เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
    
ตอบ: 33477
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 585 เมื่อ 30 มิ.ย. 12, 11:43
|
|
โฆษณาเว็บเรือนไทย ไม่ผิดกฎค่ะ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
paganini
|
ความคิดเห็นที่ 586 เมื่อ 30 มิ.ย. 12, 11:47
|
|
ขอบพระคุณอีกครั้งครับท่าน อจ เทาชมพู
ผมเองก็ไม่ค่อยจะมีอะไรคุยหรอกครับ นอกจากเป็นนักเรียนขี้สงสัยถามคำถามอาจารย์ ถ้ายังงั้นก็พอได้ แต่ถ้าให้เอาความรู้มาช่วยเสริม ก็ต้องบอกว่ายังมีตุนไว้ในพุงน้อยอยู่เมื่อเทียบกับท่านทั้งหลายในเรือนไทยแห่งนี้
อ่านถึงเรื่องพระยาศรีสิทธิสงครม ดิ่น ท่าราบ ทำให้นึกถึงแพทย์หญิง โชติศรี ท่าราบ ใครรู้จักมั่งยกมือขึ้นนนนนนน
อิอิอิ ผมเดาว่าถ้าไม่ใช่คอเพลงคลาสสิคก็น่าจะรู้จักยากอยู่ แต่ถ้าเป็นนักฟังเพลงคลาสสิครุ่นใหญ่ๆหน่อย ต้องรู้จัก "จิ๋ว บางซื่อ" เป็นอย่างดีทุกท่าน
จิ๋ว บางซื่อ หรือ แพทย์หญิง โชติศรี ท่าราบเป็นบุตรสาวของพระยาศรีสิทธิสงครามผู้มีชะตากรรมอันน่าสลดนี่แหละครับ
จิ๋วบางซื่อ ท่านเขียนบทความเกี่ยวกับดนตรีคลาสสิคลงในนิตยสารกลางกรุงตั้งแต่เมื่อสี่สิบกว่าปีก่อน เขียนดี อ่านสนุกมาก ท่านเขียนโดยแทนตัวเองว่า "ผม" คนเลยเข้าใจว่าท่านเป็นผู้ชาย ผลงานเขียนของท่านเป็นอมตะ เพราะทราบว่าไม่นานมานี้ก็มีการพิมพ์รวมเล่มใหม่อีกครั้ง กลายเป็นคัมภีร์สำหรับผู้เริ่มฟังดนตรีคลาสสิคไปแล้ว และเป็นแรงบันดาลใจให้หลายๆคนรวมทั้งผมด้วย ติดตามฟังและชื่นชอบดนตรีคลาสสิคมาถึงทุกวันนี้ิ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
    
ตอบ: 33477
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 587 เมื่อ 30 มิ.ย. 12, 11:53
|
|
ขอออกนอกเรื่อง ไหนๆก็ไหนๆ คุณ paganini ไม่คิดจะถ่ายทอดความรู้เพลงคลาสสิคของคุณออกมาเล่าให้ชาวเรือนไทยฟังสักหน่อยหรือคะ อยู่ในห้องศิลปวัฒนธรรมได้เลย
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
paganini
|
ความคิดเห็นที่ 588 เมื่อ 30 มิ.ย. 12, 11:59
|
|
ฮ่าๆๆๆ คำถามนี้ของท่าน อจ เทาชมพู ก็ถือว่าเป็นสั่งการบ้านให้นักเรียนแล้วละครับ ผมขออนุญาตไปคิดก่อนว่าจะนำเสนอเรื่องอะไรดีนะครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
paganini
|
ความคิดเห็นที่ 589 เมื่อ 02 ก.ค. 12, 12:49
|
|
พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จสวรรคตโดยฉับพลันด้วยพระหทัยวาย เมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2484 ขณะที่มีพระชนมายุ 47 พรรษา
สมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินีทรงจัดการพระบรมศพเป็นการภายในโดยอัญเชิญพระบรมศพประดิษฐาน ณ พระตำหนักคอมพ์ตัน โดยรัฐบาลอังกฤษได้อนุญาตเป็นกรณีพิเศษในการประดิษฐานพระบรมศพเป็นเวลา 4 วันซึ่งตามปกติจะอนุญาตเพียงวันเดียว เพื่อให้ประยูรญาติที่อยู่ห่างไกลมาถวายบังคมลาเป็นครั้งสุดท้าย การจัดการพระบรมศพนั้นเป็นไปอย่างเงียบ ๆ โดยไม่มีการบำเพ็ญพระราชกุศลทรงพระพุทธศาสนาเพราะไม่มีพระสงฆ์ รวมทั้ง ไม่มีการพระราชพิธีอื่น ๆ ตามราชประเพณีด้วย
หลังจากตั้งพระบรมศพครบ 4 วันแล้ว พระบรมศพถูกอัญเชิญโดยรถบรรทุกไปยังสุสานโกลเดอร์ส กรีน (Golden green) อันเป็นสถานที่ถวายพระเพลิงพระบรมศพโดยใช้เตาแบบฝรั่ง ซึ่งการถวายพระเพลิงพระบรมศพเป็นไปอย่างเรียบง่าย โดยมีเพียงการกล่าวสุนทรพจน์โดยนายอาร์.ดี.เครก พระสหายชาวอังกฤษของพระองค์และมีการบรรเลงเพลงเมนเดลโซน ไวโอลิน คอนแชร์โต (Mendelssohn Violin Concerto) ซึ่งเป็นเพลงที่พระองค์โปรดเป็นพิเศษ ถวายเป็นครั้งสุดท้ายเท่านั้น
----------------------------------------------------------------------------------------------
เอาเกร็ดเล็กๆน้อยๆมาฝากครับ เพิ่งจะทราบว่าในหลวงรัชกาลที่เจ็ดทรงโปรด Mendelssohn Violin Concerto เป็นพิเศษ ซึ่งเป็นงานชิ้นที่โด่งดังมากๆในบรรดาคอเพลงคลาสสิคครับ ทุกวันนี้นักเรียนไวโอลินไหนๆก็ต้องผ่านคอนแชร์โต้อมตะบทนี้กันทั้งนั้น ลอง search หาฟังในยูทูปดูนะครับ ไม่แน่ใจว่าที่นี่วางลิ้งค์จากยูทูปได้หรือเปล่า แต่ลองดู
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
hobo
|
ความคิดเห็นที่ 590 เมื่อ 02 ก.ค. 12, 13:19
|
|
ถ้าไม่เป็นการละลาบละล้วงเสียมารยาทจนเกินไปมีท่านใดทราบบ้างครับว่า ในหลวงรัชกาลที่เจ็ดท่านประชวรด้วยโรคอะไร ผมสงสัยมานานแล้ว ทราบแต่ว่าทรงไม่แข็งแรงมาตั้งแต่ทรงพระเยาว์ ในจดหมายของหม่อมเจ้า จงจิตรถนอมถึงสมเด็จกรมพระยาดำรง ตอนที่ประทับอยู่ที่ปีนัง ท่านทรงไว้ ในจดหมายว่าเกือบสวรรคตที่อังกฤษตั้งสามครั้ง แต่หมอช่วยรักษาเอาไว้ได้ นั่งพิจารณาดูทั้งทางกายภาพ กับพระราชประวัติแล้วนึกไม่ออกจริงๆ ครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Wandee
|
ความคิดเห็นที่ 591 เมื่อ 02 ก.ค. 12, 16:15
|
|
มีหนังสือวางอยู่ข้างตัวพอดีค่ะ ขอเล่ารายละเอียดของเหตุการณ์วันที่ ๓๐ พฤษภาคม เพิ่มเติมตามบันทึึกของหม่อมเจ้าการวิก จักรพันธุ์ ดังนี้
"ช่วงนี้เอง พระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระอาการประชวรด้วยพระโรคพระหทัยพิการเพิ่มมากขึ้น ยิ่งย่างเข้าฤดูหนาวและอากาศชื้น
ทำให้พระอาการหอบยิ่งถี่ขึ้น ในที่สุดตัดสินพระราชหฤทัยเสด็จกลับมาประทับยังพระตำหนักคอมพ์ตันเฮาส์ เมื่อเสด็จกลับมาประทับที่พระตำหนักแล้ว
