กลับมาที่คำให้การของท่านนายพลตาดุของเราดีกว่า คุณหมอ CVT ขยับมีดผ่าตัดมาหลายหนแล้ว
อาจารย์ครับ ผมเรียนด้านผ่าตัด
แต่การบ้านของอาจารย์มันต้องอาศัยจิตแพทย์ครับ
อาศัยความรู้วิชาจิตเวชที่เหลืออยู่เพียงน้อยนิดทั้งๆที่เมื่อประมาณ ๒๕ ปีที่แล้ว ทรานสคริปต์ผมมี A เพียงวิชาเดียวคือ จิตเวช

บุคลิกภาพของท่านผู้นำในยุคนั้น เป็นไปตามธรรมชาติของผู้ที่มีอำนาจ เมื่อเสวยอำนาจนานเข้าจะเกิด ๒ สิ่งตามมาคือ
๑.
Grandeur หรือ Grandiose Delusion คือการหลงผิดคิดว่าตนเองคือผู้ยิ่งใหญ่ เหนือกว่าคนทั้งปวง หรือบางคนถึงขั้นคิดว่าตนเองเป็นใครในอดีตกลับชาติมาเกิด กรณีท่านผู้นำนี้หลายท่านคงจะจำเหตุการณ์ที่ท่านยืนหันหลังให้หน้าต่างแล้วคุณหลวงท่านหนึ่ง(ที่ชอบแต่งประวัติศาสตร์และเพลงปลุกใจ) ก้้มลงกราบ แล้วบอกว่าเห็นแสงเฮ้ากวงออกมาจากตัวท่านผู้นำ เป็นที่ถูกอกถูกใจท่านผู้นำเป็นยิ่งนัก
๒.
Paranoia หรือ Paranoid Thinking คือความหวาดระแวง หวาดกลัวในสิ่งที่ตนมีความกังวลใจ กรณีของท่านผู้นำก็มาจากการที่ท่านมี Grandeur Delusion นำไปสู่ความวิตกกังวลว่าจะมีคนมาโค่นอำนาจท่าน จนกลายเป็นความหวาดระแวงหวาดกลัวไปหมด ใครที่คิดต่างจากท่านก็จะกลายเป็นศัตรูที่คอยจ้องโค่นอำนาจท่านทันที ต้องกำจัดให้พ้นวิถีทาง
ผมก็วิเคราะห์ได้แค่นีครับ
ส่วนของนายพลตาดุ หรือท่านอื่นๆ ผมเข้าใจว่าเป็นธรรมดาของคนเราที่รักมากย่อมผิดหวังมาก
เมื่อเพื่อนที่เคยรักกันมากเดินทางผิด และไม่ฟังคำตักเตือนของเพื่อน มิหนำซ้ำกล่าวหาว่าเพื่อนคิดร้าย
ย่อมสร้างความเจ็บช้ำน้ำใจให้หลวงอดุลเดชจรัสมาก จึงระบายออกมาด้วยคำให้การต่อศาล
ผมไปเจอเรื่องของนายวนิช ปานะนนท์ ที่ทำให้เกิดข้อสงสัย เดี๋ยวจะนำมาถามหาความรู้ต่อครับ