เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: 1 [2] 3
  พิมพ์  
อ่าน: 8036 อธิษฐาน จงเกิดเป็นครูบาอาจารย์ เชี่ยวชาญเชิงภาษาไทย
Wandee
หนุมาน
********
ตอบ: 4006


ความคิดเห็นที่ 15  เมื่อ 17 ม.ค. 11, 08:00


       ขุนสุนทรภาษิตมิได้เล่าเรียนเพียงบทร้อยกรองเท่านั้น   ความเรียงหรือร้อยแก้วก็ได้ศึกษาเป็นพิเศษในทางลับ

หนังสือพิมพ์ไทยในสมัยรัชกาลที่ ๖   พระสันทัดอักษรสาร(ฮอก  อักษรานุเคราะห์) เป็นบรรณาธิการนั้น

ขุนสุนทรภาษิตขอเข้าเป็นคณะนอกโรงพิมพ์   คือเป็นผู้เขียนบทความและข่าวสาร  ส่งงานไปเป็นประจำและขอรับเงินเป็นรายเดือน


       หลังจากต้องดุลยภาพเมื่อ พ.ศ. ๒๔๖๙   ขุนสุนทรภาษิตได้ไปเป็นผู้ช่วยบรรณาธิการหนังสือพิมพ์กรุงเทพ - เดลิเมล์  สมัย

นายหลุย  คีรีวัต เป็นบรรณาธิการ   ทุกวันเขียนข่าว  เขียนบทความลงหนังสือพิมพ์เป็นเวลาเกือบสามปี    ในปี ๒๔๗๐ ได้แต่งบทพากย์

ภาพยนตร์เรื่องไมยราพสกดทัพให้บริษัทพัฒนาการ   เป็นหนังพากย์เรื่องแรกที่ริเริ่มแข่งขันกับหนังพูดที่กำลังแพร่เข้ามาสู่เมืองไทย

เสียงพิณพาทย์บรรเลงตุม ๆ ต้อม ๆ เสมือนมีโขนโรงใหญ่ยิ่ง      บทพากย์โขนเรื่องไมยราพสกดทัพนี้   ต้นฉบับอยู่ที่นายศิลป์  สีบุญเรือง(ทิดเขียว)

ขุนสุนทรภาษิตจำได้เพียงคำร้องตอนนางพิรากวนชมจันทร์


@  ว่าพลางแลชะแง้จันทร์                อันผ่องส่องฟ้าเวหาหน

แสงจันทร์จับพักตร์พิมล                   แล้วส่องต้องต้นลดาวัลย์

แสงจันทร์อันเห็นเช่นนี้                     ยวลใจยวลฤดีให้กระสัน

หนุ่มสาวคราวรักภิรมย์กัน                 พระจันทร์จักเห็นเป็นพยาน


(นักอ่านหนังสือเก่านึกถึงภาพนางพิรากวนขึ้นชั่งในจิตรกรรมฝาผนังรอบระเบียงวัดพระศรีรัตนศาสดาราม

ห้อง ๕๕    ที่หลวงเจนจิตร์ยง  เขียนใน พ.ศ. ๒๔๗๓

เฟื้อ  หริพิทักษ์  ควบคุมเขียนซ่อม  พ.ศ. ๒๕๑๖ )
บันทึกการเข้า
siamese
หนุมาน
********
ตอบ: 7165


หนุ่มรัตนะกับภูเขาทอง


ความคิดเห็นที่ 16  เมื่อ 17 ม.ค. 11, 08:48

หนุมานพบนางพิรากวน


บันทึกการเข้า
Wandee
หนุมาน
********
ตอบ: 4006


ความคิดเห็นที่ 17  เมื่อ 17 ม.ค. 11, 09:05


สงสัยว่านางพิรากวนจะไปชมจันทร์กับใคร
บันทึกการเข้า
art47
องคต
*****
ตอบ: 739


ความคิดเห็นที่ 18  เมื่อ 17 ม.ค. 11, 09:07

ข้อนี้คุณวันดีต้องถามคุณหลวงเล็ก แกอาจจะรู้คำตอบก็ได้

(อุ๊บๆๆ  รูดซิบปาก ... อย่าเอะไป เดี๋ยวแกเอาไปตั้งเป็นคำถามอีก)
บันทึกการเข้า
Wandee
หนุมาน
********
ตอบ: 4006


ความคิดเห็นที่ 19  เมื่อ 17 ม.ค. 11, 09:26


เรียนคุณ อาร์ตที่นับถือ

  ขอเพลงอะไรที่เนื้อบอกว่า "ในอกข้านี้มีแต่ความแค้น"   

