เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: 1 2 3 [4] 5
  พิมพ์  
อ่าน: 18801 ท่านผู้หญิง กลีบ มหิธร
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 45  เมื่อ 10 พ.ค. 10, 09:25

หัวของขุนช้าง คงไม่ใช่ล้านทั้งหัวอย่างยูล บรินเนอร์  แต่ต้องมีผมอยู่บ้าง    ล้านแบบไหน  ขุนช้างรำพันถึงตัวเองว่า
ควักเอามุหน่ายขึ้นป้ายปีก                            ฉีกผมปกกบาลให้ล้านหาย
ยังโล่งเลี่ยนเตียนกลางอย่างแปลงควาย           หัวกูฉิบหายน่าอายใจ
.............................
เดินย่องไปส่องกระจกใหญ่                           ทุดหัวจัญไรเหมือนล่องขี้

แสดงว่าหัวขุนช้างโล่งเฉพาะกลางศีรษะ แต่มีผมขึ้นเป็นปกติ  เป็นปีกอยู่สองข้าง    พอป้ายมุหน่ายลงบนปีกผม  (ซึ่งคงมีผมอยู่ไม่น้อย  ถึงเรียกว่าปีกผม   ถ้ามีแค่สองสามเส้นคงเป็นปีกไม่ได้)  ก็เหมือนใส่เจล  
ดึงผมที่เหนียวเข้ารูป สองข้างมาบรรจบกันตรงกลาง   พอกล้อมแกล้มไปได้ว่ามีผมดกดำอยู่กลางศีรษะ  แต่คงปิดไม่มิด เลยเหลือเป็นร่องเตียนโล่งอยู่ตรงกลาง
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 46  เมื่อ 10 พ.ค. 10, 09:44

อ้างถึง
ข้าวผัดน้ำมันเนย
ผัดหอมกระเทียม    ผัดข้าวที่คลุกน้ำพริกเผา    ใส่ไข่
รับประทานกับกระเทียมดอง และแกงจืด

ไม่เคยเห็นน้ำมันเนย  เคยแต่อ่านพบว่าใช้แทนกะทิได้   คุณหญิงดาริน วราฤทธิ์แห่งเพชรพระอุมาเคยทำแกงเขียวหวานเนื้อกวาง ใช้น้ำมันเนยแทนกะทิ     ให้คณะพรรคกินกลางป่า
แต่ที่อ่านของคุณวันดี  ยังสงสัยว่าเมนูนี้ เอาข้าวมาผัดกับน้ำมันเนย  หอม กระเทียม   แล้วคลุกกับน้ำพริกเผาอีกทีหรือคะ

กระดังงา  ถ้าลนไฟเสียอีกที    จะหอมจัดกว่ากลิ่นธรรมชาติค่ะ
บันทึกการเข้า
Wandee
หนุมาน
********
ตอบ: 4006


ความคิดเห็นที่ 47  เมื่อ 10 พ.ค. 10, 10:30



ข้าวคลุกน้ำพริกเผาก่อนค่ะ  แล้วเอาไปผัด
ตั้งกะทะแล้วใส่หอมกระทียมก่อนเพื่อเพิ่มกลิ่นเตะจมูก


ท่านผู้หญิงมีตำราข้าวผัดที่แสนจะน่ากินอย่างยิ่งยวด อีก สองตำรา คือ

ข้าวผัดชาววัง

ต้มเค็มหมูสามชั้นปนกับหมูแดง  หั่นชิ้นใหญ่ๆ ต้มเค็มกับน้ำตาล น้ำปลา รากผักชี กระทียม พริกไทย
โขลกรากผักชี กระเทียม พริกไทย  แล้วผัดให้หอม   ใส่ต้มเค็มจนหมูเปื่อย

เครื่องปรุงอื่น ๆ ยังมีกุ้งสด  ไข่จืด  ใบหอม ผักชี

ตักน้ำมันหมูในหมูต้มเค็ม(ลอยเป็นฝา)ใส่กระทะ  ปอกกุ้งทั้งตัว ทำความสะอาดตัดหนวดแกะเส้นดำ
ผัดจนสุก  ใส่ข้าว  ผัดต่อ   
ตักเนื้อหมูต้ทเค็มใส่ลงไปด้วย   ตอกไข่ใส่  คนจนไข่สุก

