V_Mee
|
ความคิดเห็นที่ 60 เมื่อ 07 ก.ย. 10, 06:23
|
|
ให้ตกเป็นคนของหลวงด้วย คุณวีหมีก็พูดซะอย่างกับถูกริบราชบาตร สีดาก็ยังอยู่บ้านเดิมนั่นแหละครับ บ้านนี้สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระองค์นำมาให้เช่าทำร้านอาหารหรู คนเช่าคือพวกธรรมวัฒนะ สีดาก็ช่วยดูแลอาคารสถานที่เต็มที่ คนยังนึกว่าเป็นเจ้าของ คนแถวนั้นไม่มีใครไม่รู้จักสีดา มิได้หมายว่าถูกริบราชบาตรครับ เพียงแต่จะเล่าว่า ท่านผู้หญิง้ท่านเป็นห่วงสีดา เกรงว่า ถ้าท่านและท่านหม่อมหลวงปิ่นแล้ว สีดาจะไม่มีที่พึ่ง จึงไดถวายไว้เป็นข้าในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ให้ได้รับพระตราชทานพระมหากรุณาชุบเลี้ยงไปจนกว่าชีวิตจะหาไม่ครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
luanglek
|
ความคิดเห็นที่ 61 เมื่อ 07 ก.ย. 10, 09:05
|
|
เรื่องรูปนั้น ผู้อาวุโสจะไปยืมห้องสมุดพรุ่งนี้ และจะนำรูปแม่ตุ๊กตางาและรูปเจ้าบ่าวหน้าตามีความสุข
ที่สุดในโลกมาลงนะคะ
เจ้าของกระทู้เรียกหาท่านผู้อาวุโสมาช่วย ผมอาวุโสไม่มากแต่อยากช่วย คงไม่ว่ากันนะครับ รูปท่านผู้หญิงตอนยังเยาว์
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
luanglek
|
ความคิดเห็นที่ 62 เมื่อ 07 ก.ย. 10, 09:06
|
|
ท่านผู้หญิงตอนอายุ ๑๙ ปี
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
luanglek
|
ความคิดเห็นที่ 63 เมื่อ 07 ก.ย. 10, 09:08
|
|
ท่านผู้หญิงเมื่อได้รับดปรดเกล้าฯ ให้เป็นนางพระกำนัล (โปรดสังเกตดอกไม้ที่ประดับ)
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
luanglek
|
ความคิดเห็นที่ 64 เมื่อ 07 ก.ย. 10, 09:10
|
|
ท่านผู้หญิงดุษฎีแต่งงานกับหม่อมหลวงปิ่น มาลากุล
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
luanglek
|
ความคิดเห็นที่ 65 เมื่อ 07 ก.ย. 10, 09:13
|
|
เจ้าพระยามหิธร (ลออ ไกรฤกษ์)และท่านผู้หญิงกลีบ มหิธร บิดาและมารดาของท่านผู้หญิงดุษฎี
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Wandee
|
ความคิดเห็นที่ 66 เมื่อ 07 ก.ย. 10, 09:15
|
|
หม่อมหลวงปิ่นท่านเป็นสุภาพบุรุษ สมัยเรียนหนังสือนาน ๆ ท่านจะเอ่ยถึงสุภาพสตรีที่ผมเขียนจดหมายถึง
ท่านไม่เคยเอ่ยชื่อ หรือพาดพิงใดๆทั้งสิ้น
โปรดสังเกตว่าทรงผมท่านผู้หญิงเมื่อสาวน้อยแรกแย้มนั้นงามเลิศเฉิดเฉลาขนาดไหน ด้วยมารยาทที่น้อยนิดติดตัวมา
