เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: [1]
  พิมพ์  
อ่าน: 4754 กานทคีตา
chupong
พาลี
****
ตอบ: 319


 เมื่อ 17 พ.ย. 10, 12:40

เรียนท่านอาจารย์เทาชมพู รวมถึงท่านสมาชิกเรือนไทยทุกท่านครับ

   กระทู้นี้เกิดจาก ผมท่องเว็บเรือนไทยหลายห้องครับ พบกระทู้จำนวนไม่น้อยกล่าวถึงบทเพลง  คิดว่า อยากจะเล่าเรื่องเพลงโปรดของตัวเองเสียหน่อย ครั้นจะเล่าโดยภาพกว้างๆก็กลัวตนจะน้ำท่วมทุ่งผักบุ้งโหรงเหรง อย่ากระนั้นเลย กำหนดประเด็นดีกว่า แล้วก็หนีไม่พ้นเรื่องร้อยกรองครับ

   ผมหลงรักกาพย์กลอนเป็นชีวิต ดังได้เรียนทุกท่านทราบแล้วในหัวข้ออื่นๆก่อนหน้า แต่ นอกจากเสพงานกวีจากหนังสือแล้ว ยังเสพผ่านเพลงอีกทางหนึ่งด้วย ข้อสรุปประการหนึ่งที่ได้นั่นคือ “เพลงเก่า” กับ “กวีนิพนธ์” หนีกันไม่พ้นจริงๆ

   บรรดาฉันทลักษณ์ไทยทั้งหลาย ดูเหมือน “กลอนสุภาพ” จะถูกนำไปใส่ทำนองเป็นเพลงมากที่สุดนะครับ  แม้กระนั้น เพลงซึ่งนำ โคลงสี่สุภาพ, กาพย์ยานี กาพย์สุรางคนางค์มาใส่ทำนองก็ใช่ว่าจะมิมี ก่อนเข้าเรื่องเพลงแบบจริงๆจังๆ ขออนุญาตเกริ่นสักหน่อยครับ ผมติดเพลงสุนทราภรณ์ เพลงลูกกรุง ตลอดจนเพลงลูกทุ่งที่ภาษาสวยมาตั้งแต่เรียนมัธยมต้น ผลพวงก็เนื่องมาจากเรียนวรรณคดีไทยนั่นเองครับ พอชอบสัมผัสคล้องจองของถ้อยคำ เวลาคุณยาย คุณพ่อคุณแม่ท่านฟังเพลงยุคเก่า (พ้นสมัยเด็กรุ่นผม) ผมกลับเพลิดเพลิน ไม่เคยเบื่อหน่ายเบนหนี เพราะสำเนียงอันโสตประสาทสัมผัสแสนเสนาะเพราะพริ้งเสียนี่กระไร ผมเลยติดเพลงเก่ามากระทั่งปัจจุบันครับ

   เข้าสู่ประเด็นแล้วครับ เพลงหนึ่งที่ผมจะไม่มีวันลืม ก็คือเพลงที่จะนำมาลงในกระทู้นี้เป็นประเดิมครับ ผมได้ฟังครั้งแรกตอนก่อนเข้ามัธยมปลายเสียอีก คลับคล้ายคลับคลาว่า ฟังจากรายการ “อัลบัมเพลงเก่า” ผู้ดำเนินรายการรู้สึกจะชื่อ คุณกิตติ โสภณประภาส กระมังครับ ฟังแล้วบันทึกแถบเสียงไว้ฟังซ้ำ เผอิญวันนั้น คุณกิตติ เปิดเพลง “บัวไกลตา” เสียงร้องของ “คุณชวลีย์ ช่วงวิทย์” ผมฟังแล้วต้องมนต์สะกดฉับพลัน บอกตัวเองได้ว่า เพราะจับจิตเหลือเกิน แต่จะให้อธิบายว่าเพราะด้วยเหตุใด สมัยนั้นอธิบายไม่ได้แน่ ทว่า ตอนนี้ พอจะชี้แจงได้แล้วครับ

