เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: [1] 2 3 ... 9
  พิมพ์  
อ่าน: 35111 เที่ยวเหนือกันครับ
ติบอ
นิลพัท
*******
ตอบ: 1906


Smile though your heart is aching.


 เมื่อ 29 ก.ย. 10, 00:32

ผมหายหน้าหายตาจากเรือนไปเสียนาน
(เพราะทั้งยุ่ง และอู้ ในเวลาเดียวกัน)

แก้ตัวพอละ... เข้าเรื่องเลยนะครับ
หยุดวันแม่ 12-15 สิงหาคม
ผมได้มีโอกาสได้ไปแอ่วเวียงแป้
เวียงพะเยา และเวียงน่าน มา
และลงภาพถ่ายฝีมือตัวเองไว้ใน facebook เล่นๆ

เพื่อนในเรือนไทยผ่านไปเห็นเข้า
แล้วออกปากว่าให้นำมาลงไว้ในเรือนด้วย
เลยขออนุญาตเอามาลงไว้ในเรือนนะครับ




เอาล่ะ เริ่มเรื่องเลยดีกว่า




ผมออกเดินทางจากกรุงเทพฯด้วยรถไฟตู้นอน
สายกรุงเทพ-เด่นชัย ในคืนวันที่ 11 สิงหาคม
พอตื่นเช้ามาไอเย็น (จากแอร์ในรถที่เปิดแรงผิดปกติ)
และไอหมอกขาวๆ ที่สถานีศิลาอาสน์ ก็ยิ้มให้กับพวกเราตั้งแต่อยู่ในรถ
บันทึกการเข้า
ติบอ
นิลพัท
*******
ตอบ: 1906


Smile though your heart is aching.


ความคิดเห็นที่ 1  เมื่อ 29 ก.ย. 10, 00:35

เมื่อรถเข้าเทียบสถานีแต่ละแห่ง
ก็มีคนขึ้น-ลง บ้างตามจุดหมายปลายทางของพวกเขา
แต่คนกรุงเทพอย่างผมยังตื่นไม่เต็มตาเท่าไหร่
เลยขออนุญาต เป็น 'เจ๊กกั้นม่าน' นอนต่อไปก่อนดีกว่า...





ถึงที่หมายปลายทางแล้วค่อยลงนะครับ
บันทึกการเข้า
ติบอ
นิลพัท
*******
ตอบ: 1906


Smile though your heart is aching.


ความคิดเห็นที่ 2  เมื่อ 29 ก.ย. 10, 00:37



รถมาถึงสถานีเด่นชัยเอาตอนสายๆ
ฟ้าหลังฝนที่นี่สดใสปราศจากมลพิษ
ลมอ่อนๆในยามเช้ายังมีไอชื้นนิดๆให้ได้รู้สึกอยู่
ว่าฝนเพิ่งหยุดตกไปได้ไม่นาน
บันทึกการเข้า
ติบอ
นิลพัท
*******
ตอบ: 1906


Smile though your heart is aching.


ความคิดเห็นที่ 3  เมื่อ 29 ก.ย. 10, 00:40

ความจอแจเล็กๆ แบบชนบทที่หน้าสถานี
ส่งเสียงทักทาย ต้อนรับนักเดินทางที่มาถึง
คุณลุง คุณน้า คนขับรถสองแถวต่างก็พยายามหาผู้โดยสาร
ส่วน คุณป้า คุณยาย ที่ขายอาหารต่างๆก็เรียนคนเดินผ่านให้เป็นลูกค้า

แต่ว่า... ผมมีรถมารอรับแล้ว



บันทึกการเข้า
ติบอ
นิลพัท
*******
ตอบ: 1906


Smile though your heart is aching.


ความคิดเห็นที่ 4  เมื่อ 29 ก.ย. 10, 00:44





จุดหมายปลายทางแรกของพวกเราอยู่ที่
'วัดพระหลวง' เมืองแพร่ครับ
ที่นี่มีสถาปัตยกรรม เก่าๆ งามๆ ให้เราดูกันหลายอย่าง
เช่น หอไตรหลังนี้ที่หน้าบันงามหนักหนา











ลายประดับแม้จะไม่เลื้อยลดเป็นช่อกนกไปเสียหมด
แต่ก็งามตามแบบเรียบง่ายอย่างพื้นบ้านมาก
เส้นสายที่คดโค้งก็ลงตัวรับกันกับกระจกสีที่ประดับไว้
ทำให้น่าตื่นตาแก่ผู้มาพบเห็นอยู่ไม่น้อย
บันทึกการเข้า
ติบอ
นิลพัท
*******
ตอบ: 1906


Smile though your heart is aching.


