ในฐานะเด็กบางลำภู ขออนุญาติระบายความหลังนิดส์ เพื่อคลายอาการสวิงสวาย ขอรับ.
- ถนนสิบสามห้างเมื่อสี่สิบกว่าปีก่อน เรียงรายไปด้วยมิเตอร์หยอดเหรียญจอดรถ จำได้ว่ามีร้านขายผ้าหลายร้าน ร้านเดียวที่จำแม่นคือร้านหลีแซ เพราะหลานชายร้านนี้เรียนห้องเดียวกันกับผม
- สมัยนั้นคอกาแฟยามเช้า จะไปป๊ะกันที่ร้านไต้จง ถนนตานี
- ปากซอยรามบุตรี ติดกับร้านไอสครีมฮาวาย จะเป็นบ้านทรงไทยยกพื้น หน้าบ้านมีบันไดและซุ้มประตูแบบบ้านๆ ที่นี่ในยามเช้าจะมีคุณยายนั่งแคะขนมครกขาย ขนมครกที่นี่ฝาใหญ่กว่าทั่วไปและไม่ใส่น้ำตาล โดยจะมีน้ำตาลทรายแยกใส่ห่อกระดาษให้จิ้มต่างหาก ขอบอกว่ามันส์สุดๆ แถมเปลือกนอกกรอบอร่อย ใช้ฝาดินเผาในแต่ละเต้าขนมครก และใช้กระบวยทำด้วยกะลามะพร้าวหยอด ไม่ได้ใช้ฝาโอ่งปิด และกาน้ำร้อนหยอดเหมือนสมัยนี้ เฮ้อ...
- ร้านพรชัยบนถนนตะนาว ที่ปัจจุบันโด่งดังเรื่องขนมปังใส้ต่างๆจนต้องรอคิวซื้อ เมื่อก่อนขายก๋วยเตี๋ยวเนื้อ ฝีมือระดับเทพเชียวร้านนี้ น่าเสียดายที่ปัจจุบันหันมาเอาดีทางขายขนม
- ตรอกข้าวสารในสมัยนี้ สมัยก่อนเรียกถนนข้าวสาร เงียบมากๆ นานๆจะมีรถผ่านสักคัน จำได้ว่าบริเวณหัวถนนที่ตัดกับถนนตะนาวจะมีร้านก๋วยเตี๋ยวเนื้อร่อยเด็ด น้ำซุปที่นี่หอมเอามากๆ ผมเดินผ่านทีไรก็ต้องสูดหายใจลึกๆ เก็บความหอมไปกินกับข้าวเปล่าที่บ้านทุกที
- บนถนนข้าวสารจะมีร้านขายสังฆภัณฑ์ร้านใหญ่ไม่ต่ำกว่า 3 ห้องตึกแถว ฝาผนังแขวนรูปนรกสวรรค์ใบโตรอบร้าน เดินผ่านทีไรอดแอบมองไม่ได้ทุกที
- โรงเรียนวัดชนะสงคราม โรงเรียนสามัญต้นแบบของกระทรวงศึกษาธิการ สมัยผมมี ผอ.ชื่อคุณครูอารีย์ ใจดีมาก ตรงข้ามกับคุณครูสอนวิชาช่างไม้, เขียนแบบ, จัดสวน ชื่อคุณครูจำรัส หรือเราเรียกกันติดปากว่าป๋า ซึ่งดุเอามากๆ วันหลังหากมีศิษย์เก่าเข้ามาในนี้บ้าง จะขยายเรื่องของป๋าให้ํฟัง แล้วคุณจะอดอมยิ้มไม่ได้กับวิธีสอนเด็กเฮี้ยวให้เป็นเด็กดีในสมัยนั้น
วันนี้ขอระบายอาการสวิงสวายแค่นี้ก่อนครับ ขอบคุณครับที่อ่าน
