เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: 1 ... 167 168 [169] 170 171 ... 187
  พิมพ์  
อ่าน: 1572284 สัตว์ประหลาด
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 12599



ความคิดเห็นที่ 2520  เมื่อ 24 ส.ค. 12, 15:42

เรื่องของเรื่องเกิดขึ้นเมื่อดอกเตอร์ Arthur Anker นักสัตววิทยาชาวอเมริกัน โพสต์รูปสัตว์ประหลาดตัวหนึ่งลงในเว็บ Flickr

และให้ชื่อมันว่า Poodle moth (ผีเสื้อพูเดิล) จากเวเนซูเอลา  ผู้คนสงสัยกันเป็นแถวว่าเป็นรูปสัตว์จริง ๆ หรือหลอก

ดอกเตอร์แองเคอร์คงตั้งใจตั้งชื่อให้สะดุดหู และก็ได้ผล มีคนสนใจเจ้าผีเสื้อกลางคืนประหลาดตัวนี้กันมากมาย

ตัวที่น่าจะเทียบเคียงกันได้ Muslin Moth (ผีเสื้อมัสลิน) ชื่อวิทยาศาสตร์คือ Diaphora mendica

ตัวเมียจะสีขาว ส่วนตัวผู้ออกสีเทา ๆ

 ยิงฟันยิ้ม


บันทึกการเข้า
hobo
พาลี
****
ตอบ: 324


ความคิดเห็นที่ 2521  เมื่อ 24 ส.ค. 12, 18:21

สองภาพล่างเป็นผีเสื้อหนอนไหม Bombyx mori
คนไทยน่าจะชินตาบ้าง




บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 12599



ความคิดเห็นที่ 2522  เมื่อ 24 ส.ค. 12, 21:31

คิดว่าน้อยคนจะเคยเห็นผีเสื้อไหม

ภาพผีเสื้อ (ตัวบี้) กับรังไหม จากบล็อกของ คุณมรกตนาคสวาท

 ยิงฟันยิ้ม


คลิกที่รูปเพื่อขยาย/ย่อ
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 2523  เมื่อ 24 ส.ค. 12, 21:37

เป็นไปได้ไหม  แมลงอาศัยอยู่ในร่างกายคนมาเป็นปีๆ  บินออกทางผิวหนัง เกาะตามเส้นผม และออกจากดวงตาได้ด้วย

http://www.pantip.com/cafe/social/topic/U12527154/U12527154.html
https://www.facebook.com/media/set/?set=a.2077310622450.2095320.1535540389&type=3
บันทึกการเข้า
hobo
พาลี
****
ตอบ: 324


ความคิดเห็นที่ 2524  เมื่อ 25 ส.ค. 12, 04:41

เป็นไปได้ไหม  แมลงอาศัยอยู่ในร่างกายคนมาเป็นปีๆ  บินออกทางผิวหนัง เกาะตามเส้นผม และออกจากดวงตาได้ด้วย

เป็นกลุ่มอาการทางจิตเภทครับ
หรือผู้ป่วยอาจทานยาลดความอ้วนแล้วประสาทหลอน
บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 12599



ความคิดเห็นที่ 2525  เมื่อ 25 ส.ค. 12, 13:58

เรื่องแมลงออกมาจากร่างกายคนเคยเป็นข่าวใหญ่เมื่อ ๒ ปีที่แล้ว เป็นกรณีของหนุ่มใหญ่ชาวลำปาง



ผลสรุป (อ่านรายละเอียดจาก คมชัดลึก)

แพทย์ยันแมลงออกจากร่างคนไม่เป็นความจริง

สสจ.ลำปางร่วมกับจิตแพทย์ แถลงยันแมลงออกจากร่างหนุ่มใหญ่ ไม่จริง ระบุแมลงที่พบแค่เกาะคาผิวหนัง เผยผู้ป่วยที่มีอาการทางจิตเห็นภาพหลอนไปเอง

 ตกใจ

บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 12599



ความคิดเห็นที่ 2526  เมื่อ 25 ส.ค. 12, 14:09

ขออนุญาตลงลึกเกี่ยวกับโรคนี้

Delusions of parasitosis (DP)