ความคิดเห็นที่ 5  เมื่อ 29 ก.ย. 10, 00:52





หอระฆังหลังนี้แม้จะไม่เก่ามาก
แต่ลายฉลุไม้ที่ประดับไว้ก็น่าประทับใจเหลือเกิน
เสียดายว่าทางวัดมามัวแต่สร้างกุฏิหลังคาแดงไว้ทำไมไม่รู้
ดูขัดหูขัดตากับความงามแบบดั้งเดิมอย่างบอกไม่ถูก




หงุหงิตุ๊เจ้าหลังคาแดง เฮอะ!!! ไปดูธาตุประจำวัดกันดีกว่า
พระเจดีย์องค์นี้เป็นเจดีย์ทรงปราสาทยอดแบบล้านนา
ด้วยส่วนสัดสูงชลูดตูดปอด ยอดเป็นเหลี่ยมแบบนี้
ก็ชวนให้เข้าใจว่าอายุคงอยู่ในพุทธศตวรรษที่ 23 แล้ว
(ไม่เก่าไปว่า 300 - 400 ปี ครับ)


ที่ผมทึกทักเอาเช่นนี้ เพราะก่อนหน้านั้น
ยังเป็นยุคที่ไม่นิยมทั้งความเหลี่ยม และความสูง
ทรวดทรงองค์เอวของพระเจดีย์งามๆในยุคจึงยังไม่ยืดชลูด
เป็นนายแบบ 'อีหลี (Elle) แฟชั่นวีค' แบบพระธาตุองค์นี้ครับ





บันทึกการเข้า
ติบอ
นิลพัท
*******
ตอบ: 1906


Smile though your heart is aching.


ความคิดเห็นที่ 6  เมื่อ 29 ก.ย. 10, 00:57

เราแวะไปกราบพระประธานในวัดกันต่อ ซึ่งก็งามมากเช่นกัน
เนื่องจากหลวงพ่อองค์นี้ มี 'พุทธลักษณะ'(หน้าตา) บ้านๆพอสมควร
จึงเป็นตัวอย่างที่ดีในการศึกษาพระพุทธรูปในสกุลช่างเมืองแพร่ได้เป็นอย่างดี
ที่น่าสนใจอยู่ไม่น้อย คือ ชายสังฆาฏิที่ตกลงด้านหน้าเหนือพระถันซ้าย
มีลายดอกไม้ประดับไว้เป็นแถว (เสียดายว่าโดนผ้าห่มอยู่อีกแล้ว!!!)












ตี 1 แล้ว เห็นทีว่าคืนนี้ผมจะต้องขอตัวก่อนล่ะครับ

ทราบมาว่าขณะนี้ในเรือนไทยกำลังมี 'โรคอกหัก' ระบาด
และเป็นโรคร้ายแรงที่ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ในเร็ววัน...
น่ากลัวว่าผมเองก็ติดโรคนี้ไปด้วย (ถึงได้มีเวลาแวะมาเข้าเรือนกับเขา)

สำหรับท่านที่เป็นห่วง หรือหมั่นไส้อยากทราบอาการ
ขณะนี้ผมกำลังอยู่ในอาการขั้น 'หาไม้รักกิ่งใหม่มาดามอก' อยู่
คิดว่าถ้าหากได้มีโอกาสหาเจอเมื่อไหร่ก็คงจะไม่มีเวลาแวะมาเข้าเรือนไทยอีก... เอวัง ด้วยประการฉะนี้แล
บันทึกการเข้า
ติบอ
นิลพัท
*******
ตอบ: 1906


Smile though your heart is aching.


ความคิดเห็นที่ 7  เมื่อ 29 ก.ย. 10, 14:21




เราบอกลาธรรมาสน์องค์งามในพระอุโบสถ
เพื่อเดินทางต่อไปยังจุดหมายปลายทางถัดไป
ที่ 'วัดพระธาตุช่อแฮ' ซึ่งเป็นพระธาตุสำคัญประจำเมืองแพร่
และจุดหมายปลายทางแห่งที่ 2 ในทริปนี้
บันทึกการเข้า
ติบอ
นิลพัท
*******
ตอบ: 1906


Smile though your heart is aching.


ความคิดเห็นที่ 8  เมื่อ 29 ก.ย. 10, 14:25





เนื่องจากพระธาตุช่อแฮ เป็นพระธาตุสำคัญ
จึงได้รับการบูรณะปฏิสังขรณ์มาโดยตลอด
โบราณวัตถุ-สถานในวัดจึงกอปรขึ้นจากศิลปะในหลากยุคหลายสมัย
ซึ่งมีที่มาในแรงบันดาลใจแตกต่างกันไปอีกหลายแหล่ง









พระเจดีย์บางองค์ เช่น องค์ในภาพ
เป็นพุทธศิลป์พม่าที่ได้รับแรงบันดาลใจจากตะวันตก
หลังยุคการเข้ามาของชาติจักรวรรดินิยมอย่างเข้มข้น
แต่ก็ยังรักษาคติต่างๆที่สืบมาจากอินเดียไว้ได้เป็นอย่างดี
สำหรับผม จึงเป็นงานออกแบบที่ลงตัวและน่าชมเชยมากครับ
บันทึกการเข้า
ติบอ
นิลพัท
*******
ตอบ: 1906


Smile though your heart is aching.


