เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: 1 ... 105 106 [107] 108 109 ... 187
  พิมพ์  
อ่าน: 1575669 สัตว์ประหลาด
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 12600



ความคิดเห็นที่ 1590  เมื่อ 31 ก.ค. 11, 20:36

เป็นภาพปักษาสวรรค์ Superb Bird-of-paradise Lophorina superba ตัวผู้กำลังกระโดดโลดเต้นเกี้ยวพาราสีตัวเมียอยู่



ตัวไหนตัวผู้คงดูไม่ยาก

Bird of paradise ถิ่นที่อยู่แถบเกาะนิวกินี มีอยู่หลายสิบพันธุ์  ในรูปคือตัวผู้กำลังเกี้ยวตัวเมีย โดยการแผ่ขนออกมา


บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 12600



ความคิดเห็นที่ 1591  เมื่อ 31 ก.ค. 11, 20:39

ขนนก Superb Bird-of-paradise ก็ไม่พ้นที่จะถูกนำมาประดับศีรษะชนพื้นเมืองนิวกีนี



บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 12600



ความคิดเห็นที่ 1592  เมื่อ 31 ก.ค. 11, 20:46

จบเรื่องนกแล้ว จะเล่าเรื่องมนุษย์กิ้งก่าให้ฟังนะคะ

พรุ่งนี้จะต่อเรื่อง "ตราปักษาวายุภักษ์" อีกเล็กน้อย

จบแล้วคุณเทาชมพูเล่าต่อได้เลย

 ยิงฟันยิ้ม
บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 12600



ความคิดเห็นที่ 1593  เมื่อ 01 ส.ค. 11, 08:49

ภาพนกการเวกค่ะ... ยิงฟันยิ้ม
เป็นตัวเดียวกันกับนกวายุภักษ์ที่อยู่ในตราของกระทรวงการคลัง ค่ะ





ก่อนหน้านั้น ตราปักษาวายุภักษ์เป็นรูปสัตว์ในหิมพานต์  เป็นตราของ พระยาราชภักดีฯ  เจ้ากรมพระจำนวนซึ่งมีหน้าที่เกี่ยวกับภาษีอากร



ส่วนตราปักษาวายุภักษ์ของคุณดีดีนี้เพิ่งออกแบบขึ้นใหม่โดยสมเด็จเจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ เมื่อ พ.ศ. ๒๔๗๖ นี้เอง

เรื่องนกวายุภักษ์  สมเด็จเจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์  ตรัสอธิบายไว้ดังนี้          

