เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: 1 ... 12 13 [14] 15 16 ... 29
  พิมพ์  
อ่าน: 139181 หลวงอดุล-หลวงพิบูล คู่รัก, พล.ต.อ อดุล-จอมพล ป. คู่แค้น
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 195  เมื่อ 20 ก.ค. 10, 16:04

การที่จะเล่นงานญี่ปุ่นให้ถนัดมือ ต้องเล่นงานจอมพล ป. ก่อน

นายปรีดีกับพล.ต.อ.อดุลเห็นพ้องต้องกันว่า ถ้าจอมพล ป.ยังอยู่ในตำแหน่งและรู้ความลับเรื่องเสรีไทยนี้ ก็อาจกำจัดทั้งสองคนทิ้งไปอย่างไม่มีข้อสงสัย แต่การที่จะล่มจอมพล ป. ออกไปจากตำแหน่งก็ไม่น่าจะยาก ตอนนี้ส.ส.ทั้งประเภท1และประเภท2 ก็เบื่อหน่ายพฤติกรรมบ้าอำนาจของสองสามีภรรยาคู่นี้เต็มที ที่ทุกคนทำอะไรไม่ถนัดเพราะสันติบาลลูกน้องพล.ต.อ.อดุลตามประกบทุกฝีก้าว ไม่รู้จะถูกเล่นงานเมื่อไหร่ นายปรีดีบอกว่าเอาอย่างนี้แล้วกัน จอมพล ป.เล่นออกพระราชกำหนดตอนปิดสภา เอางบประมาณมหาศาลไปสร้างเมืองหลวงใหม่ที่เพชรบูรณ์แล้ว เดี๋ยวสภาเปิดแล้วต้องนำพระราชกำหนดมาผ่านให้สภาอนุมัติ ถ้าให้ส.ส.ลงมติโดยอิสระแล้ว เชื่อว่าพระราชกำหนดฉบับนี้คงผ่านสภายาก ถ้าพล.ต.อ.อดุลอยากให้จอมพล ป.ลาออกก็ขอให้ถอนเกสตาโปของตัวที่เหมือนคอยข่มขู่พวกส.ส.ออกไปเสีย พล.ต.อ.อดุลก็ตกลงด้วยอาการเขินนิดๆพองาม

ก็เป็นไปตามแผน พอสภาเปิด หัวหอกทะลวงฟันของนายปรีดีก็ลุยจอมพล ป.แบบไม่เลี้ยง จอมพล ป.คิดว่าไม่เป็นไร พวกนี้ด่าได้ด่าไป เดี๋ยวตอนลงมติฉันก็จะชนะอยู่ดี เมื่อสภาโหวตให้ลงคะแนนลับ จอมพล ป.ก็ชักเอะใจเหมือนกัน แต่ไม่ทันการเสียแล้ว ผลของการลงคะแนน ส.ส.ที่เป็นอิสระและไม่ต้องเกรงกลัวต่ออำนาจมืดก็ลงมติไม่รับพระราชกำหนดการจัดตั้งเพชรบูรณ์เป็นเมืองหลวงด้วยคะแนนเสียง 48 ต่อ36 จอมพล ป.พ่ายแพ้ไปอย่างที่ตัวเองก็งุนงง
อีกสองวันต่อมาก็ถูกย้ำแค้นอีก พระราชกำหนดพุทธมณฑลถูกคว่ำไปอย่างเฉียดฉิวด้วยคะแนนลับ 43ต่อ41
 
จอมพล ป.พยายามจะเฉยๆ แต่ที่ประชุมค.ร.ม.ก็ยอมรับว่า การที่รัฐบาลแพ้การลงมติในการเสนอพระราชกำหนดเชิงนโยบายที่สำคัญนี้ ก็เท่ากับรัฐบาลถูกลงมติไม่ไว้วางใจ  โดยมารยาทแล้วรัฐบาลต้องลาออกทั้งคณะ พูดให้เหมือนๆกับว่า ถึงนายกจะออกไปแต่ก็กลับมาได้เมื่อสภาเลือกนายกกันใหม่ ใครจะไปกล้าแข่งบารมีกับท่านผู้นำ ซึ่งยังเป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุด คุมทั้งสามเหล่าทัพอยู่ จอมพล ป.จึงจำต้องยื่นใบลาออกเสนอไปยังผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์


