เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: 1 2 [3] 4 5 6
  พิมพ์  
อ่าน: 30947 เรื่องของคน ๕ แผ่นดิน ท่านผู้หญิงดุษฏี มาลากุล
V_Mee
สุครีพ
******
ตอบ: 1436


ความคิดเห็นที่ 30  เมื่อ 04 ก.ย. 10, 22:45

ชุดเครื่องประดับที่สมเด็จอินทร์ทรงในพระรูปเป็นคนละชุดกับเสด็จพระนางสุวัทนาครับ

เมื่อล้นเกล้าฯ ทรงแยกกันอยู่กับสมเด็จอินทร์ฯ และทรงราชาภิเษกสมรสกับพระนางเจ้าสุวัทนาแล้ว  สมเด็จอินทร์ก็ยังทรงดำรงตำแหน่งมหาวสามินีแห่งเครื่องราชอิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้าอยู่  และล้นเกล้าฯ ไม่เคยเสด็จมาประทับที่พระราชวังพญาไทเลย  เพราะทรงมีพระราชพินัยกรรมยกพระราชวังพญาไทให้เป็นพระราชมรดกแก่สมเด็จอินทร์  เมื่อโปรดให้สมเด็จอินทร์ย้ายไปประทับที่พระที่นั่งมานเมฆแล้ว  ราวเดือนกรกฎาคม หรือสิงหาคม ๒๔๖๘ จึงเสด็จมาประทับที่พระราชวังพญาไท  แล้วก็เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในตอนต้นเดือนกันยายน ๒๔๖๘ ก่อนเสด็จสวรรคตไม่นาน  โปรดให้เปลี่ยนพระอิสริยยศสมเด็จอินทร์ฯ เป็น พระวรราชชายา  พร้อมกับทรงทำพระราชพินัยกรรมฉบับที่เป็นที่กล่าวขวัญกันมาก  และในการเปลี่ยนแปลงคราวนี้ทรงยกเลิกพระราชพินัยกรรมที่พระราชทานพระราชวังพญาไทให้สมเด็จอินทร์ฯ  แล้วโปรดให้เสด็จในกรมกำแพงเพชรปรับปรุงพระราชวังเป็นโฮเต็ลพญาไท

บรรดาเครื่องประดับที่พระราชทานไปทั้งหมดนั้น  เมื่อสิ้นรัชกาลท่านประธานกรรมการจัดพระราชทรัพย์ท่านเรียกคืนกลับไปเป็นของหลวงหมด  โดยเฉพาะที่ดินริมถนนราชวิถีฝั่งตรงข้ามสวนจิตรลดาที่พระราชทานสมเด็จอินทร์  คุณพระใหญ่  และพี่น้องในสกุลสุจริตกุลที่ทรงนับว่าเป็นพระญาติสนิท  ถูกเรียกคืนหมด  เหตุนี้จึงเป็นจุดเริ่มของการฟ้องร้องพระคลังข้างที่  จนล้นเกล้าฯ รัชกาลที่ ๗ ถึงกับทรงพระราชปรารภไว้ในพระราชหัตถเลขาก่อนจะสละราชสมบัติไม่นานว่าถ้าทรงแพ้คดีพระพิบูลย์ฯ จะทรงลาออกจากราชสมบัติ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 04 ก.ย. 10, 23:01 โดย เทาชมพู » บันทึกการเข้า
Wandee
หนุมาน
********
ตอบ: 4006


ความคิดเห็นที่ 31  เมื่อ 04 ก.ย. 10, 22:49

พิธีปฐมกรรม

   ในปี ๒๔๖๐   ประเทศไทยประกาศสงครามกับเยอรมัน  มีการจับคนเยอรมันและออสเตรียในประเทศไทย

และส่งทหารอาสาสมัครไปราชการสงคราม     ทหารรุ่นสุดท้ายลงเรือปืนสมุทร  ไปขึ้นเรือเอมไพร์ของฝรั่งเศส

ที่เกาะสีชัง ๕๐๐ คนเมื่อเดือนมิถุนายน  ๒๔๖๑            ในปีเดียวกันนั้นเองฝ่ายเยอรมันและออสเตรียก็แพ้

สงครามแก่ฝ่ายพันธมิตร

ท่านผู้หญิงได้อ่านเรื่องพระราชพิธีปฐมกรรมครั้งทำสงครามกับเยอรมัน  จึงวาดภาพออก         เรื่องทรงพระภูษาสีแดง