นกวายุภักษ์  ถ้าแปลตามคำก็ว่ากินลม   ข้อยากในนกนี้เกิดขึ้นที่ประชุมเสนาบดี  สั่งให้   สมเด็จเจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์  ทรงเขียนผูกตรากระทรวงต่าง ๆ  เป็นลายข้อมือเสื้อเครื่องแบบหากเป็นกระทรวงเก่าที่มีตราประจำกระทรวงอยู่แล้ว  จะเอามาใช้ได้ก็ให้ใช้ตราเก่า   ที่เป็นกระทรวงใหม่ที่ไม่มีตรามาจากเดิม  จึงคิดผูกขึ้นใหม่  โดยคำสั่งอย่างนี้  กระทรวงใดก็ไม่ยากเท่ากระทรวงการคลังซึ่งเดิมพระยาราชภักดีฯ  ทำการในหน้าที่เสนาบดีกระทรวงพระคลังถือตรานกวายุภักษ์  รูปนกวายุภักษ์ในตรานั้นก็เป็นนกแบบสัตว์หิมพานต์เหมือนกันนกอินทรี  ฉะนั้นไม่ทรงเชื่อว่าถูก   จึงได้ทรงรำลึกต่อไปก็ทรงรำลึกได้ว่ามี  ณ  ที่แห่งใดแห่งหนึ่ง  ซึ่งมีความว่าทรงพระมาลาปักขนนกวายุภักษ์  ก็ทรงค้นหา   ก็พบในหมายท้ายหนังสือพระราชวิจารณ์จดหมายแห่งความทรงจำของกรมหลวงนรินทรเทวี  เมื่อมีคำปรากฏอยู่เช่นนั้น  นกวายุภักษ์   ก็คือนกการเวก   เพราะพระมาลาทุกชนิดที่ปักขนนก   ย่อมใช้ขนนกการเวกอย่างเดียวเป็นปรกติ   เมื่อทรงพระดำริปรับนกวายุภักษ์กับนกการเวกเข้ากันก็เห็นลงกันได้   โดยที่ทางเราพูดกันว่านกการเวกนั้น   มีปรกติอยู่ในเมฆบนฟ้า  กินลมเป็นภักษาหาร  ตามที่ว่าพิสดารเช่นนั้นก็เพราะนกชนิดนั้นในเมืองเราไม่มี   และที่ว่ากินลมก็เพราะในเมฆไม่มีอะไรนอกจากลม   จึงกินลมเป็นอาหาร   แต่เมื่อปรกติของมันอยู่ในเมฆแล้ว  ก็ไฉนเล่ามนุษย์จึงได้ขนมันมาปักหมวกเชื่อว่าเพราะเหตุที่น่าสงสัยเช่นนั้นเอง   พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวจึงตรัสสั่งไปต่างประเทศที่ส่งขนนกชนิดนั้นเข้ามาให้ส่งตัวนกมาถวายจึงได้ตัวจริง  เป็นนกยัดไส้มีขนติดบริบูรณ์เข้ามา  ก็เป็นนกที่เรียกตามภาษาอังกฤษ   Paradise  bird  ซึ่งที่เรียกเป็นภาษาอังกฤษเช่นนี้   นึกว่าแปลมาจากภาษาแขกความก็ว่าเป็นนกฟ้า   เราคงได้ฟังแขกว่า  จึงละเมอตามไปเมื่อได้นกยัดไส้เข้ามาแล้ว  จึงทรงจัดเอาขึ้นเกาะคอน  มีด้ามให้เด็กถือนำพระยานุมาศในงานสมเด็จเจ้าฟ้าโสกันต์     ตามที่ได้พยานมาว่าเป็นนกอยู่ในแผ่นดิน   ไม่ใช่นกอยู่ในฟ้าเช่นนั้น  ใครจะเชื่อกันหรือไม่ก็หาทราบไม่แม้นราชสีห์เมื่อได้ตัวจริงมาบอกใคร  ว่านี้และราชสีห์ก็ไม่มีใครเชื่อด้วยไม่เหมือนกับที่เราปั้นเขียนกัน  ตามที่เราปั้นเขียนกันนั้น  ขาดสิ่งสำคัญที่ไม่มีสร้อยคอ  อันจะพึ่งสมชื่อว่า “ไกรสร”  หรือ “ไกรสรสีห์  ไกรสรราชสีห์”

เรื่องตรานกวายุภักษ์กระทรวงการคลังมีต้นเหตุดังเล่ามานี้  ต่อมาเมื่อสมเด็จเจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ได้ทอดพระเนตรลายตราเก่าปักษาวายุภักษ์ของพระราชภักดีฯ  แล้วตรัสว่า      

“ เห็นรูปนกวายุภักษ์ในตราของพระยาราชภักดีฯ   ซึ่งคัดมาไว้ก็นึกเสียใจ  ว่าถ้าทำรูปเป็นอย่างเก่าแต่ทำขนเป็นอย่างใหม่ก็จะดีกว่านั้น  ตามที่ทำไว้เป็นธรรมดามากเกินไป ”

(จากหนังสือเรื่อง  พระราชลัญจกรและตราประจำตัวประจำตำแหน่ง  เรียบเรียงโดย  พระยาอนุมานราชธน)

http://www.mof.go.th/mofhistory/vayu.htm

ถ้าถือเอารูปในตราปํกษาวายุภักษ์เป็นเกณฑ์  พ.ศ. ๒๔๗๖ ก็นับเป็นช่วงเปลี่ยนถ่ายระหว่างความคิดเก่าคือรูปสัตว์หิมพานต์ไปสู่ความคิดใหม่เป็นรูปสัตว์ที่มีอยู่จริง คือนกการเวกแห่งเกาะนิวกินีนี่เอง

เรื่องปักษาสวรรค์-นกการเวก-ปักษาวายุภักษ์ ก็จบลงเพียงนี้

ขอเชิญคุณเทาชมพูดำเนินรายการต่อได้เลย

 ยิงฟันยิ้ม
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 1594  เมื่อ 03 ส.ค. 11, 08:22

