สกุล ณ สงขลา

[pattarapong]

อยากจะเรียนถามคุณเทาชมพู และผู้รู้ทุกๆท่านนะคับ ว่าสายสกุล ณสงขลานั้นมีความเกี่ยวข้องกับสสุลต่านสุไลมาน หรือไม่ อย่างไร? แต่ผมเคยได้ยินมาว่า  ผู้สืบทอดสายสกุลกับท่านสุลต่าน นี้ จะใช้สกุลว่า ณ พัทลุง มิใช่หรือคับ

[CVT]

สกุล ณ สงขลา สืบทอดมาจาก พระยาสุวรรณคิรีศรีสมบัติ(เหยี่ยง แซ่เหง่า) ครับ

ส่วนทายาทของสุลต่านสุไลมาน จะเป็น ณ พัทลุง ครับ

[pattarapong]

แต่ว่า สุลต่านสุไลมานเนี่ย ท่านเป็นเจ้าผู้ครองรัฐอิสระสงขลาในสมัยนั้นถุกมั๊ยครับ ? แต่เหตุใดตระกูล ณ สงขลา   ซึ่งตามความเข้าใจผมน่าจะเป็นลูกหลานเชื้อสายเจ้าเมืองสงขลา กลับไม่ใช่เชื้อสายของท่าน สุลต่านฯ แต่กลับกลายเป็น ณ พัทลุงแทน

[CVT]

อืม! เรื่องยาวแล้วครับ ต้องอ่านพงศาวดารเมืองสงขลา และพงศาวดารเมืองพัทลุงครับ

ไปอ่านพงศาวดารเมืองสงขลาที่นี่เลยครับ http://www.bloggang.com/viewblog.php?id=panthep&date=14-05-2008&group=2&gblog=15

[luanglek]

พงศาวดารเมืองสงขลา  มีข้อความที่กล่าวถึงสุลต่านสุเลมาน(สุไลมาน)แห่งเขาแดง ไว้เท่านี้ 

"...ข้าพเจ้า พระยาสุนทรานุรักษ์ (ชม) ผู้ว่าราชการเมืองสงขลา ได้คิดเรียบเรียงเรื่องราวตระกูลเมืองสงขลาขึ้นไว้ เพื่อจะได้ทราบทั่วกัน เดิมครั้ง ๑ เมืองสงขลาเปนเมืองแขก ตั้งอยู่ริมเขาแดง เจ้าเมืองชื่อสุลต่านสุเลมัน ๆ ได้สร้างป้อมขุดคูเมืองแลจัดแจงสร้างบ้านเมืองเสร็จแล้ว ยอมขึ้นกับกรุงศรีอยุธยาโบราณ ครั้นสุลต่านสุเลมันถึงแก่อนิจกรรมแล้ว บุตรแลหลานคนหนึ่งคนใดก็ไม่ได้เปนผู้ครองเมืองสืบตระกูลต่อไป เมื่อสุลต่านสุเลมันสร้างบ้านเมืองขึ้นนั้นไม่ปรากฏว่าศักราชเท่าใด ตั้งแต่สุลต่านสุเลมันถึงอนิจกรรมแล้ว เมืองก็รกร้างว่างเปล่าอยู่ช้านาน แต่ป้อมที่ฝังศพสุลต่านนั้นราษฎรเรียกกันว่ามรหุมต่อมาจนทุกวันนี้ เมื่อปีมเมีย โทศก ศักราช ๑๑๑๒ จีนคนหนึ่งแซ่เฮ่า ชื่อเหยี่ยง ชาวเมืองเจี่ยงจิ้วหู ตำบลบ้านเส้หิ้นเหนือเมืองแอมุ่ย มาตั้งบ้านเรือนอยู่ที่เมืองเก่าของสุลต่านริมเขาแดง ราษฎรชาวบ้านชวนกันเรียกจีนเหยี่ยงว่าตั้วแปะ ๆ ทำสวนปลูกผักกาดขายอยู่ปีหนึ่ง ครั้นณ ปีมแม ตรีศก ตั้วแปะรื้อเรือนขึ้นไปอยู่ตำบลบ้านทุ่งอาหวังแขวงเมืองจะนะ สร้างสวนปลูกพลูขายอยู่ ๓ ปี ครั้น ณ ปีรกา เบญจศก ตั้วแปะกลับลงมาตั้งเรือนอยู่ตำบลบ้านบ่อยางที่บ้านหลวงบริรักษ์ภูเบนทร์ในเมืองสงขลา ช่วยทาษ ๔ ครัวให้ดักโพงพาง ครั้น ณ ปีขาล สัมฤทธิศก ตั้วแปะรื้อเรือนไปตั้งค้าขายอยู่ฟากแหลมสน ตั้วแปะมีภรรยากับชาวเมืองพัทลุงมีบุตร ๕ คน บุตรที่ ๑ ชื่อบุญหุ้ย บุตรที่ ๒ ชื่อบุญเฮี้ยว บุตรที่ ๓ ชื่อบุญซิ้น บุตรที่ ๔ ชื่อเถี้ยนเส้ง บุตรที่ ๕ ชื่อยกเส้ง

