เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: 1 ... 8 9 [10] 11 12 ... 29
  พิมพ์  
อ่าน: 138736 หลวงอดุล-หลวงพิบูล คู่รัก, พล.ต.อ อดุล-จอมพล ป. คู่แค้น
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 135  เมื่อ 18 ก.ค. 10, 13:08

.


บันทึกการเข้า
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 136  เมื่อ 18 ก.ค. 10, 13:08

.


บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 137  เมื่อ 18 ก.ค. 10, 13:13

ระหว่างท่านนวรัตนยังไม่เข้ามา  ดิฉันเล่าปูพื้นไปเรื่อยๆก่อน

การเคลื่อนไหวของทางอเมริกาก็ไม่น้อยหน้า   วันที่ ๑๒ ธันวาคม ๒๔๘๔  คือ ๔ วันหลังญี่ปุ่นบุก   ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมชเปิดแถลงข่าวต่อสื่ออย่างองอาจผิดวิสัยข้าราชการไทย(โดยมาก)ในสมัยนั้น     ว่าสถานเอกอัครราชทูตไทยในวอชิงตันไม่รับรู้ความร่วมมือของไทยกับญี่ปุ่น      สถานทูตจะทำตามคำสั่งรัฐบาล เฉพาะเรื่องที่เห็นว่าไม่ใช่คำสั่งของญี่ปุ่นกำกับมาอีกทีเท่านั้น
นอกจากนั้น ท่านทูตเสนีย์ก็ฮึดสู้ต่อไปไม่ลดละ     ประกาศทางวิทยุชักชวนคนไทยให้ร่วมกันต่อต้านญี่ปุ่น    คำประกาศนี้ท่านนำไปให้นายคอเดล ฮัลล์ ร.ม.ว.ต่างประเทศของอเมริกา  หรือ State Secretary รับทราบอย่างเป็นทางการ
ท่านรัฐมนตรีฮัลล์ก็ไม่รอช้า  ส่งลูกมาก็ชู้ทต่อทันควัน   ให้อ่านออกวิทยุกระจายเสียงแห่งอเมริกา Voice of America  ทันที    เสียงของสถานทูตไทยก็กระจายไปทั่วโลก   เพราะในยุคนั้นการสื่อสารระหว่างประเทศที่รวดเร็วที่สุดก็คือวิทยุเท่านั้น  โทรทัศน์ยังไม่มี   วิทยุคลื่นสั้นส่งข้ามทวีปได้
พอเสียงมาถึงไทย  ผลคือจอมพลป. ห้ามคนไทยรับฟัง  Voice of America  ทันที

ท่านเอกอัครราชทูตเสนีย์เมื่อเดินหน้า  ท่านดับเครื่องชนลูกเดียว      ประกาศสงครามที่ไทยทำกับอังกฤษและอเมริกา(ฉบับที่นายปรีดีไม่ลงนามในวันประกาศนั่นแหละค่ะ)  เมื่อส่งถึงมือท่าน   ท่านก็ออกแถลงกับสื่อว่าประกาศนี้มาถึงท่านก็จริง แต่ท่านเก็บไว้ในกระเป๋าเสื้อ  ขณะเข้าพบรมว.ฮัลล์   เพราะท่านบอกชัดเจนว่าท่านเชื่อว่าประกาศนี้ไม่ได้มาจากเจตนารมณ์ของประชาชนไทยทั้งชาติ
จากนั้นรัฐบาลสั่งให้ข้าราชการไทยและนักเรียนไทยในสหรัฐเดินทางกลับประเทศ      ปรากฏว่ามีผู้ปฏิบัติตาม ๑๘ คน   ข้าราชการ นักเรียนไทยในอเมริกาและแคนาดาอีก ๘๒ คนที่เหลือ ปักหลักสู้คำสั่งรัฐบาลและสู้ญี่ปุ่นอยู่ไม่ยอมถอย   แม้ว่าจะถูกรัฐบาลขู่ว่าถอนสัญชาติไทยก็ตาม

ไม่อยากคิดว่าถ้าเอกอัครราชทูตไทยไม่ใช่ม.ร.ว.เสนีย์ แต่เป็นใครสักคนที่พร้อมจะปฏิบัติตามคำสั่งของนายกรัฐมนตรี ในฐานะตัวเองเป็นข้าราชการที่ดี  นายสั่งมายังไงก็ทำตามนั้น  คือประกาศสงครามกับอเมริกา  และยกขบวนพาข้าราชการไทยและนักเรียนไทยกลับบ้านกันหมด    ขบวนการเสรีไทยจะยากลำบากขึ้นอีกแค่ไหน
เคราะห์ดีที่เหตุการณ์ไม่ได้เป็นเช่นนั้น
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 138  เมื่อ 18 ก.ค. 10, 13:21

คนไหนหนอ โกโบริ?