สัตว์ประหลาดที่จะเล่าต่อไปนี้   อาจไม่ใช่เรื่องจริง  ถือว่าเล่ากันสนุกๆ

ภาษาอังกฤษเรียกว่า lizard man  แต่จะแปลว่ามนุษย์จิ้งจกก็ดูไม่น่ากลัว   เพราะจิ้งจกมันตัวนิดเดียว จึงเปลี่ยนเป็นกิ้งก่าแทน แต่ถ้าคุณเพ็ญชมพูหรือคุณดีดี จะแปลเป็นอย่างอื่นที่น่ากลัวกว่านี้ก็ไม่ขัดข้อง

เหตุการณ์(อ้างว่า) เกิดที่รัฐคาโรไลน่าใต้  สหรัฐอเมริกาเมื่อค.ศ. 1988  (พ.ศ. 2531)
ราวๆตีสอง  มีหนุ่มคนหนึ่งเลิกงานกะดึกที่ร้านอาหาร ขับรถกลับบ้าน  ระหว่างทางเกิดยางแบน  เขาก็จอดรถเปลี่ยนยาง  พอเปลี่ยนเสร็จก็ได้ยินเสียงอะไรอย่างหนึ่งแว่วมาจากทุ่งนาใกล้ๆ   พอมองไปก็เห็นสัตว์ประหลาดตัวนี้วิ่งตรงมาที่รถ พร้อมด้วยตาสีแดงก่ำลุกวาว

เจ้าหนุ่มโดดเข้ารถล็อคประตูข้างเสียทัน    สัตว์ประหลาดตัวนั้นมาถึงพอดี  พยายามจะกระชากประตูเปิด  แล้วตะกุยตะกายกระจกรถ  จากนั้นมันก็โดดขึ้นบนหลังคา  ตะกุยตะกายหลังคาอย่างแรง    เจ้าหนุ่มก็รีบติดเครื่องพารถวิ่งจี๋กลับบ้าน ระหว่างทางก็หักพวงมาลัยให้รถเลี้ยวไปเลี้ยวมา เพื่อสะบัดสัตว์ประหลาดบนรถให้ตกกลิ้งลงไป

พอถึงบ้านก็ไปปลุกพ่อแม่ ซึ่งให้การว่าลูกชายตระหนกตกใจเนื้อตัวสั่นไปหมด     พ่อมาสำรวจรถพบว่ากระจกส่องข้างหัก ห้อยร่องแร่ง  หลังคารถมีรอยขูดลึกลงไป  ก็แจ้งตำรวจ   ตำรวจก็มีบันทึกแจ้งความเรื่องนี้เอาไว้

ภายในสองสามเดือนต่อมา มีแจ้งความเรื่องเห็นสัตว์ประหลาดตัวนี้นับร้อยๆหน    และมีผู้พบรอยเท้า ที่มีนิ้วสามนิ้ว อยู่ในบริเวณหลายแห่งด้วย
ในปี 2004  มีแจ้งความเรื่องสัตว์ประหลาดตัวนี้อีกครั้ง  ว่ามันพยายามจะฉุดเด็กหญิงคนหนึ่งลากลงไปในแม่น้ำ
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 1595  เมื่อ 03 ส.ค. 11, 08:24

ลักษณะของสัตว์ประหลาด  วาดขึ้นตามคำบอกเล่า
เดินสองขาเหมือนมนุษย์ สูงราว 7 หรือ 8 ฟุต  เนื้อตัวปกคลุมด้วยเกล็ดสีเขียว หน้าตากึ่งคน กึ่งงู   มีสันหรือครีบตั้งแต่ส่วนหัวลงมาถึงปาก  มือมีสามนิ้วและเล็บงองุ้มเหมือนตีนสัตว์
ตำนานของชาวอเมริกันอินเดียนในถิ่นนี้  มีเรื่องสัตว์ประหลาด กึ่งคนกึ่งสัตว์เลื้อยคลาน หรือกึ่งปลา  อาศัยอยู่ในบริเวณที่เรียกว่า Inzignanin


บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 12600



ความคิดเห็นที่ 1596  เมื่อ 03 ส.ค. 11, 11:07

อาจจะเป็น มนุษย์ไดโนเสาร์-dinosauroid ได้ไหม คุณเทาชมพู

ลองมาตั้งโจทย์ว่า ถ้าในเอกภาพคู่ขนานของโลกปัจจุับันเมื่อ ๖๕ ล้านปีก่อนไม่มีลูกอุกกาบาตของท่านมานิตหล่นลงมาถล่มจนมีผลให้เหล่าไดโนเสาร์พากันสูญพันธุ์ไปเสียแล้ว  ในเอกภพนั้นจะมีสภาพเป็นอย่างไร เหล่าไดโนเสาร์บางส่วนคงวิวัฒนาการเป็นไดโนเสาร์ผู้ทรงภูมิปัญญาเฉกเช่นมนุษย์เรากระมัง และบางส่วนน่าจะยังคงสภาพเป็นสัตว์ป่าเช่นเดิม เหมือนดังวิวัฒนาการของมนุษย์และลิง