บันทึกการเข้า
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 196  เมื่อ 20 ก.ค. 10, 16:06

พระองค์อาทิตย์ทอดพระเนตรเห็นใบลาออกจอมพล ป.ก็แทบจะประชวรพระวาโย (อาการเดียวกับที่ยายมีเป็นลม) ครั้งก่อนก็เปลืององค์ไปทีนึงแล้ว คราวนี้จะเอาอีกหรือไฉน ไม่ยอมทรงลงพระนามจนกว่าจะทรงทราบว่าประธานสภาจะเสนอใครเป็นนายกรัฐมนตรี

เรื่องจึงมาตกที่ผู้สำเร็จราชการอีกท่านหนึ่ง ซึ่งแนะนำให้ผู้แทนสภาไปเชิญพระยาพหล แต่พระยาพหลก็เป็นอัมพาต ท่านไม่รีรอที่จะปฏิเสธอย่างสิ้นเชิง มีผู้เสนอนายทวี บุณยเกตุ เพราะเป็นผู้รอบรู้ในการบริหารราชการแผ่นดิน แต่ติดขัดที่นายทวีเป็นคนซื่อ ตีสีหน้าไม่เป็น จะเป็นปัญหาในการเจรจากับญี่ปุ่น คนที่มีคุณลักษณะเด่นสามารถเล่นละครได้ทุกบท ตั้งแต่เสนาบดีไปจนตัวตลกหลวง ก็คือนายควง อภัยวงศ์ ทุกคนเห็นพ้องว่านายควงเหมาะที่จะเป็นนายกในขณะที่วิกฤติการณ์รุมเร้ารอบด้านเช่นนี้ นายปรีดีจึงเชิญนายควงมาฟังบทของนายกรัฐมนตรีคนต่อไป แล้วขอร้องให้นายควงเป็นรับเป็นตัวแสดงบทนี้ นายควงก็รับ

พระองค์อาทิตย์พอทรงทราบว่าสภาจะเลือกนายควง ก็มีพระอาการวาโยสวิง (อาการเดียวกับที่ยายมีสะอึก) ไม่ยอมลงพระนาม จนกว่านายควงจะนำนโยบายและรายชื่อคณะรัฐมนตรีใหม่มาถวายทอดพระเนตรก่อน นายควงก็ทูลว่า คณะผู้สำเร็จต้องตั้งนายกก่อนจึงจะถูก นายกถึงจะเสนอรายชื่อรัฐมนตรีต่อไปได้ นายปรีดีก็ยืนยันสนับสนุนคำพูดของนายควง

จอมพล ป.นั้น ไม่ต้องสงสัยว่าจะหัวเสียเพียงไรที่สภาจะเลือก “คนบ้าๆบอๆ”มาแข่งบารมีกับตน แต่เมื่อลงมติ คนบ้าๆบอๆก็ชนะคนบ้าอำนาจไปด้วยคะแนนลับ62 ต่อ 22 ขาดลอยไปสอยดาว

พระองค์อาทิตย์ทรงตัดสินพระทัยอย่างมาดมั่นที่จะลาออกจากการเป็นผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ดีกว่าที่จะต้องลงพระนามแต่งตั้งนายควง ในพระทัยนั้นทรงเชื่อแน่ว่าเดี๋ยวจอมพล ป.ก็จะกลับมาเป็นนายกอีก และแล้วพระองค์จะได้กลับคืนสู่ตำแหน่งเดิมเช่นกัน

ทรงคิดไม่ผิด หลายปีต่อจอมพล ป.ได้กลับมาเป็นนายกอีกเป็นสมัยที่2 แต่พระองค์อาทิตย์ได้อัสดงไปตั้งแต่บัดนั้น และไม่มีโอกาสโผล่กลับมาอีกเลย รัฐบาลนายควงก็มิได้แต่งตั้งผู้ใดเพิ่ม นายปรีดี พนมยงค์เป็นได้ผู้สำเร็จราชการเพียงท่านเดียว



บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 197  เมื่อ 20 ก.ค. 10, 17:58

      ไหนๆคุณนวรัตนก็วิ่งกวดกระทู้ทันแล้ว  ซ้ำยังโดดขึ้นซิ่งต่ออีกด้วย    ดิฉันขอแยกซอยอีกนิดหน่อย  คงไม่ทำให้กระทู้วิ่งเร็วเกินไปนะคะ

      ขอแนะนำนายควง อภัยวงศ์ให้รู้จักว่าเป็นใครมาจากไหน ท่านผู้นี้เป็นนักการเมืองสำคัญคนหนึ่งของไทย  เคยเป็นนายกรัฐมนตรีถึง ๔ สมัย

      นายควง อภัยวงศ์ หรือหลวงโกวิทอภัยวงศ์   เป็นลูกขุนนางชั้นผู้ใหญ่คือเจ้าพระยาอภัยภูเบศร (ชุ่ม อภัยวงศ์) ผู้สำเร็จราชการจังหวัดพระตะบอง ซึ่งสมัยโน้นอยู่ในเขตราชอาณาจักรสยาม แต่ตอนนี้อยู่ในเขตกัมพูชา   นายควงเกิดที่จังหวัดพระตะบองทำให้ถูกโจมตีในภายหลังว่าเป็นเชื้อสายเขมร   ความจริงเปล่า  ท่านเป็นไทยเต็มตัว   
   นายควง อภัยวงศ์ มีการศึกษาดี  จบจากโรงเรียนอัสสัมชัญ แล้วไปศึกษาต่อวิชาวิศวกรรมโยธาที่เอกอล ซังตรัล เดอ ลียอง ประเทศฝรั่งเศส สำเร็จการศึกษาในปี พ.ศ. 2470 และได้ฝึกงานในโรงงานต่างๆ ในประเทศฝรั่งเศสเป็นเวลาหลายปี เพราะเป็นนักเรียนฝรั่งเศสจึงทำความรู้จักมักคุ้นกับนายปรีดี พนมยงค์และพันโทหลวงพิบูลสงคราม    ในที่สุดก็เข้าร่วมเปลี่ยนแปลงการปกครองในปี พ.ศ. 2475 โดยเป็นกำลังสำคัญฝ่ายพลเรือนในการตระเวนตัดสายโทรศัพท์ เพื่อตัดการติดต่อระหว่างฝ่ายรัฐบาลกับกองกำลังของหน่วยทหารต่างๆ ไม่ให้ส่งกำลังมาปราบปรามพวกก่อการได้
        หลังการเปลี่ยนแปลงการปกครอง พันตรีควง อภัยวงศ์ ขณะยังมีบรรดาศักดิ์เป็น หลวงโกวิทอภัยวงศ์ ได้เดินทางไปประชุมสากลไปรษณีย์ ที่กรุงบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนติน่า พร้อมด้วย ขุนชำนาญ (หลุย อินทุโสภณ) เลขานุการ และเมื่อเดินทางกลับจาก ประเทศอาร์เจนติน่า ได้ไปดูงานโทรศัพท์อัตโนมัติที่ประเทศอังกฤษ และมีโอกาสเข้าเฝ้า พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าฯ ที่เครนไลน์ โดยพระเจ้าอยู่หัวทรงเลี้ยงอาหารค่ำ และได้ทรงตรัสถึงเรื่องต่างๆ ให้พันตรีควงได้รับรู้ และนับแต่ครั้งนั้น ความคิดความเห็นของพันตรีควง ก็เปลี่ยนไปเป็นอันมาก มักบ่นกับคนที่ชอบพอ และญาติใกล้ชิดว่า "เรามันผิดไปเสียแล้ว ควรที่จะถวายพระราชอำนาจคืน"  ซึ่งข้อความนี้หนังสือพิมพ์บางฉบับได้นำไปโจมตีว่า พันตรีควงมีหัวนิยมเจ้า ทั้งๆ ที่บางฉบับกล่าวหาว่าพันตรีควงมีหัวโน้มเอียงไปทางคอมมิวนิสต์
       ก่อนหน้าการดำรงตำแหน่ง นายกรัฐมนตรี พันตรีควง อภัยวงศ์ เคยดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี ในรัฐบาลพระยาพหลพลพยุหเสนา และ จอมพล ป. พิบูลสงคราม  ต่อมาได้เป็นนายกรัฐมนตรีถึง ๔ สมัย  และเป็นหัวหน้าคนแรกของพรรคประชาธิปัตย์ด้วย  โดยก่อตั้งพรรคร่วมกับ ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช และ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช มีนักการเมืองมือดีเข้าร่วมหลายคน เช่น นายใหญ่ ศวิตชาต, นายเลียง ไชยกาล, ดร.โชติ คุ้มพันธ์, พระยาศราภัยพิพัฒ, นายบุญเท่ง ทองสวัสดิ์ และ นายฟอง สิทธิธรรม 
      พรรคประชาธิปัตย์ยุคแรก มีนายควงเป็นหัวหน้าพรรค  ม.ร.ว.เสนีย์ เป็นรองหัวหน้าพรรค ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ เป็นเลขาธิการพรรค และมี นายชวลิต อภัยวงศ์ น้องชายของท่านเป็น รองเลขาธิการพรรค มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็น พรรคฝ่ายค้าน คานอำนาจรัฐบาลนายปรีดี ที่ขณะนั้นมีอำนาจอย่างสูง เข้าแทนที่รัฐบาล จอมพล ป. พิบูลสงคราม
         นายควง อภัยวงศ์ ได้ชื่อว่าเป็นนักการเมืองที่มีไหวพริบปฏิญาณในการพูด การปราศรัยดีเยี่ยม อีกทั้งยังมีมุขตลกสนุกสนานเป็นที่รู้จักกันอย่างดี จนได้ฉายามากมาย เช่น "นายกฯ ผู้ร่ำรวยอารมณ์ขัน" หรือ "จอมตลก" หรือ "ตลกหลวง" ซึ่งบางครั้ง ไหวพริบปฏิญาณและมุขตลกเหล่านี้ได้ช่วยแก้ไขวิกฤตการณ์ของชาติมาแล้วด้วย   จึงเป็นที่ชื่นชอบของประชาชนในการปราศรัยอย่างมาก ตัวอย่างวาทะเด็ดของนายควง อภัยวงศ์ เช่น
           ข้าพเจ้า นายควง อภัยวงศ์ เชื่อในพุทธภาษิตที่ว่า 'อฺปปาปิ สนฺตา พหเก ชินนฺติ ' คนดีถึงแม้มีน้อยก็เอาชนะคนชั่วหมู่มากได้
           วาจาสัตย์เท่านั้น ที่จะไม่ทำให้เราตกต่ำ
 