เป็นอาการหลงผิดอย่างหนึ่ง คือผู้ป่วยมีความเชื่ออย่างฝังใจว่า  ตัวเองถูกแมลงต่าง ๆ  เจาะ กัด หรือไต่ตามผิวหนัง ผู้ป่วยมักแสดงอาการย้ำคิดย้ำทำที่จะทำลายตัวแมลงนั้นออกไป อาจจะใช้การแกะเกา, ใช้อุปกรณ์ขุดเจาะผิวหนัง, ใช้ยาฆ่าแมลง บางรายอาจใช้ไฟหรือเทียนลนเพื่อจะไล่แมลงออกไป

ผู้ป่วยอาจนำของที่คิดว่าเป็นแมลง เช่น เศษผม ผิวหนัง เลือดแห้ง ๆ ใส่มาในกล่องเพื่อให้ดู เรียกว่า "matchbox sign"

ผิวหนังจะมีรอยแกะเกา, ตุ่มนูนจากการเกา หรือแผลหลุม

บางครั้งจะพบว่าคนในครอบครัวก็มีอาการด้วย เรียกว่า "folie a deux "บางทีพบว่าเป็นทั้งครอบครัวเลยก็มี (คล้าย ๆ อุปทานหมู่)

มีอาการอย่างหนึ่ง ที่คล้าย DP คือ "formication" แต่แยกจากกันตรงที่ formication จะเป็นความรู้สึกเหมือนมีแมลงมาไต่ กัดหรือ ต่อย แต่ผู้ป่วยจะไม่มั่นใจว่ามีจริงหรือไม่ อาจพบในคนไข้ที่ใช้ยาเสพติดอย่าง ยาบ้า หรือ amphetamine ส่วนผู้ที่ติดโคเคนที่มีความรู้สึกว่าแมลงคลานอยู่ในผิวหนังเรียก ว่า cocaine bugs หรือ coke bugs

การวินิจฉัย และการวินิจฉัยแยกโรค

ลำดับแรกต้องแยกจากโรคที่มีการติดเชื้อจริง ๆ เช่น โรคหิด เหา และโรคเรื้อรังที่มีอาการคันตามผิวหนัง เช่น โรคตับ โรคไตวายเรื้อรัง  HIV โรคผิวหนังบางตัว เช่น dermatitis herpetiformis  รวมทั้งโรคจิตเภทซึ่งอาจจะมีอาการหวาดระแวงคิดว่าโดนแมลงรุกรานด้วย

การตรวจทางห้องปฏิบัติการ

ไม่มีการตรวจที่ยืนยันว่าเป็นโรคนี้ เพียงแต่ต้องทำเพื่อแยกโรคอื่น ๆ ออกไป ได้แก่ การตรวจผิวหนัง ว่ามีการติดเชื้อของหิด เหา เชื้อราหรือไม่  ตรวจทางระบบประสาท ตรวจเลือดดูว่ามีโรคอื่นที่ทำให้คันหรือไม่ เช่น ตรวจการทำงานของ ตับ ไต ไทรอยด์  ตรวจหาสารเสพติด เช่น แอมเฟตามีน  โคเคน

สิ่งที่สำคัญก็ควรทำการตัดชิ้นเนื้อผิวหนัง (skin biopsy) ไปตรวจ เพื่อจะช่วยวินิจฉัยบางโรคที่ทำให้คัน เช่น  dermatitis herpetiformis จะมีลักษณะเฉพาะ และเมื่อตรวจชิ้นเนื้อว่าปกติ ก็จะช่วยให้ผู้ป่วยเข้าใจโรคของตัวเองมากขึ้น

การรักษา

ยาที่ใช้มานานในการรักษา DP คือ pimozide โดยออกฤทธิ์ต้านระบบ central opiate receptor ทำให้ลดอาการคัน และลด formication และตัวใหม่ ๆ ที่ใช้ก็คือ olanzapine และ risperidone เนื่องจาก pimozide มีผลข้างเคียงที่ค่อนข้างรุนแรง