กรุณาอย่าตอบว่า "เกิดไม่ทัน"   เพราะเป็นดิสคริมิเนชั่น
บันทึกการเข้า
Wandee
หนุมาน
********
ตอบ: 4006


ความคิดเห็นที่ 20  เมื่อ 17 ม.ค. 11, 19:54


       ที่หนังสือกรุงเทพ ฯ เดลิเมล์   ขุนสุนทรภาษิต ได้แต่งแหล่ปรามาทนางสามเณรีไว้หลายแหล่

ขอยกมาเป็นตัวอย่าง


@    แกะบายศรีด้วยใบตำแย                            ทำขวัญแม่สามเณรี

เอาอุตพิตใบรีรี                                             มาวางที่เป็นชั้นระบาย

เอาดอกสำโรงที่โรยร่วง                                    มาทำเป็นพวงให้เฉิดฉาย

เอาต้นเถาคันมาทำชั้นชาย                                แล้ววางรายด้วยใบลำโพง

เชิญญาตืมิตรสนิทวงศ์วาร                                พวกคลองสานสิ้นทั้งโขยง

พวกออเหวงหมดทั้งโรง                                   ให้โอ่โถงในนิกาย

เชิญพวกจรจัดถ้วนทุกเกลอ                               เชิญสับปะเหร่อทั่วทั้งหลาย

เชิญขอทานมามากมาย                                   ต่างวุ่นวายมาเข้าประชุม

บ้างถือไม้กวาดและสวิง                                   ต่างก็วิ่งกันมากลุ้ม

เพื่อเวียนเทียนชุมนุม                                      ก็มารุมล้อมนางเณร ฯลฯ

       เข้าใจว่าเป็นที่เลื่องลือ  หาตัวผู้ประพันธ์กันนักว่า  ใครแต่งหนอ?
บันทึกการเข้า
Wandee
หนุมาน
********
ตอบ: 4006


ความคิดเห็นที่ 21  เมื่อ 18 ม.ค. 11, 04:34



หนังสือที่ขุนสุนทรภาษิตแต่งไว้

โคลงนิราสปากน้ำ

ต้นฉบับหาย  ไม่ได้พิมพ์   จำได้เพียงบทเดียว


       @  ถึงเสือซ่อนเล็บป้อม                      ปราการ

ระลึกเมื่อซ่อนรักราน                                 แรกชู้

ความลับบ่ไขขาน                                     คำเงียบ

ดุจะป้อมลับสู้                                          เศิกเสี้ยนฤาเห็น

บันทึกการเข้า
Wandee
หนุมาน
********
ตอบ: 4006


ความคิดเห็นที่ 22  เมื่อ 18 ม.ค. 11, 05:38


นางกุนตีคำกลอน

       พิมพ์ในเสนาศึกษา  ๒๔๕๙  เป็นกลอนเจ็ด

       เนื้อเรื่องมีว่า นางกุนตีเป็นราชบุตรีของกษัตริย์   ได้ไปบูชาคารวะแด่พระฤาษีศักดิ์สิทธิ์องค์หนึ่ง

ท่านได้พิเคราะห์โดยญาณว่า   นางกุนตีมีกรรม  ควรมีมนต์ไว้บท ๑   คืออาจบ่นภาวนาเรียกหาใครมาเป็นสามีก็ได้

นางกุนตีไม่เชื่อถือ    แต่ได้ลองภาวนาเรียกพระอาทิตย์มาเป็นสามี  ก็ได้ดั่งประสงค์   แล้วเกิดบุตรชายคนหนึ่ง


       ภายหลังนางกุนตีได้อภิเษกกับกษัตริย์ปาณฑุ    ขณะเมื่อพากันไปในป่า  กษัตริย์ปาณฑุไปต้องคำสาปของฤาษีศักดิ์สิทธ์ว่า

หากท่านบันดาลกำหนัด                              ปฏิพัทธ์ภรรยาโฉมเฉลา

ร่วมรสสังวาสยุพเยาว์                                 ขออำนาจพระเจ้าสังหารตาย


       ท้าวปาณฑุออกบวชพานางกุนตีกับนางมัทรีมเหษีรองไปด้วย       ท้าวเธออยากให้มีบุตรสืบสกุล  ให้นางกุนตีเชิญเทพยดาลงมา

