เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: [1] 2
  พิมพ์  
อ่าน: 8802 พิมผู้นิ่มนวลสูญเสียอะไรไปบ้างในไร่ฝ้าย
Wandee
หนุมาน
********
ตอบ: 4006


 เมื่อ 01 ก.ย. 10, 08:58


     
          สายทองทำตัวเป็นแม่สื่อได้ยุยงให้พิมพิลาไลยพูดจากับพลายแก้วเสียให้รู้เรื่องว่าให้มาสู่ขอ


ถ้าไม่ดีหรือพี่จะชักพา                                 ให้แก้วตาเสียตัวต้องมัวหมอง

เห็นสมศักดิ์สมนวลควรจะครอง                      กับพิมน้องเนื้อสุพรรณกำพู


นางพิมนั้นตั้งแต่สบตาเณรแก้วแล้วก็ติดใจเหมือนเหล็กเพชรกรึงในร่าง

ถึงแม้ว่าสายทองจะไม่มาสื่อชัก    นางพึงใจอยู่แล้ว   แต่ด้วยมารยาหญิงก็อิดออดว่าสายทองมาเป็นแม่สื่อทำไม

รักเจ้าเณรใช่ไหมจึงคิดกันลามมาถึงตน


นางสายทองนั้นก็คงคิดอยู่บ้างว่าน่าจะพันหลักได้เงินทองหรือของที่ต้องใจจากพลายแก้วบ้าง  รีบปฎิเสธ

เป็นทาสหรือจะอาจเทียมไท                          ก็เข้าใจอยู่ว่าเกลือพิมเสน

เณรไม่รู้หรือจะจู้ลงลุยเลน                            ถึงจะแค่นเข้าประเคนก็คนจน

แหวนตะกั่วนี้เหมอนตัวของสายทอง                 จะนับรองเรือนเพชรไม่เป็นผล


       จึงวางแผนจะนัดเณรให้ไปพบในไร่ฝ้าย
บันทึกการเข้า
Wandee
หนุมาน
********
ตอบ: 4006


ความคิดเห็นที่ 1  เมื่อ 01 ก.ย. 10, 09:05



          เกิดอะไรขึ้นบ้างในบ่ายวันนั้นในฤดูเก็บฝ้ายประมาณเดือนธันวาคม - กุมภาพันธ์

ทำไมขุนแผนจึงประชดนางวันทองว่า


เจ้าลืมนอนซ่อนพุ่มกระทุ่มต่ำ                         เด็ดใบบอนช้อนน้ำในไร่ฝ้าย

พี่เคี้ยวหมากเจ้าอยากพี่ยังคาย                       แขนซ้ายคอดแล้วเพราะหนุนนอน
บันทึกการเข้า
Wandee
หนุมาน
********
ตอบ: 4006


ความคิดเห็นที่ 2  เมื่อ 01 ก.ย. 10, 09:20




       ถ้านางพิมผู้นิ่มนวลเกิดร้องโวยวายออกมา   พลายแก้วจะต้องจ่ายค่าเสียหายปานใด

เท่าที่จำได้  ค่าเสียผี  อยู่ที่  จับข้อมือเสียไก่...........     จับหัวไหล่เสียหัวหมู .........  จับหูเสียบายศรี............


       พลายแก้วได้ล่วงไปถึง    โลมลูบจูบชายสไบห่ม



คดีลวนลามถึงจูบชายสไบนี้ได้มีเกิดขึ้นเป็นบันทึกไว้ในรัชกาลที่ ๕  ว่าท่านพระครูรูปหนึ่ง

ได้อุกอาจยึดชายสไบนางคนหนึ่งภรรยาของขุนนางระดับคุณหลวงหรือคุณพระ

คุณนายร้องกรี๊ด           ท่านพระครูโดนสึก
บันทึกการเข้า
Wandee
หนุมาน
********
ตอบ: 4006


ความคิดเห็นที่ 3  เมื่อ 01 ก.ย. 10, 09:29


          ขอเชิญมิตรทั้งปวงที่ได้อ่าน  


ตัวน้องมิใช่ของอันเคยขาย                                จะเรียงรายกลางหนหาควรไม่

พิเคราะห์ให้เหมาะก่อนเป็นไร                               กลับไปเถิดพ่อแก้วผู้แววตา

อดข้าวดอกนะเจ้าชีวิตวาย                                 ไม่ตายดอกเพราะอดเสน่หา


         แวะมาคุยกันแบบนินทา นางพิม  นางสายทอง พลายแก้ว  หรือจะชมว่า เณรมีคาถาเด็ด

ไม่ค่อยแน่ใจว่าเกิดอะไรขึ้นที่พุ่มกระทุ่มต่ำ      ทำไมต้องจำมาเสียดสี
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 4  เมื่อ 01 ก.ย. 10, 09:41

ตอบเป็นภาษาอังกฤษได้ไหมคะ

They're making out. Just skin-to-skin contact.


