เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: 1 ... 4 5 [6]
  พิมพ์  
อ่าน: 38313 ตุ๊กตาหิน อับเฉาจากจีน หรือ Made in Thailand
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 75  เมื่อ 09 พ.ย. 10, 13:23

ในภาพวาด  ปลาตาเหลือกในภาพ หน้าตาสมชื่อมาก
แต่ปลาตาเหลือกตัวจริง หน้าตาอย่างนี้ค่ะ



วิกกี้บอกว่าเป็นปลาสวยงาม เกล็ดสีเงินแวววาว   โตเต็มที่ตัวยาวได้ถึง 1.5 เมตร 
ทำให้นึกต่อไปว่า สระปลาตาเหลือก เห็นทีจะกว้างไม่ใช่เล่น   คงไม่ใช่แค่สระปลาคาร์พหน้าคน  อย่างที่เห็นๆกันอยู่ตามสวนหย่อม
แล้วก็เดาต่อไปว่าหินอ่อนปูรอบสระ  เห็นทีจะใช้จำนวนไม่น้อย

ตอบคุณยิ้มยิ้ม
สวยค่ะ กินรีตัวนี้   มาจากวัดไหน และมีอีกมากไหมคะ

ตอบติบอ
ถ้าหินมันแตกหักเสียหายง่าย   ก็น่าจะเป็นข้อ  3     นึกถึงความจริงว่าอุตส่าห์ส่งไปแกะสลักถึงเมืองจีน  ขนกลับมา กระทบอะไรเข้านิดหนึ่ง จมูกเกิดแหว่งไปครึ่งซีก   ก็เสียหายไปแล้วทั้งตัว  ไม่คุ้มเลย
บันทึกการเข้า
:D :D
นิลพัท
*******
ตอบ: 2333


ความคิดเห็นที่ 76  เมื่อ 09 พ.ย. 10, 14:02

กินรีหน้าจีนตัวนี้มาจากเว็ปนี้ค่ะ http://www.sarakadee.com/knowledge/2004/12/travel.htm

ส่วนรูปข้างล่างเป็นทวารบาลหรือเซี่ยวกาง วัดราชโอรสารามราชวรวิหาร
เป็นเทวดาแบบผสมไทยจีน ยืนบนลายประแจจีน ค่ะ
คงเป็นฝีมือช่างจีนแต้จิ๋ว ตามกลอนที่อาจารย์เทาชมพูยกมาให้ดูใน คห.ที่ 71 น่ะค่ะ


บันทึกการเข้า
siamese
หนุมาน
********
ตอบ: 7165


หนุ่มรัตนะกับภูเขาทอง


ความคิดเห็นที่ 77  เมื่อ 09 พ.ย. 10, 15:04

จะให้ดูภาพถ่ายลานวัดพระศรีรัตนศาสดาราม สมัยรัชกาลที่ ๕ ในช่วงที่มีการตกแต่งประดับตุ๊กตา สังเกตุว่า ตุ๊กตายักษ์คู่นี้ เอามาจากไหนไม่รู้ ไม่สวยเท่าไร แบ่งสามส่วนวางต่อกัน


บันทึกการเข้า
siamese
หนุมาน
********
ตอบ: 7165


หนุ่มรัตนะกับภูเขาทอง


ความคิดเห็นที่ 78  เมื่อ 09 พ.ย. 10, 19:13

ขอบคุณคุณติบอ ที่นำจดหมายเหตุมาให้อ่าน ตอนนี้ผมขอนำโคลงดั้นปฏิสังขรณ์วัดพระเชตุพนฯ ครั้งรัชกาลที่ ๓ พ.ศ.๒๓๘๘ พระนิพนธ์ สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระปรมานุชิตชิโนรส ดังนี้

                     วางถะเจ็ดชั้นขนาด      ในลาน   แลฤๅ
   คือพระเจดีย์กลาย      กลั่นแกล้ง
   อย่างจีนต่างประเทศสถาน      ถือฝ่าย   เขานา
   ศิลาชาติเขียวแสร้งสร้าง      เสร็จผจง ฯ

   บำนาญท่านจ่ายจ้าง      เจ๊กกระทำ   จีนแฮ
   แปรเปลี่ยนมารแบกทรง      ทรวดเยื้อง
   หินเขาชื่อสำเภา      พื้นฉลัก   รูปฤา
   ถะละแปดรูปเพี้ยนเบื้อง      แบบบรรพ์ ฯ

