เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: 1 ... 4 5 [6] 7 8
  พิมพ์  
อ่าน: 34593 มองมาเลย์ แล้วเหล่ดูไทย
srisiam
สุครีพ
******
ตอบ: 857


ความคิดเห็นที่ 75  เมื่อ 14 มิ.ย. 10, 09:24

ขอบพระคุณอ.เทาชมพูมากครับ


นึกไม่ถึงว่าโรคระบาดแยกสีเหลืองแดง จะลามไปถึงทุเรียนมาเลย์...

น่าตัดต่อพันธุกรรมให้มีสองสีในพูเดียว   ยิงฟันยิ้ม
บันทึกการเข้า
srisiam
สุครีพ
******
ตอบ: 857


ความคิดเห็นที่ 76  เมื่อ 14 มิ.ย. 10, 09:36

กราบคารวะ อ.เทาชมพูและท่านเจ้าของกระทู้ด้วยทุเรียนพันธุ์ล่าสุด

 ยิ้มเท่ห์

อย่าลืมแบ่งให้คุณWandee บ้างนะครับ


คลิกที่รูปเพื่อขยาย/ย่อ
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33585

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 77  เมื่อ 14 มิ.ย. 10, 10:12

คุณศรีสยามใช้โปรแกรมตัดต่อภาพอะไรคะ   ชอบตั้งแต่ภาพแมลงใส่สูทแล้ว
บันทึกการเข้า
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 78  เมื่อ 14 มิ.ย. 10, 10:13

วาว..น่ารับทานแท้

แต่ขอประทานโทษครับ ทานไปแล้วมันจะเข้าไปป่วนในท้องกระผมหรือไม่
หรือมันสมานฉันท์กันเรียบร้อยแล้ว?
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33585

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 79  เมื่อ 14 มิ.ย. 10, 10:50

คุณศรีสยามคงจะทดลองแล้วว่า ทุเรียนพันธุ์นี้ปรองดองกัน ถึงผลิตออกมาให้เห็นในกระทู้นี้
แต่ถ้าใครรับประทานเข้าไป  แล้วเกิดพลิกล็อค  ไปเผากระเพาะและไหม้ลามไปถึงลำไส้    ดิฉันก็จะร่างนิรโทษกรรมให้คุณศรีสยามเอง

อยากได้ทุเรียนไร้สีอีกสักลูกค่ะ   เผื่อแก้ปัญหา
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33585

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 80  เมื่อ 14 มิ.ย. 10, 11:33

ดิฉันเป็นคนเดียวในบ้านที่ไม่กินทุเรียน คนอื่นๆชอบกินกันทั้งนั้น  สามีดิฉันอธิบายถึงความแตกต่างของหมอนทอง ชะนี ก้านยาว กระดุม รวง ได้หมด
ส่วนคุณแม่มีวิธีแก้ร้อนในจากทุเรียน คือเอาน้ำเย็นเทใส่ในลูกทุเรียนที่แกะเม็ดออกแล้ว   แล้วดื่มน้ำจากพูทุเรียน  จะทำให้ไม่ร้อนใน
สูตรอีกอย่างของคุณแม่คือ กินทุเรียนแล้วต้องกินมังคุดควบไปด้วย   มังคุดทำให้เย็น ตรงข้ามกับทุเรียนทำให้ร้อน
สามีเล่าว่าทุเรียนมีดอก สีขาวสวย   ไปเจอรูปในเน็ตก็เลยเอามาลงให้ดู  ตัวเองไม่เคยเห็นค่ะ


บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33585

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 81  เมื่อ 14 มิ.ย. 10, 13:28