บันทึกการเข้า
Wandee
หนุมาน
********
ตอบ: 4006


ความคิดเห็นที่ 5  เมื่อ 01 ก.ย. 10, 09:58



โอ!  I see.   หมายความว่านางพิมโดนปล้ำ


แต่ที่ไร่เจ้ายังปล้ำทำให้อาย                          ใยฝ้ายเกลือกคันไปทั่วตัว

มือหนักชักยื้อทำหยาบหยาม                         งามหน้าน่ารับมาเป็นผัว

สมสู่อยู่กับบ้านดีฉันกลัว                              ตัวมิตายหลังคงเลือดย้อย

แต่หยอกกันสารพันเป็นริ้วรอย                       เชิญถอยไปเสียเถิดไม่ไยดี ฯ

บันทึกการเข้า
Wandee
หนุมาน
********
ตอบ: 4006


ความคิดเห็นที่ 6  เมื่อ 01 ก.ย. 10, 10:21


     ความหวังของนายสายทอง         มิใช่จะหวังเปล่าเดียวดาย

เณรแก้วสัญญาไว้ว่า


เด็ดปลียังมีซึ่งใยเยื่อ                         ได้มาพึ่งแล้วก็เผื่อฉันไว้บ้าง

ได้พิมเชยหรือจะเลยทิ้งพี่นาง                ก็เหมือนอย่างหว่านข้าวลงในดิน

ถึงน้ำท่าฟ้าฝนจะแห้งแล้ง                    อย่านึกแหนงว่าจะสูญเสียหมดสิ้น

แต่ชั้นชั่วถึงว่าตัวมิได้กิน                     นกหกผกผินได้เป็นทาน

ถ้าหม่อมพี่มีคุณกับฉันเล่า                    เห็นจะเปล่าเจียวหรือน้องมาอยู่บ้าน

คงจะแทนคุณพี่มิได้นาน                      ให้สมานเสมอพิมผู้นิ่มนวล
บันทึกการเข้า
luanglek
นิลพัท
*******
ตอบ: 2894


ความคิดเห็นที่ 7  เมื่อ 01 ก.ย. 10, 10:47



          เกิดอะไรขึ้นบ้างในบ่ายวันนั้นในฤดูเก็บฝ้ายประมาณเดือนธันวาคม - กุมภาพันธ์
ทำไมขุนแผนจึงประชดนางวันทองว่า


เจ้าลืมนอนซ่อนพุ่มกระทุ่มต่ำ                         เด็ดใบบอนช้อนน้ำในไร่ฝ้าย

พี่เคี้ยวหมากเจ้าอยากพี่ยังคาย                       แขนซ้ายคอดแล้วเพราะหนุนนอน

คุณวันดีช่วยอธิบายหน่อยเถิดว่า   ทำไมถึงได้คิดว่าฝ้ายที่เมืองกาญจน์เก็บในช่วงเดือนธันวาคม - กุมภาพันธ์ 

อยากเห็นว่าต้นกระทุ่มพุ่มต่ำจริงๆ เป็นอย่างไรหนอ  เพราะเคยเห็นแต่ต้นกระทุ่มกิ่งก้านยาวเกะกะที่บ้าน อาจจะเป็นเพราะมันขึ้นที่เงาร่มไม้ใหญ่กระมัง  ถ้าขึ้นที่แจ้งๆ อาจจะเป็นพุ่ม   แต่ว่าใบกระทุ่มนี่ใหญ่ดี ขนาดฝ่ามือ  เอามาวางนั่งนอนได้ไหมนี่   

เณรแก้วคงจะไปลอบชมนางพิมตอนหมดฤดูฝนแล้ว  ไม่เช่นนั้นคงจะเลอะโคลนติดหลังไปบ้านไปวัดกันบ้าง ยิงฟันยิ้ม
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 8  เมื่อ 01 ก.ย. 10, 12:11

เข้าใจว่ากระทุ่มมีหลายชนิด แต่ยังหาไม่เจอว่าชนิดไหนขึ้นเป็นพุ่ม
นี่คงเป็นกระทุ่มชนิดที่คุณหลวงเล็กเคยเห็นละมังคะ



Making out ของพลายแก้วกับนางพิม คงเป็นกึ่งๆสมยอมจากฝ่ายหญิง  ไม่งั้นนางสาวพิมคงร้องไร่แตกไปแล้ว  เพียงแต่เธอไม่อยากให้เกินเลยมากไปกว่าพอหอมปากหอมคอ

พอคุณหลวงจุดประกายสงสัยขึ้นมา ดิฉันก็เลยสงสัยตามมาอีกข้อว่า
เด็ดใบบอนช้อนน้ำที่ไร่ฝ่าย  มันบอนอะไร   ทำไมไม่คัน   ได้ยินมาว่าใบบอนโดนแล้วคัน
บันทึกการเข้า
Tanat
อสุรผัด
*
ตอบ: 9