   ลานละสองสามสรพรักตั้ง                        ตามสถาน   นั้นนา
   โดยที่ยาวสั้นปัน      แปดหล้า
   หว่างถะปลูกตาลมี      มกรอ่าง   รองเอย
   หินอัศวทนต์ท้ำเท้า      เทิดเที้ยรถัมภ์ธาร ฯ

   เสาศิลาปักไว้ระหว่าง      เวียโคม   ประทีปแฮ
   อีกกระถางปาสาณ      ใส่ไม้
   สองฟากแท่นศิลาโลม      ลานจิตต์   ชนนา
   เฉกจักชวนให้ยั้ง      หยุดเนา ฯ
บันทึกการเข้า
Ruamrudee
องคต
*****
ตอบ: 627



ความคิดเห็นที่ 79  เมื่อ 09 พ.ย. 10, 22:28

อ้างถึง
จะให้ดูภาพถ่ายลานวัดพระศรีรัตนศาสดาราม สมัยรัชกาลที่ ๕ ในช่วงที่มีการตกแต่งประดับตุ๊กตา สังเกตุว่า ตุ๊กตายักษ์คู่นี้ เอามาจากไหนไม่รู้ ไม่สวยเท่าไร แบ่งสามส่วนวางต่อกัน

คุณ Siamese ค่ะ ดิฉันเชื่อว่าตุ๊กตาหินนี้ เป็นของนครวัด นครธม เป็นแน่ค่ะ เพราะตั้งแต่สมัย รัชกาลที่ 4 อย่าว่าแต่ขนเอาตุ๊กตานี้มาเมืองไทยเลย
พระองค์ท่านพยายามจะรื้อเอาหินทุกอ้นของปราสาทนครวัด มาสร้างไว้ที่เมืองไทยด้วยซ้ำไป ในที่สุดก็ต้องล้มเลิกความคิด หลังจากทราบว่า ของจริงใหญ่โตเกินกว่าจะขนรื้อกันได้ง่าย ๆ จึงทรงให้จำลองแบบไว้ที่วัดพระแก้วในที่สุด

จะสังเกตุหน้าตาตุ๊กตานี้ได้ว่า เป็นศิลปะคล้ายของขอม พวกฝรั่งเศสขนเอาไปมากมายก่ายกอง คนไทยก็เอามาไม่น้อย แต่ก็หายไปไหนไม่ทราบ ไม่ได้เห็นกัน หากคุณ Siamese ไม่เอารูปมาให้ดู ก็คงไม่มีใครรู้ว่าเคยเอามาตั้งไว้ที่วัดพระแก้วด้วย
บันทึกการเข้า
han_bing
นิลพัท
*******
ตอบ: 1622



ความคิดเห็นที่ 80  เมื่อ 09 พ.ย. 10, 22:45

อันนี้ขอเสริมนิดหนึ่ง ไม่มีเวลาค้นว่าเอามาจากหนังสือเล่มใด

แต่ว่าเรื่องเจดีย์ประดับเช่นนั้นในจีนมีอยู่ทั่วไป ปรกติแล้วตั้งไว้ตามสวน ฐานเจดีย์อาจมีอะไรแบกได้ตามอัธยาศัย

ยักษ์แบกนั้นนนั้นมีอยู่ทั่วไป

แม้ยุคหลังๆจะไม่ค่อยนิยมก็เถิด

ส่วนคำถามว่าทำไม้...ทำไม ของจากทางเหนือไม่ลงมาทางใต้เสียที ผมขอสันนิษฐานว่าเนื่องจากตลาดการค้าและการติดต่อกันของชาวไทยและชาวจีนนี้ไม่ได้ขยายวงกว้าง แต่จะอยู่ทางด้านใต้ฝั่งฟูเจี้ยน กวางตุ้ง เป็นอาทิ การสั่งซื้อสินค้าอะไรทำได้ง่ายกว่า

ที่สำคัญ แถบนั้นสิ่งที่โด่งดังมากคืองานแกะสลักหิน จึงไม่น่าแปลกที่เราจะซื้อหินมาตั้ง เพราะที่นั้นแกะเป็นล่ำเป็นสัน และเป็นจุดที่เราเข้าไปค้าขายพอดี

ขณะนี้กำลังแปลเรื่องการแกะสลักหินในซัวเถาโบราณอยู่ แต่ว่ายังไม่เสร็จ เสร็จแล้วจะเอามาลง

สวัสดี

ปล. เนื่องจากช่วงนี้มีการบ้านเปรียบเทียบพุทธศาสนาในจีนและไทย จึงหาเวลาแปลได้ค่อนข้างช้า ขออภัยล่วงหน้าด้วย
 
บันทึกการเข้า
ติบอ
นิลพัท
*******
ตอบ: 1906


Smile though your heart is aching.