ย้อนกลับมามาเลเซีย
เมื่อตึกเปโตรนาสสร้างเสร็จใหม่ๆ  คนไทยพลอยตื่นเต้นไปด้วย      ดิฉันไปเห็นแล้ว ตื่นเต้นน้อยกว่าที่ควร
เพราะไปเห็นตึกอลังการในเซี่ยงไฮ้มาก่อนหน้านั้นไม่นานนัก   ความตื่นเต้นครั้งก่อนเลยกลบความตื่นเต้นครั้งหลัง
แต่ฝีมือสร้างตึก ที่อลังการงานสร้างมากกว่า คือเมือง Putrajaya   เป็นที่ทำการของรัฐบาล
ตอนไปเห็น  คำบรรยายในใจ  คือ หิน  คอนกรีต และน้ำ 
เป็นอาคารอลังการหลายแห่ง  ตั้งอยู่กลางความแห้งแล้งของภูมิประเทศ    โล่งกว้าง ไม่เขียวชอุ่มอย่างต่างจังหวัดบ้านเรา    แต่มีแอ่งน้ำใสกว้างขวางรองรับอยู่
เห็นฝีมือสร้างและออกแบบของเขาแล้วก็ทึ่ง เมื่อนึกว่าเขาหาโลเคชั่นที่บ่งความอลังการงานสร้างได้
อย่างใจถึง    ต่อไปเขาก็คงเนรมิตรอบๆให้กลายเป็นสวนสวยงาม  หาเงินจากนักท่องเที่ยวได้มหาศาล
นึกถึงรัฐสภาแห่งใหม่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาของเรา  ที่ร.ร.โยธินบูรณะต้องถูกรื้อหลีกที่ให้     ยังวาดภาพไม่ออกว่าจะสวยได้แค่ไหน


บันทึกการเข้า
srisiam
สุครีพ
******
ตอบ: 857


ความคิดเห็นที่ 82  เมื่อ 14 มิ.ย. 10, 13:37

ขอบพระคุณครับที่นิรโทษกรรมให้.....กำลังเกรงว่าจะเข้ากระทู้นี้ไม่ได้ซะแหล่ว

รับประกันครับดุเรียนพันธุ์นี้กินแล้วท้องไส้ไม่ปั่นป่วนแน่ 99% หากท่านอยู่ในข่าย 1 % ที่เหลือ ให้กินพันธุ์ลายพรางนี้เข้าไปกระชับพื้นที่ทันที....ครับผ๊ม


 ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม


ตัดต่อพันธุกรรมด้วย Photoshop ครับอาจารย์  ลูกสาว/ลูกชายเขาเมตตาสอนให้


บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33585

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 83  เมื่อ 14 มิ.ย. 10, 20:09

ทุเรียนลายพราง  กินแล้วขอคืนพื้นที่ได้ด้วยใช่ไหมคะ   ไม่ใช่แค่กระชับ  ยิ้ม

ยังติดใจเมือง ปุตราจายา    (ถ้าแปลเป็นไทยน่าจะเป็น ชัยบุตร)  เลยไปหารูปมาให้ดูกันอีก


บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33585

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 84  เมื่อ 14 มิ.ย. 10, 20:15

ในเมื่อชอบการวางผังเมืองของมาเลเซีย   และชอบตึกรามบ้านช่องใหม่ๆ  ทำให้เชื่อว่าวิศวกรโยธา และสถาปนิกด้าน landscape ของเขาน่าจะเก่งมาก
เอารูปทาวน์เฮาส์ของเขามาให้ดูกันค่ะ    มองเฉพาะตัวบ้านก็งั้นๆ ไม่ได้โดดเด่นไปกว่าของไทย  แต่พื้นที่และบริเวณเขา ทำได้เรียบร้อยเป็นระเบียบ ชวนมองและชวนอยู่
ถ้าเป็นบ้านจัดสรรของเรา   จะไม่มีทางเห็นท้องฟ้าและต้นไม้แบบนี้   ดูแบคกราวน์ยังไงเสียก็ต้องมีอาคารพานิชย์ และชุมชน แทรกปะปนเข้ามาจนได้