โรยผักชีพริกชี้ฟ้าแดง


ข้าวผัดตลาด

ข้าวสวย  น้ำมันหมู  เนื้อวัวหรือเนื้อไก่  แตงกวา  ผักชี  ใบหอม  ซอสมะเขือเทศ  น้ำเต้าหู้ยี้  น้ำปลาญี่ปุ่น

(น่าจะทำเป็นทุกคน)

แค่ข้าวสวย ตีกระเทียมกับน้ำมันหมู  ก็น่าจะน่ากิน  แถมน้ำเต้าหู้ยี้ ผัดไปด้วย



(นักอ่านบางคนเป็นนักกินอย่างร้ายกาจ  คือเชี่ยวชาญที่หาของกิน แล้วประกอบอาหารขึ้นมา   เวลารับประทานก็อ่านหนังสือไปด้วย
นักอ่านระดับประเทศคนหนึ่ง  รักการอ่านเป็นชีวิตจิตใจ   บ้านอยู่เกาะแห่งหนึ่ง((แน่นอนที่จะ ๒ แห่งไม่ได้อยู่แล้ว)) 
ท่านเดินไปยืมหนังสือที่บ้านญาติ  แล้วเดินกลับบ้าน  ปีนต้นไม้ขึ้นไปซ่อนตัว แล้วอ่านหนังสือ
มารดามาตามตัวไปกินข้าวเย็น  ท่านก็ไม่ขานรับเพราะยังอ่านหนังสือไม่เสร็จ)

บันทึกการเข้า
luanglek
นิลพัท
*******
ตอบ: 2894


ความคิดเห็นที่ 48  เมื่อ 10 พ.ค. 10, 11:24

หิวข้าวๆ   ยิงฟันยิ้ม  เอารูปท่านผู้หญิงกลีบ  มหิธร ตอนรับพระราชทานตราจตุตถจุลจอมเกล้า เป็นคุณหญิง เมื่อ ๑๖ พ.ย. ๑๒๕  การแต่งกายในภาพเป็นการแต่งกายเต็มยศ


บันทึกการเข้า
luanglek
นิลพัท
*******
ตอบ: 2894


ความคิดเห็นที่ 49  เมื่อ 10 พ.ค. 10, 11:26

ภาพนี้เคยมีคนเอามาลงแต่ภาพไม่สมบูรณ์  ภาพนี้สมบูรณ์  ดูลักษณะการแต่งกายในยามอยู่บ้านของท่านผู้หญิงกลีบ


บันทึกการเข้า
luanglek
นิลพัท
*******
ตอบ: 2894


ความคิดเห็นที่ 50  เมื่อ 10 พ.ค. 10, 11:29

ภาพต่อไป  เจริญอายุขึ้นมาอีก  แต่ยังดูสง่างาม  (ตอนนี้น่าจะเป็นท่านผู้หญิงแล้ว)


บันทึกการเข้า
luanglek
นิลพัท
*******
ตอบ: 2894


ความคิดเห็นที่ 51  เมื่อ 10 พ.ค. 10, 11:30

ภาพนี้เป็นภาพหมู่ 


บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 52  เมื่อ 10 พ.ค. 10, 14:56

ภาพในค.ห. ๔๘    ท่านผู้หญิงในเครื่องแต่งกายเต็มยศ  ของคุณหญิงเมื่อรับพระราชทานเครื่องราชฯจุลจอมเกล้า     
อยากให้สังเกตสายสะพาย      สมัยนั้นคุณหญิงจะได้รับสายสะพายด้วย  เรียกอย่างไม่เป็นทางการว่า สายสะพายแพรปัก    ถ้าเป็นทางการเรียกว่า แพรห่มเครื่องยศ    สีสันคือสีชมพู

รูปหมู่ในค.ห. ๕๑    หญิงสาวคนขวาสุด น่าจะเป็นท่านผู้หญิงดุษฎีมาลา มาลากุล  บุตรีของท่านผู้หญิงกลีบ
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 53  เมื่อ 10 พ.ค. 10, 15:06

