เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: 1 2 [3] 4 5 ... 9
  พิมพ์  
อ่าน: 35114 เที่ยวเหนือกันครับ
ติบอ
นิลพัท
*******
ตอบ: 1906


Smile though your heart is aching.


ความคิดเห็นที่ 30  เมื่อ 05 ต.ค. 10, 15:16






ในวัดศรีชุมยังมีโบราณวัตถุ-สถานสำคัญอีก 2 อย่าง
ได้แก่ หอไตรหลังงามหลังนี้ และกู่องค์ใหญ่สมัยล้านนา
ที่ทุกวันนี้ก็อยู่ในสภาพไม่ต่างจากกู่องค์อื่นๆที่ทรุดโทรมลงไปตามกาลเวลา






บันทึกการเข้า
ติบอ
นิลพัท
*******
ตอบ: 1906


Smile though your heart is aching.


ความคิดเห็นที่ 31  เมื่อ 05 ต.ค. 10, 19:07

วัดถัดไปที่พวกเราเดินทางไป คือ 'วัดพระบาทมิ่งเมือง'
ซึ่งเกิดจากการรวมเอา 'วัดพระบาท' และ 'วัดมิ่งเมือง' เข้าด้วยกัน
วัดทั้ง 2 แห่งจึงกลายเป็นวัดในรั้วเดียวกัน
แต่แยกกลุ่มอาคารออกจากกันเป็น 2 กลุ่ม

ได้แก่ กลุ่มแรกที่มีเจดีย์องค์นี้











กับหอไตรหลังในภาพ ซึ่งถูกโรงเรียนล้อมเอาไว้






บันทึกการเข้า
ติบอ
นิลพัท
*******
ตอบ: 1906


Smile though your heart is aching.


ความคิดเห็นที่ 32  เมื่อ 06 ต.ค. 10, 10:02

ส่วนระฆังแบบพม่าใบงามใบนี้
ตั้งอยู่หน้าอาคารอีกกลุ่มหนึ่งของวัด









วันนี้หมดเวลาสำหรับวัดในเมืองแพร่แล้ว
พวกเราจึงจำเป็นต้องออกจากเมือง
เพื่อเดินทางไปยังจุดมุ่งหมายต่อไป
แล้วเข้าที่พักที่ จ. พะเยา ในตอนค่ำ
บันทึกการเข้า
ติบอ
นิลพัท
*******
ตอบ: 1906


Smile though your heart is aching.


ความคิดเห็นที่ 33  เมื่อ 06 ต.ค. 10, 11:58

สถานที่แห่งสุดท้ายที่พวกเราแวะชม
ก่อนออกจากเมืองแพร่ คือ 'คุ้มเจ้าเมืองแพร่'
ที่นี่เป็นอาคารเก่าอายุรุ่นราว 100 ปี
ปัจจุบันเป็นพิพิธภัณฑ์จัดแสดงสิ่งของต่างๆ
และโบราณวัตถุที่มีผู้มอบให้กับคุ้ม









คุ้มแห่งนึ้จึงสิ่งต่างๆที่น่าชมรวบรวมไว้ไม่น้อย
ที่ผมชอบที่สุด คือ โคมไฟหลายแบบ
ซึ่งสั่งเข้ามาจากต่างประเทศเมื่อนานมาแล้ว
มีทั้งแบบเรียบๆ




บันทึกการเข้า
ติบอ
นิลพัท
*******
ตอบ: 1906


Smile though your heart is aching.


ความคิดเห็นที่ 34  เมื่อ 06 ต.ค. 10, 12:00

แบบหรูหรา









หรือแบบอลังการ











ซึ่งถูกเลือกตกแต่งให้แตกต่างกันไปในแต่ละห้อง
บันทึกการเข้า
ติบอ
นิลพัท
*******
ตอบ: 1906


Smile though your heart is aching.


ความคิดเห็นที่ 35  เมื่อ 07 ต.ค. 10, 00:02

แต่ก็ยังมีของบางอย่างที่ไม่ชวนให้มองนัก...
เช่น ผ้าปูเตียงผืนนี้ ที่ถูกตำหนิจากหลายฝ่าย
(ไม่แน่ใจว่าพิพิธภัณฑ์เอาออกไปหรือยัง ?)




บันทึกการเข้า
ติบอ
นิลพัท
*******
ตอบ: 1906


Smile though your heart is aching.