ความคิดเห็นที่ 81  เมื่อ 10 พ.ย. 10, 03:22

ขอบคุณคุณติบอ ที่นำจดหมายเหตุมาให้อ่าน ตอนนี้ผมขอนำโคลงดั้นปฏิสังขรณ์วัดพระเชตุพนฯ ครั้งรัชกาลที่ ๓ พ.ศ.๒๓๘๘ พระนิพนธ์ สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระปรมานุชิตชิโนรส ดังนี้


จู่ๆก็นอนไม่หลับขึ้นมา
จึงขอแอบหนีมาอ่านกระทู้เสียหน่อย
ถึงคุณ siamese ถ้าคุณมีเอกสารทั้ง 2 ชิ้นในมือ
คุณจะทราบได้ทันที ว่าโคลงของสมเด็จพระมหาสมณเจ้า
ทรงแต่งตามจดหมายเหตุฉบับร้อยแก้วที่ผมนำมาลงไว้

ที่แปลกอยู่หน่อยหนึ่ง คือ กรมพระยาดำรงไม่ทรงรู้จักเอกสารชิ้นนี้
เมื่อท่านจะใช้งานจึงต้องนำเอาโคลงดั้นที่คุณนำมาใช้มาถอดความ
ให้กลายเป็นงานร้อยแก้ว... รายละเอีดยมีอยู่ในสาส์นสมเด็จนะครับ
บันทึกการเข้า
ติบอ
นิลพัท
*******
ตอบ: 1906


Smile though your heart is aching.


ความคิดเห็นที่ 82  เมื่อ 10 พ.ย. 10, 03:48

คุณ Ruamrudee ครับ
ช่างขอม เป็นประติมากรชั้นเลิศ ทั้งงานปั้นหล่อ และจำหลักหิน
รายละเอียดเล็กๆน้อยๆ แม้แต่ลูกสะบ้าก็ยังมีทุกองค์

ตุ๊กตาในภาพของคุณ siamese ผมดูไม่ออก
ว่าจะเป็นศิลปะเขมรสมัยไหน ตั้งแต่พนมดาถึงบายน
หรือจะว่าไป งานจำหลักหินรุ่น 'นักองค์จัน' ที่อ่อนลงมาอีก
ก็ยังงามกว่าตุ๊กตา 2 ตัวนี้

คุณ Ruamrudee พอบอกได้ไหมครับ
ว่าทำไมคุณถึงสันนิษฐานว่าเป็นศิลปะขอม
ผมจะได้ลองคิดทบทวนตามที่คุณสันนิษฐานไว้

เพราะเท่าที่เห็น... ผมเกรงจะเป็นตุ๊กตาพวกที่
สมเด็จครูท่านทรงปรารภว่า 'ฝีมือดาดๆ' มากกว่า





มีปัญหามาขอให้คุณ han_bing ช่วยไขอยู่ข้อหนึ่ง
คือ ทุกวันนี้เวลาเราพูดถึงตุ๊กตาอับเฉากันอยู่
เรามักพูดโดยรวมๆ แต่ไม่ได้ชี้เฉพาะลงไปให้ชัด
ว่าแบบไหนนำเข้ามา และแบบไหนช่างจีนมาสลักในท้องถิ่น

เท่าที่ผมมั่นใจจะชี้เอง ก็คือ แบบที่สลักจากหินเขาสำเภา
คงต้องสลักขึ้นในเมืองไทยเป็นแน่... ส่วนแบบอื่นยังเหลวแหลกอยู่



ผมหารูปตุ๊กตาสิงห์โตมาให้ดูได้ตัวหนึ่ง
ถ่ายมาจากหน้าโบสถ์ประจำเมืองเซบูเมื่อปีที่แล้ว
ดูก็แทบแยกไม่ออกว่าต่างจากสิงห์โตแบบนี้ในไทยที่ตรงไหน
เข้าใจว่าแบบนี้อาจเป็นของที่ส่งมาจากการค้าขายได้ไหม ?