เพลง บัวไกลตา
คำร้อง ท่านขุนวิจิตรมาตรา ทำนอง ท่านครูเอื้อ สุนทรสนาน

   ตะวันจางดวงจันทร์นั้นก็แจ่ม
เพริศแอร่มแพรวอร่ามเรืองยามฉาย
พอดาวเคลื่อนเดือนก็คล้อยแสงพลอยคลาย
แสนเสียดายด้วยจะดับไปลับดวง

   เหมือนโกสุมกลีบสวยรวยเกสร
อรชรงามเชิดเพริศพราวช่วง
มาอาภัพคนพบประสบพวง
วันยิ่งล่วงก็จะหล่นหมดคนแล

   ครับ นี่คือกลอนประดับอลังการาภรณ์พิจิตร ท่านผู้ประพันธ์จงใจอย่างยิ่งในการวางจังหวะ โดยให้คำที่มีเสียงพยัญชนะเดียวกัน มาอยู่ในตำแหน่งพยางค์ที่ ๓ ๕ ๘ ของกลอนเกือบทุกวรรค (ในกรณีวรรคใดมี ๙ พยางค์ ก็เล่นเสียงพยัญชนะเดียวกันนั้นในพยางค์ ๓ ๖ ๙) ยกเว้นวรรค ๒ ของท่อนแรก แม้กระนั้น การเล่นสัมผัสพยัญชนะต้นวรรค (เพริศแอร่มแพรวอร่าม) ก็แสนสละสลวย ชั้นเชิงดังกล่าว จะจัดเข้าทำเนียบกลบทชนิดไร ผมมิอาจตัดสินได้ครับ เพราะยังปัญญาต่ำ ความรู้ตื้นเขินเต็มที ทว่าที่แน่ๆก็คือ ลีลาแบบนี้ มีปรากฏในงานกวีนิพนธ์ร่วมสมัย ผมเคยฟังบทกวีชื่อ “ฉิมพลี” ของ ท่านอาจารย์เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ พิมพ์รวมอยู่ในหนังสือ “คำหยาด”  แต่จำฉิมพลีมิได้แล้ว เนื่องเพราะมิได้ท่องไว้ ด้วยเห็นเป็นบทอัศจรรย์ จำบทนี้ได้แทนครับ เพราะมีซีดีฟังก่อนนอนประจำ ถือเป็นหนังสือเสียงเล่มโปรดที่ฟังจนนับเที่ยวไม่ถ้วน

แม่พิมพ์
โดย ท่านอาจารย์เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์

   ถึงแม่พิมพ์ขอพรสุนทรภู่
ไหว้พ่อครูเพลงคำเคยร่ำขาน
มาบ้านกล่ำเมืองแกลงแต่งกลอนกานท์
ให้จดจารอ่านจำชื่นฉ่ำใจ

   ทะเลรอบขอบริ้วลมลิ่วรื่น
เมื่อดึกดื่นดวงดาวราวเด็ดได้
พอเช้าชื่นคลื่นช้อนค่อยชอนไช
สนธยายองใยให้เย็นเย็น

   เจ้าดวงแสดแดดสาดกับหาดทราย
ก็เหลียวหาแลหายไปห่างเห็น
กลับซ่าซัดซ้ำซ้ำน้ำกระเซ็น
มาแวะเว้นว่างวายให้อาวรณ์

   โอ้พิมพ์น้อยพลอยเนื้อระเรื่อนิ่ม
ทะเลอิ่มฟ้าสะอาดหาดทรายอ่อน
ตะวันทอทาบทาเหมือนอาทร
ฝากเพลงพรกลอนพร้อมกล่อมแม่พิมพ์

