เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: [1] 2
  พิมพ์  
อ่าน: 4767 สืบเนื่องมาจากกระทู้ เจ้าคุณจอมมารดาเอม
Wandee
หนุมาน
********
ตอบ: 4006


 เมื่อ 29 ต.ค. 10, 06:05


เรื่องเจ้าคุณจอมมารดาเอม เป็นเรื่องสำคัญ

มีเรื่องราวที่เป็นความรู้แปลกๆซ่อนอยู่ไม่น้อย

ปูเสื่ออ่านอยู่ตลอด   

มีประเด็นที่รวบรวมจากหนังสืออื่นๆบ้าง  จึงขอแยกมาตั้งวงคุย


หนังสือที่ใช้ตอนนี้คือ  หนังสือพระราชประวัติพระเจ้าตาก(สิน)  พิมพ์ครั้งที่ ๑   ๑๐๐๐ ฉบับ
ร.ศ. ๑๒๘   ราคาเล่มละ ๑ บาท      ค่าส่งทางไปรษณีย์ถึงผู้ซื้อ  ๒ สลึง
บันทึกการเข้า
Wandee
หนุมาน
********
ตอบ: 4006


ความคิดเห็นที่ 1  เมื่อ 29 ต.ค. 10, 06:29



       หนังสือเล่มนี้มี ๘๘ หน้า

การแสดงความเป็นเจ้าของคือ มีลายมือแสนงามของคุณหลวง บำรุงราชบริพาร

วันที่ ๗ ตุลาคม  รัตนโกสินทรศกที่ ๑๓๐

คุณหลวงเป็นนักสะสมตัวจริง  คือท่านไม่ได้อ่านเลย

กระดาษหลุดจากสันหมดแล้ว


       คำนำแจ้งไว้ว่าตอนที่ ๑    ใช้ตำราโบราณ  จานเป็นอักษรสยามแต่ครั้งกรุงเก่าโบราณ ๑ ผูก

จานลงในใบลานสั้น ๆ เท่าคัมภีร์สวดมนต์


ตอนที่ ๒  ใช้ตำราสมุดไทยข่อยขาว   ชุบหมึก ๔๐ พะเนิก ๒ เล่มของพระยาพจนะพิมณฑ์(วันรัตทองอยู่)

แต่ยังเป็นพระมหาเปรียญเอก ๙ ประโยค  อยู่วัดประดู่โรงธรรมฝั่งตวันออกนอกกำแพงกรุงเก่า

แล้วมาเป็นพระราชาคณะเจ้าอาวาศวัดบางว้าใหญ่(วัดระฆัง)


ตอนที่ ๓  ตำราสมุดไทยข่อยดำชุบตัวอักษรรงเส้นเหลือง ๓๐ พะเนิก  ๑ เล่ม

ของเจ้าพระยาศรีธรรมาธิราช(บุญรอด)  จางวางกรมวังในรัชกาลที่ ๑ กรุงเทพ

แต่ท่านยังเป็นขุนราชฤทธานนท์ในกรุงเก่า
บันทึกการเข้า
Wandee
หนุมาน
********
ตอบ: 4006


ความคิดเห็นที่ 2  เมื่อ 29 ต.ค. 10, 07:47




บุตรของพระยาโชฎึกราชเศรษฐีหรือ "เจ้าคุณพระคลังจีน" ตามที่ชาวบ้านเรียก

คือ เจ้าสัวไซ่ฮู  ไล่ฮู  ซี่  และ ไซ่  เป็นจีนเกิดที่เมืองกวางหนำ   มณฑลกวางตุ้ง

บันทึกการเข้า
Wandee
หนุมาน
********
ตอบ: 4006


ความคิดเห็นที่ 3  เมื่อ 29 ต.ค. 10, 07:52



ภาษีปากเรือในเวลานั้น      ๑๐๐๐ บาท

ภาษีจังกูด    คือ  ภาษีหางเสือเรือทะเล

ภาษีจังกอบ   คือภาษีราโธเรือ   หรือภาษี กราบเรือ

ภาษีปะกำใบ คือ ภาษีไม้กระหนาบใบ

ภาษีค่าน้ำมัน  คือ  ภาษีค่าน้ำมันมะพร้าวจุดตะเกียงรักษาพระนคร

  
บันทึกการเข้า
Wandee
หนุมาน
********
ตอบ: 4006


ความคิดเห็นที่ 4  เมื่อ 29 ต.ค. 10, 08:26


หลวงอภัยพานิช(มั่วเสง)     เศรษฐีจีนอีกสกุลหนึ่ง


       เมื่อพระเจ้าตาก(สิน)ยกกองทัพใหญ่  ไปตั้งจัดการซ่องสุมรี้พลให้เป็นกองกำลัง

โดยเกลี้ยกล่อมพลเมือง   ตั้งชุมนุมอยู่ณ เมืองจันทบุรี       ราษฎรพากันเข้าด้วยจำนวนกว่าหมื่น