บันทึกการเข้า
Diwali
มัจฉานุ
**
ตอบ: 96


ความคิดเห็นที่ 85  เมื่อ 15 มิ.ย. 10, 16:52

เข้ามาปั่นกระทู้ต่อ

เม้าท์เรื่องมาเลย์ทีไร ผมเห็นความขัดแย้งในตัวเองทุกที
รอบนี้ขอเปิดประเด็นเรื่องการศึกษาครับ

เพื่อนผมคนหนึ่ง ทำงานในกรุงชาอลาม มีลูกสองคน ลูกสาวคนโตจบมัธยมที่เคแอลแล้วไปต่อที่เอ็นยูเอส
ลูกชายคนเล็กกำลังเรียน มอปลายที่เคแอล
เพื่อนผมบอกว่าจะต้องเคี่ยวเข็นลูกคนเล็กให้เข้าเอ็นยูเอสให้ได้

ผมก็ไม่เข้าใจ ถามเพื่อนไปว่ามหาวิทยาลัยของมาเลเซีย ไม่ดีหรือ
เพื่อนผมก็ตอบว่ามหาวิทยาลัยมาลายาก็ดีอยู่ แต่ถ้าลูกได้จบที่เอ็นยูเอสจะดูดีกว่า ถ้ากลับมาสมัครงานที่บ้านจะหางานได้ง่ายกว่า

นี่แหละครับ ที่ผมบอกว่าคนมาเลย์เชื้อจีนหลายๆบ้าน ที่ต้องการส่งลูกไปจบนอกกลับมาแล้วจะดูเหนือกว่าชาวบ้าน
แต่ถ้าเป็น คนมาเลย์-มาเลย์ หรือ คนจีน-มาเลย์ ที่มีฐานะสูงๆ อาจจะต้องไปไกลกว่านั้นครับ
คือ
เพื่อนผมอีกก๊กหนึ่ง ที่บ้านเป็นคหบดีแห่งเปรัก พ่อเป็นสมาชิกใหญ่ของหอการค้าอิโป้ ล้วนแล้วแต่ไปเรียนจบจากสหราชอาณาจักรครับ
ทั้งๆที่อิโป้เป็นเมืองเล็กๆ เมืองหลวงของเปรัก ถ้าเทียบแล้ว ความเจริญคงพอๆ ตัวเมืองระยอง หรือตัวเมืองจันทร์ฯ ได้กระมังครับ
(แต่สาวอิโป้ สวย น่ารัก เซอร์วิสไมน์ดีมากๆ บริการได้น่าประทับใจกว่า บริกริณีไทยส่วนใหญ่เสียอีก นี่มาจากประสบการณ์ตรงนะครับ อิอิอิ  ยิงฟันยิ้ม)
แต่ลูกหลานคนใหญ่โตที่นั่น ต้องระเห็ดไปเรียนไกลหลายพันกิโลเมตร ไปไกลถึง หลั่นดั้นสกูล ออกฟ้อด เข้มบริดเฉอะ ฯลฯ


นี่แหละครับ ที่ผมบอกว่าสับสนมากๆ
ตกลงว่า ภาครัฐฯของมาเลเซีย จัดมาตรฐานการศึกษาไว้ดีพอจริงหรือไม่
ประเด็นนี้ ผมก็ไม่มีอะไรจะเถียงกับเพื่อนๆ เพราะมองย้อนดูไทยแล้วก็  เฮ่อ....

รอท่านอื่นๆ มาเปิดประเด็นต่อแล้วกันนะครับ
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33585

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 86  เมื่อ 15 มิ.ย. 10, 17:37

ค่านิยมด้านการศึกษาของคนเอเชีย คือเห็นการศึกษาของยุโรปตะวันตก และอเมริกา สูงกว่าของประเทศตัวเอง
เป็นมาร่วมร้อยปีได้แล้วมั้งคะ  และก็ยังเป็นต่อไป
ดิฉันไม่ได้บอกนะคะ ว่า มาตรฐานการศึกษาในประเทศพวกเขา(และเรา)ดีหรือไม่ดี    แต่บอกว่าค่านิยมเป็นยังงั้น