เราจะไม่พูดถึงผม หรือศรีษะท่านผู้ใหญ่กันนะคะ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Wandee
|
ความคิดเห็นที่ 67 เมื่อ 07 ก.ย. 10, 09:23
|
|
ขอบคุณคุณหลวงเจ้้าค่ะ
จะระลึกพระคุณไม่เรียกคุณหลวงด้วยชื่ออื่น ๆ ไปอีก ๗ วัน
ถึงอยากจะกระเซ้าแต่ก็เกรงบารมีอยู่
คุณหลวงอย่าลืมนำหนังสือที่ท่านผู้หญิงเขียนถึงพี่ชายมาลงกระจาย ๆ แถวนี้ด้วยนะคะ
ดิฉันจะพยายามนำข้อมูลที่เกี่ยวข้องจากหนังสืออนุสรณ์ท่านผู้หญิงเสงี่ยม พระเสด็จสุเรนราธิบดี ท.จ. มาลงในกระทู้นี้บ้าง
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Wandee
|
ความคิดเห็นที่ 68 เมื่อ 07 ก.ย. 10, 10:02
|
|
การเล่าเรื่องนั้นจะเล่าหมดก็ไร้รส
ท่านผู้หญิงนั้นท่านต่อว่าต่อขานจอมพลป. แบบทันทีทันควันหลายครั้ง
วันหนึ่งได้ดื่มน้ำชากัน จอมพลป.ถามว่าเล่นกอล์ฟไหมหมู่นี้หรืออะไรทำนองนั้นนะคะ
ท่านผู้หญิงตอบว่าไม่ได้เล่นมาตั้งแต่ปี ๒๔๗๕ เมื่อเปลี่ยนแปลงการปกครองนั่นแหละ
รายชื่อภรรยาของคณะรัฐมนตรีก็ไม่มีชื่อเข้ารับทุติยะจุลจอมเกล้า โดนผ่านหลายครั้งด้วยข้ออ้างต่าง ๆ
ท่านเจอจอมพลสฤษดิ์เข้า ท่านก็ถาม ท่านจอมพลตอบว่าก็พี่ได้หลายเหรียญแล้วนี่
การที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้ทรงเขียนลงด้วยพระองค์เองว่าพระราชทานเลื่อนตราให้ได้รับทุติยะจุลจอมเกล้า
พร้อมท่านทั้งสามที่เป็นภรรยานายกและรองนายก ๒ คนนั้น สร้างความตื้นตันให้ท่านผู้หญิงมาก
ท่านบันทึกไว้ว่าฉันเพิ่งเคยได้รับความยุติธรรมเป็นครั้งแรก
เรื่องที่ประทับใจนักอ่านหนังสือเก่าเป็นที่สุดคือเรื่องเมื่อหม่อมหลวงปิ่นไปดูที่นาสุดซอยประสานมิตรที่กระทรวงได้ซื้อทำมหาวิทยาลัย
ท่านผู้หญิงก็ไปด้วย เห็นรวงข้าวอ่อนๆก็อยากจะเก็บมาทำข้าวยาคู หม่อมหลวงปิ่นก็ว่าไปเก็บมาได้หรือของชาวนาเขานะ
ท่านผู้หญิงก็บอกว่าปลูกในที่ของเรานี่ หม่อมหลวงปิ่นเตือนว่าที่ของเราที่ไหน ที่ราชการ
พอพากันเดินออกมาหม่อมหลวงปิ่นก็เดินย้อนกลับไป ปาดินสองก้อนที่ถือติดมือมากันสุนัขไล่ คือไม่นำดินออกมาจากที่
เรื่องนี้ก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่โตที่จะต้องพูดกัน แต่แสดงความประพฤติของคนโบราณที่ซื่อสัตย์ต่อตนเองแม้นแต่สิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆปานนี้
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Wandee
|
ความคิดเห็นที่ 69 เมื่อ 07 ก.ย. 10, 10:17
|
|
