ขอบพระคุณคุณชูพงค์ มากค่ะ ที่ให้ความกระจ่างในข้อสงสัย
มีอาขยานที่ยังจำได้ดี ไม่แน่ใจว่าถูกบังคับให้ท่องหรือสมัครใจท่องเอง
แต่ไพเราะและมีความหมายดีค่ะ
เป็นพระนิพนธ์ของล้นเกล้ารัชกาลที่ 6 ค่ะ
"ผู้ใดเป็นผู้มีมิตร จิตคิดต้องกันหรรษา
มีความยินดีปรีดา ยิ่งกว่ามีสินเงินทอง
แม้มีสิ่งใดที่ข้องขัด มิตรช่วยกำจัดที่ขัดข้อง
ช่วยทำให้สมอารมณ์ปอง กิจการทั้งผองช่วยคิด
เต็มใจปรึกษาหารือ ไม่ถือเกินกล้ำคำผิด
สู้งดอดโกรธโทษนิตย์ ผูกจิตมิตรไว้ด้วยไมตรี
สิ่งใดควรหย่อนผ่อนตาม ผ่อนให้ทุกยามถึงที่
แม้เห็นสิ่งใดไม่ดี ช่วยชี้ช่องธรรมนำทาง
การใดจะได้เกิดผล ไม่คิดถึงตนกีดขวาง
เป็นที่เชื่อใจไว้วาง มิได้อำพรางสิ่งใด
ยามดีสรรเสริญเยินยอ แต่จะสอพลอก็หาไม่
ที่ควรตำหนิติไป มิให้มิตรไซร้เพลี่ยงพล้ำ
ไม่เป็นเพื่อนกินสิ้นผลาญ ยามจนไม่พาลช่วยกระหน่ำ
คอยจ้องมองดูชูค้ำ อุปถัมภ์ทำชอบตอบแทน
หามิตรเช่นนี้เหลือยาก หาได้ลำบากยากแสน
เอาใจไว้อย่าดูแคลน รักแม้นพี่น้องร่วมอุทร
อุตส่าห์รักษาน้ำจิต ให้สนิทสามัคคีสโมสร
คงจะไม่มีอนาทร ไม่มีเดือดร้อนสักเวลา"
อาขยานบทนี้มอบแด่ "มิตร" ทุกท่านในเรือนไทยค่ะ