นอกจากนี้ควรรักษาแบบประคับประคองจิตใจของคนไข้ เพราะตัวเขาเองก็ไม่ได้แกล้งป่วยหรือจะหลอกลวงใคร บางทีคนไข้ก็ไม่ยอมรับว่าตัวเองนั้นป่วยทางจิต ซึ่งเป็นธรรมดา

http://www.doctor.or.th/clinic/detail/7903

ข้อมูลจาก คุณหมอหมูหมียวแห่งพันทิป

 ยิงฟันยิ้ม


บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 12599



ความคิดเห็นที่ 2527  เมื่อ 27 ส.ค. 12, 13:25

ภาพนี้ดูเผิน ๆ อาจคิดว่าเป็นเรื่องของ "สัตว์น่ารัก"



แต่เบื้องหลังอาจจะเป็นสิ่งที่คุณไม่เคยนึกถึง

มีสัตว์เซลล์เดียว (protozoa) ตัวหนึ่งซึ่งอยู่เบื้องหลังภาพนี้

Toxoplasma gondii เป็นปรสิต (parasite) ในแมวและสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมหลายชนิดรวมทั้งมนุษย์ด้วย protozoa ตัวนี้สามารถถ่ายทอดจากแมวไปยังสัตว์อื่นโดยทางสัมผัสหรือกินอาหารที่ปนเปื้อนมูลของแมวที่ติดเชื้อ โดยเฉพาะหนู เมื่อมันเข้าไปในร่างกายหนูแล้ว มันจะเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของหนู โดยเปลี่ยนแปลงสารเคมีในสมอง ทำให้หนูติดใจในกลิ่นของแมว  เช่นกลิ่นปัสสาวะ ทำให้หนูที่ติดเชื้อนี้จะวิ่งเข้าหาแมว ขณะที่แมวตอนแรกก็คงงง พอหายงงแล้วก็คงเป็นวาระสุดท้ายของหนูเจ้ากรรมตัวนี้

 ขยิบตา

บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 12599



ความคิดเห็นที่ 2528  เมื่อ 27 ส.ค. 12, 13:34

หน้าตาของ Toxoplasma gondii มองผ่านกล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอน

อักษรกรีก มิว µ ทางมุมซ้ายของภาพเป็นสัญลักษณ์แทนหน่วยวัดความยาวที่เรียกว่า ไมครอน-micron หรือ ไมโครเมตร (๑ในล้านของเมตร)

 ยิงฟันยิ้ม


บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 12599



ความคิดเห็นที่ 2529  เมื่อ 29 ส.ค. 12, 10:45

คงเคยได้ยินข้อห้ามที่ว่าคนท้องไม่ควรใกล้ชิดกับแมว

สาเหตุก็มาจากเจ้า Toxoplasma gondii ตัวนี้นี่แหละ  ผู้หญิงท้องที่ติดเชื้อเจ้าตัวนี้มีโอกาสแท้งได้สูง คนทั่วไปหากติดเชื้อส่วนใหญ่ไม่แสดงอาการ อาจจะมีไข้ หรืออาการอื่น ๆ บ้าง (รายละเอียดอ่าน ที่นี่)

อันตรายจาก Toxoplasma gondii อย่างหนึ่ง ซึ่งยังไม่มีระบุไว้ในตำราอย่างเป็นทางการ คือ มันสามารถควบคุมจิตใจให้คนที่ติดเชื้อ "ฆ่าตัวตาย" ได้

ข่าวจาก เดลินิวส์

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกาว่า ทีมนักวิจัยอเมริกันเผย จากการศึกษากลุ่มตัวอย่าง ซึ่งเป็นผู้หญิงชาวเดนมาร์กจำนวน ๔๕,๐๐๐ คน พบว่า พยาธิในแมวอาจมีแนวโน้มเกี่ยวข้องกับการฆ่าตัวตายในผู้หญิง