ความคิดเห็นที่ 9  เมื่อ 29 ก.ย. 10, 14:29





หรือพระพุทธรูปองค์นี้ ที่มีพุทธลักษณะแบบพื้นบ้าน
แต่ก็ถูกปรุงแต่งด้วยเรือนแก้วแบบพระพุทธชินราชเข้าไป
ทำให้ดูเผินๆ เหมือนพระพุทธรูปในศิลปะภาคกลางของไทย
มากกว่าพระพุทธรูปแบบพื้นเมืองที่ควรจะเป็น


ในขณะที่พระพุทธรูปอีก 2 องค์ บนฐานชุกชี
กลับเป็นพระพุทธรูปแบบพม่าในยุคปลายราชวงศ์คองบอง
ที่นิยมการสร้างพระที่มีพุทธลักษณะเหมือนคนจริงๆ องค์นี้









บันทึกการเข้า
ติบอ
นิลพัท
*******
ตอบ: 1906


Smile though your heart is aching.


ความคิดเห็นที่ 10  เมื่อ 29 ก.ย. 10, 14:32





ธรรมาสน์องค์นี้เป็นตัวอย่างที่ดีอีกชิ้นที่ช่วยยืนยันว่า
ที่จริงแล้วศิลปะในภาคกลางมีบทบาทกับช่างที่นี่ไม่น้อย
เพราะถ้าลองเทียบกันดู จะเห็นว่าเป็นงานจำลองแบบมาจาก
ธรรมาสน์ทรงบุษบกของวัดมหาธาตุ พิษณุโลกครับ




เอาเถอะ... ดูอะไรกันพอหอมปากหอมคอแล้ว
ขออนุญาตพาไปชมองค์พระธาตุด้านนอกกันดีกว่า




บันทึกการเข้า
ติบอ
นิลพัท
*******
ตอบ: 1906


Smile though your heart is aching.


ความคิดเห็นที่ 11  เมื่อ 29 ก.ย. 10, 14:39

เนื่องจากพระธาตุองค์นี้เป็นพระธาตุประจำปีขาล
จึงมีผู้ที่เกิดในปีขาลมาทำบุญกันมากมาย
ทางวัดก็จัดชุดทำบุญแบบต่างๆเอาไว้ให้เลือกกัน
ทั้งชุด 'สังฆทาน' ในกระติกน้ำเย็นสีต่างๆ
หรือชุดไหว้สาพระธาตุ ที่มี 'ตุ๊กตาเสือ' อยู่ในชุดด้วยแบบนี้









จำเนียรกาลผ่านไป ของทำบุญก็มากขึ้นๆทุกที
ทุกวันนี้วัดจึงเต็มไปด้วยบริขารพระธาตุ ที่ชาวบ้านนำมาถวายไว้
ทั้งเก่า-ใหม่ ไปต่างๆนานา ซึ่งเมื่อถึงเวลาอันควรแล้ว
ของเหล่านี้ก็ถูกเก็บไปจัดแสดงไว้ในพิพิธภัณฑ์ของวัด
เหมือนบริขารชุดนี้ ที่ 'คุณนายคำตุ้ย' นำมาถวาย





บันทึกการเข้า
ติบอ
นิลพัท
*******
ตอบ: 1906


Smile though your heart is aching.


ความคิดเห็นที่ 12  เมื่อ 29 ก.ย. 10, 15:35





เมื่อแวะดูสิ่งต่างๆจนอิ่มตา อิ่มใจแล้ว
พวกเราก็บอกลาองค์พระธาตุมา
หนทางข้างหน้ายังอีกยาวไกล

เราแวะกันเพื่อชิม 'ข้าวพัน' รสเค็มปะแล้ม (แกล้มขี้มือแม่ค้า)








แล้วมุ่งหน้าสู่ 'วัดพรธาตุจอมแจ้ง' ปลายทางแห่งถัดไป!!!





บันทึกการเข้า
Kurukula
สุครีพ
******
ตอบ: 1303



ความคิดเห็นที่ 13  เมื่อ 29 ก.ย. 10, 21:06

เป็นเมืองที่ไม่เคยไปส้ักที แพร่กับน่านนี่
บันทึกการเข้า
ฉันรักบางกอก
พาลี
****
ตอบ: 334



ความคิดเห็นที่ 14  เมื่อ 03 ต.ค. 10, 15:36

 No 'LIKE' botton here..

So I give you.. จุมพิต
บันทึกการเข้า

กนก นารี กระบี่ คชะ
หน้า: [1] 2 3 ... 9
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.066 วินาที กับ 19 คำสั่ง