ในที่สุดวันตัดสินโชคชะตาของท่านก็มาถึง ล่าช้าประมาณเดือนหนึ่งจากกำหนดเดิม ตำรวจญวนมารับที่บ้าน บอกนายฝรั่งขอเชิญไปพบ ผู้บัญชาการตำรวจอินโดจีนแจ้งท่านว่า ปารีสให้คำตอบมาแล้ว พระยาทรงสุรเดชได้รับเกียรติให้อยู่ในไซ่ง่อนต่อไปโดยไม่มีกำหนด
ที่พระยาทรงได้รับคำตอบเช่นนั้น เหตุผลจริงๆแล้วขณะดังกล่าวเหตุการณ์กำลังตึงเครียดหนักในยุโรป สงครามใกล้ระเบิดในนาทีใดนาทีหนึ่ง ในปารีสไม่มีเรื่องอะไรสำคัญเท่ากองทัพของฮิตเลอร์ที่เคลื่อนไหวอยู่ในแนวชายแดนเยอรมันก็จริง แต่หันกระบอกปืนไปยังประเทศเพื่อนบ้าน เรื่องของพระยาทรงกระจี๊ดดดเดียว ตัดบทได้จึงตัดบทไป
ท่านผู้อ่านต้องใจเย็นกับผมสักนิดนะครับ ตั้งใจจะเขียนเรื่องจากเนื้อหาในพ็อกเก็ตบุ๊กเล่มเดียว ที่ร.อ.สำรวจ กาญจนสิทธิ์เขียนไว้เพียง280หน้า แต่ทำให้ผมต้องไปค้นข้อมูลเพิ่มในหนังสืออีกหลายเล่ม อะไรที่ผมสงสัยก็ไม่อยากทิ้งไว้ให้ท่านผู้อ่านสับสนต่อ วันนี้ครึ้มอกครึ้มใจเลยเอาภาพที่ผมเอาตั้งหนังสือประกอบการเขียนเรื่องนี้มาวางเรียงแล้วถ่ายรูปให้ดู ที่เห็นนี่ยังไม่ครบด้วยซ้ำ ไม่นับที่ค้นจากเวปอีก เรื่องที่ร.อ.สำรวจท่านเขียน ผมก็ต้องตีความตัดความย่อความขยายความ ตอนนี้กำลังจะเข้าเรื่องสงครามอินโดจีนและสงครามมหาเอเซียบูรพาที่เกี่ยวกับเมืองไทยและท้องเรื่องผูกไปถึง ผมอยากจะทิ้งความรู้ไว้ให้เยาวชนที่เข้ามาอ่านเรื่องที่ไม่ได้สักแต่ว่ามั่วมา มันคงจะมีประโยขน์บ้างหรอก ประวัติศาสตร์นี่น่ะ
สัปดาห์นี้(เริ่มต้นจากเมือวาน)ผมจะต้องไปวัดทุกคืนเพื่อแสดงความรำลึกเป็นครั้งสุดท้ายต่อน้าผู้หญิงที่ผมรักมากผู้เพิ่งได้จากไป ลูกชายสองคนของน้าก็เหมือนพี่ชายแท้ๆของผม ดังนั้นเรื่องที่กำลังเขียนจึงช้าลงไปอีก ต้องให้เวลากับผมนิดนึงนะครับ