ฉลองพระองค์แบบไทยโบราณนั้น  สมาชิกเรือนไทยส่วนมากก็เห็นกันโดยทั่วหน้า        รายละเอียดที่ท่านผู้หญิงเล่า

แก้ความสงสัยของนักอ่านหนังสือโบราณได้สนิท  คือเรื่องตัดไม้ข่มนาม  ถามมาทั่วแล้วไม่มีใครตอบได้


       "เมื่อถึงเวลาพระฤกษ์จึงเสด็จถึงพิธีมณฑล  พราหมณ์ถวายน้ำเทพมนต์และทรงเจิใพระนลาตพระองค์เองด้วยพระอังคุต

แล้วเสด็จขึ้นเกย  ซึ่งคร่อมต้นฝรั่งต้นหนึ่งที่ปลูกอยู่ใต้เกย      เจ้าพนักงานชำระพระบาทให้ตกรดหัวฝรั่ง  

แล้วโปรดเกล้าให้ราชมัลคือเพชรฆาฎฟันต้นฝรั่งเป็นการข่มนาม"


อ่า...ต้นฝรั่งลำต้นอวบเป็นสีน้ำตาลแล้ว...เหนียวค่ะ


บันทึกการเข้า
Wandee
หนุมาน
********
ตอบ: 4006


ความคิดเห็นที่ 32  เมื่อ 04 ก.ย. 10, 23:16


หม่อมหลวงปิ่นกลับมาจากนอกในเดือนตุลาคม ๒๔๗๔   ขอให้สมเด็จกรมพระยาดำรง ฯ

มาเป็นเถ้าแก่ขอหมั้นในวันที่ ๗ ธันวาคม

แต่งงานในวันที่ ๗ มีนาคม ๒๔๗๔  ที่บ้านถนนราชวิถี     เชิญเจ้านายอภิรัฐมนตรีทุกพระองค์  เสนาบดีเชิญแต่คุ้นกับเจ้าคุณพ่อ 

ญาติเชิญแต่ชั้นผู้ใหญ่


บัตรเชิญเขียนว่า  เจ้าพระยามหืธร กับ ท่านผู้หญิงเสงี่ยมพระเสด็จ  ขอเชิญ.......


     สมเด็จพระพันวัสสา  ถอดพระธำมรงค์พระราชทานจากนิ้วพระหัตถ์

ทรงสั่งสอนว่า   "นี่ไม่ใช่แหวนนะ  ต้องเรียกว่าพระธำมรงค์  เพราะเป็นของที่ฉันใช้อยู่   ที่รับไหว้เพราะ

แกเป็นลูกสะใภ้พ่อเปีย           แหวนอย่างนี้เรียกว่าแหวนเปีย"
บันทึกการเข้า
Wandee
หนุมาน
********
ตอบ: 4006


ความคิดเห็นที่ 33  เมื่อ 05 ก.ย. 10, 11:33


ท่านผู้หญิงเล่นกอล์ฟ  มีทนายเดินตาม


       เรื่องราวที่สลักสำคัญและมีสาระของท่านผู้หญิงมีมากมายที่เป็นคุณประโยชน์ให้กับบ้านเมืองของเรา

แต่เรื่องราวเล็ก ๆ น้อย ๆ ของท่านก็ยิ่งน่าสนใจมากกว่า   



     "พระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๗  ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ให้ฉันเป็นสมาชิกสโมสรกอล์ฟหลวงสวนจิตรลดาด้วย

โดยมีสิทธิใช้เสื้อเบลเซ่อร์สีน้ำตาล  และปักตราสโมสรกอล์ฟหลวงสวนจิตรลดา  มีพระมหามงกุฎอยู่ข้างบน 

ปักด้วยไหมสีเขียวอยู่กระเป๋าบน          คุณพ่อกับฉันได้ไปตัดเบลเซ่อร์ที่ห้างแบดแมน  ซึ่งเป็นห้างฝรั่งอังกฤษ   

ตั้งอยู่ในที่ที่เป็นกรมประชาสัมพันธ์ในปัจจุบัน      นอกจากนี้สมาชิกมีสิทธิ์ใช้ร่มผ้าสีน้ำตาลสลับเขียวคันใหญ่ 

เป็นแบบที่โปรดเกล้า ฯ ให้ใช้แต่ในระหว่างสมาชิก    การแต่งตัวเล่นกอล์ฟสมัยโน้น  ออกจะพิสดารมาก