จากหนังสือ เขียนแผ่นดิน

   ผมเขียนมาเสียยืดยาว ท่านผู้อ่านคงรำคาญแล้วกระมังครับ ก็เห็นจะต้องเอวังหละครับ ก่อนจบ ฝากทิ้งท้ายว่า ท่านผู้อ่านท่านใดมีเพลงโปรดที่นำฉันทลักษณ์ไทยหลากชนิดมาใส่ทำนอง ไม่ว่าจะโคลง ฉันท์ กาพย์ กลอน ร่าย หรือฉันทลักษณ์ประจำถิ่นภาคต่างๆ ผมขอเรียนเชิญมาร่วมแบ่งปันกันอ่านครับ อย่างน้อย นี่อาจเป็นอีกหนทางหนึ่งในการเข้าถึงคำประพันธ์ นอกเหนือไปจากบทอาขยาน ควบคู่ไปกับการร่วมกันสืบสานกานทคีตาให้อำมตะสืบไป ท่ามกลางยุคสมัยที่เพลงภาษาศิลป์ลดน้อยลงครับ

ขอแสดงความนับถืออย่างสูงยิ่ง
ชูพงค์ ตรีวัฒน์สุวรรณ

   

บันทึกการเข้า
ลุงไก่
สุครีพ
******
ตอบ: 1281



ความคิดเห็นที่ 1  เมื่อ 18 พ.ย. 10, 08:22

คุณชูพงศ์นำเนื้อร้องของเพลงบัวไกลตา มาลงไว้ ลุงไก่ใจไวนึกถึงเพลงบัวน้อยคอยรักเพลงโปรดเพลงหนึ่งของลุงไก่ ที่พี่แจ้ ดนุพล แก้วกาญจน์ ของแกรนด์เอ๊กซ์ร้องไว้ ครึ้มใจนำมาลงไว้ให้บ้าง
แต่ผู้ประพันธ์เพลง กับผู้เรียบเรียงเสียงประสานและทำนองจะเป็นผู้ใด รอท่านตอไปก็แล้วกัน

เพลงบัวน้อยคอยรัก

บัวน้อยลอยชูช่อ รออรุณ เหมือนรอไออุ่น จากดวงสุริยา
เช่นเรียมหลงคอยกานดา ไม่พบดวงหน้า ร้าวอุราอาวรณ์
หลงรูป หลงจูบ เพียงหมอน ไม่มีชู้นอน ร้าวรอนเดียวดาย

วานสายลมช่วยบอก นงค์พงา ขอวอนพร่ำว่า อย่ามัวเอียงอาย
หากนอนหนาวเดียวเปลี่ยวกาย พี่นี้ไม่หน่ายหมายประโลมชมเธอ
เช้าค่ำฝันใฝ่ ละเมอ พี่รักรักเธอ รักเธอใช่ลวง

ต่างคนต่างนอน เดียวดาย จะหนาวตาย นะเจ้าพุ่มพวง
ต่างคนต่างนอน เป็นห่วง จนเดือนเลยล่วง ประโยชน์อะไร
จนปีเลยล่วง ประโยชน์อะไร

จงคิดตรองดูใหม่ ใจตรงกัน มิควรนอนสั่น อยู่เดียวเปลี่ยวใจ
หากวันผันเวียนเปลี่ยนไป จะร้าวทรวงใน ไร้คู่เชยชิดชม
แม้วัยล่วงเลยจะตรม ไม่มีชู้ชม ระทมจนแก่ตาย

ต่างคนต่างนอน เดียวดาย จะหนาวตาย นะเจ้าพุ่มพวง
ต่างคนต่างนอน เป็นห่วง จนเดือนเลยล่วง ประโยชน์อะไร
จนปีเลยล่วง ประโยชน์อะไร

จงคิดตรองดูใหม่ ใจตรงกัน มิควรนอนสั่น อยู่เดียวเปลี่ยวใจ
หากวันผันเวียนเปลี่ยนไป จะร้าวทรวงใน ไร้คู่เชยชิดชม
แม้วัยล่วงเลยจะตรม ไม่มีชู้ชม ระทมจนแก่ตาย

แถมอีกเพลงหนึ่ง คือเพลงบัวกลางบึง ขับร้องโดยคุณมัณฑนา โมรากุล

ไฟล์ของยูทูป 

อนาถเหลือล้ำ บัวบานเหนือน้ำ อยู่ห่างคน
ลับตาอยู่จนกลางบึง ได้แต่ชะเง้อละเมอรำพึง
เจ้าอยู่ถึงกลางบึง ปล่อยให้ผึ้งเชยชม

