เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: 1 [2]
  พิมพ์  
อ่าน: 8793 พิมผู้นิ่มนวลสูญเสียอะไรไปบ้างในไร่ฝ้าย
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 15  เมื่อ 01 ก.ย. 10, 14:51

เจอคำถามคุณวันดีแต่ละข้อ   แทบจะม้วยดินสิ้นฟ้ามหาสมุทร

เพลงไก่ป่า  เป็นแบบเดียวกับเพลงปรบไก่ คือมี ๒ ฝ่ายร้องโต้ตอบกัน   แต่ถ้าจะให้ร้องประกอบก็จนปัญญา   เห็นจะต้องส่งลูกไปให้คุณศิลา
บันทึกการเข้า
Wandee
หนุมาน
********
ตอบ: 4006


ความคิดเห็นที่ 16  เมื่อ 01 ก.ย. 10, 15:03

นางพิมพิลาไลยนั้นเป็นผู้รู้คิด    ถ้านางสายทองที่เป็นทั้งญาติแก่กว่าถึง ๖​ปีไม่ชักจูงก็คงอยู่เป็นสาวหน้านวลต่อไปอีกหน่อย

นางพูดกับสายทองว่า


ธรรมดาเกิดมาเป็นสตรี                                ชั่วดีคงได้คู่มาสู่สอง

มารดาย่อมอุตส่าห์ประคับประคอง                    หมายปองว่าจะปลูกให้เป็นเรือน

อนึ่งเราเขาก็ว่าเป็นผู้ดี                                  มั่งมีแม่มิให้ลูกอายเพื่อน

จะด่วนร้อนก่อนแม่จะแชเชือน                          ความอายจะกระเทือนถึงมารดา
บันทึกการเข้า
Wandee
หนุมาน
********
ตอบ: 4006


ความคิดเห็นที่ 17  เมื่อ 01 ก.ย. 10, 15:19


ขอบพระคุณค่ะคุณเทาชมพู   โชคดีที่ถาม ไม่ได้นึกเอาเอง

โลกแห่งความรู้กว้างใหญ่นัก



ตอนตามหา ขุนช้างขุนแผนสำนวนครูแจ้ง   กอดหนังสือของคุณเอนกอยู่หลายวัน

นักอ่านหนังสือเก่าต้องเดินตามรอยท่านผู้มาก่อนเสมอค่ะ


หนังสือ ขุนช้างขุนแผน เป็นที่รู้จักดี

ยังมีอะไรอีกมากมายที่จะนำมาถามไถ่และคุยกันได้อีกมาก
บันทึกการเข้า
luanglek
นิลพัท
*******
ตอบ: 2894


ความคิดเห็นที่ 18  เมื่อ 01 ก.ย. 10, 15:29

สงสัยเรื่องต้นพังเพาะ   ที่เอามาแกงส้มได้   ไม่รู้จักชื่อจริงๆ
แต่รู้จักต้นคูนที่เอาก้านมาแกงส้มได้เหมือนบอนและเผือก
ใบบอนนี่อเนกประสงค์นะครับ  คนสมัยก่อนใช้ประโยชน์ได้หลายอย่าง
เดี๋ยวนี้ก็ยังเห็นว่า  เอาใบบอนมาห่อข้าวหมากขายด้วย  ในกรุงอาจจะหาดูยาก
แต่แถวภูธรยังมีให้ดูอยู่

เอ  เพลงไก่ป่านี่ เหมือนเคยได้ยินใครสักคนพูดถึงไว้ในหนังสือสักเล่ม
เพลงปรบไก่ ยังพอมีอยู่แถวๆ นครปฐม ราชบุรี  กาญจนบุรี แต่เหลือนั้นแล้ว

คุณวันดี   บ้านนางศรีประจันปลูกฝ้ายเยอะแยะนี่  
น่าสงสัยนะ  ในเรื่องไม่เห็นบอกว่า บ้านนางพิมปั่นฝ้ายทอผ้าด้วย
หรือว่าแกจะปลูกไว้ขายโดยเฉพาะ   ถ้าเป็นเช่นนั้นก็นับว่า
ครอบครัวนางพิมมีหัวการค้าเหมือนกัน  