เพราะผู้ชายต้องนุ่งกางเกงพลัสฟอ   คือกางเกงผ้าสักหลาดหนา ๆ  ขากว้าง  แต่รัดใต้เข่า  ใส่ถุงเท้าสักหลาด

เพียงเข่า  และสายรัดเข่าที่ฝรั่งเรียกว่า garter มีชายโบว์ติดข้่งละ ๒ ชาย   รองเท้านั้นเป็นรองเท้าอย่างหนา 

ส้นตอกตะปูเพื่อกันลื่น  ใส่เสื้อเชิ้ตสปอต  และมีเสื้อนอกสปอตผ้าชนิดเดียวกับกางเกง  หรือจะใส่เสื้อเบลเซ่อร์

แทนเสื้อนอกก็ได้        สำหรับผู้หญิงที่เล่นกอล์ฟในสมัยนั้นสวมกระโปรงสักหลาดเนื้อหนายาวเพียงเข่า  ใส่หมวก

สักหลาดมีปีกหรือหมวกกะโล่แบบที่ทำเฉพาะผู้หญิง

เวลาไปเล่นกอล์ฟนั้น  คุณพ่อสั่งให้มีทนายผู้ใหญ่ซึ่งโดยมากเป็นนายอุ่มอมรพัฒน์ลูกแม่เชยแม่นมของฉัน

ถือร่ม กระเป๋าและถือกระดาษคอยจดแต้มให้ด้วย   ถึงแม้ว่าจะต้องจ้างเด็กสะพายถุงไม้กอล์ฟอยู่คนหนึ่งแล้ว

ไม่ว่าฉันจะนัดเล่นกับใคร  คุณพ่อต้องให้มีทนายเดินตามไปด้วย   ซึ่งคนสมัยนี้คงหาว่าศักดินามาก   ถ้าไปเล่น

พร้อมคุณพ่อก็มีทนายคนเดียวกัน"
บันทึกการเข้า
siamese
หนุมาน
********
ตอบ: 7165


หนุ่มรัตนะกับภูเขาทอง


ความคิดเห็นที่ 34  เมื่อ 05 ก.ย. 10, 11:53

พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าฯ โปรดการเล่นกอล์ฟมากครับ


บันทึกการเข้า
Wandee
หนุมาน
********
ตอบ: 4006


ความคิดเห็นที่ 35  เมื่อ 05 ก.ย. 10, 12:31

นางพระกำนัลในรัชกาลที่ ๗


       เป็นตำแหน่งกิติมศักดิ์  ไม่มีเงินเดือนหรือเบี้ยเลี้ยงอย่างใดเลย

ทรงจำกัดความรู้และกำเนิด  ทั้งให้มีจำนวนเพียง ๔ คน  ไม่มีหน้าที่เข้าไปประจำในวัง

เป็นแต่คอยปฎิบัติหน้าที่ตามที่ราชเลขานุการในพระองค์  จะมีหนังสือราชการแจ้งมา

แต่ละวันว่าโปรดเกล้าให้ไปปฎิบัติหน้าที่ที่ใด


นางสนองพระโอษฐ์ คือ  ม.ล. คลอง  ไชยยันต์  และหม่อมพร้อย  กฤดากร ณ อยุธยา เป็นนางสนองพระโอษฐ์

นางพระกำนัลคือ   ม.ร.ว. พันธ์ทิพย์  เทวกุล     คุณประยงค์  สุขุม     คุณดุษฎี  ไกรฤกษ์   และคุณ พโยม  ณ นคร



ท่านผู้หญิงเขียนบันทึกรายวันไว้  เพราะเห็นว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงชีวิตอย่างหนึ่ง




ขอถอดบันทึกอันมีค่ายิ่งของท่านผู้หญิง  ตามความสังเกตของนักอ่าน  ทูตขรตรีเศียรนั้นสามารถตรวจสอบได้จากหนังสืออื่น ๆ



"๒๔๖๙

วันที่ ๓ เมษายน    

ข้าราชการฝ่ายในในชั้นนี้ต้องถือน้ำ้ด้วย   เมื่อในหลวงเสด็จออกมาประทับภายใต้พระมหาเศวตฉัตรแล้ว  

เจ้าพนักงานอ่านโองการแช่งน้ำ        สมเด็จพระราชินีมีคุณท้างเชิญให้ไปเสวย          เจ้านายอื่นๆ ต้องเดินไปดื่มเอง        