แดดส่องผิวน้ำบัวพลอยหมองคล้ำ ด้วยแดดเผา
สีเจ้าก็เศร้าด้วยลม ตกดึกน้ำน้อยนอนคอยคนชม
เจ้าต้องคลุกโคลนตมกลีบที่บ่มโรยรา

บัวน้อยลอยอยู่กลางบึง ครั้นคนเอื้อมไม่ถึงมีฝูงผึ้งบินมา
อยากพักพิงบนหิ้งบูชา เขาไม่ปรารถนาแล้วจะว่าเขาแกล้ง

โธ่อยู่ไกลหนักหนาดั่งซ่อนหลบตาแอบแฝง
หากปล่อยทิ้งไว้พอใจแมลง สิ้นกลิ่นสีโรยแรง
แล้วคงเหี่ยวแห้งคาบึง
บันทึกการเข้า
:D :D
นิลพัท
*******
ตอบ: 2333


ความคิดเห็นที่ 2  เมื่อ 19 พ.ย. 10, 17:03

เพลง แสงดาวแห่งศรัทธา ค่ะ
แต่งโดย คุณจิตร ภูมิศักดิ์ ในช่วงปี พ.ศ. 2503-2505
ขณะถูกขังอยู่ที่คุกลาดยาว โดยใช้นามปากกาว่า "สุธรรม บุญรุ่ง"
ใช้คำได้ดีมาก ฟังเวลาที่ท้อจะรู้สึกมีกำลังใจขึ้นค่ะ

พร่างพรายแสง ดวงดาวน้อยสกาว
ส่องฟากฟ้า เด่นพราวไกลแสนไกล
ดั่งโคมทอง ส่องเรืองรุ้งในหทัย
เหมือนธงชัย ส่องนำจากห้วงทุกข์ทน

พายุฟ้า ครืนข่มคุกคาม
เดือนลับยาม แผ่นดินมืดมน
ดาวศรัทธา ยังส่องแสงเบื้องบน
ปลุกหัวใจ ปลุกคนอยู่มิวาย
 
ขอเยาะเย้ย ทุกข์ยากขวากหนามลำเค็ญ
คนยังคง ยืนเด่นโดยท้าทาย
แม้นผืนฟ้า มืดดับเดือนลับมลาย
ดาวยังพราย ศรัทธาเย้ยฟ้าดิน
ดาวยังพราย อยู่จนฟ้ารุ่งราง

ลองฟังเพลงนี้จาก youtube ข้างล่างนี้นะคะ !!!



บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33585

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 3  เมื่อ 19 พ.ย. 10, 18:41

ใกล้วันลอยกระทง  ขอนำเพลงลอยกระทงมาฝาก


บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33585

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 4  เมื่อ 19 พ.ย. 10, 18:46

สาส์นรัก จากพระราชนิพนธ์ "ท้าวแสนปม" ในรัชกาลที่ ๖ 
ขับร้องโดยรุ่งฤดี แพ่งผ่องใส  ทำนองโดยครูเอื้อ สุนทรสนาน




 ในลักษณ์นี้ว่าน่าประหลาด
เป็นเชื้อชาตินักรบกลั่นกล้า
เหตุไฉนย่อท้อรอรา
หรือจะกล้าแต่เพีย งวาที

เห็นแก้วแวววับที่จับจิต
ไยไม่คิดอาจเอื้อมให้เต็มที่
เมื่อไม่เอื้อมจะได้อย่างไรมี
อันมณีหรือจะโลดไปถึงมือ

อันของสูงแม้ปองต้องจิต
ถ้าไม่คิดปีนป่ายจะได้หรือ
มิใช่ของตลาดที่อาจซื้อ
หรือแย่งยื้อถือได้โดยไม่ยอม

ไม่คิดสอยมัวคอยดอกไม้ร่วง
คงชวดดวงบุปผาชาติสะอาดหอม
ดูแต่ภุมรินเที่ยวบินดอม
จึงได้ออมอบกลิ่นสุมาลี
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33585

