กวีวิพากษ์ : นานเพียงไร..ก็จะรอ
(แนวหน้า ๑๗ ตุลาคม ๒๕๕๓)
(หนึ่ง ) ผ่านแดดจ้าฝ่าสายฝนทนร้อนหนาว
ผ่านเจ็บปวดรวดร้าวมาหลากหลาย
ผ่านยากแค้นลำเค็ญเร้นความตาย
คือความหมายแห่งชีวาตม์เป็นชาติพลี
เจ็ดลิบแปดปีผ่านนานนักหนา
ทวยประชาไทยผ่านธารวิถี
อ้างว่า Absolute Monarchy
ไม่เทียมเท่า Democracy ความเป็นไท ?
ผ่านกบถ - ปฏิวัติ – รัฐประหาร
เพื่อเปลี่ยนผ่านทุรยุค..หลากยุคสมัย
หวังวิญญาณ “ประชาธิปไตย”
สู่ธงชัยอุดมการณ์อันงดงาม
ตุลาเล่าตุลาแล้วที่แคล้วฝัน
ผ่านคืนวันอันวิบากเกลื่อนขวากหนาม
จาก “ตุลา-หนึ่งหก”ศกแวววาม
แม้อีกสามปีต่อมาคราบัดซบ
เมื่อ “ลมขวาพิฆาตซ้าย” กรายวิถี
ลมแห่งฝันอันเสรีที่สยบ
พิราบเหลืองระงมไพรเรืองไรภพ
สรรพ์ประสบพลิกเห็นความเป็นจริง
ตราบ “คำสั่ง ๖๖/๒๓”
เสริมสร้างสรรค์ความงดงามเป็นที่ยิ่ง
นกสีเหลืองบินโบกฟ้ามาอุ่นอิง
หมายสร้างสิ่งพริ้งพรายฉายแสงทอง
(สอง)-สามสิบเจ็ดปีผ่านนานเหลือที่
หากลมหวนทวนวิถีกาลีล่อง
ลมบ้าหมุนทุนสามานย์แพร่ครรลอง
บดม่านกรองคลองธรรมอันอำไพ
ลมแห่งเดือนตุลาใช่อาถรรพณ์
หากลมผันอันกาลีวิถีใหม่
ห้อมตัณหาธุรกิจติดกำไร
พรมลมแดงแห่งพงไพรจัญไรลาม
ตุลาคมอุดมการณ์อันสดใส
รอฝันไฟสิทธิ์เสรีหนีขวากหนาม
สู่เส้นทางชนเสรีทีวาววาม
รอไม้งามนาม “ประชาธิปไตย”
(สาม)-ตื่นเถิดไทยในทุกถิ่นแผ่นดินทอง
เราจะต้องสร้างสรรค์ครรลองใหม่
ต้องดับหุ่นทุนสามานย์ผลาญเมืองไทย
ปลูกต้นไม้ “ไทเสรี”หนี “ทาสเงิน” !!!
ราตรี ประดับดาว