ถ้าได้ จากหินสลักแบบจีนทั้งหมดเกือบ 10 ชิ้นในฟิลิปปินส์
ผมก็ยังไม่เคยเห็นว่ามีชิ้นไหนเป็นหินเขียว (ที่เนื้อเปราะกว่า) เลย
แม้ว่าหินอับเฉาปูลานหน้าโบสถ์ประจำเมืองฟิลิปปินส์บางชิ้นจะเป็นหินเขียวอยู่บ้าง


คงต้องกวนคุณ han_bing ช่วยไขข้อข้องใจให้ที
ว่าจะมีหลักฐานอะไรมาช่วยตัดสินได้ไหม
ว่าแบบไหนน่าจะเป็นตุ๊กตาที่ผลิตในจีนแล้วส่งออกมาขาย
และแบบไหนควรจะทำในประเทศไทย โดยช่างจีนครับ


บันทึกการเข้า
han_bing
นิลพัท
*******
ตอบ: 1622



ความคิดเห็นที่ 83  เมื่อ 10 พ.ย. 10, 06:40

เรื่องตุ๊กตาสิงห์ในจีนนี้แบ่งเป็นสองประเภท

คือ แบบภาคเหนือและแบบภาคใต้

ภาคเหนืออย่างพึ่งพูดไป มันจะทำให้วงวิจัยยิ่งกว้าง ลองดูอะไรที่ใกล้ๆตัวกับเราก่อนดีกว่า อย่างทางภาคใต้ของจีน

สิงห์ทางภาคใต้ของจีนแตกต่างกับทางภาคเหนือ ไม่เชื่อลองหารูปสิงห์แถบกวางตุ้งไปเทียบกับหน้าพระราชวังปักกิ่ง

ทั้งนี้สิงห์ทางใต้แบ่งเป็นลักษณะการแกะเป็นตระกูลต่างๆ ซึ่งคำว่าภาคใต้นี้ จำกัดบริเวณพื้นที่แถบพื้นที่เทือกเขาหลิงหนาน (岭南) ถ้าใครจำเรื่องส่วนได้ก็ใช่แล้ว...แถบนี้แหละ

โดยแบ่งพื้นที่เป็นมณฑลฟูเจี้ยน กวางตุ้ง กวางซี ไหหล่ำ และไต้หวั่นในปัจจุบัน

แต่ละพื้นที่ลักษณะของสิงค์ก็จะไม่เหมือนกันอีก

ขอติดไว้เรื่องรายละเอียดปลีกย่อย ไว้คราวหน้าจะมาเขียนลง

แต่โดยส่วนตัวผมสิงห์ต่างๆในไทยถ้าไม่ได้สั่งเข้ามาจากจีน ก็คงจะเป็นช่างจีนในไทยทำ

แต่ศิลปะคงจะไม่เกินตระกูลศิลปะในพื้นที่แถบหลิงหนานเป็นแน่แท้

สวัสดี
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 84  เมื่อ 10 พ.ย. 10, 08:38

อ้างถึง
แต่โดยส่วนตัวผมสิงห์ต่างๆในไทยถ้าไม่ได้สั่งเข้ามาจากจีน ก็คงจะเป็นช่างจีนในไทยทำ

แต่ศิลปะคงจะไม่เกินตระกูลศิลปะในพื้นที่แถบหลิงหนานเป็นแน่แท้

ก็ไม่น่าจะมีหนทางที่ 3 นะคะ  มันมีได้แค่ 2  คือไม่อิมพอร์ตเข้ามา ก็ต้องทำเองในสยาม ยิ้มเท่ห์
สนใจศิลปะหลิงหนาน  อยากเห็นที่มาของตุ๊กตาจีนตัวงิ้ว และสิงโตจีน  ว่าต้นแบบในถิ่นเดิมจะยังถอดพิมพ์กันมาหรือผิดเพี้ยนกันไปบ้าง
ความผิดเพี้ยนนี่ละ อาจทำให้แกะรอยง่ายขึ้นว่าของอิมพอร์ตกับของที่มาสลักใหม่ในไทย แตกต่างกันตรงไหน  มีวิธีสังเกตอย่างไร
บันทึกการเข้า
siamese
หนุมาน
********
ตอบ: 7165