ความคิดเห็นที่ 36  เมื่อ 07 ต.ค. 10, 00:06






หลังออกจากเมืองแพร่ พวกเราแวะกันที่พระธาตุองค์หนึ่ง
เป็นพระธาตุอยู่บนชะโงกเขาซึ่งสามารถมองเห็นได้จากที่ไกล
ปัจจุบันเชื่อกันว่าเป็นพระธาตุของ 'พระลอ' ซึ่งไม่รู้ได้ว่าจริงหรือไม่



ทัศนียภาพจากวัดแห่งนี้เมื่อมองลงไปด้านล่าง
ซึ่งเป็นพื้นที่ราบลุ่มกว้างออกไป
ในเวลาที่ผมเดินทางไป (กลางเดือนสิงหาคม)
กำลังเป็นช่วงเวลาที่ชาวนาเริ่มดำนากันอยู่
เห็นนาที่กำลังงอกเป็นหยอมสีอ่อนแก่ต่างๆกันไกลออกไปลิบๆ





บันทึกการเข้า
ติบอ
นิลพัท
*******
ตอบ: 1906


Smile though your heart is aching.


ความคิดเห็นที่ 37  เมื่อ 07 ต.ค. 10, 00:09





เนื่องจากอากาศในบ่ายวันนี้ค่อนข้างชื้นและอ้าว
และเห็นแมลงปอจำนวนมากเกาะพักปีกอยู่ตามที่ต่างๆ
เลยชวนให้เข้าใจได้ว่าฝนอาจจะตกในเวลาไม่นาน
เราเลยต้องรีบออกเดินทางกันต่อไป...

ให้เจ้าแมลงปอปีกใสๆตัวนี้เขาชื่นชมทัศนียภาพงามๆตรงหน้าแทนเราก่อนดีกว่า... เนาะ
บันทึกการเข้า
Kurukula
สุครีพ
******
ตอบ: 1303



ความคิดเห็นที่ 38  เมื่อ 07 ต.ค. 10, 02:55

เข้ามาชมความคืบหน้าของเมืองลาวกาวครับ เดี๋ยววันนี้จะไปศรียโศธรปุระแ้ล้ว น่าจะได้ภาพสวยๆมาโพสท์เล่นกันนะครับ
บันทึกการเข้า
ติบอ
นิลพัท
*******
ตอบ: 1906


Smile though your heart is aching.


ความคิดเห็นที่ 39  เมื่อ 07 ต.ค. 10, 09:46

ขอบคุณ คุณกุรุกุลามากครับ
ขอให้เที่ยวให้สนุกนา...
แล้วเก็นภาพงามๆมาฝากกันด้วยนะครับ


มีเรื่องให้ข้องใจกับคำ 'ลาวกาว' และ 'ลาวเฉียง'
ผมจำได้ว่ามีอันหนึ่งเหนือ อันหนึ่งอีสาน

จำได้ว่าเหมือนจะวางมณฑล 'ลาวกลาง'
ไว้ที่อุบลด้วยหรือไงไม่แน่ใจเสียแล้ว

พอจะมีท่านผู้ใดบอกผมให้หายข้องใจได้ไหมครับ
ว่าอันไหนคือเหนือ และอันไหนคืออีสาน
บันทึกการเข้า
ติบอ
นิลพัท
*******
ตอบ: 1906


Smile though your heart is aching.


ความคิดเห็นที่ 40  เมื่อ 07 ต.ค. 10, 09:56












เรามาถึงกว้านพะเยากันตอนตะวันใกล้ลับฟ้า
หย่อมเมฆสีเทาเล็กๆดาดฟ้าไปทั่วตัดกับแสงสุดท้ายของวัน
รถจักรยานน้ำที่ใช้ดูกว้านถูกจอดรายเรียงไว้ตามริมฝั่ง หลังหมดเวลาให้บริการแล้ว
เป็นอันว่าจบเรื่องของวันแรกในการเดินทาง คือ วันที่ 12 สิงหาคม ครับผม...
บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 12600



ความคิดเห็นที่ 41  เมื่อ 07 ต.ค. 10, 09:58

สำเนาร่างประกาศตั้งกงสุลเมืองสิงคโปร์ สมัยรัชกาลที่ ๔ พ.ศ. ๒๔๐๖ ดังนี้ :

"สมเด็จพระปรเมนทรมหามกุฎ พระจอมเกล้าเจ้ากรุงสยามซึ่งเป็นพระเจ้าแผ่นดินใหญ่ที่ ๔ ในพระบรมราชวงศ์นี้ และเป็นเจ้าเป็นใหญ่ครอบครองพระราชอาณาจักรสยามราษฎรแวดล้อมด้วยนานาประเทศราชชนบทต่าง ๆ ทุกทิศ คือ ลาวโยน ลาวเฉียง ในทิศพายัพแลอุดร ลาวกาวแต่ทิศอีสานจนบูรพ์ กัมโพชาเขมรแต่บูรพ์จนอาคเนย์ เมืองมลายูเป็นอันมากแต่ทิศทักษิณจนหรดี แลบ้านเมืองของกะเหรี่ยงบางเหล่าแต่ทิศปจิมจนพายัพและข่าซองและชาติต่าง ๆ อื่น ๆ อีกเป็นอันมาก...."