            นอกจากนี้แล้วยังได้รับฉายาว่า "นายกฯ เสื้อเชิร์ต" นอกจากท่านเป็นคนที่มีความเป็นอยู่ง่าย ๆ ไม่มีพิธีรีตรองอะไรมาก ในสมัยเป็นฝ่ายค้านรัฐบาล จอมพล ป.พิบูลสงคราม เคยได้รับฉายาว่า "โหรหน้าสนามกีฬา" เนื่องจากมักออกมาทำนายเหตุการณ์ต่าง ๆ ล่วงหน้าเสมอ ซึ่งบ้านพักของท่านก็อยู่ในซอยเกษมสันต์ หน้าสนามกีฬาแห่งชาติ
         เมื่อเกษียณจากวงการเมืองแล้ว นายควงก็อยู่บ้านอย่างสงบในบั้นปลายชีวิต  ถึงแก่กรรมในวัย ๖๖ ปี


บันทึกการเข้า
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 198  เมื่อ 20 ก.ค. 10, 18:50

เชิญท่านผู้ร่วมขบวนในกระทู้ทั้งหลายปั่นกระทู้ต่อตามสบายนะครับ คืนนี้คงไม่ได้กลับเข้ามาซิ่งอีก พระลูกชายโทรมาตามว่าขาดโน่นขาดนี่ ผมต้องออกไปทำหน้าที่โยมพ่อสักหน่อย พรุ่งนี้ก็ไม่ทราบว่าจะแอบเข้ามาเล่นกระทู้ได้สักเท่าไหร่ เพราะต้องเตรียมสถานที่ มะรืนนี้(วันพฤหัส)เขาจะยกขันหมากมาขอลูกสาวที่บ้าน ผมต้องรับรองเขาแข็งขันหน่อย มัวแต่นั่งเล่นกระทู้เดี๋ยวลูกสาวจะน้อยใจ