เราต้องเดินไปดื่มเองเหมือนกันเฉพาะหน้าพระที่นั่ง  แต่ที่ชั้นลด    มีโต๊ะตั้งขันเงินอยู่สามโต๊ะ ๆละ ๔ ขัน  และจอกหลายใบ

ได้เดินหน้าพวกคุณหญิง   และรับพระราชทานน้ำพร้อมท่านผู้หญิงและหม่อมห้าม



วันที่ ๘ เมษายน
ไปเฝ้าทูลกระหม่อมหญิงที่สวนสุนันทา  ขอบพระคุณที่ทรงพระกรุณายกย่อง   ทรงสั่งสอนและคุยด้วยนาน


วันที่ ๑๑ เมษายน
เวลาเช้าไปสรงน้ำเสด็จพระองค์ประดิษฐา   ประทานสายนาฬิกาคล้องคอคั่นพลอย ๑ สาย
เวลาบ่ายไปเฝ้าทูลกระหม่อมฟ้าหญิง


วันที่ ๑๒ เมษายน
เวลาทุ่มครึ่ง  ทูลกระหม่อมโปรดให้ท่านพิมพ์  เอารถพระที่นั่งของท่านมารับไปวังสระปทุม
ดูหนังแล้วทรงนำเฝ้าสมเด็จพระพันวัสสา  ซึ่งรับสั่งว่ารู้จักแล้ว
โปรดให้รถมาส่งเราก่อน  แล้วจึงกลับไปรับเสด็จกลับสวนสุนันทา


วันที่ ๒  พฤษภาคม
ตามเสด็จโดยกระบวนรถม้าองค์รักษ์แก่คนหนึ่ง  มาแย่งนั่งรถคันที่สอง  อย่าง impolite และไม่ gallant


วันที่ ๑๘ พฤษภาคม
งานเมรุคุณป้าท้าว     ถูกเจ้าภาพ(คุณหญิงจรรยา) มอบให้เป็นคนแจกหนังสือเจ้านายบนพลับพลา
สมเด็จพระพันวัสสาทรงทักทายอย่างดี  เลยเฝ้าคุยด้วยสักครู่หนึ่ง

วันที่ ๒๔ พฤษภาคม
เจ้าพระยารามราฆพกับเมียมาลาคุณพ่อ  จะไปยุโรปวันที่ ๙ เดือนหน้า"

บันทึกการเข้า
Wandee
หนุมาน
********
ตอบ: 4006


ความคิดเห็นที่ 36  เมื่อ 05 ก.ย. 10, 18:21


วันที่ ๑๒ กรกฎาคม
วันนี้ซื้อเปียนโนจากมิสซิสโคล  ๗๘๐ บาท


วันที่ ๓๑  สิงหาคม
ตามเสด็จในการบรรจุพระอังคารพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้า ฯ และสมโภชพระปฐม
ลงเรือพระที่นั่งไอยราพต
ถึงสถานีสนามจันทร์ ๔ โมงครึ่ง         ราษฎรบูชาด้วยดอกไม้ธูปเทียนตลอดทาง
สมเด็จพระมงกุฎเกล้า  ทรงแสดงพระประสงค์ให้บรรจุพระอังคารของพระองค์ที่หลังพระพุทธรูปยืนพระร่วงโรจน์ฤทธิ์
ทรงบรรจุ  ทรงนมัสการ  ทรงกราบ


วันที่ ๑๐ กันยายน 
บ่าย  ไปวังสระปทุมกับคุณพ่อและคุณแม่   งานประสูติสมเด็จพระพันวัสสา


วันที่ ๒๐ พฤศจิกายน
ตามเสด็จไปที่วังกรมนรา    ทอดพระเนตรละครเรื่อง เหินลม  ซึ่งบริษัทของกรมนราเป็นผู้เล่น
ละครจบแล้ว  กรมพิทยาสปีช  แล้วเสวย supper   
เจ้าของงานชวนดื่มถวายพระพร  แล้วร้อง "ข้าวรพุทธเจ้า เผ่าวรวรรณากร"     แล้วแจกหนังสือชื่อครึ่กครั่กอะไร ๒ เล่ม
กับเครื่องห้อยข้อมือกาไหล่ร้อยไหมขาว ๑ อัน


วันที่  ๒๐ ธันวาคม
สวดมนต์เย็นเฉลิมสมเด็จ  บ่ายไปถวายของ และช่วยรับแขก   ได้ประทานสร้อยทอง ๑ สาย


