล้า

เป็นบทละครรามเกียรติ์ชุดเบ็ดเตล็ดสำหรับเล่นเบิกโรง
ตอนพิราพ  พระราชนิพนธ์พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย
พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระราชนิพนธ์แก้ไขบ้างลางแห่ง
บทละครนี้ รัชกาลที่ ๒ ทรงพระราชนิพนธ์ให้ออกตลกอย่างละครนอก
เป็นบทละครพระราชนิพนธ์ที่ไม่ใคร่มีคนรู้จักกันมากนัก
และไม่ได้พิมพ์รวมอยู่กับบทละครรามเกียรติ์รัชกาลที่ ๒ ด้วย
จึงเอามาตั้งเป็นคำถาม
บันทึกการเข้า
luanglek
นิลพัท
*******
ตอบ: 2894


ความคิดเห็นที่ 246  เมื่อ 01 ก.พ. 11, 10:09


แขกพูดไม่ชัด

คนปริวรรตไม่รู้จักคำสันสกฤตที่เขียนเป็นตัวโรมันมากกว่า
หรือไม่ก็เป็นเพราะตัวโรมันเขียนโดยไม่มีเครื่องหมายบางอย่าง
ทำให้ถอดชื่อออกมาผิดๆ ถูกๆ
บันทึกการเข้า
art47
องคต
*****
ตอบ: 739


ความคิดเห็นที่ 247  เมื่อ 01 ก.พ. 11, 10:17



เป็นบทละครรามเกียรติ์ชุดเบ็ดเตล็ดสำหรับเล่นเบิกโรง
ตอนพิราพ  พระราชนิพนธ์พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย
พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระราชนิพนธ์แก้ไขบ้างลางแห่ง
บทละครนี้ รัชกาลที่ ๒ ทรงพระราชนิพนธ์ให้ออกตลกอย่างละครนอก
เป็นบทละครพระราชนิพนธ์ที่ไม่ใคร่มีคนรู้จักกันมากนัก
และไม่ได้พิมพ์รวมอยู่กับบทละครรามเกียรติ์รัชกาลที่ ๒ ด้วย
จึงเอามาตั้งเป็นคำถาม


โธ่ บทละครลี้ลับ ฮืม
บันทึกการเข้า
luanglek
นิลพัท
*******
ตอบ: 2894


ความคิดเห็นที่ 248  เมื่อ 01 ก.พ. 11, 10:30


โธ่ บทละครลี้ลับ ฮืม

สำหรับแฟนพันธุ์แท้ ท่านว่า เล่มนี้เป็นประหนึ่งยาสามัญประจำบ้าน
นี่ยังมีอีกหลายขนานที่ยังไม่ได้เอาออกมาสำแดงสรรพคุณให้เป็นที่ประจักษ์
เพราะเกรงว่านักรบแลเห็นเข้าจะชักแถวถอยร่นหนีทัพกันหมด ยิงฟันยิ้ม
บันทึกการเข้า
art47
องคต
*****
ตอบ: 739


ความคิดเห็นที่ 249  เมื่อ 01 ก.พ. 11, 10:44


โธ่ บทละครลี้ลับ ฮืม

สำหรับแฟนพันธุ์แท้ ท่านว่า เล่มนี้เป็นประหนึ่งยาสามัญประจำบ้าน
นี่ยังมีอีกหลายขนานที่ยังไม่ได้เอาออกมาสำแดงสรรพคุณให้เป็นที่ประจักษ์
เพราะเกรงว่านักรบแลเห็นเข้าจะชักแถวถอยร่นหนีทัพกันหมด ยิงฟันยิ้ม

อ้าว คุณหลวง กระผมเคยสำแดงวาจาไว้แล้วว่า ไม่ใช่แฟนพันธุ์แท้ แต่เป็นแฟนพันธุ์ทาง
อีกอย่างหนึ่ง คนบ้านนอกคอกนาไม่มียาสามัญประจำบ้านดอกครับ มีแต่ยาผีบอก ขยิบตา
บันทึกการเข้า
luanglek
นิลพัท
*******
ตอบ: 2894


ความคิดเห็นที่ 250  เมื่อ 01 ก.พ. 11, 10:54

เป็นแฟนพันธุ์ทาง ที่ลงทุนเดินทางไปหอสมุดแห่งชาติท่าวาสุกรี
เพื่อหาข้อมูลมาตอบคำถามในกระทู้ นี่นะ ตกใจ
อืมม์ ท่านเป็นแฟนพันธุ์ทางเรื่องรามเกียรติ์ ที่น่าสนใจมากทีเดียว 
บันทึกการเข้า
หน้า: 1 ... 15 16 [17]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.049 วินาที กับ 19 คำสั่ง