เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
    
ตอบ: 33424
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 60 เมื่อ 01 ก.ค. 10, 16:00
|
|
ยังไม่ทันเล่าถึง อนังคราคา ต่อ เจอค.ห.คุณวันดีเรื่องทินมาลี ก็ถูกใจ จำกลอนบทนี้ ได้ไหมคะ
ไฟแรงแสงร้อนล้ำ ย่อมแพ้น้ำเป็นนิจมา เหล็กแข็งและแกร่งกล้า ยังพาอ่อนเมื่อร้อนไฟ ลมโบกสะบัดแรง ต้นไม้แข็งย่อมโค่นไป ชายเรืองฤทธิไกร ย่อมจะพ่ายอิสตรี
ก็เจ้าหญิง นอกจากโฉมงาม ยังเก่งจิตวิทยาจะตายไป นิทานแต่ละเรื่องที่มาพร้อมกับดอกไม้ประจำวัน กล่อมพระราชาให้เห็นความดีของผู้หญิงทั้งนั้นเลย
กระทู้นี้จำต้องถูกแช่แข็งไว้พักหนึ่ง เพราะหาหนังสือตอน "อนังคราคา" ไม่เจออีกแล้ว ในกองหนังสือ เจอแต่เล่มที่ไม่ต้องการ อีก ๒ เล่ม (ตามหลักของเมอร์ฟี่)* เลยขอนำบางตอนจาก ขุมความเท็จ มาแก้ตัวสำหรับผู้เปิดเข้ามาอ่านค่ะ
" ถ้ารักอีกเพศหนึ่งละก็ รักเพราะมีบางสิ่งควรให้อภัย เพราะไม่มีอะไรจะเพิ่มความปฏิพัทธ์ได้มากเท่าการให้อภัยผู้ถูกปฏิพัทธ์ และเครื่องทดลองความรักก็มีอยู่แต่เพียงสองเท่านั้น คือ อำนาจแห่งความรำลึกได้ กับสมรรถภาพที่จะให้อภัย เพราะรักลวงนั้นลืมเร็ว แลไม่อาจให้อภัยเลย แต่รักที่เป็นความรักแท้นั้นให้อภัยได้เสมอ แลไม่ลืมเลย"
* หลักของเมอร์ฟี่ หรือ Murphy's Law หมายถึงอะไรที่มันไม่น่าเกิด ก็เจ้ากรรมดันมาเกิด ราวกับแกล้ง เช่น ถ้าขับรถเปลี่ยนเลนเมื่อไร เลนที่เราเลือกมักจะติดไม่ขยับ มากกว่าเลนเดิม ถ้าเอาร่มไปด้วย ฝนไม่ตก วันไหนไม่เอาร่มไป ฝนจะตก เสื้อตัวสำคัญพอจะต้องใส่ เกิดเอาไปซัก ยังไม่แห้ง ฯลฯ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
rin
อสุรผัด

ตอบ: 8
|
ความคิดเห็นที่ 61 เมื่อ 06 ก.ค. 10, 14:40
|
|
อนังคราคาเป็นเรื่องที่เจ้าหญิงจะตอบปัญหาที่เจ้าชายจากต่างเมืองที่ต้องการแต่งงานกับนางตั้งคำถามขึ้นจากนิทานที่เจ้าชายเป็นฝ่ายเล่าเล่า หากเจ้าหญิงตอบได้ทุกคำถามจนครบจำนวนวันที่กำหนด เจ้าชายจะถูกประหาร แต่หากเจ้าหญิงตอบไม่ได้ก็จะยอมแต่งงานด้วย ตอนจบของเรื่องพระราชาสามารถถามปัญหาที่เจ้าหญิงตอบไม่ได้ คือถามว่าพระราชาเล่านิทานว่ามีเจ้าหญิงงามองค์หนึ่งมีปัญญามาก ชายใดที่หวังจะแต่งงานด้วยต้องเล่านิทานและตั้งคำถามที่เจ้าหญิงตอบไม่ได้เธอจึงจะยอมแต่งงานด้วย แต่ที่ผ่านมาไม่มีชายใดสามารถตั้งคำถามที่เจ้าหญิงตอบไม่ได้เลยสักคนเดียวเพราะเธอตอบได้หมดและทุกชายก็ถูกประหารชีวิต พระราชาจึงถามเจ้าหญิงว่าควรถามคำถามอะไรเจ้าหญิงจึงจะตอบไม่ได้ คราวนี้เจ้าหญิงเป็นฝ่ายแพ้เพราะตอบไม่ได้จึงยอมแต่งงานด้วย แต่เมื่อทั้งคู่กำลังเดินทางกลับบ้านเมืองของพระราชาเพื่อไปแต่งงาน มีความสุขมากจนรู้สึกว่าไม่อยากให้เวลาล่วงผ่านไป ร่างกายของทั้งคู่กับถูกเผาผลาญด้วยไฟจากแสงตาที่สามของพระศิวะจนมอดไหม้ จบเรื่องค่ะ่
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
    