นายเทโอดอร์ โปสโตลาช หัวหน้าคณะนักวิจัย จากคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยแมริแลนด์ กล่าวถึงผลงานชื่อ “ฮาว ยัวร์ แคต อิส เมคกิง ยู เครซี” ที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสารวิทยาศาสตร์รายสัปดาห์ฉบับล่าสุดว่า แม้จะยังไม่อาจระบุได้แน่ชัดว่า เชื้อพยาธิชนิด Toxoplasma gondii ซึ่งอาศัยอยู่ในตัวแมว เป็นสาเหตุหลักจริงหรือไม่ แต่ผู้เชี่ยวชาญพบความเชื่อมโยงระหว่างการติดเชื้อพยาธิชนิดดังกล่าว กับความพยายามฆ่าตัวตายในกลุ่มผู้หญิง ซึ่งผู้หญิงที่ได้รับเชื้อจะมีความเสี่ยงพยายามฆ่าตัวตายมากกว่าคนทั่วไป ๑.๕ เท่า และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นตามระดับแอนติบอดีต่อเชื้อพยาธิชนิดนี้

ทั้งนี้ ประชากรโลก ๑ ใน ๓ มีเชื้อ Toxoplasma gondii อยู่ในร่างกาย  ซึ่งเป็นหนึ่งในตัวแปรสำคัญที่ทำให้เกิดโรคจิตเภท หรือพฤติกรรมแปรปรวน แต่ไม่ก่อให้เกิดอาการใด ๆ เนื้องจากเชื้อพยาธิชนิดนี้แอบซ่อนอยู่ตามสมอง และกล้ามเนื้อของมนุษย์ อย่างไรก็ตาม ความเสี่ยงในการติดเชื้ออาจเกิดจากการสัมผัสสิ่งของต่าง ๆ ที่อาจปนเปื้อนอุจจาระแมว โดยเฉพาะกระบะอุจจาระ เช่นเดียวกับการรับประทานผัก และผลไม้ที่ล้างไม่สะอาด รวมถึงการรับประทานเนื้อสัตว์ที่ยังปรุงไม่สุกดี และน้ำดื่มที่ไม่สะอาด

คนรักแมวระวังตัวไว้ให้ดี

 ตกใจ


บันทึกการเข้า
hobo
พาลี
****
ตอบ: 324


ความคิดเห็นที่ 2530  เมื่อ 29 ส.ค. 12, 16:08

เข้ามาเสริมคุณเพ็ญชมพูว่า Toxoplasma gondii เป็นตัวหลักที่ทำให้เกิด
เยื่อหุ้มสมองอักเสบในผู้ติดเชื้อ HIV โดยเฉพาะเมื่อเซลล์เม็ดเลือดขาวต่ำลง
โปรโตซัวตัวนี้จะเริ่มออกฤทธิ์ให้เห็น น่ากลัวกว่าที่คิดครับ
บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 12599



ความคิดเห็นที่ 2531  เมื่อ 31 ส.ค. 12, 15:01

ขอบพระคุณคุณโฮโบที่กรุณาเข้ามาช่วยเสริม

มีเรื่องเล่าเกี่ยวกับการฆ่าตัวตายของหนู มาให้อ่าน

หนูเลมมิ่ง   เป็นหนูพวกหนึ่งอาศัยอยู่ใกล้เขตอาร์คติก แถว ๆ ขั้วโลกเหนือ



มีเรื่องเล่าตกทอดมาว่าเมื่อประชากรหนูเลมมิ่งมีมากเกินไป สัญชาตญาณบังคับให้พวกมันฆ่าตัวตายหมู่เพื่อลดจำนวนประชากร หาไม่เช่นนั้นแล้วจะไม่มีอาหารเหลือเพียงพอสำหรับหนูเลมมิ่งรุ่นใหม่ ความเชื่อนี้ถูกพิสูจน์ด้วยภาพยนตร์สารคดีเรื่อง White Wilderness สร้างโดยทีมงานสารคดีสัตว์โลกของวอลท์ ดิสนีย์ เมื่อ พ.ศ. ๒๕๐๑




ในภาพยนตร์สารคดีเรื่องนี้แสดงภาพฝูงหนูเลมมิ่งร่วมใจกันกระโดดหน้าผาลงสู่ท้องทะเล ทำให้ภาพยนตร์สารคดีเรื่องนี้ได้รับรางวัลออสการ์ สาขาสารคดียอดเยี่ยม ใน พ.ศ. ๒๕๐๒ ตอกย้ำความเชื่อเรื่องเล่าเกี่ยวกับการฆ่าตัวตายของหนูเลมมิ่งให้เป็นจริงเป็นจังมากยิ่งขึ้น