ลูกๆของเพื่อนคุณที่ไปเรียน NUS  (มหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์)  เหตุผลก็ชัดเจนอยู่ในตัว คือกลับมาหางานง่ายกว่า  แสดงว่าการศึกษาจากสิงคโปร์ เครดิตดีกว่า
แต่ทำงานไปแล้ว ใครจะก้าวหน้ากว่ากัน คนจบจากมาเลย์ หรือจบจากสิงคโปร์   ไม่รู้     ไม่มีสถิติให้อ่านพบ

เหล่มาดูบ้านเรา(ตามชื่อกระทู้)      ได้ข่าวว่าบริษัทบางแห่งก็เลือกรับบัณฑิตที่จบจากที่นั่นที่นี่ มากกว่าที่โน่นที่นู่น   คือเชื่อถือภูมิรู้และสติปัญญามากกว่า
แต่มันก็ไม่ได้เป็นหลักประกันว่าพวกเขาจะรุ่งเรืองมากกว่าบัณฑิตจากสถาบันอื่นๆ   เมื่อทำงานไปสัก ๑๐-๒๐ ปี 
เพราะการทำงาน ใช้ IQ ไม่พอ  ต้องมี EQ  เดี๋ยวนี้ก็ดูเหมือนจะมีอีกหลาย Q  จนดิฉันจำไม่ได้แล้วละค่ะ

บันทึกการเข้า
CrazyHOrse
แขกเรือน
นิลพัท
*******
ตอบ: 1899



เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 87  เมื่อ 15 มิ.ย. 10, 21:33

ขอขอบคุณทุกท่านครับ เป็นกระทู้ที่อ่านสนุกได้ความรู้และคติเตือนใจในเวลานี้ได้ดีมากครับ

โดยส่วนตัวผมเคยไปเหยียบมาเลเซียแบบเฉี่ยวๆแค่สองครั้ง ห่างกันราว ๑๐ ปี และใช้เวลาส่วนมากอยู่ใน KL และได้เดินทางออกไปใกล้ๆบ้างครับ

รู้สึกได้เลยว่าโครงสร้างพื้นฐานของบ้านเขาเหนือกว่าเรา (เมื่อเทียบว่า KL เล็กกว่ากรุงเทพมาก)

แต่ฟากเอกชน ในโลกทัศน์อันคับแคบของผมที่ประเมินจากที่เห็นด้วยตาใน KL เห็นว่าน่าจะอ่อนแอกว่าบ้านเราครับ

เคยคุยกับคนมาเลย์เชื้อสายจีนที่มาทำงานในไทย เขาบอกว่านักธุรกิจเชื้อจีนในมาเลย์ ถ้ามีโอกาสจะพยายามออกมาลงทุนในต่างประเทศ เพราะรัฐบาลจับตาธุรกิจคนจีนที่มีขนาดใหญ่ โตเกินไปสรรพากรจะมาเยี่ยมโดยไว

เรื่องนี้ผมเองก็ไม่แน่ใจว่า ธุรกิจเหล่านั้นมีอะไรไม่ชอบมาพากลหรือไม่ แต่ถ้ามองอย่างเห็นใจเขาหน่อย การที่สรรพากรเข้ามาตรวจสอบนั้น ก็ทำให้คนทำงานเสียเวลาและพลังงานไม่น้อยทีเดียว ต่อให้ไม่ได้ทำอะไรผิดก็ถือเป็นความเดือดร้อนอย่างหนึ่งครับ

เอาเรื่องน่ารักๆบ้าง

ไปมาเลย์หนหลังนี้ได้ใช้แท็กซี่ใน KL หลายครั้ง มีอยู่สองครั้งที่ผมเจอคนขับแท็กซี่ที่พาภรรยามานั่งรถเล่นด้วย ตอนขึ้นไปก็รู้สึกแปลกๆ แต่พบว่าโชเฟอร์ที่พาภรรยามาด้วยจะอารมณ์ดี คุยเก่งเป็นพิเศษ ทำให้บรรยากาศในการนั่งรถสนุกสนานมากขึ้นครับ