ตอบ: 33424
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 62 เมื่อ 29 ส.ค. 10, 11:14
|
|
ดึงกระทู้ขึ้นมา พลางๆก่อน นิทานซ้อนนิทานในอนังคราคา ล้วนแต่เป็นนิทานเชิงปรัชญา แฝงข้อคิดคติธรรม เรื่องหนึ่งที่น่าสนใจจะเล่าสู่กันฟัง คือ เรื่องที่ ๓ ยุวราชา เรื่องมีอยู่ว่าพระราชาสิ้นพระชนม์ไปขณะพระโอรสยังเป็นทารก พระอนุชาประสงค์จะได้ราชบัลลังก์เอง ก็คิดว่าจะกำจัดพระราชาน้อย ซึ่งคงทำได้ไม่ยากอะไร เพราะอีกฝ่ายเป็นแค่ทารกยังไม่รู้ความ แต่หาทางครั้งแล้วครั้งเล่า ก็กำจัดไม่ได้ ครั้งแรกไปจ้างโจรมาจากต่างเมือง โจรลอบเข้าไปในวัง เห็นทารกน้อยเล่นผลไม้อยู่ก็นึกเอ็นดู ทารกเล่นด้วยก็เล่นกันง่วนอยู่ จนมหาดเล็กมาเห็น โจรอ้างว่ามีพระราชสาส์นมาถวายพระราชา มหาดเล็กก็ตอบว่าพระราชาองค์เดิมสิ้นพระชนม์ไปแล้ว มีแต่พระราชาองค์ใหม่คือทารกน้อย โจรรู้ว่าตัวเองถูกจ้างมาให้ฆ่าเด็ก ก็ทำไม่ลง ก็ขอถอนตัวไป เป็นอันว่าล้มเหลวไปหนหนึ่ง หนที่สองพระเจ้าอาจ้างโจรทั้งกลุ่มมาดักฆ่าทั้งขบวนเสด็จของพระราชาน้อย มีหนีรอดไปได้คนหนึ่ง โจรเห็นทารกไร้เดียงสาก็เลยไม่ฆ่า มหาดเล็กที่หนีไปได้ย้อนกลับมาอุ้มทารกเดินทางต่อไป ผ่านด่านโจร โจรเข้าใจว่าเป็นขอทานเข็ญใจก็ปล่อยให้ผ่าน หนที่สาม พระเจ้าอาวางยาพิษในนม แต่พระราชาน้อยทำถ้วยนมหล่นแตก ก็เลยรอดไปได้ ส่วนพระเจ้าอาก็กรรมสนองกรรม ถูกคนอื่นฆ่าตายในที่สุด
รศโกศถามว่า ทำไมพระเจ้าอาจึงพ่ายแพ้หลาน ทั้งๆหลานก็เป็นทารกไร้ทางสู้รบด้วย นางอนังคราคาตอบเป็นคติว่า " ความเป็นทารกนั้นเอง ทำความพ่ายให้พระเจ้าอา เปรียบเหมือนแก้วที่วางไว้เปิดเผยบนพื้นดิน ย่อมปราศภัยกว่ามณีมีค่าที่เก็บงำไว้ในกรงเหล็กอันมั่นคงแข็งแรง เพราะแก้วไม่มีราคา ไม่มีความเร้าใจคน ข้อนี้มีอุปมาฉันใด บุคคลอ่อนแอมีความอ่อนแอของเขาป้องกันอยู่ จึงไม่มีอะไรทำอันตรายร้ายแรงเท่าผู้เข้มแข็งที่มีศัตรูมาก แม้ป้องกันด้วยพลตั้งพัน ก็มีอุปไมยฉันนั้น ไม่มียาพิษใดดีเมื่อไม่มีพิษ ไม่มีเกียรติใดดีเมื่อไม่มีคุณ ไม่มีป้อมใดดีเมื่อไม่มีปัจจนึก ไม่มีการป้องกันใดดี เหมือนความอ่อนแอของทารก เพราะบัวโรยนั้นมีศัตรูที่ไหน
เดี๋ยวจะหาฉบับภาษาอังกฤษมาเทียบค่ะ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
    