ขอแถมรูปเก่าให้ดูกันสักรูป    สตรีในภาพคือคุณหญิงนิมิราชทรงวุฒิ  (เนือง บุณยรัตพันธุ์ หลานปู่ของเจ้าพระยาภูธราภัย (นุช)  )  แต่งกายตามแฟชั่นสมัยปลายรัชกาลที่ ๕   แต่สะพายแพรธรรมดา ไม่ใช่สายสะพาย
เข็มกลัดยาวๆที่เห็นกัน  เป็นพระนามเจ้านายสตรี  พระราชทานให้นางข้าหลวง หรือผู้มีความดีความชอบ ถวายงานในโอกาสใดโอกาสหนึ่งเป็นพิเศษ


บันทึกการเข้า
Wandee
หนุมาน
********
ตอบ: 4006


ความคิดเห็นที่ 54  เมื่อ 10 พ.ค. 10, 16:18

   
       วังของพระเจ้าวรวงศ์เธอ กรมหมื่นพิทยลาภพฤติยากร อยู่ที่ถนนราชวิถี ติดอยู่กับบ้านท่านผู้หญิง
จึงมีโอกาสได้คุ้นเคยกับเสด็จในกรมและหม่อม ตลอดจนท่านหญิงพระขนิษฐา


     ท่านผู้หญิงได้มีโอกาสนั่งโต๊ะหลวง รับพระราชทานเลี้ยงอาหารค่ำ ในการเลี้ยงพระราชทานเป็นเกียรติแก่ทูตานุทูต และบุคคลสำคัญชาวต่างประเทศบ่อย ๆ

ท่านเสาะหาผู้มีวุฒิพิเศษ เช่นในวิชาละเลงขนมเบื้อง  วิชาปอกมะปรางริ้วเป็นลายแปลก ๆ และขนมไทยโบราณให้มาสอนบุตรหญิง


     อาหารฝรั่งนั้น  ท่านเจ้าคุณชอบ และต้องมีสามสิ่งทุกวัน        ท่านจึงจ้างกุุ๊กฝีมือดีที่กรมหลวงราชบุรีทรงฝึกไว้แล้วมาเป็นพ่อครัวประจำ
ท่านเรียนอาหารฝรั่งจากพ่อครัวจนชำนาญ   สามารถทำอาหารฝรั่งยาก ๆ เช่น พายได้


ส่งบุตรหญิงไปรับการอบรมเรื่อขนบประเพณีจากคุณท้าวนารีคณารักษ์พี่สาวของท่านเจ้าคุณ  ที่วังฟ้าอัษฎางค์เดชาวุธ กรมหลวงนครราชสีมาทุกวันเสาร์หลังจากกลับจากโรงเรียนครึ่งวัน


เรื่องราวของท่านผู้หญิงหาอ่านได้จากหนังสือเล่มที่ใช้นี้

คัดลอกด้วยความชื่นชมสุภาพสตรีไทยที่เคียงคู่กับสามีตลอดมา

มีการตัดทอนเรื่องราวให้สั้นลงบ้างเพื่อความเหมาะสมในการถ่ายทอด   ขอประทานโทษต่อหลานๆของท่านผู้หญิงด้วย



ท่านมีบุตรธิดา ๑๒ คน  และมีธิดาที่เลิศแล้วด้วยความสามารถที่เราอยากนำมาเสนอต่อไป



เมื่อวันฉลองอายุ  มีงานทางสงฆ์และงานเลี้ยงดูกัน  ตั้งเวที      ลูกๆคิดจะทำตราที่หน้าโรงละคร  จึงปรึกษากันว่าจะเป็นกลีบดอกไม้อะไรดี

ท่านผู้หญิงแจ้งว่า ควรจะเป็นกลีบดอกจำปา   เพราะท่านชื่อ กลีบจำปา

บุตรธิดาดีใจและประหลาดใจมาก ว่า ทำไมไม่เคยเล่า และไม่เคยได้ยินใครพูด


     ท่านผู้หญิงหัวเราะและตอบว่า   ท่านเจ้าคุณตัดชื่อท่านให้เหลือพยางค์เดียวตั้งแต่แต่งงาน  เพราะเกรงจะเป็นการทำเทียมเจ้านาย

บันทึกการเข้า
ritti018
พาลี
****
ตอบ: 210


ความคิดเห็นที่ 55  เมื่อ 10 พ.ค. 10, 16:33

ชอบมากๆเลยครับ สำหรับเรื่องราวของท่านผู้หญิงกลีบ ขอขอบคุณ คุณwandee มากๆที่กรุณานำบทความพร้อมภาพมาให้ชื่นชม.........
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 56  เมื่อ 10 พ.ค. 10, 16:50