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 5  เมื่อ 19 พ.ย. 10, 18:48

แต่ถ้าจะฟังเสียงดั้งเดิม ของเพลงนี้ ขับร้องโดยมัณฑนา โมรากุล  ก็เอามาให้ฟังจากยูทูปค่ะ

บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33585

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 6  เมื่อ 19 พ.ย. 10, 19:01

นำเสียง นันทิดา มาให้ฟังบ้างคะ  แทนเสียงมัณฑนา โมรากุล ที่เคยร้องเพลงนี้ไว้
เสี่ยงเทียน  จากทำนองเพลงไทยเดิม ลาวเสี่ยงเทียน
คำร้อง แก้ว อัจฉริยะกุล              ทำนอง เอื้อ สุนทรสนาน      

   

อ้าองค์พุทธาปฏิมาข้าน้อมเศียร
เทพประจำแสงเทียนฟังข้าเสี่ยงเทียนวันทา
ด้วยกุศลผลกรรม ขอจงโปรดนำให้สมอุรา
ขอความปรารถนาของข้าสมดังสัจจาที่มุ่งไว้

มาตรแม้นรักข้าชื่นชมสบสมสมาน
เทียนจงโชติชัชวาลดังคำอธิษฐานทันใด
ถ้าหากรักของข้าถึงต้องอัปราสลายไป
แสงเทียนสุกใสจงดับลับไปต่อหน้าบัดนี้เทอญ
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33585

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 7  เมื่อ 19 พ.ย. 10, 19:08

แถมให้อีกเพลงค่ะ
บุษบาเสี่ยงเทียน  เสียงของอรวี สัจจานนท์   จากทำนองเพลงไทยเดิม ลาวเสี่ยงเทียน เหมือนกัน



เทียนจุดเวียนพระพุทธา 
ตัวข้า บุษบาขออธิษฐาน
เทียนที่เวียนนมัสการ
บันดาลให้ หทัยสมปรารถนา
ดลจิตอิเหนา ให้เขามารักข้า
ขอองค์พระปฏิมา เมตตาช่วยคิดอุ้มชู
ขอเทียนที่เวียนวน ดลฤทัยสิงสู่
ให้องค์ระเด่นเอ็นดู อย่าได้รู้คลายคลอน
อ้า องค์พระพุทธา
ตัวข้าบุษบาขอกราบวิงวอน
ข้าสวดมนต์ขอพระพร
วิงวอนให้หทัยระเด่นปรานี
รักอย่าเคลือบแฝง ดังแสงเทียนริบหรี่
ขอองค์ระเด่นมนตรี โปรดมีจิตนึกเมตตา
ขอเทียนที่เสี่ยงทาย ดลให้คนรักข้า
รักเพียงแต่บุษบา ดั่งข้านี้ตั้งใจ
อ้า องค์พระพุทธา
ตัวข้า บุษบาขอกราบวิงวอน
ข้าสวดมนต์ขอพระพร
วิงวอนให้หทัยระเด่นปรานี
รักอย่าเคลือบแฝง ดังแสงเทียนริบหรี่
ขอองค์ระเด่นมนตรี โปรดมีจิตนึกเมตตา
ขอเทียนที่เสี่ยงทาย ดลให้คนรักข้า
รักเพียงแต่บุษบา ดั่งข้านี้ตั้งใจ..
บันทึกการเข้า
chupong
พาลี
****
ตอบ: 319


ความคิดเห็นที่ 8  เมื่อ 22 พ.ย. 10, 15:17

สวัสดีครับ ท่านผู้อ่านที่เคารพทุกท่าน

   สวัสดีครับ คุณลุงไก่
   เพลงบัวน้อยคอยรัก ผมเคยฟังคุณครูสุเทพ วงศ์กำแหง ขับร้องครับ แต่จะเป็นต้นฉบับหรือไม่ มิทราบจริงๆครับ ส่วนบัวกลางบึง เสียงคุณย่ามัณฑนา โมรากุล ผมว่าอมตะนะครับ ฟังครั้งแรกขนลุก (ด้วยความกำซาบซึ้ง) ครับ