บทบาทของสายทองในฐานะพี่เลี้ยงนี่  
ทำให้เห็นได้ชัดว่า  พี่เลี้ยงไม่ได้มีมาตั้งแต่ต้น
แต่เพิ่งมามีเอาตอนโตพอจะเข้าสังคมได้แล้ว
การมีพี่เลี้ยงเพื่อให้เด็กมีที่ปรึกษาชีวิตกระมัง
บันทึกการเข้า
Wandee
หนุมาน
********
ตอบ: 4006


ความคิดเห็นที่ 19  เมื่อ 01 ก.ย. 10, 15:36

นางพิมได้อ้อนวอนกับพลายแก้วว่า

   อนิจจาว่าแล้วหาฟังไม่                                   จะฆ่าพิมเสียที่ไร่นี่แล้วหรือ

รักน้องกลางหนให้คนลือ                                    อย่างนี้น้องไม่ถือว่ารักน้อง


พลายแก้วผู้ไม่อยากจะวางนางจากตัก   ตอบว่า

พี่จะหอบเสน่หาลาไป                                        เหลืออาลัยที่จะทรมาน


ตามมาด้วยประโยคที่ว่า

เวลาค่ำแม่จงจำสังเกตการ                                  จะไปบ้านหาพิมพิลาไลย
บันทึกการเข้า
Wandee
หนุมาน
********
ตอบ: 4006


ความคิดเห็นที่ 20  เมื่อ 01 ก.ย. 10, 15:48


สายทองนั้นเป็นญาติ และเป็นทาสขายฝาก

อุ้มนางพิมมา  ซึ่งก็พูดยากเหมือนกันเพราะคงอุ้มกันจนโต

เมื่อพลายแก้วไปเจรจาค่าชักชู้  ได้ทิ้งทองประจำตัวไว้ให้แท่งหนึ่ง  นางพิมหึงหวงมากประชดว่า

อุ้มทั้งตัวและทั้งเขยเชียวนะ

บันทึกการเข้า
Wandee
หนุมาน
********
ตอบ: 4006


ความคิดเห็นที่ 21  เมื่อ 01 ก.ย. 10, 16:20


ที่ชวนคุยเรื่องพิมผู้นิ่มนวล  ขอจบในตอนที่ว่า  เมื่อเดินกลับจากไร่ฝ้าย  นางสายทองได้หยอกนางพิมว่า


แม่พิมพี่วันนี้เป็นไรไป                 หลังไหล่ล้วนแต่ต้องละอองดิน


นางพิมค้อนนางสายทองเพราะมาชวนคุย เดี๋ยวคนอื่นจะได้ยิน

นางตอบว่า


อย่าพักว่าเลยข้าไม่เป็นไร               ปัดไถมหมองมัวไปนิดเดียว




     ฉันทิชย์  กระแสสินธุ์ เขียนเรื่อง "ปัดไถม"  ไว่ใน กวีโวหารโบราณคดี 

พิมพ์โดยสำนักพิมพ์ ก้าวหน้า ๒๕๐๓    หน้า ๔๐ - ๔๓  ว่า


"ยังมีอีกคำหนึ่ง  ที่แปลความหมายของคำไปไกลจากความเป็นจริง
ปัดไถม  ในพจนานุกรมราชบัณฑิตยสถานให้คำแปลว่า   "ฝ้าบาง ๆที่เกิดขึ้นทำให้เป็นมลทินหรือคล้ำมัว"

แต่ความเข้าใจของชาวถิ่นหาได้เป็นไป เช่นพจนานุกรมให้นิยามไว่ไม่

ชาวถิ่นอธิบาย ปัดไถม  ว่าดอกบัวที่บริสุทธิ์   เช่นในเสภาเรื่อง ขุนช้าง - ขุนผนตอนเณรแก้วปลุกปล้ำนางพิมที่ไร่ฝ้ายใต้ต้นกระทุ่ม 
นางไม่ได้เสียตัวเพราะบ่าวไพร่พากันเดินเข้ามาก่อน

พิมพ้นการเสียตัวกับเณรแก้วหวุดหวิด"


บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 22  เมื่อ 01 ก.ย. 10, 17:50