: )
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16 มิ.ย. 10, 09:08 โดย เทาชมพู » บันทึกการเข้า

"Postel's Law": "be conservative in what you do, be liberal in what you accept from others"
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 88  เมื่อ 16 มิ.ย. 10, 09:02

ขอบคุณคุณม้าครับ
ในมาเลเซียมีเรื่องจะพูดอีกอย่างหนึ่งคือเกนท์ติ้ง ไฮท์แลนด์ สวรรค์และนรกของนักพนันนั่นเอง เมื่อผมไปกับคณะทัวร์ของคุรุสภาตอนสิบกว่าขวบนั้นยังไม่ได้สร้างเลย  โครงการนี้เกิดขึ้นจากการมองการณ์ไกลของเถ้าแก่รับเหมาก่อสร้างคนหนึ่งชื่อลิ้ม โก๊ะ ตง(ตอนหลังได้เป็นตันศรี) นายคนนี้มีประสพการณ์จากการรับจ้างรัฐบาลอังกฤษทำเขื่อนผลิตกระแสไฟฟ้าในคาเมรอน ไฮท์แลนด์ ซึ่งเป็นเมืองพักตากอากาศบนยอดเขาอีกแห่งหนึ่งของมาเลเซีย เขาชอบอากาศที่นั่นมากและมองเห็นว่าสถานที่ที่มีความหนาวเย็นในประเทศที่อากาศร้อนตับแตกอย่างนี้ไม่ใช่เฉพาะคนอังกฤษเท่านั้นที่แสวงหา คนมาเลเซียเองก็เป็นอย่างนั้นด้วย ดังนั้นเขาจึงเริ่มมองหาภูเขาใกล้ๆเมืองหลวง และเลือกจุดนั้นที่ห่างจากกัวลาลัมเปอร์แค่85กิโลเมตรแต่สูงกว่าน้ำทะเลถึง1800เมตร อยู่ท่ามกลางป่าดิบเขาและภูมิประเทศที่เต็มไปด้วยหุบเหวและหน้าผาสูงชัน นั่นเป็นปีพ.ศ.2507 ที่เขาตัดสินใจเดินหน้าในโครงการที่ผู้คนส่วนใหญ่คิดว่ามันเป็นไปไม่ได้ด้วยประการทั้งปวง

แต่เถ้าแก่โก๊ะตงก็ได้ตันศรี หะญี มูฮัมมัด นอร์ หุ้นส่วนภูมิปุตราชั้นเลิศไปวิ่งเต้นขอประทานบัตรป่าไม้มาจากได้จากสุลต่านรัฐปะหัง30,000ไร่ รัฐซารังงอร์7000ไร่ (โอ้โห ใครจะไปกล้าคิดว่าจะทำได้) หลังจากนั้นก็ใช้เวลาถึง4ปีในการสร้างถนนขึ้นภูเขา ทุ่มทุกสิ่งทุกอย่างทั้งเงินทองทรัพย์สมบัติของครอบครัวและเวลาทุกนาทีในชีวิตของตน ซึ่งปลายทางตอนนั้นก็มีโรงแรมในฝัน(ของเถ้าแก่โก๊ะตง)เพียงโรงแรมเดียว