เรื่องไดโนเสาร์ผู้ทรงภูมิปัญญานี้  มีคนคิดเรื่องนี้อยู่และให้ชื่อว่า dinosauroid  [Russell, D. A. and Sequin, R. "Reconstruction of the small Cretaceous theropod Stenonychosaurus inequalis and a hypothetical dinosauroid," Syllogeous, 37, 1 (1982).] และไดโนเสาร์ตัวเลือกที่พอมีศักยภาพที่จะไปเป็น dinosauroid ได้น่าจะเป็น Troodon (Stenonychosaurus unequalishttp://en.wikipedia.org/wiki/Troodon


เอาบทวิเคราะห์เรื่อง Dinosauroid มาให้คุณเทาชมพูอ่านเล่น

Troodon sapiens?: Thoughts on the "Dinosauroid"

http://scienceblogs.com/laelaps/2007/10/troodon_sapiens_thoughts_on_th.php




From the BBC's Horizon program, "My Pet Dinosaur."

 ยิงฟันยิ้ม
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 1597  เมื่อ 03 ส.ค. 11, 12:34

หลักฐานเพิ่มเติมจาก South Carolina  ว่าไม่ใช่เรื่องล้อกันเล่น    มีพยานชาวบ้านหลายคนให้การว่าเคยเห็น 
และพยานหลักฐานจากรอยขูดขีดบนกระโปรงรถยนต์ 

บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 12600



ความคิดเห็นที่ 1598  เมื่อ 06 ส.ค. 11, 21:39

มีเรื่องเล่าเกี่ยวกับมนุษย์กิ้งก่าหรือมนุษย์ไดโนเสาร์อยู่เรื่องหนึ่ง ซึ่งวนเวียนอยู่ในเน็ตมานานแล้ว

ไม่มีหลักฐานอ้างอิง แม้แต่รูปถ่าย

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อ พ.ศ. ๒๕๓๙ ที่เทือกเขาแอนดีส ประเทศเปรู  

นักสำรวจกลุ่มหนึ่งได้ค้นพบเจอมนุษย์ประหลาด เพศชาย อายุประมาณ ๑๘ ปี มนุษย์ประหลาดพยายามต่อสู้ แต่นักสำรวจได้ใช้ลูกดอกอาบยาสลบยิงจนสามารถจับได้

มนุษย์ประหลาดดังกล่าวสูงประมาณ ๑๖๓ เซนติเมตร มีหน้าเหมือนไดโนเสาร์มีครีบใต้คางเหมือนกิ้งก่า ตากลมโตเหมือนมนุษย์ต่างดาว ผิวหนังเป็นเกล็ดสีเขียวอมเทา แขนขายาวเก้งก้าง มือแต่ละข้างมี ๓ นิ้ว ส่วนเท้ามี ๕ นิ้ว ทั้งมือและเท้ามีพังผืดยึดติดไว้คล้ายตีนเป็ด

นักมานุษยวิทยาอเมริกันได้ขอตัวมนุษย์ประหลาดนี้นำไปวิจัยที่ศูนย์วิจัยลับแห่งหนึ่งทางตอนเหนือของมลรัฐมิชิแกน พร้อมกับตั้งชื่อโครงการวิจัยนี้ว่า “โครงการวิจัยสิ่งมีชีวิตกึ่งคนกึ่งไดโนเสาร์” พวกเขานำมนุษย์ประหลาดนี้ขังไว้ห้องที่มีลูกกรงเหล็กรายล้อมรอบ มีโทรทัศน์วงจรปิดเพื่อให้นักวิทยาศาสตร์ศึกษาพฤติกรรมได้ตลอดเวลา