ครั้งนั้น  จีนมั่วเสงนายห้างใหญ่  ได้พำนักอยู่ในเมืองจันทบุรีมาช้านานแล้ว     

มั่วเสงนั้นแซ่เดียวกับจีนไฮฮองหยง   จีนหยงเป็นพระราชบิดาของพระเจ้าตาก


     จีนมั่วเสงมีความยินดีนิยมชมชื่นต่อพระบารมีของพระเจ้าตาก  จึงไปเฝ้าที่พลับพลา   

พระเจ้าตากทรงทักทายสนทนากับจีนมั่วเสงเป็นอันมาก  ด้วยทรงคุ้นเคยมาแต่กรุงศรีอยุธยาแล้ว


     อยู่มากาลครั้งหนึ่ง  จีนมั่วเสงจัดผ้าลายกุศราด ๑๕๐๐ กุลีมาจากเมืองเทศ   จัดแพรปังสีมาจาก

เมืองกวางตุ้ง ๒๐๐ ม้วน        แพรไกเอ้งมาจากเซี่ยงไฮ้ ๑๐๐ ม้วน   ถวายเพื่อให้พระราชทาน

เป็นรางวัลแก่พวกแก่พวกแม่ทัพนายกอง        เงินตรา ๕๐๐ ชั่งนั้น ไม่ได้ถวายขาด   เป็นการ

ถวายให้ทรงยืมใช้สรอยในการทัพ

(แสดงว่าจีนมั่วเสงกักตุนสินค้า หรือไม่ก็ขายไม่ออกเพราะยามสงครามผู้คนไร้ทรัพย์      ข้อมูลนี้คงเป็นที่มาของ
การลือว่า พระเจ้าตากสินเป็นหนี้จีน)
บันทึกการเข้า
Wandee
หนุมาน
********
ตอบ: 4006


ความคิดเห็นที่ 5  เมื่อ 29 ต.ค. 10, 13:32

ประวัติความเป็นมาของ จีนมั่วเสง 


       จีนมั่วเสงนายห้างใหญ่   มีห้างอยู่ที่ตลาดชมพู  บ้านถนนลายสอง   ต่อท้ายตึกญี่ปุ่น

ใต้วัดตะพานเกลือฝั่งตะวันออก   นอกกำแพงกรุงศรีอยุธยา

สั่งสินค้ามาจากเมืองจีน  เมืองแขก  เมืองฝรั่ง  เมืองญี่ปุ่น

ต่อมาได้ขยายสินค้าโดยเปิดสาขา  โดยขนสินค้าในกรุงเก่าแบ่งออกไป

ตั้งห้างที่เมืองลาวกาวเวียงจันทร์, หลวงพระบาง, จำปาศักดิ์,  แลเมืองลาวโยน

เชียงใหม่, เชียงน่าน, นครลำปาง,  นครลำพูน เป็นต้น


       เมื่อมีข่าวว่าพระเจ้ามังลองกรุงอังวะ  จะยกกองทัพมาล้อมพระนครกรุงศรีอยุธยา

จีนมั่วเสงจัดการขนสินค้าของตน  ย้ายไปเมืองเขมรโดยทางบก  เมื่อเส้นทางไปไม่ได้

เพราะมีข่าวว่ากองทัพพม่ามาสกัดทางตะวันออกเฉียงเหนือไว้    ขบวนสินค้าพากันเดินบกยกไปทางจันทบุรี

ห้างก็ตั้งขึ้นที่จันทบุรีคอยโอกาสที่จะย้ายไปเมืองเขมร
บันทึกการเข้า
Wandee
หนุมาน
********
ตอบ: 4006


ความคิดเห็นที่ 6  เมื่อ 29 ต.ค. 10, 13:44


       เมื่อพระเจ้าตากปราบปรามความจลาจลราบคาบแล้ว   ขึ้นครองราชสมบัติในกรุงธนบุรี

โปรดให้จีนมั่วเสงเป็นหลวงอภัยพานิช  กรมท่าซ้าย    ให้หลวงอภัยพานิช(มั่วเสง)ต่อสำเภาหลวง