เมื่อ ณ ปีชวด สัมฤทธิศก ศักราช ๑๑๓๐ หลวงนายสิทธิ์เปนที่พระปลัดเมืองนครศรีธรรมราช เจ้าพระยานครถึงแก่อสัญญกรรมพระปลัดตั้งตัวขึ้นเปนเจ้า ให้นายวิเถียนกรมการชาวเมืองนครศรีธรรมราชมาเปนผู้ว่าราชการเมืองสงขลา ตั้งบ้านเรือนอยู่ฟากแหลมสน ราษฎรเรียกกันว่าหลวงสงขลาวิเถียน ..."

ส่วนพงศาวดารเมืองพัทลุง  เดี๋ยวต้องลองไปหาอ่านก่อน   

จำได้ว่าเชื้อสายสกุล  ณ พัทลุง  เป็นเชื้อสายที่สืบมาแต่สุลต่านสุไลมานโดยตรง และเป็นสาขาใหญ่   ส่วนสายสกุล ณ สงขลา  เป็นเชื้อสายคนจีนที่เข้ามาตั้งรกรากและได้เป็นเจ้าเมืองภายหลังสุลต่านสุไลมานถึงแก่กรรมไปแล้วนานนัก   ซึ่งลูกหลานของสุลต่านสุไลมานก็ได้กระจัดกระจายไปอยู่ต่างเมืองมากแต่ก็ยังมีบางสายที่ยังอยู่ที่สงขลา  และมีบางสาขาที่เกี่ยวข้องกับสกุล ณ สงขลา อยู่    ถ้าต้องประสงค์ทราบรายละเอียดเพิ่มเติม   ต้องไปค้นาข้อมูลเพิ่มเติม   แฮ่ ....ผมไม่มีเอกสารที่ว่าเสียด้วยสิ   ต้องให้ท่านนิลพัทแห่งเรือนไทยช่วยเหลือแล้วล่ะ

[Wandee]

มีแต่เล่ม   เจ้าพระยาจักรีศรีองครักษ์(หมุด) พร้อมผู้สืบตระกูลและส่ยสัมพันธ์ ๑๓๙ ตระกูล

โดย ร้อยโท สมบัติ  เศวตครุตมัด

ของมูลนิธิ สายสกุล สุลต่าน  สุลัยมาน

มี ๒๑๘ หน้า  แถมภาษาอังกฤษ อีด ๙ หน้า


แล้วคุณหลวง ออกคำสั่งปฎิบัติการให้ดิฉันไปดูหน้า  ๒๓๐   ก็มิทราบว่าหมายความถึงเล่มไหนคะ

แล้วเล่มที่ ดร. คนหนึ่งทำไว้  หนาเชียวน่ะ  ของสกุลใดก็เลือนลืมไปสิ้นแล้วท่านผู้เจริญ

วันนี้จะมีการฉีดปลวก  จึงจะต้องจัดเก็บตั้งหนังสือที่อยู่นอกตู้ใหม่

จะต้องการเล่มเจ้าพระยา  เล่มอ้วนๆไหมคะ

[luanglek]

แล้วคุณหลวง ออกคำสั่งปฎิบัติการให้ดิฉันไปดูหน้า  ๒๓๐   ก็มิทราบว่าหมายความถึงเล่มไหนคะ
แล้วเล่มที่ ดร. คนหนึ่งทำไว้  หนาเชียวน่ะ  ของสกุลใดก็เลือนลืมไปสิ้นแล้วท่านผู้เจริญ
วันนี้จะมีการฉีดปลวก  จึงจะต้องจัดเก็บตั้งหนังสือที่อยู่นอกตู้ใหม่
จะต้องการเล่มเจ้าพระยา  เล่มอ้วนๆไหมคะ