ที่กล่าวมานี้ไม่ใช่เสกสรรปั้นเรื่องขึ้นนะครับ ร้อยวันพันปีผมก็ไม่ได้ยุ่งอะไรขนาดนี้ พอมาเล่นกระทู้ในเรือนไทยนี่ ดูงานจะเข้าติดๆกันเกิน ไม่รู้อะไรจะขนาดนั้น แต่สองงานหลังนี่เป็นงานมงคล ก็ดีหน่อย

เชิญคร้าบ
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 199  เมื่อ 20 ก.ค. 10, 19:14

เห็นทีนักเรียนจะต้องทำข้อสอบกันจนวันศุกร์  ถึงจะได้คำเฉลยข้อสอบว่าท่านจอมพลและพลต.อ. โกรธกันด้วยเรื่องอะไร     เอาเป็นว่ารู้เร็วไปก็ไม่สนุก  ช้าๆได้พร้าสองเล่มงามดีกว่า
ขอแสดงความยินดีกับข่าวมงคลทั้งสองเรื่องด้วยค่ะ     เรื่องแรกได้เกาะชายผ้าเหลืองลูกชายขึ้นสวรรค์  เรื่องที่สองลูกสาวเป็นฝั่งเป็นฝาไปแล้ว   อีกสักปีกว่าหรือสองปี  คุณตาคนใหม่ ก็คงจะมีรูปหลานคนแรกมาอวดชาวเรือนไทยกัน 
ถึงตอนนั้นเล่าเรื่องหลานก็ได้  วางเรื่องการเมืองในอดีตไว้ก่อน

ระหว่างนี้ยังคิดเรื่องมาคั่นโปรแกรมไม่ถูก  ขออินเทอร์มิชชั่นสักพัก    ถ้าคุณหมอ CVT คุณเพ็ญชมพู  คุณมานิตหรือท่านอื่นๆนึกอะไรออก เข้ามาคุยก็ได้    ดิฉันอาจจะนึกประเด็นออกแล้วมาร่วมวงด้วย


บันทึกการเข้า
CVT
องคต
*****
ตอบ: 452


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 200  เมื่อ 20 ก.ค. 10, 20:50

ผมกำลังปลื้มใจกับรูปนายวนิช ปานะนันท์ เพราะหาดูมานานแล้วครับ

ขอแสดงความยินดีกับคุณครู Navarat.C ที่มีงานมงคลติดๆกันครับ
บันทึกการเข้า
Diwali
มัจฉานุ
**
ตอบ: 96


ความคิดเห็นที่ 201  เมื่อ 20 ก.ค. 10, 23:16

เข้ามาแสดงความยินดีกับคุณครู Navarat.C อีกคนครับ

ได้เป็นทั้งโยมพ่อแล้วก็จะรับเขยขวัญเข้าบ้าน ในเวลาไล่กันขนาดนี้
อีกไม่นาน หลานปู่หลานตาคงวิ่งเล่นเต็มบ้าน


แล้วจะเอาเวลาที่ใหนมาให้ความรู้พวกกระผมเนี่ย
(แค่หยอกนะครับ หวังว่าผู้ใหญ่ไม่ถือสาผู้น้อยนะครับ)
 ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม
บันทึกการเข้า
prickly heat
อสุรผัด
*
ตอบ: 22


ความคิดเห็นที่ 202  เมื่อ 20 ก.ค. 10, 23:43

ขอแสดงความยินดีกับครูใหญ่ด้วยคนครับ...... ยิ้มกว้างๆ
บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 12600



ความคิดเห็นที่ 203  เมื่อ 21 ก.ค. 10, 08:49

เป็นครูใหญ่การเมืองไทยในกาลเ่ก่า    เขียนเรื่องเล่าคนสนใจใฝ่่ศึกษา
 เป็นโยมพ่อคนใหม่เป็นพ่อตา          เพียงบุญพาชีิวิตรื่นชื่นบานเทอญ

