จะรบกวนเกินไปไหมคะ ถ้าอยากทราบเรื่องราว ในสมัยสงคราม ประมาณเรื่องเล่าจากผู้อยู่ในเหตุการณ์จริงๆน่ะค่ะ
สมัยก่อนชอบไปขอให้พ่อกับแม่เล่าให้ฟัง ก็เลยพอมองภาพสงครามโลกที่ทางใต้ได้บ้าง อยากทราบที่อื่นๆบ้างน่ะค่ะ
แหะๆ คั่นรายการ ด้วยเรื่องเล่าจากวันวาร ไปพลางๆได้ไหมคะ...
น่าจะมีแต่คุณมานิตที่มีโอกาสรู้เรื่องราวสมัยสงคราม ดิฉันยังไม่เกิด มาเกิดหลังสงครามจบไปแล้ว แต่เคยได้ยินผู้ใหญ่เล่าให้ฟังบ้างว่า วันที่ญี่ปุ่นบุกคนไทยไม่รู้เรื่องกันเลย ตื่นขึ้นมาตอนเช้า อ้าว ทหารญี่ปุ่นมากันเต็มแล้ว ตอนญี่ปุ่นยกพลเดินขบวนไปตามถนน ก็ออกไปดูด้วยความตื่นเต้น คุณแม่ดิฉันถูกคุณลุงดุลั่นๆให้รีบกลับเข้าบ้าน เป็นสาวเป็นแส้กลัวจะถูกทำร้ายเอา แต่ญี่ปุ่นก็ไม่ได้ทำอะไรคนไทย เขาอยู่ส่วนของเขา
ในช่วงสงคราม ตกกลางคืนทุกบ้านต้องพรางไฟหมด ปิดหน้าต่าง ช่องลมเหนือหน้าต่างก็ต้องเอาผ้าดำไปปิดไม่ให้แสงตะเกียงลอดออกไปได้ กลัวเครื่องบินจะเห็น ผู้คนถ้ามีหนทางก็อพยพออกนอกเมืองไปอยู่ต่างจังหวัดกันหมด ไม่ไกลนักหรอกค่ะ แค่จังหวัดใกล้ๆก็พ้นภัยแล้ว คนที่อยู่ในกรุงเทพคือผู้ชาย ส่วนใหญ่เป็นข้าราชการต้องทำงาน ทิ้งงานไม่ได้
สถานที่น่ากลัวคือโรงไฟฟ้าและสะพาน เพราะพันธมิตรเลือกทิ้งระเบิดแถวนี้ ครั้งหนึ่งระเบิดลงที่พาหุรัด คนตายกันไปมาก บางบ้านตายเรียบทั้งบ้าน
พอระเบิดลง ก็มีการขุดหลุมหลบภัย เป็นหลุมยาวๆ เนื้อที่กว้างพอจุคนได้หลายคน รองพื้นด้วยไม้กระดาน พอเสียงสัญญาณภัยดังขึ้นมาเป็นการเตือนว่าเครื่องบินจะมาทิ้งระเบิด ทุกคนในบ้านก็ทิ้งบ้านวิ่งลงหลุมหลบภัยกันหมด ถ้าถามว่าพ้นภัยไหม หากระเบิดลงหลุมตรงๆก็ไม่รอดหรอกค่ะ แต่ก็ยังดีกว่าอยู่ในบ้านให้บ้านพังทับตาย
พ.ศ. ๒๔๘๕ เป็นปีที่แย่ที่สุดเพราะน้ำท่วมใหญ่ คนในกรุงเทพต้องพายเรือกันไปทำงาน รัฐบาลออกคำขวัญมาว่า "น้ำท่วมดีกว่าฝนแล้ง"
ตลอดเวลาสงคราม คนไทยก็ยังต้องสวมหมวก แต่งตัวแบบฝรั่งให้ถูกวัธนธัม ทั้งๆผ้าขาดตลาดเพราะส่งเข้ามาไม่ได้ คนไทยต้องไปหาถุงแป้งผ้าดิบมาเลาะตัดเป็นเสื้อกัน เป็นเรื่องธรรมดา