ตอบ: 33424
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 63 เมื่อ 29 ส.ค. 10, 13:02
|
|
เทียบกันทีละประโยค
It was its very childhood that baffled him. ความเป็นทารกนั้นเอง ทำความพ่ายให้พระเจ้าอา For just as a stone, lying openly on the ground, เปรียบเหมือนแก้วที่วางไว้เปิดเผยบนพื้นดิน is more secure than a costly jewel, though protected by adamantine bars, because it is worthless and arouses no cupidity ; ย่อมปราศภัยกว่ามณีมีค่าที่เก็บงำไว้ในกรงเหล็กอันมั่นคงแข็งแรง เพราะแก้วไม่มีราคา ไม่มีความเร้าใจคน so is a thing so feeble that none would attack it more powerfully protected by its very feebleness than strength possessed of many enemies though defended by a thousand guards. ข้อนี้มีอุปมาฉันใด บุคคลอ่อนแอมีความอ่อนแอของเขาป้องกันอยู่ จึงไม่มีอะไรทำอันตรายร้ายแรงเท่าผู้เข้มแข็งที่มีศัตรูมาก แม้ป้องกันด้วยพลตั้งพัน ก็มีอุปไมยฉันนั้น No antidote so good as the absence of poison; ไม่มียาพิษใดดีเมื่อไม่มีพิษ no fortification so good as the absence of enemies; ไม่มีป้อมใดดีเมื่อไม่มีปัจจนึก no virtue so good as the absence of beauty; ไม่มีเกียรติใดดีเมื่อไม่มีคุณ and no guard so potent as the helplessness of a child. ไม่มีการป้องกันใดดี เหมือนความอ่อนแอของทารก For where are the enemies of the fragile lotus ? เพราะบัวโรยนั้นมีศัตรูที่ไหน
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Wandee
|
ความคิดเห็นที่ 64 เมื่อ 29 ส.ค. 10, 14:55
|
|
ขอบพระคุณค่ะ ตั้งใจอ่าน
เข้าใจที่ ท่านแปล the fragile lotus และ the absence of enemies
ไม่ค่อยเข้าใจ the absence of beauty ค่ะ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
    
ตอบ: 33424
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 65 เมื่อ 29 ส.ค. 10, 16:04
|
|
ดิฉันก็กำลังรอผู้รู้มาอธิบายเหมือนกันค่ะ
no virtue so good as the absence of beauty; ไม่มีเกียรติใดดีเมื่อไม่มีคุณ
ดิฉันแปลว่า ไม่มีคุณธรรมใดดี (สำหรับสตรี) เท่ากับไร้ความยวนตา แปลไทยเป็นไทยคือผู้หญิงสวยมักรักษาตัวให้ดีงามได้ยาก ถ้าไม่สวยเสียอย่าง จะทำตัวให้ดีก็ง่ายกว่า คำว่า virtue อาจหมายถึงความบริสุทธิ์ผุดผ่อง ไร้มลทิน ก็ได้ ถ้าโยงกับคำว่า beauty ก็อาจแปลได้อีกทางว่า ไม่มีพรหมจรรย์ใด(จะรักษาได้) ดีเท่ากับไร้ความยวนตา
ส่วน fragile แปลว่าบอบบาง ไม่ได้แปลว่าโรย แต่คุณหลวงท่านแปลว่า บัวโรย ก็เลยตีความไปคนละทาง ของท่านหมายความว่า บัวโรยย่อมไม่มีใครมาเด็ด ก็คือปลอดภัยอยู่ในบึง แต่ดิฉันแปลว่าดอกบัวเป็นพืชที่กลีบบางน่าทะนุถนอม ก็เลยไม่มีใครมาถากถางอย่างที่จะทำ ถ้ามันแข็งกระด้างอย่างพงหนาม
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
    
ตอบ: 33424
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 66 เมื่อ 03 ก.ย. 10, 12:31
|
|
For just as a stone, lying openly on the ground, เปรียบเหมือนแก้วที่วางไว้เปิดเผยบนพื้นดิน
ท่านแสงทองแปล stone ว่าแก้ว ท่านคงหมายถึง precious stone หรือ gems แต่ดิฉันแปลว่า ก้อนหิน หรืออาจจะหมายถึงกรวดก็ได้ เพราะมีคำขยายว่า because it is worthless and arouses no cupidity ; ถ้าเป็นแก้ว น่าจะมีราคา ขอแค่นี้ก่อน จะรีบส่งข้อความ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|