ด้วยไม้ตะเคียนที่เมืองจันทบุรีปีละ ๑๐ ลำเป็นของหลวง   ให้ต่อเรือของส่วนตัวได้ปีละ ๒ ลำ

หลวงพานิชก็มีกำไรมหาศาลจากการต่อเรือและส่งเรือไปค้าขายเมืองจีนเพราะไม่ต้องเสียภาษี

ค่าปากเรือและเบี้ยใบ้รายทางในการจะขอต่อเรือ
บันทึกการเข้า
Wandee
หนุมาน
********
ตอบ: 4006


ความคิดเห็นที่ 7  เมื่อ 29 ต.ค. 10, 14:04


ตระกูลของหลวงอภัยพานิช(มั่วเสง)

เจ๊สัว จุ๊น    มีบุตรชื่อเจ๊สัวแจ้

เจ๊สัวแจ้มีธิดาคือเจ้าจอมมารดาม่วง ที่คนเรียกว่า ม่วงแจ้   

ในพระบวรวงศ์เธอชั้น ๒  พระองค์เจ้าหญิงสุดศาลา   พระราชบุตรีที่สุด

ในพระบวรราชเจ้ามหาเสนานุรักษ์  กรมพระราชวังบวร ในรัชกาลที่ ๒  กรุงเทพ ฯ


การจดรายชื่อลูกนั้นจะจดแต่ผู้ที่รับราชการหรือมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จัก     ธิดานั้นก็จะจดเมื่อ

รับราชการฝ่ายใน  หรือสมรสในตระกูลใหญ่  หรือบุตรธิดาเป็นผู้มีชื่อเสียง
บันทึกการเข้า
Wandee
หนุมาน
********
ตอบ: 4006


ความคิดเห็นที่ 8  เมื่อ 29 ต.ค. 10, 14:42


บุตรอีกคนหนึ่งชื่อ เจ๊สัวซา หรือสาม   มีลูกชายชื่อ เจ๊สัวเล่าแช

ธิดาของ เจ๊สัวเล่าแช ชื่อ แก้ว   เป็นภรรยาของพระยาอาหารบริรักษ์(นุช)

(เรื่องราวของ อาหารบริรักษ์ เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้ว  จึงขอข้ามไป
 การที่ได้รู้ชื่อภรรยาของอาหารบริรักษ์  ก็สมกับที่วิ่งหาหนังสืออ่านอยู่)



ธิดาอีกคนหนึ่งของเล่าแชชื่อสุ่น(พี่สาวหรือน้องสาวของ แก้ว และคงจะต่างมารดา)เป็น

ท่านผู้หญิงของ เจ้าพระยาภานุวงษ์มหาโกษาธิบดี(ท้วม)  มีบุตรคือ

พระยาราชานุประพันธ์(สุดใจ)  และ

พระยาสุธรรมมนตรี(ทุ้ย)


(เจ้าพระยาภานุวงษมหาโกษาธิบดี(ท้วม) มีภรรยา ๑๗ คน
ดูมาจากหน้า ๘๘ ของสาแหรกสกุลบุนนาค)


ทั้งหมดนี้ก็มาจากการรวบรวมของ ก.ศ.ร. กุหลาบ

หัวข้อเขียนว่า ผู้บำรุงพระเจ้าตากคนที่ ๒





เมื่ออ่านแล้วก็คุ้นเคยกับการบรรยายที่ปรากฏในหนังสือประวัติศาสตร์สำคัญหลายเล่ม
เรื่อง ศิริรูปพรรณสันฐานของกุมารบุตรจีนหยง เป็นต้น
บันทึกการเข้า
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 9  เมื่อ 29 ต.ค. 10, 15:22

อ้างถึง
หนังสือที่ใช้ตอนนี้คือ  หนังสือพระราชประวัติพระเจ้าตาก(สิน)  พิมพ์ครั้งราคาเล่มละ ๑ บาท      ค่าส่งทางไปรษณีย์ที่ ๑   ๑๐๐๐ ฉบับ
ร.ศ. ๑๒๘   ถึงผู้ซื้อ  ๒ สลึง

ขอประทานโทษ หนังสือนี้ใครแต่ง (หรือเรียบเรียง) ครับ
บันทึกการเข้า
luanglek
นิลพัท
*******
ตอบ: 2894


ความคิดเห็นที่ 10  เมื่อ 29 ต.ค. 10, 15:22

ธิดาของ เจ๊สัวเล่าแช ชื่อ แก้ว   เป็นภรรยาของพระยาอาหารบริรักษ์(นุช)