อ้าว  นิลพัทโดนทลายกรุเสียแล้ว  หวังว่าอัญมณีจะไม่เสียหายนะครับเล่มที่ให้ดูนั้น เป็นของสายสกุลสุลต่านสุลัยมาน  ทำไว้เมื่อ ราว ๒๕๓๑
เล่มโตทีเดียว   ละเอียดดีมาก  ทำให้รู้ว่าสกุลที่สืบสายและเกี่ยวข้องมา
แต่สุลต่านสุลัยมานมีกระจายแผ่ขยายออกไปเป็นสิบๆ สายสกุล
เหมาะแก่ผู้ใฝ่หาความรู้เรื่องสกุลยิ่งนัก

เอ่อ...เจ้าพระยาเล่มอ้วนๆ นั่น  เดี๋ยวนี้หาซื้อไม่ได้แล้วนะ
คนเขียนไปเฝ้าพระอินทร์ยังไม่กลับ  คงอีกนานกว่าพิมพ์ใหม่
แต่ถ้าจะสละก็ยินดีรับนะครับ  ไม่ทราบว่า เป็นเล่ม ๒๗ หรือ ๒๙ ครับ

[luanglek]

อยากจะเรียนถามคุณเทาชมพู และผู้รู้ทุกๆท่านนะคับ ว่าสายสกุล ณสงขลานั้น
มีความเกี่ยวข้องกับสสุลต่านสุไลมาน หรือไม่ อย่างไร? แต่ผมเคยได้ยินมาว่า 
ผู้สืบทอดสายสกุลกับท่านสุลต่าน นี้ จะใช้สกุลว่า ณ พัทลุง มิใช่หรือคับ

สกุล ณ สงขลา มีความเกี่ยวข้องกับสายสกุลสุลต่านสุลัยมาน  เพราะคนในสกุล ณ สงขลา
ได้มาเกี่ยวดองกับสกุลจันทโรจวงศ์  ซึ่งสกุลจันทโรจวงศ์ เป็นสกุลเขยของสกุล ณ พัทลุง อันเป็นสกุลหนึ่งที่สืบสายมาจากสุลต่านสุลัยมาน

สกุลจันทโรจวงศ์ ต้นสกุลคือ เจ้าพระยาสุรินทราชา นราบดีศรีสุริยศักดิ์ (จันทร์)  เป็นบุตรของเจ้าพระยาชำนาญบริรักษ์ (อู่)
เจ้าพระยาสุรินทราชา (จันทร์) มีบุตรหลายคน  มีพระยาพัทลุง (จุ้ย) คนหนึ่ง 
นายฤทธิ์ ผู้แต่งพงศาวดารเมืองถลางคนหนึ่ง   นายอิน ซึ่งเป็นบิดาพระยาวรวุฒิวัย (น้อย) คนหนึ่ง
หลวงศรีวรวัตร (พิณ) คนหนึ่ง  และคุณหญิงเพชราภิบาลนฤเบศร (แข) ภรรยาพระยาหนองจิก (พ่วง ณ สงขลา)

พระยาวรวุฒิวุย (น้อย) มีบุตรกับคุณหญิงหนูขาว ณ พัทลุง  ธิดาพระยาพัทลุง (ทับ) คือ พระยาอภัยบริรักษ์ (เนตร)

พระยาอภัยบริรักษ์ (เนตร) จางวางเมืองพัทลุง  กับหลวงจักรานุชิต (พิณ) สองพี่น้อง ได้กราบบังคมทูลขอพระราชทานนามสกุลจากรัชกาลที่ ๖
และได้รับพระราชทานนามสกุลว่า "จันทโรจวงศ์"

ในที่นี้จะกล่าวเฉพาะสกุลจันทโรจวงศ์ที่ไปสัมพันธ์กับสกุล ณ สงขลา ดังนี้

พระยาอภัยบริรักษ์ (เนตร) จางวางเมืองพัทลุง  มีภรรยา ๗ คน คนหนึ่งชื่อ นางละม้าย  สกุลเดิม เลิศแก้ว
นางละม้ายมีบุตรธิดา  ๔ คน คือ นางมลิ ภรรยานายปิ่น ณ พัทลุง
นายวิเวก  จันทโรจวงศ์   นางลมัย  ภรรยาหลวงจรูญบุรกิจ (จรูญ ณ สงขลา)
และนางลม่อม  ภรรยาร้อยตำรวจโท ประพืช  ศิริธร

นางลมัย  ภรรยาหลวงจรูญบุรกิจ (จรูญ ณ สงขลา) มีบุตรธิดา  ๕ คน  คือ
นายเจิมจิต  ณ  สงขลา     นายธัญญะ  (เจริญใจ)  ณ สงขลา    นายเจริญสุข  ณ  สงขลา
นายเจริญลาภ  ณ สงขลา  และนายเจริญศักดิ์  ณ สงขลา

