เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: 1 ... 32 33 [34] 35 36 ... 46
  พิมพ์  
อ่าน: 328820 ชะตากรรมของพระยาทรงสุรเดช หนึ่งในสี่ทหารเสือคณะราษฎร์
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 495  เมื่อ 12 ก.ค. 10, 22:47

ขอบคุณมากค่ะคุณหมอ CVT
มิเสียแรง  คืนนี้เซิฟเน็ตอยู่จนดึก  เลยได้รู้คำตอบก่อนใคร


บันทึกการเข้า
CVT
องคต
*****
ตอบ: 452


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 496  เมื่อ 12 ก.ค. 10, 22:56

เอาความรู้เพียงน้อยนิดมาเติมเต็มช่องว่างของกูรู
เป็นการตอบแทนกูรูทุกท่านครับ
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 497  เมื่อ 12 ก.ค. 10, 23:08

คำวินิจฉัยโรคของคุณหมอผู้เชี่ยวชาญ  CVT น่าจะมีผลต่อกระทู้นี้มากค่ะ   เพราะบัดนี้เราก็พอจะบอกได้ว่า ท่านไม่ได้ถูกวางยาพิษ  รอคุณนวรัตนมาต่อกระทู้ดีกว่า ว่าเรื่องจะเดินไปทางไหน  ดิฉันเองก็รอตอนต่อไปด้วยใจระทึก
บันทึกการเข้า
samun007
องคต
*****
ตอบ: 446


ความคิดเห็นที่ 498  เมื่อ 12 ก.ค. 10, 23:34

ระหว่างรอคุณหมอ CVT มาตรวจอาการพระยาทรงสุรเดช    ก็ขอเล่าถึงพลต.อ. อดุล อดุลเดชจรัสไปพลางๆ
เพิ่งรู้จากในเน็ตว่าท่านเป็นมุสลิม  และท่านเคยปกป้องพวกคาทอลิค ที่ถูกเบียดเบียนโดยทางราชการไทยในช่วง "รัฐนิยม"  แต่เจ้าของบทความไม่ได้ให้รายละเอียด  ว่าเบียดเบียนแบบไหนอย่างไร  

น่าจะคล้าย ๆ กับกรณี โบสถ์คริสต์ทั้งหลายโดนทำลายกระมังครับ แล้วเหลือรอดอยู่ที่โบสถ์แถว ๆ แปดริ้ว คนในชุมชนบอกว่า "พระแม่" มาปรากฏองค์เองพร้อมกระบี่ด้วยซ้ำ แถมยังอ้างอีกว่าคนพุทธอีกหลายคนก็เห็น

บันทึกการเข้า
samun007
องคต
*****
ตอบ: 446


ความคิดเห็นที่ 499  เมื่อ 12 ก.ค. 10, 23:40

ส่วนเรื่องการเสียชีวิตของพระยาทรงฯ ผมเห็นตามคุณหมอ CVT บ้านโป่ง ครับ เพราะ

๑..วิถีการดำเนินชีวิตของท่านเจ้าคุณ ย่อมต้องมีความเครียดเป็นปกติอยู่แล้ว ทั้งก่อนและหลัง ๒๔๗๕ และเป็นความเครียดสะสมเสียด้วย อาจจะทำให้เกิดโรคเกี่ยวกับหัวใจได้แน่นอน สมัยนี้ก็เห็นบายพาสกันบ่อย สำหรับพวกเครียดจัด ๆ

๒..วิถีการดำเนินชีวิตของท่าน ไม่น่าจะได้โอกาสออกกำลังกายเท่าไร แม้ช่วงบั้นปลายจะมาทำขนมขาย แต่ก็ต้องถือว่า "เบา" อยู่ดี ถ้าเทียบกับบรรดาลุงป้า พี่น้อง ทั้งหลายที่ทำงานด้านกสิกรรม หรือ เกษตรกรรมครับ ซึ่งถ้าลองไปดูการดำเนินชีวิตของคนที่ทำงานหนักมาตลอดชีวิต จะเห็นได้ว่าอายุระดับ ๕๐ ต้น ๆ นี้ยังถือว่า "หนุ่ม" อยู่เยอะครับ กระชับกระเชงสบาย ๆ
บันทึกการเข้า
CVT
องคต
*****
ตอบ: 452


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 500  เมื่อ 12 ก.ค. 10, 23:48

ส่วนเรื่องการเสียชีวิตของพระยาทรงฯ ผมเห็นตามคุณหมอ CVT บ้านโป่ง ครับ 

รู้จัก CVTบ้านโป่ง ด้วย  ยิงฟันยิ้ม
บันทึกการเข้า
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 501  เมื่อ 13 ก.ค. 10, 06:02