ชื่อกลีบจำปา  ฟังเป็นนางในวรรณคดี มากค่ะ
อ่านถึงบทบาทสตรีสมัยก่อนแล้ว    น่าสรรเสริญมาก
อายุ ๑๙  ท่านผู้หญิงกลีบก็ต้องเข้ารับตำแหน่งกรรมการผู้จัดการบริษัทครอบครัวใหญ่   พ่อสามีเป็นประธานกรรมการ  บริหารพนักงานกว่า ๑๐๐ชีวิต  โดยไม่มีวันเกษียณ  แถมยังต้องต้อนรับแขกผู้มาเยือนบริษัทไม่เว้นแต่ละวัน   ต้องบริหารงานไม่ให้บกพร่อง     บริษัททำท่าจะขาดทุน ก็ต้องรีบหาทุนมาเพิ่มเติม    ยังไม่รวมบทบาทแม่ของลูก ๑๒ คน อีกล่ะ     ถือว่าเป็นยอดนักบริหารสตรี

ถ้าต้องเกิดเมื่อ ๑๐๐ ปีก่อน   ดิฉันสมัครใจจะอยู่เป็นโสด  สบายกว่ากันแยะ
บันทึกการเข้า
Wandee
หนุมาน
********
ตอบ: 4006


ความคิดเห็นที่ 57  เมื่อ 10 พ.ค. 10, 17:35

ขอบคุณคุณ Ritti018  ที่แวะมาบอก  กรุณามากค่ะ

ประวัติของบุคคลสำคัญไทย มักจะขาดตกข้อมูลด้านภรรยา
เมื่อเห็นและได้มา     ประทับใจ  ก็นำมาเล่าสู่กันฟัง

ยังมีคุณหญิงอีกท่านที่ต้องทำขนมให้บ่าวหาบไปขายถึงวันละ ๔ หาบ  เพื่อไม่ให้เป็นภาระของสามีที่อยู่ต่างประเทศต้องส่งเสีย
ยกย่องการทำหน้าที่ของท่านเหล่านี้ 

เมื่อยามคับขัน  ท่านก็ทำงานในหน้าที่คืองานปรุงอาหาร  ปรุงเครื่องหอม เพื่อพยุงครอบครัวไว้

เหมือนที่คุณเทาชมพูเอ่ยเลยค่ะ   เหนื่อยแย่เลย




บันทึกการเข้า
ritti018
พาลี
****
ตอบ: 210


ความคิดเห็นที่ 58  เมื่อ 10 พ.ค. 10, 21:10

ถูกต้องครับคุณWandee ข้อมูลฝ่ายภรรยาของบุคคลสำคัญ มักจะไม่ใคร่จะมีผู้ใดกล่าวถึง อย่างวันก่อนก็ได้อ่านประวัติของคุณหญิงหลุยส์  มไหสวรรย์ ภรรยาของพระยามไหสวรรย์ ซึ่งต้องดูแลบุตร-ธิดาถึง 10 คน อ่านแล้วได้อรรถรสเป็นอย่างยิ่ง

ที่คุณWandee กล่าวถึงคุณหญิงที่ทำขนมให้บ่าวไปขายนั้น ทำให้นึกถึงเรื่องราวของคุณหญิง ผู้เป็นมารดาของท่านอาจารย์สัญญา  ธรรมศักดิ์ ที่ต้องระเห็จในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 จนแม้กระทั่งเมื่อคราวถึงแก่กรรมก็ต้องทำการปลงศพอย่างสามัญชนแทบไม่มเหลือเค้าของคุณหญิงเลยครับ...........
บันทึกการเข้า
Wandee
หนุมาน
********
ตอบ: 4006


ความคิดเห็นที่ 59  เมื่อ 10 พ.ค. 10, 21:33

ขอแบ่งปันความรู้อันหาได้ยากบ้างซิคะ

น้ำลายไหลแหมะ ๆ เลยแถวนี้

ราวกับเห็นมะกอกทรงเครื่อง
บันทึกการเข้า
หน้า: 1 2 3 [4] 5
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.068 วินาที กับ 19 คำสั่ง