แถมให้สอนมนต์ให้นางมัทรีอีกด้วย  ได้ราชบุตร ๕ องค์   ไม่มีราชบุตรี


       ท้าวปาณฑุน้อยใจนักที่ไม่ได้สมหวัง          รำพึงว่า


       ตูได้ให้พระมเหษี                                   เพาะนุชบุตรีไม่ได้

ควรเพาะเอาเองเกรงใย                                   ฤาษีสาบไว้นานครัน

เท็จจริงอย่างไรไม่ลอง                                     มาทนหม่นหมองโศกศัลย์

อาจจะอนิจจังหวังกัน                                       ขู่เล่นเห็นขันไม่เข้าที



       อัศจรรย์วันเกิดกำหนัด                               ประวัติสวาทวาบหวาม

ปาณฑุราชรื่นรมย์ซมซาน                                   มัทรีงอนงามเปรมปรีดิ์

พอสิ้นอัศจรรย์บันดาล                                       ชีพปาณฑุกระเด็นเป็นผี

สมคำซ้ำสาปโยคี                                            มัทรีพลอยม้วยด้วยกัน

 
      กุนตีคำกลอนเป็นกลอนประโลมโลก      แต่ได้แทรกความรู้ทางวรรณคดีของอินเดียไว้แทบทุกแห่ง

เช่นรำพันรูปลักษณะของเทพเจ้าไว้แทบทุกองค์

       อัศจรรย์                                               กามเทพคือธรรมความใคร่

มาเสกสมสองทันใด                                          ช่วยให้ได้รสอภิรมย์

กามเทพรูปกายชายหนุ่ม                                     ชวยชุมชุ่มชิดสนิทสนม

รูปงามทรามรักนิยม                                          อุดมด้วยศักดิ์ลักขณา

พาหนะนกแก้วแพรวขน                                       ขี่ขับสับสนใจกล้า

คอยชุมหนุ่มสาวคราวครา                                    สมรสเสน่หาปราณี

มั่นมือถือธนูต้นอ้อย                                            อร่อยรสหวานซ่านศรี

ตัวผึ้งขึงต่อพอดี                                                เป็นสายธนูมีโอชา

ศรใช้ดอกไม้แทนคม                                           ยิงใครให้สมปรารถนา

ถูกศรกามเทพเทวา                                            ปลาบปลื้มลืมสาระทุกข์พลัน

อัปสรเป็นฝูงบริวาร                                             ตามเสด็จขนานขมีขมัน

ธงแดงรูปมังกรพัน                                              ประจำตัวธรรม์กามไท   ฯ

บันทึกการเข้า
siamese
หนุมาน
********
ตอบ: 7165


หนุ่มรัตนะกับภูเขาทอง


ความคิดเห็นที่ 23  เมื่อ 18 ม.ค. 11, 07:12

"อัศจรรย์ ครื้นเคลงดังฟองคลื่น" ครับ  อายจัง อายจัง อายจัง
บันทึกการเข้า
Wandee
หนุมาน
********
ตอบ: 4006


ความคิดเห็นที่ 24  เมื่อ 18 ม.ค. 11, 10:01


ขอลงรายการหนังสือเท่าที่ท่านบันทึกไว้นะคะ

กลอนนิราสโรงเรียน(ต้นฉบับหาย  ไม่ได้พิมพ์  จำได้เพียงสองคำกลอน)

คำฉันท์โรโมยุเลียด  แต่ง พ.ศ. ๒๔๖๗  พิมพ์ในเสนาศึกษา เล่ม ๕

นางเทวยานีคำกลอน  แต่ง ๒๔๖๙   พิมพ์ในเสนาศึกษาเล่ม ๖

เรื่อง "ฉัน" ความเรียง  ว่าด้วยอนามัย  พิมพ์ในเสนาศึกษา เล่ม ๖ - ๗

ยายสีไพลคำกลอน    พิมพ์ในเสนาศึกษา เล่ม ๘

เห่รถไฟ กาพย์ก่อโคลง  พิมพ์ในเสนาศึกษา เล่ม ๙

มารวิชัย คำฉันท์  พิมพ์ในไทยเขษม  เมษ. ๒๔๖๘

อุบาสก  คำฉันท์  พิมพ์ในศัพท์ไทย  เล่ม ๔ ตอน ๕

วิกตอเรียคำโคลง  พิมพ์ใน "นารีเรืองนาม"

เช็กสเปีย คำโคลง  พิมพ์ในเล่มเรื่อง "บุรุษเรืองนาม"