อีกสายหนึ่งคือ สายคุณหญิงเพชราภิบาลนฤเบศร (แข) ภรรยาพระยาหนองจิก (พ่วง ณ สงขลา)
คุณหญิงมีบุตรธิดากับพระยาเพชราภิบาลนฤเบศร (พ่วง ณ สงขลา) ดังนี้
หลวงจรูญบุรกิจ  (จรูญ  ณ สงขลา)   นายวิชิตดุรงคศักดิ์ (สว่าง  ณ  สงขลา)
นางกำจรจัตุรงค์  (บุปผา  ณ  สงขลา)  นางสกลรักษษ (ยุพา  ณ  สงขลา) ภรรยาหลวงสกลรักษา (ชะเอม ณ ระนอง)
นางนฤบดินทร์นฤบาล  (สายหยุด ณ  สงขลา)
และธิดา   ๓  คน ชื่อ สุวรรณ , ลมุล  และจรัส

ข้อมูลจากหนังสือ สายสกุลสุลต่าน สุลัยมาน  พิมพ์ที่  อมรินทร์พริ้นติ้ง กรุ๊พ  ๒๕๓๑  หนา ๓๗๔  หน้า

[CVT]

คุณหลวงฯครับ ขอแก้ไขเพิ่มเติมเล็กน้อยครับ

นางลมัย  ภรรยาหลวงจรูญบุรกิจ (จรูญ ณ สงขลา) มีบุตรธิดา  ๕ คน  คือ
นายเจริญจิตร  ณ  สงขลา     นายธัญญะ  (เจริญใจ)  ณ สงขลา    นายเจริญสุข  ณ  สงขลา
นายเจริญลาภ  ณ สงขลา  และนายเจริญศักดิ์  ณ สงขลา

อีกสายหนึ่งคือ สายคุณหญิงเพชราภิบาลนฤเบศร (แข) ภรรยาพระยาหนองจิก (พ่วง ณ สงขลา)
คุณหญิงมีบุตรธิดากับพระยาเพชราภิบาลนฤเบศร (พ่วง ณ สงขลา) ดังนี้
หลวงจรูญบุรกิจ  (จรูญ  ณ สงขลา)   นายวิชิตดุรงคศักดิ์ (สว่าง  ณ  สงขลา)
นางกำจรจัตุรงค์  (บุปผา  ณ  สงขลา)  นางสกลรักษษ (ยุพา  ณ  สงขลา) ภรรยาหลวงสกลรักษา (ชะเอม ณ ระนอง)
นางนฤบดินทร์นฤบาล  (สายหยุด ณ  สงขลา) เป็นภรรยาหลวงนฤบดินทร์นฤบาล(คอยู่หุ้ย ณ ระนอง) อดีตนายอำเภอเมืองหนองจิก และเมืองปัตตานีครับ
และธิดา   ๓  คน ชื่อ สุวรรณ , ลมุล  และจรัส

ข้อมูลจากหนังสือ สายสกุลสุลต่าน สุลัยมาน  พิมพ์ที่  อมรินทร์พริ้นติ้ง กรุ๊พ  ๒๕๓๑  หนา ๓๗๔  หน้า

[pattarapong]

ขอบคุณทุกๆท่านที่เข้ามาให้ข้อมูลครับ 

[Wandee]

นฤบดินทร์สวามิภักดิ์         หลวง(ยู่หุย  ณ ระนอง)
รองอำมาตย์เอก   นายอำเภอ ตุยง   จังหวัดปัตตานี


พิพิธภัณฑ์สัพพะสยามกิจ   ศักราช ๒๔๗๔     หน้า ๙๖๔

ยินดีร่วมมือเสมอถ้านึกออกว่าข้อมูลอยู่เล่มไหนค่ะ

[CVT]

นฤบดินทร์สวามิภักดิ์         หลวง(ยู่หุย  ณ ระนอง)
รองอำมาตย์เอก   นายอำเภอ ตุยง   จังหวัดปัตตานี


พิพิธภัณฑ์สัพพะสยามกิจ   ศักราช ๒๔๗๔     หน้า ๙๖๔

ยินดีร่วมมือเสมอถ้านึกออกว่าข้อมูลอยู่เล่มไหนค่ะ

อำเภอตุยง กับ อำเภอหนองจิก คือที่เดียวกันที่เปลี่ยนชื่อไปมาหลายครั้งตามสมัย
ปัจจุบันเป็นอำเภอหนองจิก แต่ที่บ้านผมก็ยังคงเรียกกันว่า ตุยง ครับ