ในระยะแรกมนุษย์ประหลาดไม่ยอมกินอะไร ไม่ยอมหลับไม่ยอมนอน เอาแต่เดินงุ่มง่านภายในที่พัก ต่อมาเมื่อคุ้นเคยขึ้น เจ้ามนุษย์ประหลาดเริ่มพูดภาษาคนได้ และเรียกเผ่าตัวเองว่า “พีซะห์”  สามารถเรียนรู้ภาษาอังกฤษและสเปนในระดับเด็กหัดเดิน เป็นนักฟังที่ดี แต่มีการแสดงออกน้อยนิด ไม่ค่อยตอบสนองต่อความก้าวร้าว และมีความเมตตา ชอบออกกำลังกายตลอดเวลา ไม่อยู่นิ่ง ๆ

วัดไอคิวได้ ๘๐-๘๕  ชอบกินอาหารประเภทสัตว์ขนาดเล็ก เช่น งู หนอน หนู และพวกพืชก็รากไม้สด ๆ

จนป่่านนี้ยังไม่มีข่าวคราวความก้าวหน้าเกี่ยวกับโครงการวิจัยมนุษย์ประหลาดนี้

คุณเทาชมพูเชื่อหรือไม่ว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องจริง

 ยิงฟันยิ้ม
 

บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 1599  เมื่อ 07 ส.ค. 11, 18:12

ถ้าเรื่องข้างบนนี้เป็นเรื่องจริง  เรื่องมนุษย์กิ้งก่าก็อาจจะจริงก็ได้
หาอ่านรายละเอียดรวมทั้งชื่อบุคคลที่เกี่ยวข้องได้ที่นี่ค่ะ   ยิ้มเท่ห์

http://www.reptoids.com/Vault/Bishopville.htm
บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 12600



ความคิดเห็นที่ 1600  เมื่อ 08 ส.ค. 11, 16:19

นักมนุษย์ต่างดาววิทยาเขาว่า มนุษย์กิ้งก่านี้เป็นมนุษย์ต่างดาวสายพันธุ์หนึ่ง  เรียกกันว่า Reptilian มีลักษณะคล้ายสัตว์เลื้อยคลาน หน้าตาคล้ายกิ้งก่า แต่เดินสองขา สูงประมาณ ๑๘๐-๒๔๐ เซนติเมตร มีเกล็ดสีเขียว ดวงตาขนาดใหญ่สีเหลืองหรือสีทอง  และมักสวมผ้าคลุมศีรษะ

 

คุณเทาชมพูเชื่อเขาไหม

 ยิงฟันยิ้ม
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 1601  เมื่อ 08 ส.ค. 11, 20:11

^
พอรู้ที่มา  ก็ไม่เชื่อค่ะ
บันทึกการเข้า
hobo
พาลี
****
ตอบ: 324


ความคิดเห็นที่ 1602  เมื่อ 10 ส.ค. 11, 04:38

เพิ่งมาเกยตื้นที่ Devon ครับ
อยากเห็นว่าตอนเน่าเป็นมะขามเปียกจะเป็นอย่างไร
คงมีอะไรให้จินตนาการได้พอสมควร

http://i.dailymail.co.uk/i/pix/2011/08/09/article-2024111-0D5D299400000578-297_634x419.jpg

http://i.dailymail.co.uk/i/pix/2011/08/09/article-2024111-0D5D297400000578-109_634x286.jpg
บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 12600



ความคิดเห็นที่ 1603  เมื่อ 10 ส.ค. 11, 08:48

^
^





ข่าวจาก Daily Mail The death of one of nature's giants: 55ft-long fin whale dies after lying stranded on beach

Fin whale Balaenoptera physalus ตัวนี้มีความยาว ๑๗ เมตร เคยพบตัวที่ยาวที่สุดยาวถึง ๒๗ เมตร แถวบ้านเราก็อาจจะพบได้



คุณ hobo คงไม่มีโอกาสเห็นซากมะขามเปียกของวาฬตัวนี้หรอก

ชาวบ้านแถวนั้นคงไม่ทิ้งเอาไว้ในส่งกลิ่น

สิ่งที่เหลือไว้คงเป็นเพียงโครงกระดูก

 ยิงฟันยิ้ม


บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 12600



ความคิดเห็นที่ 1604  เมื่อ 10 ส.ค. 11, 09:14

หวังว่าการเคลื่อนย้ายวาฬตัวนี้คงไม่เกิดประวัติศาสตร์ซ้ำรอยอย่างที่เคยเกิดขึ้น ในการเคลื่อนย้าย sperm whale ที่ไต้หวัน เมื่อปี ๒๕๔๗





 ตกใจ
บันทึกการเข้า
หน้า: 1 ... 105 106 [107] 108 109 ... 187
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.079 วินาที กับ 19 คำสั่ง