บันทึกการเข้า
Wandee
หนุมาน
********
ตอบ: 4006


ความคิดเห็นที่ 25  เมื่อ 18 ม.ค. 11, 10:29

(ต่อ)
ทั้งหมดนี้พิมพ์ให้มหาวิทยาลัย เล่ม ๑ - ๒   พ.ศ. ๒๔๖๑

ฉันเป็นตาแดง

เมียของฉัน

ลูกของฉันเป็นไข้

ฉันดูตัวอหิวาต์

ฉันเป็นลมสลบ


       ขุนสุนทรภาษิตเป็นนักประพันธ์  เขียนคำกลอนได้ดี       ขณะที่ผู้ใหญ่ชื่นชอบเรื่อง กุนตีนั้น    หนุ่มนักศึกษาชมชอบเรื่อง "ฉัน"

กันเกรียวกราว        ไปไหนกลุ่มนักศึกษาต่างโจษขานกันว่า  "นี่ไงล่ะ  ฉันล่ะ  ฉันล่ะ"


     @ ฉันดีมีชื่อลือฉาว                              หนุ่มสาวคราวงามถามหา

หลงรักฝักใฝ่ไปมา                                     คบค้าว่าสุขสนุกกาย

ตัวฉันนั้นอยู่สู่สิง                                       แอบอิงกามราคมากหลาย

ใครทำสำส่อนห่อนอาย                                ฉันร้ายกรายเข้าเฝ้าเป็น

เบาแสบแปลบปลาบวาบดวงจิต                      เกิดพิษติดต่อก่อเข็ญ

เบาขัดปัสสาวะกะเซ็น                                  หน้านิ่วคิ้วเต้นตกใจ


       ความจริงขุนสุนทรภาษิตมีความรู้มากในทางอนามัยและสนใจในเรื่องนี้        เรื่อง "ฉัน"  คือเรื่องตัวเชื้อโรค

เป็นผู้พูดผู้เล่าบอกว่า  ตนเป็นอย่างไร     ควรป้องกันอย่างไร   เขียนเพื่อประโยชน์ของสาธารณะในทางรักษาอนามัย

หนังสือชุด ฉันเป็นตาแดง  เมียของฉัน  ลูกของฉันเป็นไข้  ฉันดูตัวอหิวาต์  และฉันเป็นลมสลบ   เป็นหนังสือชุดตัวเอกชื่อ

"ทั้ง  เกยานนท์"  พี่ชายของท่านขุนเอง   เล่าเรื่องการเจ็บไข้ได้ป่วยของตนไว้         ดำเนินเรื่องไว้ขบขันเยี่ยงชาวบ้านในจังหวัดสมุทรปราการ
บันทึกการเข้า
Wandee
หนุมาน
********
ตอบ: 4006


ความคิดเห็นที่ 26  เมื่อ 18 ม.ค. 11, 22:29


นวนิยายที่พิมพ์

กรุงแตก

พระตะบอง

พิงคะนคร(เชียงใหม่)ไม่ได้พิมพ์


คำกลอน

พระธาดาสร้างสตรี  พิมพ์ในหนังสือมหาวิทยาลัย

พระอุมาลงสรง      พิมพ์ในหนังสือสารานุกูล

พระอุมาอ่านสาร

นารีลอยฟ้า    พิมพ์ในสารานุกูล

วัลลีย์เล่าความรัก      พิมพ์ในหนังสือวิทยาจารย์

หนังสือกรุงเทพ ฯ คำฉันท์ มีชื่อขุนสุนทรภาษิต กับนายชิต  บุรทัตเป็นผู้ประพันธ์ 

งานชิ้นอื่นๆของท่านยังมีอีกมากแต่กระเดียดไปทางโลน       จะขอข้ามไปเพราะอยากอ่าน  นารีเรืองนามอีกครั้งหนึ่ง


ประวัติส่วนตัว

ภรรยา                            น.ส. แรม  บุรารักษ์

บุตรและธิดา

นาวาตรีสถาปน์

นายสะเสก

เรืออากาศเอก  สมุคค์

แพทย์หญิง  พนิต


ถึงแก่กรรมเมื่อ วันที่ ๒๙ สิงหาคม  ๒๔๙๔ 
บันทึกการเข้า
Wandee
หนุมาน
********
ตอบ: 4006