พระอาการทั่วไปก็ดีขึ้น ประจวบกับเป็นช่วงฤดูใบไม้ผลิ ดอกไม้ใบหญ้าเริ่มผลิใบอ่อนแตกยอดกันเขียวชอุ่ม อากาศสดชื่น ท้องฟ้าแจ่มใส
ปลอดโปร่ง อีกทั้งสภาวะสงครามดูจะเบาบางลงบ้าง นอกจากสภาพความเป็นอยู่ของคนอังกฤษที่ยังต้องประหยัด มีการแบ่งสันปันส่วน
อาหารกัน
วันที่ ๓๐ พฤษภาคม พระเจ้าอยู่หัวตื่นพระบรรมแต่เช้าตรู่ พระอาการทั่วไปดีมาก พระองค์ท่านมีรัสั่งกับสมเด็จพระบรมราชินีว่า "วันนี้ฉันรู้สึกสบายมาก ไปเก็บดอกไม้จากบ้าน (เวนคอร์ต)มาดูกันบ้างซิ"
ประมาณแปดนาฬิกา สมเด็จพระบรมราชินีจึงเสด็จฯ ออก โดยมีนายบวยเป็นคนขับรถ ตอนนั้นผมยังอยูที่ตำหนักหม่อมเจ้าศุภสวัสดิ์ฯ
พระเจ้าอยุ่หัวยังทรงฉลองพระองค์ชุดบรรทมเป็นสนับเพลาแพรและพระภูษาแขนยาว รับสั่งให้นางพยาบาลประจำพระองค์นำไข่ลวกนิ่ม ๆ มาถวาย
เสวยเสร็จรับสั่งว่า "อร่อย" และทรงขอพระเขนยมาหนุนพระหนุ(คาง) แล้วทรงหลับพระเนตรนิ่ง....ลึก....และยาวนาน
เกือบเก้านาฬิกา พระองค์เจ้าจิรศักดิ์ฯ ทรงโทรศัพท์ถึงผม ตรัสด้วยเสียงร้อนรนว่า
'รีบมาเถอะ ไม่ดีแล้ว' ผมตกใจรีบขึ้นรถขับมาทันที และพบนางพยาบาลบอกว่า สวรรคตแล้ว!
ช่วยไปตามพระราชินีที....
ระหว่างทางเจอตำรวจที่ไหนก็บอกให้เขาช่วยสกัดทาง ต่อมาก็สามารถสกัดรถนต์พระที่นั่งได้ครึ่งทางที่เมืองเมดสโตน
ความสับสนชุลมุนวุ่นวายของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ณ พระตำหนักในวันนั้น ผมรู้สึกว่าผ่านไปอย่างรวดเร็ว ท่ามกลางความโศกสลดของทุกพระองค์และทุกคน
ตลอดคืนวันนั้น ผมและพระองค์เจ้วรานนท์ธวัชซึ่งยังทรงศึกษาอยู่ที่ วิทยาลัย มาร์โบโร ได้เสด็จมายืนเฝ้าพระบรมศพในห้องบรรทมด้วยจวบจนรุ่งสาง
เมื่อทุกอย่างพร้อมแล้ว จึงอัญเชิญพระบรมศพในหีบไม้แปดเหลี่ยมแบบฝรั่งขึ้นรถสีดำคันใหญ่ ออกจากพระตำหนักไปยังสุสาน Golders green
ซึ่งอยู่ตอนเหนือของลอนดอนเพื่อถวายพระเพลิง สมเด็จพระราชินีซึ่งประทับทอดพระเนตรอยู่ที่พระแกล (หน้าต่าง) รับสั่งว่า
"เขาเอาไปแล้ว" พร้อมกับทรงกันแสง หลังจากที่ทรงอดกลั้นมาตลอด
หีบพระศพถูกอัญเชิญประดิษฐานไว้บนจิตกาธาน(เชิงตะกอน) ภายในโบสถ์เล็ก ๆ
ระหว่างนั้นพระองค์เจ้าวรานนท์ฯ ทรงรู้สึกเสียพระทัยอย่างยิ่ง ถึงกับทรงกันแสงด้วยเสียงอันดัง
ทำให้บรรยากาศในที่นั้นโศกเศร้าอย่างยิ่ง"
ได้อัญเชิญพระบรมอัฐิบรรจุลงในหีบสำริดทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า แล้วสมเด็จพระบรมราชินีอัญเชิญข้ึ้นรถพระที่นั่งเสด็จฯกลับพระตำหนัก
ประดิษฐานไว้ในห้องบรรทมเหนือพระเศียรของพระองค์ท่านตลอดมา ตราบจนกระทั่งถึงวันที่สมเด็จจพระบรมราชินีได้อัญเชิญเสด็จฯ
นิวัติกรุงเทพมหานคร ในยามที่เมืองไทยคลี่คลายจากเมฆหมอกร้ายต่าง ๆ ที่คอยคุกคามพระองค์ท่าน ในอีกราว ๘ ปีต่อมา ...."