ความคิดเห็นที่ 9  เมื่อ 01 ก.ย. 10, 12:50


เด็ดใบบอนช้อนน้ำที่ไร่ฝ่าย  มันบอนอะไร   ทำไมไม่คัน   ได้ยินมาว่าใบบอนโดนแล้วคัน

การสัมผัสใบบอนแบบผิวเผิน ไม่ถึงขั้นเอามาเกลือกผิวหนัง ไม่คันหรอกครับ
ขณะเดียวกัน หากปลอกใยที่ก้านบอนออก แกงส้มก้านบอน ใส่กระชาย
อร่อยเทียบเทียมแกงก้านเผือกและแกงพังเพาะเลยครับ
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 10  เมื่อ 01 ก.ย. 10, 13:06

ขอบคุณที่มาตอบให้ทราบค่ะ   ไม่เคยกินแกงส้มทั้ง ๓ อย่าง  ถ้าไม่เกรงใจคุณวันดีว่าดิฉันจะพากระทู้ออกห่างไร่ฝ้ายไปมาก จะถามว่าแกงส้มก้านเผือกและแกงส้มพังเพาะคืออะไร

ใบบอนนี่หรือเปล่าที่มาเป็นสำนวนว่า ใจหญิงเหมือนน้ำกลิ้งบนใบบอน

พอมาถึงตอนนี้ก็เลยนึกได้  ว่าเมื่อก่อนอ่านมาถึงตอนตัดพ้อว่า "เด็ดใบบอนช้อนน้ำที่ไร่ฝ้าย"   เข้าใจว่าใช้ใบบอนห่อน้ำแทนขันน้ำ เพื่อดื่ม
แต่ตอนนี้สงสัยว่าเด็ดใบบอนช้อนน้ำให้มันกลิ้งเล่นหรือเปล่า เป็นจริตเล่นกันของหนุ่มสาว   เพราะมีบทอ้อนกันต่อไปว่า " พี่เคี้ยวหมากเจ้าอยากพี่ยังคาย"


บันทึกการเข้า
Wandee
หนุมาน
********
ตอบ: 4006


ความคิดเห็นที่ 11  เมื่อ 01 ก.ย. 10, 13:29

การเก็บฝ้ายครั้งแรกจะเริ่มเมื่ออากาศแห้งหลังฤดูฝนค่ะ  เวลาอาจแตกต่างกันออกไปบ้างตามท้องถิ่นเพราะเก็บได้หลายรอบ

เก็บแล้วยังต้องนำมาตากอีกหลายวันเพื่อให้แห้งสนิท

ในเรื่องนี้นางพิมพิลาไลได้บอกแม่ว่าจะไปดูฝ้ายที่ไร่เหนือ   แสดงว่าบ้านเจ้าหล่อนอาจจะมีไร่ทางทิศอื่นอีก


วันนี้ลูกจะไปที่ไร่เหนือ                                           ฝ้ายเฝือแตกกระจายเสียหนักหนา

ลูกจะออกไปดูกับหูตา                                           จะไว้ใจกับข้าไม่ต้องการ

มันลักจำแนกแจกจ่าย                                           ซื้อขายกินเล่นไปทั้งบ้าน

ลูกเห็นกับตามาช้านาน                                          จะว่าขานมันก็ไม่ถนัดใจ
บันทึกการเข้า
Wandee
หนุมาน
********
ตอบ: 4006


ความคิดเห็นที่ 12  เมื่อ 01 ก.ย. 10, 13:34



แกงพังเพาะทำอย่างไรคะคุณ Tanat

พังเพาะหน้าตาเป็นอย่างไร


น่าสนใจจัง
บันทึกการเข้า
Wandee
หนุมาน
********
ตอบ: 4006


ความคิดเห็นที่ 13  เมื่อ 01 ก.ย. 10, 14:23


ความรักระหว่างพลายแก้วกับนางพิมพิลาไลย  อ่านได้ไม่รู้เบื่อ


อันความรักหนักแน่นแสนวิตก                                    ระอาอกแทบเท่าภูเขาหลวง

พรหมินทร์อินทร์จันทร์สิ้นทั้งปวง                                  ก็บนบวงสิ้นฟ้าสุราลัย

เชื้อเชิญเมินหน้าไม่มาช่วย                                        เห็นคงม้วยไม่หมายผู้ใดได้

เห็นแต่เจ้าเยาวยอดผู้ร่วมใจ                                      จะผลักพลิกแพลงให้บรรเทาลง ฯ
บันทึกการเข้า
Wandee
หนุมาน
********
ตอบ: 4006


ความคิดเห็นที่ 14  เมื่อ 01 ก.ย. 10, 14:41


สาวใช้ที่นางพิมพ์พาไปเก็บฝ้ายนั้น   ตามกันออกไป

คงทำงานอยู่แถวเดียวกัน



ฉวยกระบุงแบกไปพอไกลตา                 ก็ร้องเพลงไก่ป่าเก็บฝ้ายพลาง


เพลงไก่ป่า  มีส่วนเกี่ยวข้องกับเพลงปรบไก่หรือไม่อย่างไรคะ
บันทึกการเข้า
หน้า: [1] 2
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.061 วินาที กับ 20 คำสั่ง