บันทึกการเข้า
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 139  เมื่อ 18 ก.ค. 10, 13:31

คนนู้นนคร้าบ


บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 140  เมื่อ 18 ก.ค. 10, 13:42

กระทู้ชนกันกลางอากาศอีกแล้ว

คนไทยในอเมริกา เริ่มต้นดำเนินงานกู้ชาติในชื่อ "คณะไทยอิสระ"    แม้ว่ามีอุดมการณ์สอดคล้องร่วมกัน แต่งานในระยะต้นก็ไม่ยักประสานกันได้ดีอย่างที่ควร
ปัญหาสำคัญคือความไม่ลงรอยกันระหว่างเอกอัครราชทูต ม.ร.ว.เสนีย์  กับทูตทหาร ม.ล.ขาบ กุญชร    ส่วนนักเรียนไทยก็ไม่ยอมรับว่าอยู่ในอาณัติของสถานทูต  จะมาสั่งอะไรแต่ฝ่ายเดียวไม่ได้  
ผลคืออึดอัดขลุกขลักกันอยู่พักใหญ่ กว่าจะหาทางออกกันได้สำเร็จ ก็ล่วงมาถึงเดือนพฤษภาคม ๒๔๘๕    จึงมีการตั้งคณะกรรมการที่เป็นผู้แทนของทั้งสถานทูตและนักเรียนไทยขึ้นมาทำงานร่วมกัน  ชื่อว่า "เสรีไทย"  หลังจากนั้นการดำเนินงานก็ค่อยเข้ารูปเข้ารอย
เสรีไทยสายอเมริกา มีกระทรวงการต่างประเทศของอเมริกาหนุนหลังเต็มตัว   ช่วยฝึกทหารให้หนุ่มสาวเสรีไทย โดย O.S.S  หรือ The Office of Strategic Services   และต่อมาคือ  Detachments 404 ซึ่งมีกองบัญชาการอยู่ที่เมืองแคนดี เกาะลังกา  
งานเดินเป็น ๒ สายคือสถานทูตรับงานด้านการเมือง  ออกอากาศ ส่งข่าวสาร ประสานงานกับอเมริกา    ส่วนนักเรียนไทยฝึกปฏิบัติงานแบบสายลับ เข้ามาทำงานใต้ดินในเมืองไทย

ทีนี้ก็จะหันมามองเสรีไทยสายอังกฤษบ้างนะคะ  ว่าเป็นยังไง
ทางอังกฤษ ปฏิกิริยาตรงข้ามกับอเมริกา เพราะท่านเอกอัครราชทูตไทย พระมนูเวทวิมลนาท( เปี๋ยน สุมาวงศ์) มีนโยบายตรงกันข้ามกับม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช     ท่านถือว่าเป็นข้าราชการที่จะดี  ย่อมต้องเคร่งครัดต่อนโยบายของรัฐบาล
เมื่อรู้ข่าวไทยยอมให้ญี่ปุ่นเข้ามาตั้งฐานทัพในประเทศ     ข่าวส่งจากรัฐบาลไทยมาถึงสถานทูตอังกฤษ  ท่านทูตก็ประกาศให้นักเรียนไทยฟัง ด้วยการอ่านโทรเลขจากรัฐบาล  ว่า

"รัฐบาลเปรียบเหมือนช้างเท้าหน้า    พวกเราเป็นช้างเท้าหลัง    ฉะนั้นขอวิงวอนให้คนไทยทุกคน  ร่วมใจกันสนับสนุนนโยบายของรัฐบาล  และปฏิบัติตามคำสั่งของรัฐบาลทุกประการ"

จากนั้นท่านทูตก็เตือนนักเรียนไทยว่า
"การที่จะต่อต้านญี่ปุ่น  จะทำให้นักเรียนมีความผิดตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา ๑๐๔  ฐานกบฏนอกประเทศ   มีความผิดร้ายแรงถึงขั้นประหารชีวิต"

ถึงแม้นักเรียนไทยหลายคนไม่เห็นด้วย แต่เมื่อเจอคำปรามเข้าอย่างนี้  การรวมตัวเป็นกลุ่มก้อนจึงยังไม่สามารถเกิดได้ง่ายนัก   กลายเป็นว่าต่างคนต่างคิด ต่างคนต่างทำกันไป มากกว่า ในตอนเริ่มแรก
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 141  เมื่อ 18 ก.ค. 10, 13:46