ในหนังสืออีกเล่มหนึ่งในชุดนี้ ท่านผู้หญิงเล่าว่า หลังจากได้เป็นท่านผู้หญิงแล้ว มีโอกาสรับเสด็จ
พระเจ้าโบดวงกับพระราชินีฟาบิโอล่า
ควีนได้ทักทายท่านผู้หญิงภรรยาท่านนายกและรองนายกซึ่งประดับเครื่องเพชรงดงาม ว่าสวย ท่านผู้หญิงก็ได้ยินว่า เยส เยส
พอถึงคราวของท่านซึ่งไม่มีเครื่องประดับวาววับแต่อย่างใด ท่านกราบทูลว่าเคยอ่านหนังสือที่ควีนทรงแต่งเป็นนิทานเด็กหลายเรื่องเมื่อครั้งเป็นครูอนุบาล ควีนประหลาดใจว่าเคยอ่านด้วยหรือ ยังจำได้ด้วยหรือ เลยทรงสนทนาด้วยเป็นนาน
ขอจบเรื่องหนังสือ "เรื่องของคนห้าแผ่นดิน" ไว้เพียงนี้ เพราะเป็นการชวนอ่านหนังสือเท่านั้น
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
NAVARAT.C
|
ความคิดเห็นที่ 70 เมื่อ 07 ก.ย. 10, 10:35
|
|
อ้าว อย่างนี้เรียกว่าจบแบบหักมุม คนอ่านคิดไม่ถึงหรือเปล่าครับ? 
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
V_Mee
|
ความคิดเห็นที่ 71 เมื่อ 07 ก.ย. 10, 18:59
|
|
คุวันดีท่านชวนอ่านหนังสือ แล้วจู่ๆ ท่านก็จบแบบหักมุม ผิดหลักการภาพยนตร์ไทยเสียสิ้น เลยขอนุญาตปิดกระทู้นี้แบบ Happy Ending ครับ
ภาพข้างล่างนี้ ท่านหม่อมหลวงปิ่นเคยเล่าให้ฟังว่า เมื่อท่านสมรสกับท่านผู้หญิงมาครบ ๕๐ ปี วันหนึ่งท่านผู้หญิงได้มีโอกาสเฝ้าทูลละอองธึลีพระบาท เลยได้กราบบังคมทูลพระกรุณาว่า เมื่อท่านสมรสกับหม่อมหลวงปิ่นนั้น ท่านเจ้าคุณบิดาเกรงว่าจะเป็นการรบกวนเบื้องพระนุคลบาทล้นเกล้าฯ รัชกาลที่ ๗ ท่านทั้งสองจึงไม่เคยได้รับพระราชทานน้ำสังข์สมรสเลย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวก็ทรงพระมหากรุณามีพระราชกระแสว่าจะพระราชทานให้ นทั้งสองจึงได้เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับพระราชทานน้ำสังข์เมื่อสมรสกันมาครบ ๕๐ ปี ในวันนั้นทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานเหรียญรัตนาภรณ์ ภ.ป.ร. ชั้นที่ ๒ เป็นที่ระลึกแก่คู่บ่าวสาวด้วย
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
V_Mee
|
ความคิดเห็นที่ 72 เมื่อ 07 ก.ย. 10, 19:00
|
|
ขอประทานโทษขอรับ ลืมแปะรูป
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
    
ตอบ: 33416
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 73 เมื่อ 08 ก.ย. 10, 15:15
|
|
รูปของท่านทั้งสองค่ะ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Wandee
|
ความคิดเห็นที่ 74 เมื่อ 08 ก.ย. 10, 16:26