เมื่อตนกูอับดุล เลาะห์มานได้รับเชิญมาวางศิลาฤกษ์โรงแรมแห่งแรกดังกล่าวหลังจากเปิดถนนใช้การได้แล้ว ท่านประทับใจในความวิริยะอุตสาหะของเถ้าแก่โก๊ะตง ที่สามารถทำโครงการที่จะเป็นประโยชน์ต่อประชาชนได้ถึงขนาดนี้ โดยที่ไม่ได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐแม้น้อย แต่ท่านก็เป็นห่วงว่าโรงแรมในฝันจะกลายเป็นฝันสยอง ทำอย่างไรจึงจะมีคนมาพักได้จำนวนเยอะๆและเร็วๆพอที่จะคุ้มกับทุนที่ลงไปกับถนนอันเป็นเงินมหาศาล อาศัยประสพการณ์สมัยเป็นเพลย์บอยตัวพ่อตอนเป็นหนุ่มลันดั้น ท่านแนะนำสิ่งที่คนจีนมาเลย์ที่อาศัยประเทศเขาอยู่ไม่กล้าคิด เพราะขัดกับหลักศาสนาอิสลาม คือให้ทำคาสิโนที่ห้ามขาดไม่ให้คนมาเลย์เข้าไปเล่นการพนัน ตั้งเป้าล่อเฉพาะเจ๊กกับไทยก็รวยเละแล้ว ท่านตนกูตอนนั้นชี้ไม้เป็นนก ชี้นกเป็นไม้คนก็ขอรับกระผม เถ้าแก่โก๊ะตงก็เหมือนเทวดามาโปรด ได้รับใบอนุญาตให้ประกอบกิจการสถานการพนันโดยง่าย ชีวิตเปลี่ยนจากการเป็นเศรษฐีกำลังลุ้นการเป็นยาจก เป็นกระโดดไปขั้นมหาเศรษฐี และโครตมหาเศรษฐีตามลำดับๆไป

"ความพยายามเป็นเรื่องของมนุษย์  ความสำเร็จเป็นเรื่องของเทวดา"



บันทึกการเข้า
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 89  เมื่อ 16 มิ.ย. 10, 09:04

ผมไปเที่ยวเกนติ้งบ่อยพอสมควร แต่จุดหมายไม่ได้อยู่ที่การพนันเพราะขัดกับอุปนิสัย แต่พวกเพื่อนๆมาเลย์ชอบจัดพาไปค้างคืนและตีกอล์ฟที่นั่น แต่ทุกครั้งที่ไปก็จะมีคนลากไปคาสิโน เดินผ่านห้องระดับนักท่องเที่ยวก็ได้ยินเสียงพี่ไทยขรม พอเข้าประตูชั้นในสู่ระดับวีไอพีจึงจะเห็นระดับที่เขาเอาเป็นเอาตายกัน อาเสียอาเจ้ทั้งนั้นที่ขนเงินมาแลกกับความความบันเทิงระดับที่หัวใจอาจจะวายได้ แทบทุกครั้งจะได้ทักกับคนรู้จักที่ตีรถมาจากภูเก็ต กระบี่ ตรัง หรือหาดใหญ่ในเย็นวันศุกร์แล้วกลับในกลางดึกของคืนวันอาทิตย์ ได้เสียกันเป็นล้าน

สิ่งที่เปลี่ยนแปลงในระยะสิบยี่สิบปีมานี้ก็คือ เกนติ้งได้เปลี่ยนจากภาพลักษณ์ของบ่อนการพนันไปเป็นสถานบันเทิง(theme park)สำหรับครอบครัวทุกเพศทุกวัยทุกศาสนา มีโรงแรมผุดขึ้นมาหลายหลังสำหรับความต้องการของคนในวัยต่างๆ มีภัตตาคารเสริฟอาหารทุกชาติ กลางคืนจะมีโชว์ดีๆที่สั่งมาจากนอกเช่นเดียวกับลาส เวกัส ดาราดังๆในเมืองไทยก็ไปรับจ็อบที่นี่เยอะ เกนติ้งได้เป็นสถานที่ให้ความสุขความบันเทิงกับคนมาเลเซียได้จริงๆสมกับที่ผู้มีส่วนสร้างและมีส่วนนำความสำเร็จมาให้โครงการนี้วาดฝันไว้

เอ้า..ใครจะเหล่ดูเมืองไทยอย่างไรก็เชิญครับ


บันทึกการเข้า
หน้า: 1 ... 4 5 [6] 7 8
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.047 วินาที กับ 19 คำสั่ง