บันทึกการเข้า
Ruamrudee
องคต
*****
ตอบ: 627



ความคิดเห็นที่ 42  เมื่อ 07 ต.ค. 10, 16:10

ขอบคุณเจ้าของกระทู้ที่เอาภาพสวย ๆ มาให้ได้ชมกัน
ดิฉันเป็นอีกคนหนึ่งที่ชอบเที่ยววัดและดูโบราณสถานแบบนี้
และชอบมาก ๆ กับศิลปะล้านนาค่ะ

อาจารย์ศรีศักดิ์ วัลลิโภดมได้บอกไว้ในหนังสือ "ล้านนาประเทศ" ว่า
ได้พบโบราณวัตถุมากมายแถบพะเยา ลำปาง อุตรดิตถ์
แต่ไม่มีงบประมาณ ไม่มีการช่วยเหลือจากภาครัฐ จึงไม่สามารถสำรวจต่อได้
สันนิษฐานว่า มีชนเผ่ามากมายเคยใช้ช่องทางนี้เดินทางข้ามไปมา
ระหว่าง ไทย ลาว เวียตนาม และจีน เพื่อค้าขายในอดีต

ศิลปะแถวนี้ จึงมีอะไรที่ปะปน กลมกลืน ๆ กันอยู่มาก
อย่างรูปเจ้าแม่กวนอิม ก็มีพระพักตรแบบไทยได้



บันทึกการเข้า
ติบอ
นิลพัท
*******
ตอบ: 1906


Smile though your heart is aching.


ความคิดเห็นที่ 43  เมื่อ 07 ต.ค. 10, 16:37

ขอบพระคุณ คุณเพ็ญชมพูครับ
เป็นอันว่าผมก็ต้องไปมณฑล 'ลาวเฉียง' แทน

ที่จริง 2 คำนี้พูดกันก็สับสนกันมากอยู่
นานไปกว่านี้เห็นทีจะยิ่งสับปลับขึ้นอีกมากโขนะครับ





คุณ Ruamrudee ครับ
ล้านนามีอะไรที่น่าสนใจมาก
การจะทำความเข้าใจรัตนโกสินทร์ หรืออยุธยา
ขาดการทำความเข้าใจล้านนาไปไม่ได้เลย

และยิ่งถ้าต้องการทำความเข้าใจรูปรอยของอาณาจักรต่างๆ
ระหว่างพุทะศตวรรษที่ 10-16 ลงมา
(ที่เรียกกันว่าทวารวดี หรือลพบุรีอะไรเทือกนั้น)
ก็ยิ่งต้องทำความเข้าใจล้านนามากขึ้นไปอีกเป็นเท่าตัว
ล้านนาจึงเป็นเรื่องน่าสนใจมากนะครับ
บันทึกการเข้า
ติบอ
นิลพัท
*******
ตอบ: 1906


Smile though your heart is aching.


ความคิดเห็นที่ 44  เมื่อ 07 ต.ค. 10, 16:47






เช้าวันรุ่งขึ้น เมฆยังเกลื่อนฟ้าเหนือกว้านพะเยาอยู่ไม่ต่างจากค่ำวันก่อน
พวกเราแวะถ่ายรูปกันเล็กน้อย ตอนพี่คนขับรถตรวจสภาพรถอยู่
เมื่อเสร็จแล้วจึงได้ออกเดินทางไป 'วัดศรีโคมคำ' ซึ่งเป็นจุดหมายแรกของวัน










แม้จะมีการบูรณะปฏิสังขรณ์ให้ดูไม่ทรุดโทรมไปบ้างแล้วในหลายจุด
แต่ก็เป็นที่น่าชมว่าวัดแห่งนี้ยังมีการรักษาแบบแผนประเพณีไว้หลายอย่าง
เช่น การไม่ทำนาคสะดุ้งที่หน้าบรรพ์ เพราะถือเป็นศักดิ์ของอาคาร
ซึ่งหายไปจากวิถีคิดของคนในภาคกลาง เช่น ศิลปะอยุธยาและรัตนโกสินทร์ไปแล้ว เป็นต้น
บันทึกการเข้า
หน้า: 1 2 [3] 4 5 ... 9
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.072 วินาที กับ 19 คำสั่ง