   สวัสดีครับ คุณสองยิ้ม
   เรื่องเพลงของท่านจิตร ภูมิศักดิ์ที่แต่งขณะต้องโทษจองจำนั้น สามารถเปิดกระทู้ใหม่ได้เลยนะครับเนี่ย เพราะมีเกินสิบเพลงขึ้นไป ไหนๆ คุณสองยิ้มนำเพลงแสงดาวแห่งศรัทธา (อันโด่งดังที่สุด) มาลงแล้ว ผมก็ขอนำเพลง “เสียงเพรียกจากมาตุภูมิ” จากความทรงจำมาพิมพ์ไว้ด้วยแล้วกันครับ เพลงนี้ท่านแต่งในคุก ใช้นามปากกา “สุธรรม บุญรุ่ง” ครับ

เสียงเพรียกจากมาตุภูมิ
คำร้อง/ทำนอง สุธรรม บุญรุ่ง (ท่านจิตร ภูมิศักดิ์)

   ม่านฟ้ายามค่ำ
ดั่งม่านสีดำม่านแห่งความร้าวระบม
เปรียบเหมือนดวงใจมืดทึบระทม
พ่ายแพ้ซานซมพลัดพรากบ้านมา

   ต่อสู้กู้ถิ่น
แหละสิทธิ์เสรี กู้ศักดิ์และศรีโสภา
จึงพลัดมาไกลทิ้งไว้โรยรา
จะร้างดั่งป่าอยู่นับปี

   เคยสดใสรื่นเริงดั่งนกเริงลม
ถลาลอยชื่นชมอย่างมีเสรี
แม้นร้อยวังวิมานที่มี มิเทียมเทียบปัถพีที่รักมั่น
ความใฝ่ฝันแสนงามแต่ครั้งเคยเนา
ชื่นหวานในใจเราอยู่มิเว้นวัน
ความหวังยังไม่เคยไหวหวั่น
ยึดมั่นว่าจะได้คืนเหมือนศรัทธา

   แว่วเสียงก้องกู่
จากขอบฟ้าไกลแว่วดังจากโพ้นนภา
บ้านเอ๋ยเคยเนากังวานครวญมา
รอคอยเรียกข้าอยู่ทุกวัน

   กราบขอบพระคุณท่านอาจารย์เทาชมพูครับ สำหรับเพลงลอยกระทงอันอมตะ ความจริง ผมอยากตั้งกระทู้เกี่ยวกับบทกวีที่บรรยาย หรือ พรรณนาให้เห็นบรรยากาศวันลอยกระทงในสมัยต่างๆครับ แต่ ในหัวไม่มีบทอาขยานใดที่จำได้แบบครบสมบูรณ์ จึงยุติความคิดเสียด้วยเกรงปล่อยไก่ครับ

   เพลง สารรัก ผมคุ้นชินกับเสียงคุณย่ามัณฑนาเสียแล้วครับอาจารย์ แต่....แหม พอฟังมาถึงตรงนี้ เสียวหัวใจแปลบๆทุกทีครับ

   “อันของสูงแม้ปองต้องจิต
ถ้าไม่คิดปีนป่ายจะได้หรือ”
ก็เพราะผมพยายามจะปีนป่ายขึ้นไปหาของสูงน่ะซีครับ อกจึงหักเป๊าะๆอยู่เรื่อย แม้กระนั้น ก็ยังหวังว่าสักวันจะ “ได้ออมอบกลิ่นสุมาลี” ดังในบทพระราชนิพนธ์ว่าไว้ครับผม
 