(เรื่องราวของ อาหารบริรักษ์ เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้ว  จึงขอข้ามไป
 การที่ได้รู้ชื่อภรรยาของอาหารบริรักษ์  ก็สมกับที่วิ่งหาหนังสืออ่านอยู่)



จะข้ามไปไย   กรุณาเล่าให้ฟังอย่างพิสดารเถิด  เอนเอกเขนกรออยู่นะ ยิงฟันยิ้ม
บันทึกการเข้า
Wandee
หนุมาน
********
ตอบ: 4006


ความคิดเห็นที่ 11  เมื่อ 29 ต.ค. 10, 15:46


เรียนคุณ NAVARAT.C

     ก.ศ.ร. กุหลาบค่ะ    เป็นเรื่องที่เล่าเรื่องเจ๊สัวจีนในเวลาใกล้กัน

ยังมีอีกเล่ม สหายให้มา เรื่องจีนตัดผมเปีย  ไม่มีในบัญชีหนังสือเหมือนกัน

หนังสือระดับนี้กระหมุบกระหมิบอ่านกัน       เสียดายเป็นบ้าเลย

ก.ศ.ร. กุหลาบผิดไม่น้อยค่ะ    นายวรรณเล่าให้ท่านฟัง  ท่านก็ระบายสีเสียหน่อย

นายวรรณขอให้แก้ปีพุทธศักราช   ท่านก็ไม่ยอมแก้        ประวัตินายวรรณแท้ ๆ
บันทึกการเข้า
Wandee
หนุมาน
********
ตอบ: 4006


ความคิดเห็นที่ 12  เมื่อ 29 ต.ค. 10, 15:54


อุ อุ  คนเขียนถึงหลายพันคนแล้ว

ไม่เซ็งมั่งหรือคะ

คือถ้ามีรายละเอียดจะรีบนำมากราบเรียน

มหามุขบอกไว้ชัดนะว่าเจ้าคุณภาส ของเราน่ะ  หม่อมอินซอเป็นญวน

อ่านดี ๆ  มีชื่อสังคญาติ หรืออย่างน้อยก็ชื่อพี่ชายค่ะ
บันทึกการเข้า
Ruamrudee
องคต
*****
ตอบ: 627



ความคิดเห็นที่ 13  เมื่อ 29 ต.ค. 10, 23:43

มาตามอ่านเกร็ดประวัติศาสตร์ค่ะ น่าสนใจมาก คุณวันดี มีข้อมูลดี ๆ ขอขอบพระคุณค่ะ
บันทึกการเข้า
Wandee
หนุมาน
********
ตอบ: 4006


ความคิดเห็นที่ 14  เมื่อ 30 ต.ค. 10, 01:44


          ขอบคุณค่ะคุณร่วมฤดีที่กรุณาอ่าน

พรุ่งนี้ดิฉันจะไปงานหนังสืออีกครั้ง   คิดว่าจะอยู่ทั้งวัน

มีกิจธุระคือต้องนำหนังสือประวัติท่านผู้หญิงละเอียดไปให้เพื่อน

นำข้อมูลเรื่องหนังสือของนักเขียนก้าวหน้ามีอะไรบ้างไปให้คุณลุง

แวะไปดูหนังสือกฎหมายที่ขายดีที่สุดในงาน      จะไปดูหนังสือแผนที่ที่พิมพ์ใหม่

คงไม่มีสตังค์ซื้อ         จะไปเจอนักเขียนที่ปีนี้เขียนหนังสือประวัติศาสตร์ไป ๔๐ เล่มแล้ว

และกำลังจะเขียนหนังสือประวัติศาสตร์ที่ดีที่สุดเล่มนี้ออกมา   เล่มนี้นักเขียนวุ่นวายใจไม่น้อยเพราะ

ถนนและที่ตั้งของตรอกซอยผิดพลาดหมด   นักเขียนโตมาแถวนั้นพอดีเลยยอมไม่ได้

ดิฉันจะไปฟังข้อมูลเรื่องเมื่อซุนยัตเซนปลอมตัวเป็นญี่ปุ่นเข้ามาในสยาม          มีเพื่อนต่างวัยคนหนึ่ง

ได้ยินมาว่าดิฉันรักสุนทรภู่เหลือเกิน   เลยเก็บหนังสือเล็กๆ น้อยๆมาให้ทีละสิบกว่าเล่ม

มิมีปฏิเสธหนังสือเป็นอันขาด     

            ขอบคุณอีกครั้งค่ะ       
บันทึกการเข้า
หน้า: [1] 2
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.065 วินาที กับ 19 คำสั่ง