วันที่ ๒ มกราคม
ไปเฝ้าทูลกระหม่อมฟ้าหญิง


วันที่ ๙ กุมภาพันธุ์
สมเด็จพระราชินี  โปรดให้คนนำซิ่นไหมมาพระราชทาน ๒ ผืน


ท่านผู้หญิงแต่งกายงามสุด    ทำผมบ้อบ  แสกขวา  มีปอยผมตกมาด้านซ้าย
เสื้อแขนกุด  คอเรือ  ดูเป็นผ้าลูกไม้ลายละเอียด
กระโปรงเป็นอีกสีหนึ่ง  ยาวคลุมเข่า   กระโปรงมีระบายสามหรือสี่ชั้นมนจรดตรงกลาง
มีดอกไม้แพรที่เรียกได้ว่าเป็นคอร์ซาจ พวงมหึมาติดที่ไหล่ซ้ายและมีเครือดอกตูมยาวประมาณสองฟุตได้
อีกครั้งหนึ่งท่านผู้หญิงเปลี่ยนดอกไม้มาติดที่ระดับเอวด้านซ้าย  แสดงว่าท่านใส่เสื้อซ้ำ
สังเกตว่าเมื่อชุดงามเริ่ด  ท่านสวมสร้อยไข่มุขเส้นสั้นติดคออย่างเดียวเท่านั้น   นับว่ามีรสนิยมอันงาม

ตัวท่านป้อมๆ  จะเรียกว่ามีเนื้อมีหนังคงจะได้

สิ่งสำคัญคือดวงตาคม

นึกถึงที่หลายคนเล่าว่าท่านสง่าและไว้ตัวปานใด        ความรู้ของท่านเท่านั้นก็ทำให้ท่านงามเลิศได้แล้ว

บันทึกการเข้า
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 37  เมื่อ 05 ก.ย. 10, 18:48

ใครมีรูปท่าน จะกรุณานำมาลงประกอบได้ไหมครับ
บันทึกการเข้า
CVT
องคต
*****
ตอบ: 452


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 38  เมื่อ 05 ก.ย. 10, 19:27

บันทึกการเข้า
CVT
องคต
*****
ตอบ: 452


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 39  เมื่อ 05 ก.ย. 10, 19:31



บันทึกการเข้า
Wandee
หนุมาน
********
ตอบ: 4006


ความคิดเห็นที่ 40  เมื่อ 05 ก.ย. 10, 19:38


ขอบคุณค่ะ คุณCVT
บันทึกการเข้า
Wandee
หนุมาน
********
ตอบ: 4006


ความคิดเห็นที่ 41  เมื่อ 05 ก.ย. 10, 19:52


       ท่านผู้หญิงรับราชการถึงวันที่ ๑๓ มีนาคม   ผู้ที่ยินดีมากคือคุณพ่อ  เพราะท่าน

บ่นว่าฉันมีงานมากเกินไป   จนทำงานให้ท่านไม่ได้เต็มที่อย่างแต่ก่อน   แต่สิ่งที่ท่านทน

ให้ฉันรับราชการอีกสมัยหนึ่งไม่ได้นั้น    คือมีผู้พูดให่เข้าหูท่านว่า  ท่านจับพระหัตถ์ให้

ในหลวงลงนามเมื่อเข้าเฝ้าทุกวันแล้ว   ยังสอพลอพาลูกสาวไปถวายอีก      ฉะนั้นพอมีโอกาศ

คุณพ่อจึงกราบบังคมทูล  ขอให้ประกาศกำหนดเวลารับราชการของนางสนองพระโอษฐ  และนางพระกำนัล

ลงในราชกิจจานุเบกษา  ระบุเวลาให้มีกำหนด ๒ ปี   ถ้าผู้ใดกราบบังคมทูลว่าสมัครจะรับราชการต่อไป 

ก็อาจทรงแต่งตั้งอีกสมัยหนึ่งได้
บันทึกการเข้า
Wandee
หนุมาน
********
ตอบ: 4006


ความคิดเห็นที่ 42  เมื่อ 05 ก.ย. 10, 20:26


ท่านผู้หญิงล้มป่วยเป็นไทฟอยด์  เส้นประสาทเสีย  อ่านหนังสือไม่ได้ และทนอะไรไม่ได้อยู่นาน

เขียนหนังสือไม่ได้อยู่ ๓ - ๔ ปี



       ได้ไปซื้อที่ของนาย เอ อี นานา คือบ้านที่อยู่ในปัจจุบันนี้ ในราคาวาละ ๒ บาท ๗๕ สตางค์ 