ขอบพระคุณ คุณหมอCVTบ้านโป่งเป็นอย่างยิ่งครับ

ดีใจแทนท่านอาจารย์เทาชมพู เจ้าของบ้าน "เรือนไทย" ที่เป็นเวทีฟอกประวัติศาสตร์อันมอมแมมให้สะอาด

ดีใจให้กับตนเองที่ตั้งกระทู้นี้มาเขียน คนท่องเวปทั้งหลายซึ่งจะเห็นแต่ข้อความที่ลอกๆต่อๆกันดังเช่นข้างนี้

นายทหารไทยคนหนึ่งอ้างว่า ไปศึกษาที่ญี่ปุ่นก่อนกลับไทยเลยแวะมาเยี่ยม แล้ววางยาพิษพระยาทรงฯตายด้วยความทรมานอนาถา และจัดทำพิธีศพเยี่ยงคนไร้ญาติ โดยถึงแก่อนิจกรรมลงในปี พ.ศ. 2487 ที่ตำหนักร้างในกรุงพนมเปญ
ซึ่งแพทย์ลงความเห็นว่าเสียชีวิตด้วยอาการโลหิตเป็นพิษ ทส.พระยาทรงเขียนไว้ให้แปลความระหว่างบันทัด โดยตั้งข้อสงสัยไปในทำนองว่า ปฏิปักษ์ทางการเมืองคือจอมพลป.อาจจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับความตาย


ต่อไปนี้จะปรากฏข้อเท็จจริงที่หักล้างความเข้าใจเดิมๆด้วยเหตุผลทางการแพทย์ที่ปราศจากอคติ
บันทึกการเข้า
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 502  เมื่อ 13 ก.ค. 10, 06:07

จอมพล ป. ท่านคงดีใจที่ไม่ต้องเป็นนาย ก
ท่านปรีดี ไม่ต้องเป็นนาย ข
และพล.ต.อ.อดุล ไม่ต้องเป็นนาย ค

ทุกคนเป็นอิสสระต่อข้อกล่าวหาผู้อยู่เบื้องหลังฆาตกร
บันทึกการเข้า
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 503  เมื่อ 13 ก.ค. 10, 06:40

พระยาทรงสุรเดชท่านเริ่มต้นชีวิตเยี่ยงเทพ เป็นนักเรียนนายร้อยเยอรมันยุคไกเซอร์ เป็นนายทหารดาวรุ่งพุ่งแรงสู่ระดับผู้บังคับบัญชาชั้นสูงแต่วัยหนุ่ม เป็นครูบาอาจารย์ของทหารไทยค่อนกองทัพ เป็นผู้วางแผนปฏิวัติที่ไม่มีใครในโลกนี้สามารถเลียนแบบหรือแม้เพียงกล้าที่จะคิด เป็นผู้นำระบอบประชาธิปไตยมาสู่เมืองไทย เป็นผู้ชนะ..ที่ไม่นานก็เริ่มปรากฏความเป็นผู้แพ้ เป็นเหยื่อทางการเมืองของเผด็จการที่มาจากการเลือกตั้งในระบอบประชาธิปไตยที่ท่านเป็นผู้ก่อการนำมา

ชีวิตขาลงท่านอาภัพอับโชค ที่สุดของมันนั้นคือการเสียชีวิตด้วยโรคปัจจุบันในระยะเวลาอันสั้น ก่อนที่จะมีโอกาสกลับเมืองไทยตามพระราชกำหนดนิรโทษกรรมนักโทษการเมืองของรัฐบาลประชาธิปไตย อดีตนักโทษการเมืองหลายคนได้รับการเลือกจากประชาชนให้เข้าไปทำหน้าที่ในสภา และร่วมคณะรัฐมนตรีใหม่เป็นทิวแถว เพื่อนผู้ก่อการระดับนั่งเก้าอี้สี่ตัวหน้า ที่ต้องไประหกระเหินในเมืองนอกเช่นเดียวท่านได้รับเกียรติอันนั้น แต่ท่าน..เกียรติที่ได้รับ เพียงอัฐิถูกนำไปบรรจุอย่างถูกที่ถูกทางในอนุสรณเจดีย์ของผู้ร่วมก่อการ 2475 เคียงข้างผู้ร่วมอุดมการณ์ปฏิวัติทุกคน


บันทึกการเข้า
CVT
องคต
*****
ตอบ: 452


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 504  เมื่อ 13 ก.ค. 10, 06:59

