เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: [1]
  พิมพ์  
อ่าน: 64081 สิ กับ ซิ ต่างกันอย่างไรคะ
mEoW
บุคคลทั่วไป
 เมื่อ 05 พ.ย. 00, 22:00

มีหลักเกณฑ์ในการใช้หรือไม่ หรือต่างกันแค่เสียงอ่านของแต่ละตัว
ขอบคุณค่ะ
บันทึกการเข้า
จากพจนานุกรมราชบัณฑิตยสถาน
บุคคลทั่วไป
ความคิดเห็นที่ 1  เมื่อ 15 ต.ค. 00, 00:00

สิ เป็นคำประกอบท้ายคำอื่นเพื่อเสริมข้อความให้เด่น ให้ชัด หรือให้สละสลวยเป็นต้น, โดยมากใช้กับกริยาเป็นเชิงบังคับ หรือเชิงชวนเป็นต้น เช่น ไปสิ มาสิ, ซิ หรือ ซี ก็ว่า

ซิ เป็นคำประกอบท้ายคำอื่นเพื่อเสริมข้อความให้เด่น ให้ชัด หรือให้สละสลวยเป็นต้น, โดยมากใช้กับกริยาเป็นเชิงบังคับหรือเชิงชวนเป็นต้น เช่น ไปซิ มาซิ หรือ ไปซี มาซี, สิ ก็ว่า
บันทึกการเข้า
แกมแก้ว
อสุรผัด
*
ตอบ: 7


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 2  เมื่อ 16 ต.ค. 00, 00:00

เอ... อ่านจากข้อความข้างต้น ดูไปดูมาแล้ว ทำไมการใช้เหมือนกัน อย่างนี้ก็แสดงว่าใช้ได้เหมือนกันนะสิ(ซิ)คะ อิอิ
บันทึกการเข้า
หนุ่มนาเริ่มงงดอทคอม
บุคคลทั่วไป
ความคิดเห็นที่ 3  เมื่อ 16 ต.ค. 00, 00:00

ผมรู้สึกเหมือนว่าจะออกเสียงไม่เหมือนกัน
ซิ กับ สิ เนี่ยะ งงครับ งง
บันทึกการเข้า
หนุ่มนอกดอทคอม
บุคคลทั่วไป
ความคิดเห็นที่ 4  เมื่อ 16 ต.ค. 00, 00:00

ความหมายที่ใช้ในประโยคเหมือนกัน แต่ใช้ด้วยน้ำเสียงต่างกันจ้ะ
บันทึกการเข้า
mEoW
บุคคลทั่วไป
ความคิดเห็นที่ 5  เมื่อ 19 ต.ค. 00, 00:00

ขอบคุณค่ะ ขอถามอีกคำ
คำว่า หนึ่ง กับ นึง ต่างกันอย่างไรคะ
บันทึกการเข้า
วีณาแกว่งไกว
บุคคลทั่วไป
ความคิดเห็นที่ 6  เมื่อ 19 ต.ค. 00, 00:00

เรื่องนี้รู้สึกว่าพระยาอุปกิตศิลปสารได้เขียนไว้ในหนังสือเล่มใดเล่มหนึ่งของท่าน ค่อนข้างยาวสักหน่อย วันหลังจะมาตอบให้(นะ)
บันทึกการเข้า
ฟ้า-เวอร์ริเดียน
บุคคลทั่วไป
ความคิดเห็นที่ 7  เมื่อ 06 พ.ย. 00, 02:31

.....ความแตกต่างของ "ซิ" กับ "สิ"   และ  "นึง"  กับ "หนึ่ง"  นอกจากจะเป็นเรื่องของระดับเสียงและการสะกดคำแล้ว  ยังมีความแตกต่างในเรื่องของการใช้ด้วยค่ะ  ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องสำคัญมากและคนไทยควรใส่ใจ  
....คำว่า "ซิ" และ "นึง" เป็นรูปคำที่เขียนตามเสียงพูดจริง  แต่ไม่ถือเป็นคำที่ถูกต้องและจะนำมาใช้ในการเขียนที่เป็นทางการไม่ได้อย่างเด็ดขาด  เพราะในการพูดจริงๆอาจมีการกร่อนเสียง  รวบเสียง  กลมกลืนเสียง  ยืดเสียง  หดเสียง หรือเพี้ยนเสียงสารพัด  ซึ่งหากจะเขียนตามเสียงที่ออกกันจริงๆก็คงจะได้รูปคำหลายรูป  จะต้องเกิดความสับสนมากกว่าที่เป็นอยู่เป็นทวีตรีคูณ  จตุคูณ  เบญจคุณอย่างแน่นอนทีเดียว  ขอยกตัวอย่าง  
.......ที่เราเคยเขียนว่า  หนึ่ง  สอง  สาม  เพียงแบบเดียว  ก็อาจจะเขียนได้หลายแบบ (ต้องจดจำรูปคำมากขึ้น) คือ
   - แบบที่หนึ่ง  เขียนว่า  หนึ่ง  สอง  สาม  เหมือนเดิม
   - แบบที่สอง  เขียนว่า  นึง  ส่อง (เสียงยาวด้วย)  ซ่ำ
......ที่เคยเขียนว่า  ผู้หญิงคนนั้นใส่รองเท้าสูงๆ  ก็อาจจะเขียนได้หลายอย่าง
   - แบบที่หนึ่ง  เขียนเหมือนเดิม
   - แบบที่สอง  เขียนว่า  ผู้หญิงคนนั้นใส่รองเท้าซู้งสูง (เขียนตามเสียงที่พูด)  และอาจจะมีแบบอื่นๆ..แล้วแต่จะสรรหามาแสดงความสูงของรองเท้าคู่นี้
......คำที่มีปัญหาในทำนองนี้มีอีกหลายคำเช่น  
   ซัก    -    สัก
   อย่างงี้, หยั่งงี้, งี้      -        อย่างนี้
   ยังไง, ไง, (บางทีก็เขียนประหลาดเป็น  ยังงัย, งัย)   -   อย่างไร
   มั้ย, มั๊ย    -    ไหม
   เค้า    -    เขา                    
เป็นต้น
......เอาเป็นว่า  ขอสรุปว่า  ในข้อเขียนนี้ คำที่อยู่หน้าเครื่องหมายยัติภังค์ ( - ) เป็นคำที่ใช้ในภาษาพูดเท่านั้น (ยกเว้นงานเขียนประเภทบันเทิงคดี เช่น นิทาน นิยาย นวนิยาย   โดยเฉพาะในส่วนที่เป็นคำพูดของตัวละครซึ่งต้องการรูปคำที่อ่านแล้วได้เสียงที่ใกล้เคียงกับเสียงพูดจริงๆมากที่สุด  เพื่อทำให้เกิดความสมจริง)  ส่วนคำที่อยู่หลังเครื่องหมายยัติภังค์เป็นคำที่ถูกต้อง  เป็นมาตรฐาน  ใช้ได้ทั้งในภาษาเขียนและภาษาพูดค่ะ
บันทึกการเข้า
ฟ้า-เวอร์ริเดียน
บุคคลทั่วไป
ความคิดเห็นที่ 8  เมื่อ 06 พ.ย. 00, 02:35

