เรื่องเรือกลไฟกาลต่อมา ที่เกาะอังกฤษได้คิดสร้างเรือกลไฟขึ้นได้แล้ว และเรือนั้นทำด้วยเหล็กหาได้ทำด้วยไม้อย่างเรือทั่วๆ ไปที่เคยมีมา ทั้งสามารถเดินทะเลบรรทุกสินค้าได้ นายหันแตรเห็นว่าเรือนี้น่าจะขายได้ในกรุงสยามจึงได้สั่งเรือเหล็กนั้นเข้ามา ๑ ลำ เมื่อเรือเหล็กนั้นเข้ามายังกรุงสยาม ชาวพระนครได้แตกตื่นแห่แหนไปดูเรือนั้นกันมาก ด้วยลือกันว่าเหล็กลอยน้ำได้
เจ้าพนักงานได้นำความกราบบังคมทูลรัชกาลที่ ๓ ทรงทราบฝ่าละอองธุลีพระบาท ในชั้นแรก ในหลวงทรงสงสัยจึงได้มีรับสั่งให้เจ้าพนักงานไปตรวจสอบเรือนั้นดูแล้วนำความมากราบบังคมทูลรายงาน เจ้าพนักงานไปตรวจสอบเรือแล้วมาเฝ้าฯ กราบบังคมทูลว่า ได้ตรวจดูเรือตามที่ได้รับรับสั่งแล้ว เห็นว่าเรือนั้นเป็นแผ่นเหล็กย้ำด้วยหมุด มีเครื่องจักรเป็นลิ้นสูบ มีเพลาไปต่อกับจักรข้างท้าย มีหม้อน้ำติดไฟใช้ฟืนและถ่านเป็นเชื้อเพลิงต้มน้ำขังไอไว้ แล้วเปิดให้ไอเดินตามท่อมาเข้าลิ้นสูบกดให้ชักขึ้นชักลงให้เพลาที่ติดกับใบจักรนั้นหมุนไปทางหนึ่ง เดินหน้าอีกทางหนึ่ง ถอยหลังก็ได้ ทรงฟังรายงานเจ้าพนักงานแล้วก็หาได้ทรงเชื่อว่าเหล็กนั้นจะลอยน้ำได้ ทั้งนี้เป็นเพราะยังไม่ได้ทอดพระเนตรเรือนั้น จนชั้นว่า ได้เอาบาตรเหล้กลงลอยน้ำแสดงให้ทอดพระเนตร ก็ยังมิได้ทรงเชื่ออีก
ร้อนถึงพระเจ้าน้องยาเธอ กรมหมื่นอินทรอมเรศร์ (คือ พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงมหิศวรินทรามเรศร์) ได้มีพระดำริด้วยกับมหาดเล็กหลวงนายหนึ่ง ซึ่งเป็นผู้ชำนาญในเรื่องเข็มมีสตีรและเครื่องจักร เครื่องยนต์กลไก เพราะได้ร่ำเรียนวิชาความรู้กับหมอเฮาส์ และสังฆราชยวง มหาดเล็กคนนี้มีเครื่องเจาะ เครื่องกลึงอยู่ด้วย จึงได้มีพระดำริให้เอาแผ่นเหล็กมาเจาะและย้ำเข้าเป็นรูปเรือเข้าไปทูลเกล้าฯ ถวายในหลวง พอเป็นจัวหย่างให้ได้ทอดพระเนตร พร้อมกับได้ทรงทดลองปล่อยเรือที่ทำนั้นลอยน้ำที่หน้าพระที่นั่งด้วย รัชกาลที่ ๓ ได้ทอดพระเนตรเห็นว่าเรือเหล็กนั้นไม่รั่วไม่จมจริงดังเขารายงานครั้งก่อนนั้นแล้ว ก็ทรงสบโอกาสพระบรมราโชบาย จึงมีพระราชดำรัสว่า "พ่อโตก็ทำได้จะไปซื้อของมันทำไม เมื่อเราต้องการจะใช้ทำเอาเองก็ได้" (งานเข้าล่ะสิครับ

)
จึงไม่โปรดเกล้าฯ ให้ซื้อเรือเหล็กของนายหันแตรนั้นไว้ ทั้งยังมีพระราชดำริว่า นายหันแตรนี้คอยแต่จะคิดหาทางหลอกลวงสยามโดยหาสิ่งขิงสินค้าต่างๆ จากเมืองนอกมาขายแพงเอาเงินทองเมืองสยามไปมากมาย นับแต่นั้น ความโปรดปรานแก่นายหันแตร (หลวงวิเศษอาวุธ) ที่ทรงมีมาแต่เดิมนั้นก็เสื่อมคลายลงอยู่ในเกณฑ์ต้องพิพาท
ฝ่ายนายหันแตรขายเรือเหล็กแก่พระคลังหลวงไม่ได้ ก็ต้องนำเรือนั้นกลับออกไปจำหน่ายที่อื่น เป็นการเสียประโยชน์ขาดทุนมาก