ต่อไปนี้จะปรากฏข้อเท็จจริงที่หักล้างความเข้าใจเดิมๆด้วยเหตุผลทางการแพทย์ที่ปราศจากอคติ

เราผ่านเรื่องราวที่เอาความไม่รู้ไม่เข้าใจของธรรมชาติของโรคบางอย่างมาเป็นข้ออ้าง หรือมาเป็นข่าวลือมากมาย
ที่โด่งดัง เช่น กรณีทิวงคตของเจ้าฟ้าฯกรมหลวงพิษณุโลกประชานาถ
บันทึกการเข้า
samun007
องคต
*****
ตอบ: 446


ความคิดเห็นที่ 505  เมื่อ 13 ก.ค. 10, 08:18

ส่วนเรื่องการเสียชีวิตของพระยาทรงฯ ผมเห็นตามคุณหมอ CVT บ้านโป่ง ครับ 

รู้จัก CVTบ้านโป่ง ด้วย  ยิงฟันยิ้ม

ฮิ ๆ ๆ ที่ผมพอจะจำได้ ก็เพราะนามปากกาเดิมยังอยู่ครับ ตัดแต่ท่อนท้ายออกไป ในบอร์ดเรือนไทยนี่ ส่วนใหญ่ก็จะเล่นกันอยู่ในพันทิพย์ด้วยอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นก็เป็นผู้คุ้นเคยกันมาเป็นอย่างดีครับ
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 506  เมื่อ 13 ก.ค. 10, 09:05

ในที่สุดกระทู้นี้ก็เดินมาถึงตอนจบได้ ด้วยความเป็นสุขใจของคนหลายคน   
-คุณนวรัตนเป็นสุขที่ตั้งกระทู้นี้  ค้นคว้ามาเขียนจนเห็นภาพประวัติศาสตร์ตั้งแต่ ๒๔๗๕ จน ๒๔๘๗ ชัดเจนขึ้น  จนทำให้อนิจกรรมอันคลุมเครือของพระยาทรงสุรเดช พ้นจากคำเล่าลือด้วยความเข้าใจผิดได้
- ดิฉันก็เป็นสุข ที่ไม่ต้องทิ้งงานประจำมาปั่นกระทู้ให้ได้ ๕๐๐ ตามเป้าหมาย    กลับไปทำงานวิชาการที่ค้างอยู่ได้เสียที
- คุณหมอ CVT ก็คงเป็นสุขที่ได้ตรวจพบอาการโรคแท้จริงของพระยาทรงสุรเดช   หลังจากวางมือรักษาพยาบาลไป ๕ ปี
- คุณสมัน ๐๐๗ คงเป็นสุขที่ได้มาร่วมแจมความคิดเห็นต่างๆทางการทหาร ที่หาได้ยากมาก  นับเป็นเกียรติแก่เรือนไทย
- คุณม้า เป็นสุขที่แวะมาร่วมวิเคราะห์ด้วยเท่าที่จะหาเวลาได้
- คุณ ptbt และคุณย่านางก็จะได้โล่งอกที่จะละหน้าจอ  ไปทำอะไรต่อมิอะไรได้บ้าง   
- คุณ dotdotdot ได้ไม่ต้องคอยถอดรหัสอีกต่อไป
- คุณเพ็ญชมพูไม่ต้องโดนหาข้อมูลอีกต่อไป
ท่านอื่นๆที่ติดตามอยู่ก็คงสบายใจ  ที่ได้อ่านมหากาพย์ ที่ยากจะหาอ่านที่ไหนได้  ตั้งแต่ต้นจนจบ     พร้อมกันนั้น ก็จะได้เริ่มเฮไปติดตามกระทู้ใหม่กัน อย่างไม่ยอมพลาด

พิมพ์มาถึงตรงนี้เห็นกระทู้ใหม่ของท่านกูรูใหญ่กว่าเข้า   ก็รู้ว่างานวิชาการเห็นจะต้องค้างเติ่งต่อไปเสียแล้ว ยิ้ม


บันทึกการเข้า
proudtobethai
มัจฉานุ
**
ตอบ: 79


ความคิดเห็นที่ 507  เมื่อ 13 ก.ค. 10, 09:46

 ยิ้ม ขอบพระคุณอาจารย์ทุกๆท่านนะคะ

นักเรียนคนนี้นั่งหน้าห้องบ้าง หลังห้องบ้าง ศึกษาประวัติศาสตร์ของบ้านเมืองเราในกระทู้นี้ ด้วยความสนุกในการอ่าน
เพราะแต่ละท่านเขียนเล่าได้สนุกมากค่ะ มีบ้างที่ งง ต้องอ่านซ้ำ เพราะเรื่องมันหนัก  แต่ก็พยายามทำความเข้าใจไป
เรื่องราวแบบนี้ จะทิ้งไปไม่เข้าเรียนได้ยังไง จริงไหมคะ