หนุ่มรัตนะกับภูเขาทอง


ความคิดเห็นที่ 85  เมื่อ 10 พ.ย. 10, 09:18

อ้างถึง
จะให้ดูภาพถ่ายลานวัดพระศรีรัตนศาสดาราม สมัยรัชกาลที่ ๕ ในช่วงที่มีการตกแต่งประดับตุ๊กตา สังเกตุว่า ตุ๊กตายักษ์คู่นี้ เอามาจากไหนไม่รู้ ไม่สวยเท่าไร แบ่งสามส่วนวางต่อกัน

คุณ Siamese ค่ะ ดิฉันเชื่อว่าตุ๊กตาหินนี้ เป็นของนครวัด นครธม เป็นแน่ค่ะ เพราะตั้งแต่สมัย รัชกาลที่ 4 อย่าว่าแต่ขนเอาตุ๊กตานี้มาเมืองไทยเลย
พระองค์ท่านพยายามจะรื้อเอาหินทุกอ้นของปราสาทนครวัด มาสร้างไว้ที่เมืองไทยด้วยซ้ำไป ในที่สุดก็ต้องล้มเลิกความคิด หลังจากทราบว่า ของจริงใหญ่โตเกินกว่าจะขนรื้อกันได้ง่าย ๆ จึงทรงให้จำลองแบบไว้ที่วัดพระแก้วในที่สุด

จะสังเกตุหน้าตาตุ๊กตานี้ได้ว่า เป็นศิลปะคล้ายของขอม พวกฝรั่งเศสขนเอาไปมากมายก่ายกอง คนไทยก็เอามาไม่น้อย แต่ก็หายไปไหนไม่ทราบ ไม่ได้เห็นกัน หากคุณ Siamese ไม่เอารูปมาให้ดู ก็คงไม่มีใครรู้ว่าเคยเอามาตั้งไว้ที่วัดพระแก้วด้วย

ข้อมูลที่เอาตุ๊กตาจากนครธม น่าสนใจ คุณร่วมฤดีมีประวัติให้อ่านกันไหมครับเกี่ยวกับการนำตุ๊กตาหินมา เอามากี่ตัวและประดับที่ไหนกันบ้าง น่าสนใจไม่น้อยทีเดียวเลย

ขอเดินอ้อมไปด้านหลังตุ๊กตาคู่นี้สักหน่อย จะเห็นว่ารูปร่าง ด้านล่างนุ่งโจงด้วยครับ และมือจงใจวางสลับซ้ายและขวา คือตั้งใจทำขึ้นเป็นคู่ ไม่ใช่ของโหล อีกอย่างที่น่าวิเคราะห์คือ เป็นตุ๊กตายักษ์หรือ เพราะว่าที่ศรีษะมีลักษณะเป็นหนามขนุน มีมวยผมทรงสามเหลี่ยมแหลมๆด้วย

ข้อมูลอาคารเบื้องหลังคือ "หอพระคันธาราราช" ซึ่งถูกสร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ ๔ และเมื่อพระนครเฉลิมฉลองครบรอบ ๑๐๐ ปีมีการบูรณะวัดพระศรีรัตนศาสดารามกันใหญ่โต ซึ่งรัชกาลที่ ๕ มีพระราชดำริให้พระบรมวงศานุวงศ์ทุกองค์แบ่งภาคจัดการซ่อม บูรณะตามที่ได้แบ่งสรรงานไว้ จะขอหยิบยกมา สองเรื่อง

๑. พระเจ้าน้องยาเธอ พระองค์เจ้ากมลาศน์เลอสรร (กรมหมื่นราชศักดิสโมสร) ทำการซ่อมแปลงเครื่องประดับประดา เครื่องศิลา และกระถางต้นไม้ต่างๆ ทั่วทั้งพระอาราม หุ้มทองแดงลงรักปิดทองทำรูปมารแบกรพระสุวรรณเจดีย์สีทอง และสั่งศิลาเครื่องตั้งประดับพระอารามใหม่เป็นจำนวนมาก

๒. พระเจ้าน้องยาเธอ พระองค์เจ้าจิตรเจริญ (สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัติวงศ์) ทำหอพระคันธาราษฎร์และหอพระเจดีย์หรือมณฑปยอดปรางค์ ประดับกระเบื้องและปูศิลาทำกำแพงแก้วภายนอก ทำเพดานเขียนปั้น ปูพื้น และทำเรือนแก้วภายนอกหอพระคันธาราษฎร์ใหม่ทั้งสิ้น และปั้นประดับกระเบื้องรูปยักษ์ยืนประตูคู่หนึ่ง