คนนู้นนคร้าบ
^
^
อ้าว  มาหลบอยู่นอกกรอบรูปนี่เอง พ่อดอกมะลิ


บันทึกการเข้า
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 142  เมื่อ 18 ก.ค. 10, 13:54

เสรีไทยสายอเมริกา


บันทึกการเข้า
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 143  เมื่อ 18 ก.ค. 10, 13:54

เสรีไทยสายอังกฤษ


บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 144  เมื่อ 18 ก.ค. 10, 13:59

เพราะผู้ใหญ่ปราม  เด็กก็ต้องเงียบ   แต่ในความเงียบก็ไม่ได้แปลว่ายอมทำตาม  ต่างคนต่างก็ดิ้นรนหาทางตามความถนัดของตัวเอง  ทำงานเพื่อชาติบ้านเมือง  
คนไทยคนหนึ่งในอังกฤษ มีชื่อในขบวนการเสรีไทยในภายหลังว่า " อรุณ"  เขียนบันทึก เล่าไว้ว่า  ท่านเขียนจดหมายถึงนายกรัฐมนตรีอังกฤษโดยตรง   ขออาสาทำงานต่อต้านญี่ปุ่น
เชอร์ชิลล์ตอบรับมา   ขอให้ทำงานในกรมเสนาธิการข่าว ทำแผนที่ประเทศไทยและรวบรวมข่าวจากประเทศไทย แปลส่งให้อังกฤษ

ต่อมาพอรัฐบาลไทยประกาศสงครามกับอังกฤษ ในวันที่ ๒๕ มกราคม ๒๔๘๕  สถานการณ์ของคนไทยในอังกฤษก็ทรุดฮวบแทบจะโคม่า   เพราะกลายเป็นชนชาติปรปักษ์ของอังกฤษไปอย่างไม่รู้เนื้อรู้ตัว  
คุณพระมนูเวทฯ ทำตามคำสั่งของรัฐบาลอย่างเคร่งครัด คือสั่งให้นักเรียนไทยเดินทางกลับบ้าน   ใครไม่กลับก็โดนถอนสัญชาติเดี๋ยวนั้นเลย  ไม่รั้งรอ
แต่ก็มีคนไทยจำนวนหนึ่งใจเด็ดพอ  ถอนได้ถอนไป ไม่กลับซะอย่าง
ปัญหาคือคนไทยเหล่านี้จะจัดตั้งขบวนการไทยเพื่อต่อต้านญี่ปุ่นอย่างอเมริกาก็ไม่ได้  อังกฤษไม่ยอม   ถ้าจะไปรบกับญี่ปุ่นก็มีทางเดียวคือสมัครเข้าเป็นทหารในกองทัพอังกฤษ  มิฉะนั้นจะกลายเป็นฝ่ายพันธมิตรของศัตรู เรียกว่า Enemy aliens  ต้องรายงานตัวทุก ๑๕ วัน

ในตอนนี้เอง  หนุ่มนักเรียนอังกฤษบางคนก็ฮึดสู้  ออกโรงมาเป็นฝ่ายพันธมิตร คือ ดร.ป๋วย อึ๊งภากรณ์  ม.จ. การวิก จักรพันธุ์ และบุุคคลสำคัญยิ่งอีกคนหนึ่ง   คือท่านชิ้น ม.จ.ศุภสวัสดิ์วงสนิท   สวัสดิวัตน์  หรือผู้ใช้นามว่า "อรุณ"
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 145  เมื่อ 18 ก.ค. 10, 14:19

ขอแนะนำเสรีไทยบางท่านให้คนรุ่นลูกหลานรู้จักความกล้าหาญและเสียสละของท่านไว้
ท่านแรกคือ ม.จ. ศุภสวัสดิ์วงศ์สนิท หรือ "ท่านชิ้น"
ท่านชิ้น เป็นพระโอรสองค์ที่ 9 ในสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าสวัสดิโสภณ กรมพระสวัสดิวัดนวิศิษฎ์ กับหม่อมราชวงศ์เสงี่ยม สวัสดิวัตน์ (สนิทวงศ์)
กรมพระสวัสดิ์ฯ เป็นพระบิดาของสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินีในรัชกาลที่ ๗  ท่านชิ้นเป็นพระเชษฐาของสมเด็จพระนางรำไพฯ ท่านประสูติที่ประเทศอังกฤษ   เมื่อพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวและพระบรมราชินีเสด็จมาประทับที่อังกฤษ  ต่อมาสละราชสมบัติ ท่านชิ้นก็ทรงอยู่ที่อังกฤษ มิได้กลับสยาม