ยินดีด้วยกับตำแหน่งใหม่

คุณโยมพ่อ - คุณพ่อตา 

 ยิงฟันยิ้ม
 
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 204  เมื่อ 21 ก.ค. 10, 10:43

คลิปวิดีโอเรื่องนี้นำลงในกระทู้ สนามหลวงสมัยก่อน  แต่ขอนำมาลงในกระทู้นี้อีกครั้ง เป็นภาพที่ฝรั่งถ่ายในปี 2491  หลังสงครามโลกจบลง 3 ปี 
มีภาพนายกรัฐมนตรีในยุคนั้นคือคุณหลวงธำรงนาวาสวัสดิ์  สวมสูทเรียบร้อย เดินอยู่ในวัดพระแก้วให้เห็นด้วย
บรรยากาศของบ้านเมืองและผู้คนในคลิปวิดีโอนี้ก็คือบรรยากาศในยุคที่เรากำลังเล่ามาถึง    จึงอยากให้ดูกัน เผื่อจะวาดภาพยุคสมัยได้ชัดเจนขึ้น

บันทึกการเข้า
manit peuksakondh
พาลี
****
ตอบ: 216


ความคิดเห็นที่ 205  เมื่อ 21 ก.ค. 10, 11:32

แว่วๆว่าท่านโยมพ่อและท่านว่าที่ พ.ต.เป็นเด็กสามย่านมาก่อน อยากทราบจังว่าสีอะไร ผมมีเพื่อน1 คน ท่านจบเหมืองแร่ เป็น ม.ล.นามสกุลคล้ายๆท่านมากเลย อายุมากกว่าผมนิดหน่อย แต่ไม่ใช่ท่านแน่ๆเลย ครับผม
มานิต
บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 12600



ความคิดเห็นที่ 206  เมื่อ 21 ก.ค. 10, 12:18

แว่ว ๆ มาเหมือนกันว่า

ไม่เฉพาะคุณโยมพ่อและว่าที่ พ.ต. ที่เคยเป็นเด็กสามย่าน

พระลูกชาย และ ว่าี่ที่ จ.ส. ก็เ่คยเป็นเด็กสามย่านด้วย

ครอบครัวนี้สีชมพู

 ยิงฟันยิ้ม
บันทึกการเข้า
proudtobethai
มัจฉานุ
**
ตอบ: 79


ความคิดเห็นที่ 207  เมื่อ 21 ก.ค. 10, 12:34

วันก่อนได้ดูข่าวในพระราชสำนักฯ ก่อนเดินทาง ได้ยินชื่อและนามสกุลของหนึ่งในนาคหลวงก็จำได้ทันที
วันนี้เข้ามาอ่านเจอข่าวมงคลเรื่องที่สองอีก ขอแสดงความยินดีด้วยคนนะคะ  ยิงฟันยิ้ม
บันทึกการเข้า
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 208  เมื่อ 21 ก.ค. 10, 18:40

ผมเวะเข้ามาดูหลายครั้ง ไม่มีเวลาจะพิมพ์ตอบ

บัดนี้เข้ามาเพื่อขอแสดงความขอบคุณในไมตรีจิตของทุกท่านด้วยครับ
บันทึกการเข้า
CVT
องคต
*****
ตอบ: 452


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 209  เมื่อ 21 ก.ค. 10, 18:54

วันก่อนได้ดูข่าวในพระราชสำนักฯ ก่อนเดินทาง ได้ยินชื่อและนามสกุลของหนึ่งในนาคหลวงก็จำได้ทันที
วันนี้เข้ามาอ่านเจอข่าวมงคลเรื่องที่สองอีก ขอแสดงความยินดีด้วยคนนะคะ  ยิงฟันยิ้ม

คุณพราวด์ทำให้ผมรู้ว่าครู Navarat.C ของผมคือใคร ขอบคุณครับ

และถือโอกาสขอคารวะครูอีกครั้งหนึ่งครับ
บันทึกการเข้า
หน้า: 1 ... 12 13 [14] 15 16 ... 29
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.046 วินาที กับ 19 คำสั่ง