จะเห็นว่ามีการสั่งศิลาเข้ามา (ซึ่งรวมทั้งรูปสลักศิลาตุ๊กตาฝรั่ง) แต่รูปยักษ์ประดับกระเบื้อง คงหมายถึงยักษ์ตัวใหญ่ที่ยืนเฝ้าซุ้มประตูวัดพระแก้ว ไม่ได้หมายถึงตุ๊กตาคู่สีขาวนี้


บันทึกการเข้า
han_bing
นิลพัท
*******
ตอบ: 1622



ความคิดเห็นที่ 86  เมื่อ 12 พ.ย. 10, 13:23

อันนี้ขอเสริมเล็กน้อย

การทำอาคารแล้วมีรูปเทวดาอะไรต่อมิอะไรแบกมีอยู่แล้วในประเทศจีนเรียกว่า "ลี่เซิน" (力神: li shen) โดยประดับอยู่ในฐานอาคารมีศักดิ์ เรื่อยไปจนถึงเจดีย์ของจีน ฐานประเภทนี้เรียกว่า “สูมี้จั้ว” เขียนเป็นภาษาจีนว่า “须弥座: xu mi zuo” แปลเป็นไทยแบบเพราะ ๆว่า“สุเมรุอาสน์”

หากจะย้อนไปดูเรื่องฐานอาคารของจีนเข้าไปดูได้ในกระทู้ "เรื่องของฐาน - ฐานสิงห์มีที่มาจากที่ใด"

คราวที่แล้วเขียนแล้วนึกชื่อไม่ออก

อนึ่ง หากสงสัยว่าทำไมไม่มีกิเลนมาปรากฎในไทยเลย สันนิษฐานด้วยตัวเองว่าเพราะกิเลนเป็นสัตว์สงวน

จริงๆนะเป็นสัตว์สงวนไว้สำหรับพระจักรพรรดิเท่านั้น

หากมิใช่รั้ววังหรืออาคารที่เกี่ยวเนื่องด้วยกับพระจักรพรรดิแล้วไซร้อย่าได้คิดสร้าง ด้วยความเชื่อจีนโบราณถือว่ากิเลนจะปรากฎตัวต่อเมื่อบ้านเมืองสงบสุขด้วยบุญพระจักรพรรดิ

ดังนั้นคิดไปเลยเสมือนตัวแทนพระจักรพรรดิไปในตัว

เดาว่าช่างคงไม่กล้าสลักไปขาย และคงไม่มีใครกล้าสั่งซื้อมา เพราะจำเป็นการเทียบบุญโดยใช่เหตุ

สวัสดี
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 87  เมื่อ 12 พ.ย. 10, 15:51

สิงโตหิน ในประเทศไทยมีหลายแบบ  แสดงว่ามาจากหลายท้องถิ่นในจีน     แต่ไม่รู้ว่าจากถิ่นไหนบ้าง
ตัวแรก อยู่ในวัดพระแก้ว  ลักษณะเป็นแบบสิงโตหินแบบเก่าแก่ที่แพร่หลายที่สุดในไทย


http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=natski13&month=07-10-2008&group=4&gblog=13

ตัวที่สอง อยู่ในวัดราชประดิษฐ


http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=addsiripun&month=12-07-2010&group=12&gblog=62

แต่สิงโตจีนในวัดไทย กับสิงโตจีนในวัดจีน ในประเทศไทย ไม่ยักเหมือนกัน

ตัวที่สาม  จากวัดจีนที่บางบัวทอง


http://www.bloggang.com/viewblog.php?id=bluetear&date=01-07-2008&group=7&gblog=41

แต่กลับไปคล้ายสิงโตจีนในเมืองจีน
บันทึกการเข้า
:D :D
นิลพัท
*******
ตอบ: 2333


ความคิดเห็นที่ 88  เมื่อ 23 พ.ย. 10, 17:08


ตอบคุณยิ้มยิ้ม
สวยค่ะ กินรีตัวนี้   มาจากวัดไหน และมีอีกมากไหมคะ


เพิ่งเจอคำตอบจากหนังสือ รัชกาลที่ 3 กับการสร้างวัดสำคัญ กำเนิดตุ๊กตาศิลาจีน
โดย คุณประทุม ชุ่มเพ็งพันธุ์ ค่ะ
กินรีหน้าจีน ตัวนี้อยู่ที่วัดแจ้ง ค่ะ


บันทึกการเข้า
หน้า: 1 ... 4 5 [6]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.089 วินาที กับ 20 คำสั่ง