นานาอ้างว่าเมื่อมาจากเมืองแขก  ได้ไปเช่าตึกแถวของคุณพ่อที่ตึกแดง  ทำให้มีความเจริญร่ำรวยขึ้นมากมาย

ถึงแม้จะมีราคาถูกถึงเพียงนั้น  ฉันก็ไม่มีเงินซื้อ  จึงขายเชี่ยนหมากทองคำที่คุณแม่ให้เป็นเครื่องใช้เมื่อแต่งงาน 

การก่อสร้างคิดเป็นเงิน ๗,๒๐๐  บาท   ฉันสั่งให้ทะลุห้องหลายแห่ง   คิดราคาเพิ่มขึ้นอีก ๓๐๐ บาท


       การก่อสร้างตึกนี้  คุณพ่อให้เงิน สี่พันบาท    ขายสร้อยเพชรที่เจ้่วบ่าวให้เป็นสินสอดอีกหนึ่งสาย  และของ

แต่งตัวอีก ๒ - ๓ ชิ้น


       ท่านผู้หญิงต้องคุมการก่อสร้างเองทั้ง ๆที่เพิ่งหายจากป่วยหลายปี  เพราะสามีพาลูกศิษย์ไปเที่ยวปีนัง

ท่านผู้หญิงบ่นว่าเธอคงไม่ได้จะเจตนาร้ายที่จะใจร้ายต่อฉันแต่ก็เป็นการเสี่ยงอยู่มากเพราะฉันอาจกลับประสาทเสียขึ้นมาอีกเพราะความว้าเหว่ก็ได้ 


บันทึกการเข้า
Wandee
หนุมาน
********
ตอบ: 4006


ความคิดเห็นที่ 43  เมื่อ 05 ก.ย. 10, 21:46



ท่านผู้หญิงเล่าเรื่อง สงครามโลกครั้งที่ ๒     เป็นภรรยาอธิบดี      ทัพญี่ปุ่นเข้าเมือง

การยกเลิกบรรดาศักดิ์


หน้า  ๑๐๙

"ประธานผู้สำเร็จราชการหรือพระองค์เจ้าอาทิตย์นั้น  ปฎิบัติตามใจรัฐบาลทุกอย่าง   และประกาศพระบรมราชโองการ 

แต่งตั้งให้พันเอกหลวงพิบูลสงคราม  ซึ่งใช้ชื่อใหม่ว่าแปลกพิบูลสงครามเป็นนายพล  แล้วเป็นจอมพลภายในเวลา ๓ ปี

ส่วนภรรยานั้นได้เป็นพันโทหญิง             ในขระที่คนอื่นเป็นนางและนายนั้น   หัวหน้าคณะรัฐบาลและภรรยา

ใช้ชื่อตัวเองว่า  พนะท่านจอมพลแปลกพิบูลสงครามและ  พนะท่านพันโทหญิงละเอียดพิบูลสงคราม



พระองค์อาทิตย์  ขึ้นไปอยู่บนพระที่นั่งอัมพรสถาน  ซึ่งเป็นที่ประทับของพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๕ และที่ ๗

ได้เลื่อนจากพระวรวงค์เธอ  เป็นพระเจ้าวรวงศ์เธอ   ส่วนหม่อมกอบแก้วได้รับพระราชทานปฐมจุลจอมเกล้าพร้อมกับพันโทหยิง

ละเอียดพิบูลสงคราม


ผู้สำเร็จราชการและภรรยาจะไปงานก็มีคนกลางกลดให้ซึ่งดูออกจะมากเกินไป   เพราะพระบรมราชินีในรัชกาลที่ ๗

ไม่เคยได้พระกลดเป็นส่วนพระองค์   นอกจากจะรีบทรงพระราชดำเนินให้ทันพระเจ้าอยู่หัวจึงจะได้พระกลด"

บันทึกการเข้า
Wandee
หนุมาน
********
ตอบ: 4006


ความคิดเห็นที่ 44  เมื่อ 05 ก.ย. 10, 21:54




เรื่องรูปนั้น  ผู้อาวุโสจะไปยืมห้องสมุดพรุ่งนี้  และจะนำรูปแม่ตุ๊กตางาและรูปเจ้าบ่าวหน้าตามีความสุข

ที่สุดในโลกมาลงนะคะ

บันทึกการเข้า
หน้า: 1 2 [3] 4 5 6
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.082 วินาที กับ 20 คำสั่ง