ท่านชิ้นเป็นผู้มีความสามารถ สามารถติดต่อกับระดับสูงของอังกฤษได้  แต่ความที่ท่านเป็น "เจ้า" และเป็นเจ้าที่ใกล้ชิดกับพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๗ ก็กลายเป็นอุปสรรคมิให้ท่านรับตำแหน่งหัวหน้าขบวนการกู้ชาติได้ในช่วงแรก      เพราะคนไทยบางคนก็แคลงใจในสถานภาพ"เจ้า"ของท่าน
แต่ต่อมา ดิฉันอ่านพบในหนังสือหลายเล่มว่า ท่านก็ได้เป็นหัวหน้าเสรีไทยในอังกฤษ  แต่เป็นตอนไหนยังไง ยังหาไม่เจอ

คนต่อมาที่พวกเราคงเคยได้ยินชื่อ โดยเฉพาะผู้จบจากรั้วเหลืองแดงลูกแม่โดม   คือดร.ป๋วย อึ๊งภากรณ์
ดร.ป๋วยเป็นนักเรียนทุนรัฐบาล  เข้าเรียนระดับปริญญาตรี สาขาวิชาเศรษฐศาสตร์และการคลัง ที่ London School of Economics & Political Science  ซึ่งเป็นคณะดังระเบิดทางเศรษฐศาสตร์  ของมหาวิทยาลัยลอนดอน
ดร.ป๋วยใช้เวลาสามปี สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี เป็นคนไทยคนเดียวที่สอบได้คะแนนสูงสุดเป็นอันดับหนึ่ง ในบรรดาเกียรตินิยมอันดับหนึ่งด้วยกันในปี พ.ศ. 2485 ได้เกรดเอแปดวิชา และเกรดบีหนึ่งวิชา

รูปข้างล่างรูปแรกคือท่านชิ้น รูปที่สองคือ ดร.ป๋วย





บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 146  เมื่อ 18 ก.ค. 10, 14:32

รัฐบาลสั่งให้คนไทยกลับบ้านให้หมด  ใครไม่กลับโดนถอนสัญชาติ   นักเรียนไทยบางคนก็ใจเด็ดไม่ยอมกลับ   ทั้งๆอยู่ในอังกฤษมีแต่อันตรายและลำบากลำบนทุกประการ
นักเรียนใจเด็ดมีจำนวน ๕๔ คน  แยกเป็นเจ้านาย ๗ พระองค์ คนไทย ๑ คน นักเรียนไทย ๓๙ คน   ในจำนวนนี้เข้าเป็นทหาร ๓๕ คน  ที่เหลือเป็นแนวหลัง ให้การสนับสนุนขบวนการเสรีไทย

จากนั้นก็อย่างที่รู้ๆกันคือเสรีไทยสายอังกฤษกับอเมริกาก็จับมือทำงานร่วมกัน    ลักลอบเข้ามาปฏิบัติงานในประเทศไทย   บางคนถูกจับได้ก็ตกไปอยู่ในอารักขาของอธิบดีตำรวจ  หนึ่งในนั้นคือดร.ป๋วย อึ๊งภากรณ์  ท่านตรวจสอบเอาขึ้นชั่ง ตวง วัดอยู่หลายเดือนจนตัดสินใจได้ว่าพวกนี้ทำเพื่อชาติ   ท่านก็เลยเข้าร่วมเป็นหัวหน้าเสรีไทยสายตำรวจในประเทศด้วย
จนไทยพ้นจากฐานะผู้แพ้สงครามมาได้

ปูพื้นมาพอสมควรแก่เวลาแล้ว  ขอกลับเข้าเรื่องพลต.อ. อดุล  คืนกระทู้ให้ท่านกูรูใหญ่กว่าตามเดิมละค่ะ  ขอบคุณ
บันทึกการเข้า
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 147  เมื่อ 18 ก.ค. 10, 16:24