|
|
ขอบพระคุณคุณเทาชมพู และท่านที่ตามอ่านทั้งปวง
ไม่ได้นำเสนอเรื่องในประเภทหนังสืออนุสรณ์ จึงมิได้ยืดเยื้อเหมือนรายการโทรทัศน์ เรื่องส่วนตัวของท่านไม่อยากเอ่ย
มีคนใจต่ำบางคนไปพุดกันว่าท่านไปเฝ้าสามี ก็ไม่เห็นว่าจะต้องเล่า สามีท่านหล่อปานนั้น เก่งปานนั้น เป็นใครก็ต้องชำเลืองไว้บ้างเป็นธรรมดา
อยากเล่าตอนที่คนเขียนจดหมายไปสยามรัฐถาม ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ว่าทำไมท่านไปต่างประเทศเรื่อยเชียว ใช้งบใคร
คุณคึกฤทธิ์ตอบว่า ไม่รู้หรือว่าท่านผู้หญิงเป็น "เจี" ท่าน เพราะผู้ใหญ่ลงสำเภามาด้วยกัน จึงนับว่ามาตะเภาเดียวกัน
คนที่เขียนไปถามคงอกสั่นขวัญแขวนไปหลายวัน ท่านผู้หญิงเรียกคุณคึกฤทธิ์ว่า "ตี๋" ด้วยล่ะ
ที่จริงมีหนังสือของหม่อมหลวงปิ่นทั้งชุด สหายให้มา สั่งว่าไปหาอีกที่อื่นไม่ได้แล้วหนา
ตั้งใจว่าจะต้องเล่าที่ท่านผู้หญิงสนทนากับพระราชินีฟาบิโอล่า และเขียนคำไหว้ครู และงานแปลหนังสือของท่าน
เห็นท่านบุกเข้าโจมตีคุณธนิต อยู่โพธิ์ ผู้ที่วงการหนังสือเก่านับถือเป็นปรมาจารย์ แล้วคุณธนิตรอดชีวิตมาได้ เป็นความสุขอย่างยิ่ง
ไม่ได้เป็นลูกศิษย์คุณธนิต แต่เคารพท่าน จากฐานะนักอ่าน ที่ได้มีโอกาศเห็นกองหนังสือมหึมากองหนึ่งที่เก็บรายการแถมจากหนังสือพิมพ์ฝรั่งในเมืองไทย
เพื่อนไม่ต้องบอกว่าเป็นกองหนังสือของใครก็ทราบได้เอง เสียดายสุดจะเล่าออกมาได้ว่าหนังสือกระจายไปหลายทิศ
ท่านผู้หญิงนั้นใครไม่เบ่งกับท่าน เช่นป๋าผินและครอบครัว ท่านก็ไม่ว่าอะไร กุลีกุจอช่วยเหลือแนะนำไป
ท่านผู้หญิงรู้จักบุคคลสำคัญมากมาย เมื่อเห็นรายชื่อก็เกิดความรุ้สึกสนิทสนมกับเรื่องราวของท่าน เพราะได้อ่านได้ศึกษาตามมาส่วนหนึ่ง
อยากให้เพื่อน ๆ ในเรือนไทยได้อ่านเรื่องผู้ดีไทยตัวจริงที่มีวิชาความรู้ บิดามารดาสร้างฐานะด้วยความอดออม แม่ต้องช่วยทำขนมขาย เครื่องสำอางขาย
ไม่ได้อยู่เฉย ๆ ถึงจะให้บ่าวหาบไปขายก็ตามที วันละ ๖ หาบเชียวนะคะ
สหายนักอ่านผู้หนึ่งสนใจดอกไม้ประดับของท่านผู้หญิงมาก หลังไมค์มาถามเสียยาวเชียว
วันหน้ามาเล่าใหม่ก็ได้ค่ะ แต่ตอนนี้ ที่ปรึกษาคนหนึ่งของกลุ่มนักอ่านหนังสือเก่า สั่งงานไว้ จำเป็นต้องทำให้เสร็จ
ไม่ได้หักมุมอะไรเลย
สารภาพว่าไม่เคยคิดว่าหม่อมหลวงปิ่น มาลากุลจะหล่อขนาดนี้ สมัยเรียนหนังสือชั้นประถม แค่ชื่อท่านก็น่ากลัวจะแย่
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|