ก่อนที่จะขยายเรื่องนี้ต่อไป ขอถามความเห็นของผู้ชมสารคดีเรื่องนี้ในเรือนไทยว่า

เชื่อเรื่องนี้หรือไม่

 ขยิบตา


บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 12599



ความคิดเห็นที่ 2532  เมื่อ 02 ก.ย. 12, 15:36

ใน พ.ศ. ๒๕๑๕ รายการโทรทัศน์ในแคนาดาเปิดเผยว่าเรื่องหนูเลมมิ่งกระโดดหน้าผาเป็นการจัดฉากและทารุณสัตว์

White Wilderness ถ่ายทำในเมืองอัลเบอร์ตา ประเทศแคนาดา ซึ่งไม่ใช่ถิ่นที่อยู่อาศัยของหนูเลมมิ่ง ทีมงานได้กว้านซื้อหนูเลมมิ่งจำนวนหนึ่งแล้วนำไปปล่อยบนเกาะ นำหิมะมาโปรยลงบนพื้นจัดฉากว่าถ่ายทำบริเวณแถบขั้วโลกเหนือ

อาศัยการใช้มุมกล้องและการตัดต่อให้ภาพออกมาเหมือนมีฝูงหนูเลมมิ่งจำนวนมากเคลื่อน พลออกจากทุ่งหญ้า เมื่อพิจารณาจากการใช้มุมกล้องแคบ ๆ ทำให้เชื่อได้ว่ามีการต้อนหนูเลมมิ่งไปยังริมหน้าผาและบังคับให้พวกหนูเลมมิ่งกระโดดหน้าผา

ผู้บรรยายอธิบายว่าเมื่อประชากรหนูเลมมิ่งมีจำนวนมากขึ้น หนูเลมมิ่งจำนวนหนึ่งจำเป็นต้องอพยพย้ายถิ่นฐานเพื่อหาแหล่งอาหารใหม่แม้ว่า จะต้องว่ายน้ำข้ามทะเลไปหลายร้อยไมล์ก็ตาม เพื่อให้หนูเลมมิ่งรุ่นเยาว์ที่ยังอยู่บนเกาะสามารถดำรงชีวิตอยู่ได้จาก ปริมาณอาหารที่เหลืออยู่อย่างจำกัด

เมื่อพิจารณาภาพทีละเฟรม จะพบว่ามีหนูเลมมิ่งปรากฏอยู่พร้อม ๆ กันครั้งละไม่เกิน ๒๐ ตัวเท่านั้น จึงเป็นไปได้ว่ามีการถ่ายทำหนูชุดเดิมซ้ำแล้วซ้ำเล่าในพื้นที่ต่าง ๆ แล้วนำมา ตัดต่อให้ดูเหมือนมีฝูงหนูเลมมิ่งจำนวนมาก ปัจจุบันยังไม่มีใครสืบสวนว่บริษัทดิสนีย์รู้เห็นเป็นใจกับทีมงานกับการผลิตสารคดีในครั้งนี้หรือไม่

ที่มา : นิตยสารโลกวันนี้วันสุข ปีที่ ๕ ฉบับที่ ๒๒๖ วันที่ ๒๖ กันยายน – ๒ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๕๒ หน้า ๔๒ คอลัมน์ ร้ายสาระ โดย ศิลป์  อิศเรศ

ก่อนจะเชื่อเรื่องใด อย่าลืมนึกถึง กาลามสูตร

 ยิงฟันยิ้ม
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 2533  เมื่อ 02 ก.ย. 12, 20:33

เชื่อถือได้พอๆกับภาพนี้มั้งคะ


บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 12599



ความคิดเห็นที่ 2534  เมื่อ 03 ก.ย. 12, 21:18

ชาวประมงเวียดนามจับสัตว์ประหลาดได้เมื่อเดือนเมษายน ปีนี้เอง

คุณเทาชมพูเคยพาเพื่อนของเจ้าตัวนี้มาเยี่ยมกระทู้นี้แล้ว

ตัวอะไร จำได้ไหมเอ่ย

 ยิ้มเท่ห์


บันทึกการเข้า
หน้า: 1 ... 167 168 [169] 170 171 ... 187
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.051 วินาที กับ 20 คำสั่ง