เรื่องของเสรีไทยนั้น พล.ต.อ.อดุลให้การว่าตอนจับเชลยอังกฤษและอเมริกันตอนประกาศสงครามกับเขาแล้วนั้น นายปรีดีคงได้ดูแลอย่างดีและถือโอกาสปรับความเข้าใจว่าเราคล้ายกับถูกญี่ปุ่นบังคับ จำใจต้องปฏิบัติต่อเขาเช่นนี้ หวังว่าเขาจะนำข้อมูลข่าวสารนี้ไปบอกรัฐบาลของเขาด้วย หลังจากนั้นจะติดต่อสื่อสารกันอย่างไรไม่ทราบ แต่นายปรีดีได้ส่งนายจำกัด พลางกูรเดินทางไปเมืองจีน แต่ท่านผู้นี้ไปถึงแก่กรรมเสีย ต่อมาในปี2486 จึงได้จัดส่งนายสงวน ตุลารักษ์ซึ่งไปกันทั้งครอบครัว นายแดง คุณะดิลก นายวิบูลวงศ์ วิมลประภา นายกระจ่าง ตุลารักษ์ไปเมืองจีนอีก นายสงวนได้ปรับความเข้าใจกับรัฐบาลจีนที่จุงกิงเรียบร้อยแล้ว ก็เดินทางร่วมกับนายแดงไปสหรัฐอเมริกาและอังกฤษต่อไป แล้วจึงย้อนกลับมาประจำอยู่ที่แคนดี เพื่อร่วมมือกับบรรดานักเรียนไทยที่กำลังฝึกวิทยายุทธอยู่ที่นั่น



บันทึกการเข้า
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 148  เมื่อ 18 ก.ค. 10, 16:27

ในปีนั้น อังกฤษส่งลูกจีนเกิดในเมืองไทย4คนโดดร่มมาลงที่นครชัยศรี  ทั้งหมดถูกตำรวจยิงตายไป1 จับเป็นได้2 อีกคนหนึ่งหนีไปได้ ญี่ปุ่นรู้เข้าจะขอตัวไปสอบสวน ไทยไม่ยอมแต่จะมาร่วมสอบสวนด้วยก็เชิญ สุดท้ายญี่ปุ่นไม่ได้อะไร เสรีไทยสองคนนี้ตำรวจเอาไปเลี้ยงดูอย่างดี

ปลายปีนั้นอังกฤษส่งนักเรียนไทยมาโดดร่มลงอีก3คนในเขตอุทัยธานี-ชัยนาท  ตำรวจจับได้หมดทั้งนายป๋วย อึ้งภากรณ์ นายประทาน เปรมกมล นายเปรม บุรี พร้อมอาวุธ และเอกสารโคตลับ วิทยุสื่อสาร และอาหาร

พอพล.ต.อ.อดุลได้รับรายงานก็สั่งให้ลูกน้องนำตัวมาที่ตนโดยตรง แต่ญี่ปุ่นรู้ก่อน จึงต้องเปลี่ยนเอาไปตั้งข้อหาที่สันติบาล ทำทีว่าจะสอบสวนดำเนินคดีไม่ให้ญี่ปุ่นระแวง ระหว่างนั้นนายปรง พหูชนม์ปลัดจังหวัดมาหาแจ้งว่ามีราชการลับมาก เมื่อให้พบแล้วปลัดปรงบอกว่าพลร่มฝากหนังสือลับของลอร์ดหลุยส์ เมาท์แบตแต้นส์ ผู้สำเร็จราชการของอังกฤษในอินเดียมาให้นายปรีดี พนมยงค์ พล.ต.อ.อดุลกลัวว่าต่อไปเรื่องจับพลร่มได้จะรู้ไปถึงจอมพล ป. จึงได้คัดเลือกเอกสารที่จับได้ เอาที่ไม่สำคัญไปรายงานให้จอมพล ป.ทราบ จอมพล ป.ดูๆแล้วก็ไม่ค่อยจะสนใจ บอกเพียงว่าคงเป็นแค่อุบายให้ญี่ปุ่นระแวงไทย หรืออาจจะเข้ามาทำร้ายบุคคลสำคัญ เพื่อให้ตายใจพล.ต.อ.อดุลจึงให้ตำรวจที่ดูแลไปบอกให้พวกที่ถูกจับมาเขียนจดหมายถึงจอมพล ป. ใช้สรรพนามให้ถูกต้องกับวัธนธัมว่าเป็นลูกเต้าเหล่าใคร เรียนที่ไหน แล้วบอกว่ารัฐบาลอังกฤษให้ฉันหาทางมาติดต่อท่านผู้นำ จอมพล ป.อ่านแล้วก็ยิ้มออก หายระแวง

ผมขอเอาบางตอนจากคำไว้อาลัยที่ศาตราจารย์ ดร.ป๋วย อึ้งภากรณ์เขียนถึงพล.ต.อ.อดุลในตอนนี้มาลงไว้จะดีกว่า




บันทึกการเข้า
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 149  เมื่อ 18 ก.ค. 10, 16:28

.



บันทึกการเข้า
หน้า: 1 ... 8 9 [10] 11 12 ... 29
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.071 วินาที กับ 19 คำสั่ง