.....ความแตกต่างของ "ซิ" กับ "สิ"   และ  "นึง"  กับ "หนึ่ง"  นอกจากจะเป็นเรื่องของระดับเสียงและการสะกดคำแล้ว  ยังมีความแตกต่างในเรื่องของการใช้ด้วยค่ะ  ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องสำคัญมากและคนไทยควรใส่ใจ  
....คำว่า "ซิ" และ "นึง" เป็นรูปคำที่เขียนตามเสียงพูดจริง  แต่ไม่ถือเป็นคำที่ถูกต้องและจะนำมาใช้ในการเขียนที่เป็นทางการไม่ได้อย่างเด็ดขาด  เพราะในการพูดจริงๆอาจมีการกร่อนเสียง  รวบเสียง  กลมกลืนเสียง  ยืดเสียง  หดเสียง หรือเพี้ยนเสียงสารพัด  ซึ่งหากจะเขียนตามเสียงที่ออกกันจริงๆก็คงจะได้รูปคำหลายรูป  จะต้องเกิดความสับสนมากกว่าที่เป็นอยู่เป็นทวีตรีคูณ  จตุคูณ  เบญจคุณอย่างแน่นอนทีเดียว  ขอยกตัวอย่าง  
.......ที่เราเคยเขียนว่า  หนึ่ง  สอง  สาม  เพียงแบบเดียว  ก็อาจจะเขียนได้หลายแบบ (ต้องจดจำรูปคำมากขึ้น) คือ
   - แบบที่หนึ่ง  เขียนว่า  หนึ่ง  สอง  สาม  เหมือนเดิม
   - แบบที่สอง  เขียนว่า  นึง  ส่อง (เสียงยาวด้วย)  ซ่ำ
......ที่เคยเขียนว่า  ผู้หญิงคนนั้นใส่รองเท้าสูงๆ  ก็อาจจะเขียนได้หลายอย่าง
   - แบบที่หนึ่ง  เขียนเหมือนเดิม
   - แบบที่สอง  เขียนว่า  ผู้หญิงคนนั้นใส่รองเท้าซู้งสูง (เขียนตามเสียงที่พูด)  และอาจจะมีแบบอื่นๆ..แล้วแต่จะสรรหามาแสดงความสูงของรองเท้าคู่นี้
......คำที่มีปัญหาในทำนองนี้มีอีกหลายคำเช่น  
   ซัก    -    สัก
   อย่างงี้, หยั่งงี้, งี้      -        อย่างนี้
   ยังไง, ไง, (บางทีก็เขียนประหลาดเป็น  ยังงัย, งัย)   -   อย่างไร
   มั้ย, มั๊ย    -    ไหม
   เค้า    -    เขา                    
เป็นต้น
......เอาเป็นว่า  ขอสรุปว่า  ในข้อเขียนนี้ คำที่อยู่หน้าเครื่องหมายยัติภังค์ ( - ) เป็นคำที่ใช้ในภาษาพูดเท่านั้น (ยกเว้นงานเขียนประเภทบันเทิงคดี เช่น นิทาน นิยาย นวนิยาย   โดยเฉพาะในส่วนที่เป็นคำพูดของตัวละครซึ่งต้องการรูปคำที่อ่านแล้วได้เสียงที่ใกล้เคียงกับเสียงพูดจริงๆมากที่สุด  เพื่อทำให้เกิดความสมจริง)  ส่วนคำที่อยู่หลังเครื่องหมายยัติภังค์เป็นคำที่ถูกต้อง  เป็นมาตรฐาน  ใช้ได้ทั้งในภาษาเขียนและภาษาพูดค่ะ
บันทึกการเข้า
ฟ้า-เวอร์ริเดียน
บุคคลทั่วไป
ความคิดเห็นที่ 9  เมื่อ 06 พ.ย. 00, 10:38

....ขออภัยค่ะ  ทำไมจึงมา 2 ครั้งก็ไม่ทราบ
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.052 วินาที กับ 19 คำสั่ง