        นางพิม ตอนนั้นอายุ ๑๖ เป็นยุคนี้ก็อยู่ม. ๓     เธอเป็นหญิงที่รู้การควรมิควรอยู่พอสมควร เท่าที่ลูกผู้ดีสมัยนั้นจะรู้ได้   จึงไม่ยอมปลงใจกับพลายแก้ว  ตัดพ้อว่า
     จะรักน้องกลางหนให้คนลือ
        หน ยังเหลืออยู่ในคำว่า ถนนหนทาง  คือ ทาง
    คนสมัยนั้นเขายังรู้จักอายเทวดาฟ้าดินกันอยู่มาก  โดยเฉพาะผู้หญิง    ถ้าจะเกิดรักใคร่กับใครตามประสาหนุ่มสาว ก็ควรจะอยู่ในห้องหับให้มิดชิด   แต่เคราะห์ร้าย นางพิมไม่มีพี่เลี้ยงอย่างบาหยันพี่เลี้ยงของบุษบา ซึ่งประคับประคองบุษบาสมัยเป็นอุณากรรณไปได้ตลอดรอดฝั่ง   แม่พี่เลี้ยงสายทองตั้งท่าจะประเคนนายสาวให้เณรหนุ่มท่าเดียว   ทั้งล่อทั้งชนสารพัดให้นายสาวเสียที    ตัวเองก็จะได้ผลพลอยได้ไปด้วย  เป็นบริวารชนิดกินในเรือนขี้บนหลังคาโดยแท้   พอกับอลัชชีอย่างเณรแก้ว  น่าจะแต่งให้เข้าคู่กันนัก
บันทึกการเข้า
Tanat
อสุรผัด
*
ตอบ: 9


ความคิดเห็นที่ 23  เมื่อ 03 ก.ย. 10, 22:43

ขอเล่าเพิ่มเติมเกี่ยวกับบอน พังเพาะ และเผือกครับ

เคยได้ยินเพลงนี้ไหมครับ....อย่ามือบอนแม่อีน้อยมือบอน อย่ามือบอนแม่อีน้อยมือบอน
ปากก็บอนมือสองข้างก็บอน บอนนักมันบอนนะแม่อีน้อยมันบอน ...
มือบอนคือมือตำแย มือคัน ต้องจับโน่นแตะนี่ร่ำไป
ปากบอนคือปากเปราะ พูดส่งเดช

สำหรับใบบอน มีขนขนาดเล็กมากๆ (นาโน) อ่อนนุ่มดังกำมะหยี่ปกคลุม
ขนเล็กๆ เหล่านี้ทำให้ใบบอนไม่เปียกน้ำ น้ำกลิ้งบนใบบอนคือกลิ้งไปได้เรื่อยๆ


เผือก (taro) เป็นพืชที่ขึ้นในที่แฉะ ต้องการน้ำมาก
ใบอ่อนรับทานได้ โดยห่อหุ้มไก่ (อาจหยอดหัวกระทินิดหน่อย) ห่อใบตองนึ่ง รสช่าติเหมือนผักขมฝรั่ง

แกงส้มก้านเผือกและแกงก้านบอน (ทดลองกูเกิลดู) รสเหมือนๆ กันครับ
ลอกใยที่ก้าน แล้วต้มน้ำทิ้งให้ก้านอ่อนตัว เพื่อมิให้คัน ส่วนน้ำแกงนั้นใช้เนื้อปลาโขกกับเครื่องแกงส้ม
และกระชาย แต่งกลิ่นด้วยใบมะกรูด รสหวานนำเปรี้ยว อร่อยเหาะ

พังเพาะ เป็นไม้ป่า พอฝนตกจะแทงหน่อ ก้านใบมีลายดำหรือเขียว
ก้านใบเเละก้านดอกลอกเปลือกออก แล้วนำไปแกงเหมือนบอน

ดูรูปใบพังเพาะครับ




บันทึกการเข้า
Wandee
หนุมาน
********
ตอบ: 4006


ความคิดเห็นที่ 24  เมื่อ 03 ก.ย. 10, 23:12



ขอบคุณค่ะ      อยู่บ้านชานเมือง  คนงานหญิงเดินผ่านก็เก็บผักหญ้าดะไป

บันทึกการเข้า
watanachai4042
อสุรผัด
*
ตอบ: 42


ความคิดเห็นที่ 25  เมื่อ 13 ก.ย. 10, 18:39

รูปต้นพังเพาะคล้ายต้นบุกมากๆ
บันทึกการเข้า
หน้า: 1 [2]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.051 วินาที กับ 19 คำสั่ง