ความคิดเห็นที่ 27  เมื่อ 19 ม.ค. 11, 07:09


พระราชินีวิกตอเรีย

ในหนังสือ "นารีเรืองนาม"   หน้า  ๓๑ -  ๓๖

อนุสรณ์ คุณหญิงวิบูลลักสม์  ชุณหะวัณ 

กระทรวงมหาดไทย  พิมพ์ชำร่วยในงานพระราชเพลิงศพ  ๑๗ เมษายน  ๒๔๙๘



จะขอคัดลอกมาเป็นบางส่วน

อ้างอิงหนังสือ วิกตอเรียน อีรา


       ในพระราชประวัตินี้                                นำมา

จากวิคตอเรียนอีรา                                       เล่มน้อย

ขุนสุนทรภา                                               ษิตพากย์   ประพันธ์เอย

ผิพลาดขาดเกินถ้อย                                      โปรดเอื้ออวยอภัย



       เพียรเชลงเฉลิมเกียรติ์ก้อง                        กษัตรี

กวีนวิกตอเรียศรี                                          ศักดิ์ไท้

สมเด็จพระราชินี                                          อังกฤษ

เฉลิมราชประวัติไว้                                        เวี่ยแล้วเยินยอ


       ค.ศ. พันแปดร้อย                                  สิบประจบ    เก้าเอย

ยี่สิบสี่พฤศภ                                                มาศอ้าง

วันพระราชสมภพ                                           พระแม่

ณพระราชวังสร้าง                                           ชื่อซร้องเกนซิงตัน


       อันดยุ๊คดัชเชสอ้าง                                   ออฟเคนต์

พระชนกชนนีเป็น                                            ปิ่นเกล้า

ตระกูลขัตติยะนเรนทร์                                       ราชิ  นีนอ

ยอร์ชที่สามผ่านเผ้า                                          พระผู้ไอยกา


       พระบิดาเสด็จคุ้ง                                       คืนสวรรค์

แปดมาศพระชนม์วาร                                        ลุได้

เมื่อสี่สิบสองชัณ                                              ษาพระ  แม่เอย

จึงพระมารดาไท้                                               เสด็จเมื้อแมนผจง

บันทึกการเข้า
Wandee
หนุมาน
********
ตอบ: 4006


ความคิดเห็นที่ 28  เมื่อ 19 ม.ค. 11, 07:20



       พระผ่านสมบัติได้                                     ด้วยความ  สงบเอย

ยี่สิบสี่มิถุนยาม                                               ย่ำเช้า

ศกพันแปดร้อยสาม-                                         สิบเจ็ด

เป็นพระราชินีเจ้า                                             ภพพื้นผองประชา


       เสวยราชสมบัติได้                                      สามปี

พระอภิเษกศรี                                                  สรุปซร้อง

เจ้าแอลเบอตสวามี                                            มีศักดิ์   สมแฮ

คือพระภาดาพร้อม                                            เผ่าไท้บรมพงศ์                                                   

                                 
บันทึกการเข้า
Wandee
หนุมาน
********
ตอบ: 4006


ความคิดเห็นที่ 29  เมื่อ 20 ม.ค. 11, 06:25


       รัชกาลองค์พระเจ้า                                   ราชินี  นี้นอ

อังกฤษเจริญศรี                                              ศุขซร้อง

เศิกภายนอกในหนี                                           หน่ายพ่าย

พระกฤษดานุภาพป้อง                                       ปกเกล้าชาวประชา

 
       แคนาดาเขตขึ้น                                       ขบถ

ไอยคุปต์อินเดียคด                                          รบเร้า

อังกฤษปราบปรามกลด                                     ปลูกศุขให้แฮ

ต่างสงบนบนอบเกล้า                                        ตลอดเบื้องปัจจุบัน


(เล่าเรื่องจลาจลในประเทศ)


       สีมามอญทั้ง                                           มณฑล

อีกฮ่องกลทางหน                                            ออกอ้อม

เกาะไซปรัสกลางชล                                         ก็แพร่  หลายแฮ

ยอมออกมาอ่อนน้อม                                        นอบเบื้องบารมี

     
(เล่าเรื่อง พานิชยกรรม   ภาษี    เป็นอารยะ  มีวิทยาการ    มีพิพิธภัณฑ์มากมาย
 เล่าเรื่องพระเจ้าลูกยาเธอ  พระธิดา   พระญาติ)


       ในพันเก้าร้อยเอ็ด                                     เดือนธันว์

ที่ยี่สิบสองบรร-                                              จบถ้วน

พระราชินีสวรรค์                                             คตสู่     สรวงแฮ

พศกทั่วหน้าล้วน                                             ระลึกพร้องพร่ำพระคุณ
บันทึกการเข้า
หน้า: 1 [2] 3
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.046 วินาที กับ 20 คำสั่ง