   
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33585

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 9  เมื่อ 22 พ.ย. 10, 18:00

เปลี่ยนบรรยากาศจากสุนทราภรณ์บ้าง

ชอบเพลง เก็บดาว ของบอย โกสิยพงศ์ไหมคะ    คนร้องคือรัดเกล้า อัมระดิษ ค่ะ



บันทึกการเข้า
chupong
พาลี
****
ตอบ: 319


ความคิดเห็นที่ 10  เมื่อ 23 พ.ย. 10, 09:05

เรียนท่านอาจารย์เทาชมพูครับ

   คุณบอย โกสิยพงศ์ ผมชอบครับ ชอบในแง่ที่สามารถนำข้อคิด ปรัชญาจากสิ่งใกล้ๆตัวซึ่งบางคน (รวมผมด้วยบางขณะ) อาจมองข้ามไปมาร้อยเรียงเป็นเพลงได้อย่างมีเสน่ห์ลึกซึ้ง งดงามในความเรียบง่ายครับ เมื่อเร็วๆนี้ เพื่อนตาบอดรุ่นน้องแนะนำให้ผมฟังเพลง เอ รู้สึกจะชื่อ สองหมื่น หรืออะไรนี่แหละครับ ของคุณบอย ผมยังไม่เคยฟังเลยครับ สงสัย จะตกยุคเอามากๆแล้วซีครับอาจารย์


บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33585

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 11  เมื่อ 23 พ.ย. 10, 09:55

ลองฟัง สองหมื่น นะคะ

บันทึกการเข้า
chupong
พาลี
****
ตอบ: 319


ความคิดเห็นที่ 12  เมื่อ 24 พ.ย. 10, 08:31

เรียน ท่านอาจารย์เทาชมพูที่เคารพยิ่งครับ

   ผมฟังเพลง “สองหมื่น” แล้วครับอาจารย์ โดยพลันที่ฟังจบ ใจหายครับ นี่เราอายุสามสิบสองแล้ว ผ่านวันเวลามากี่วันแล้วหนอ ยังเหลือวันอันจะอยู่ต่ออีกสักเท่าไหร่ แหละข้อสำคัญ ได้บำเพ็ญสิ่งใดเป็นประโยชน์แก่ส่วนรวมบ้าง ข้อหลังสุดนี่ ผมว่า ผมทำนะครับ แต่ทำเท่าที่กำลังคนน้อยๆอย่างผมจะทำได้ เวลาที่เหลือ ก็จะประคับประคองตัวเองมิให้ตกไปสู่หนต่ำกรรมเสื่อมครับ ไหนๆเกิดมาตาบอดแล้ว ไม่ขอบอดทางจิตใจหรอกครับอาจารย์

 
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33585

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 13  เมื่อ 24 พ.ย. 10, 08:50

ได้บำเพ็ญสิ่งใดเป็นประโยชน์แก่ส่วนรวมบ้าง ข้อหลังสุดนี่ ผมว่า ผมทำนะครับ แต่ทำเท่าที่กำลังคนน้อยๆอย่างผมจะทำได้ เวลาที่เหลือ ก็จะประคับประคองตัวเองมิให้ตกไปสู่หนต่ำกรรมเสื่อมครับ ไหนๆเกิดมาตาบอดแล้ว ไม่ขอบอดทางจิตใจหรอกครับอาจารย์

 

เป็นความคิดที่ถูกต้องแล้วค่ะ
"นตฺถิ ปญฺญาสมา อาภา"  แสงสว่างเสมอด้วยปัญญาไม่มี
ตราบใดที่มีปัญญาพอจะคิด รู้ดีรู้่ชั่ว รู้ถูกรู้ผิด  คุณก็ไม่มีวันมืดบอดหรอกค่ะ   ความสว่างไม่ได้อยู่ที่สายตา แต่อยู่ที่ใจ
บันทึกการเข้า
:D :D
นิลพัท
*******
ตอบ: 2333


ความคิดเห็นที่ 14  เมื่อ 03 ธ.ค. 10, 12:32

มี website มาแนะนำคุณชูพงค์ และเพื่อนๆ ค่ะ
http://www.fungdham.com/song.html
เป็นเพลงเกี่ยวกับธรรมะค่ะ ให้ฟังแบบ online และ download ได้ด้วยค่ะ

และที่http://www.fungdham.com/book/book.html
เป็นหนังสือธรรมะแบบมีเสียงอ่านให้ฟังค่ะ

ลองเข้าไปฟังดูนะคะ
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.067 วินาที กับ 20 คำสั่ง