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
hobo
|
ความคิดเห็นที่ 592 เมื่อ 02 ก.ค. 12, 16:30
|
|
ขอบพระคุณมากครับที่อุตสาห์พิมพ์ให้อ่าน
สรุปว่าท่านประชวนด้วยโรคพระหทัยพิการ (เข้าใจว่าอาจเป็นลิ้นหัวใจรั่ว หรืออื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับพระหทัยโดยตรง) ทีแรกผมเข้าใจผิดนึกว่าท่านทรงมีพยาธิสภาพอื่นๆ อยู่ก่อนแล้ว ต่อมาจึงเกิดพระหทัยวายในภายหลัง
ได้ข้อมูลชัดเจนแล้วครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
sonse
อสุรผัด

ตอบ: 1
|
ความคิดเห็นที่ 593 เมื่อ 02 ก.ค. 12, 16:58
|
|
ได้ความรู้มากเลยครับ ขอบคุณทุกท่านที่มาร่วมเสวนาในกระทู้นี้
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Wandee
|
ความคิดเห็นที่ 594 เมื่อ 03 ก.ค. 12, 00:11
|
|
เมื่อมีเอกสารและหลักฐานที่เชื่อถือได้ เรื่องไปหามาตอบนั้นเป็นเรื่องที่นักอ่านนักสะสมที่ดีนิยมกระทำ
เพราะในโลกของข้อมูลนี้ เราต้องอาศัยกันและกันมากนัก
ถึงข้อมูลจะยังไม่สมบูรณ์พร้อม เราก็จะค้นคว้าเรื่อยไปไม่หยุดหย่อน
บางครั้งมีการตีความไม่ถูกต้องเกิดขึ้น เราจะยินดียอมรับคำติงจากผู้รู้ทุกท่าน
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
NAVARAT.C
|
ความคิดเห็นที่ 595 เมื่อ 03 ก.ค. 12, 06:39
|
|
ที่คุณวันดีว่าข้างบนนี้ประเสริฐแท้
หนังสือเก่าคือขุมความรู้ที่ถูกขังอยู่ในตู้หนังสือของนักสะสม หากท่านไม่เอามาเผยแพร่ ความรู้นั้นก็ตายซาก
ผมได้รับความกรุณาจากคุณวันดีในเรื่องของหนังสือเก่าหลายต่อหลายครั้ง รวมทั้งความรู้ที่ท่านมีอุตสาหะพิมพ์ขึ้นมาด้วยตัวท่านเองเพื่อนำลงเน็ท เพื่อเผยแพร่อย่างกว้างขวางแก่ทุกคนไม่จำกัด ขอขอบพระคุณเป็นที่ยิ่งครับผม
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
NAVARAT.C
|
ความคิดเห็นที่ 596 เมื่อ 03 ก.ค. 12, 07:37
|
|
สำหรับคุณHobo
ขอแนะนำให้ไปหาศิลปวัฒนธรรม ฉบับวันที่๗พฤษภาคม๒๕๕๕อ่านะครับ มีบทความของผ.ศ.นายแพทย์เอกชัย โควาวิสารัชเขียนวิเคราะไว้อย่างละเอียดตั้งแต่ยังทรงพระเยาว์ สรุปแล้วคุณหมอฟันธงว่า สาเหตุของการสวรรคตเกิดจากภาวะหรือโรคทางระบบหัวใจ ชนิดการเต้นของหัวใจห้องล่างผิดปกติ โดยพระองค์อาจจะมีหรือไม่มีโรคหัวใจมาก่อนก็ได้
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
payupat
อสุรผัด

ตอบ: 1
|
ความคิดเห็นที่ 597 เมื่อ 30 ม.ค. 14, 13:36
|
|
สวัสดีครับนักเรียนใหม่รายงานตัวครับ มีคำถามสงสัยครับว่า หลังจากได้รับนิรโทษกรรมสมัย นายควง อภัยวงศ์ มีเจ้านายพระองค์ไหนกลับมาอยู่เมืองไทยบ้างครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
    
ตอบ: 33477
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 598 เมื่อ 30 ม.ค. 14, 14:03
|
|
ใครจะช่วยตอบให้คุณสมาชิกใหม่หายข้องใจได้บ้าง จำได้แต่ว่า พระองค์เจ้าบวรเดช เสด็จกลับมาประมาณพ.ศ. 2496
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
|