รอติดตามเรื่องอื่นๆอีกนะคะ  ยิงฟันยิ้ม
บันทึกการเข้า
prickly heat
อสุรผัด
*
ตอบ: 22


ความคิดเห็นที่ 508  เมื่อ 13 ก.ค. 10, 15:40

ได้ติดตามอ่านจนจบเสียที.....เรื่องจริงนี่บางครั้งยิ่งกว่านิยายเลยครับ....

ขอบพระคุณอาจารย์ทุกๆท่านครับ.....
บันทึกการเข้า
V_Mee
สุครีพ
******
ตอบ: 1436


ความคิดเห็นที่ 509  เมื่อ 13 ก.ค. 10, 19:07

อ้านเรื่องสี่ทหารเสือแล้ว  มีข้อที่น่าสังเกตที่อยากจะฝากไว้ในกระทู้นี้ คือ เมื่อเริ่มปรับปรุงกองทัพบกในสมัยรัชกาลที่ ๕ นั้น  นักเรียนไทยได้ไปเรียนที่โรงเรียนนายร้อยเยอรมัน  ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นกองทัพที่เคร่งครัดในระเบียบวินัยที่สุดในโลก  เคร่งถึงขนาดที่ว่า นายทหารทุกคนแม้อยู่ในบ้านยังต้องแต่งเครื่องแบบทหาร  แต่น่าแปลกที่ผู้บังคับบัญชาชั้นสูงในช่วงรัชกาลที่ ๕ จนถึงรัชกาลที่ ๖  นักเรียนนายร้อยเยอรมันแทบไม่มีบทบาทในกองทัพเลย  เริ่มจากกรมหลวงนครไชยศรีสุรเดช ผู้บัญชาการกรมยุทธนาธิการและเสนาบดีกระทรวงกลาโหม เป็นนักเรียนนายร้อยเดนมาร์ค  เมื่อเสด็จในกรมสิ้นพระชนม์ลง  ตำแหน่งเสนาบดีกลาโหมตกอยู่แก่ เจ้าพระยาบดินทรเดชานุชิต (ม.ร.ว.อรุณ  ฉัตรกุล) ผู้ที่ไต่เต้ามาจากพลทหาร  เมื่อเจ้าพระยาบดินทรฯ อสัญกรรมลง  เสนาบดีคนถัดมา คือ เจ้าพระยาบดินทรเดชานุชิต (แย้ม  ณ นคร) ผู้จบจากโรงเรียนนายร้อยทหารบก  ส่วนตำแหน่งเสนาธิการทหารบกนั้นตกแก่ สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมหลวงพิษณุโลกประชานาถ นักเรียนนายี้อยรัสเซีย  เมื่อทูลกระหม่อมจักรพงษ์ ทิวงคตแล้ว  ล้นเกล้าฯ  รัชกาลที่ ๖ จึงทรงย้ายทูลกระหม่อมบริพัตร สมเด็จเจ้าฟ้ากรมพระนครสวรรค์วรพินิต จากเสนาบดีทหารเรือมาเป็นเสนาธิการทหารบกซึ่งปัจจุบันคือ ผู้บัญชาการทหารบก  นับเป็นครั้งแรกที่นักเรียนนายร้อยเยอรมันเริ่มมีบทบาทในกองทัพ

ถึงสมัยรัชกาลที่ ๗ ทูลกระหม่อมบริพัตรย้ายไปเป็นเสนาบดีกลาโหม  แล้วย้ายไปเป็นเสนาบดีมหาดไทย  โดยมีพระองค์เจ้าบวรเดช นักเรียนนายร้อยเยอรมัยมาเป็นเสนาบดีกลาโหมแทน  ในช่วงรัชกาลที่ ๗ นี้เองที่นักเรียนนายร้อยเยอรมันเริ่มมีบทบาทในกองทัพมากขึ้น  จนสี่ทหารเสือก่อการเปลี่ยนแปลงการปกครอง  และนักเรียนนายร้อยเยอรมันก็มาห้ำหั่นกันในกบฏบวรเดช  จนถูกตา ป. คว้าพุงปลาไปกิน
บันทึกการเข้า
หน้า: 1 ... 32 33 [34] 35 36 ... 46
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.054 วินาที กับ 19 คำสั่ง