เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: 1 2 [3] 4 5 ... 7
  พิมพ์  
อ่าน: 29917 ธิดา กงศุลเยเนอราลอังกฤษ แฟนนี น้อกซ์
Wandee
หนุมาน
********
ตอบ: 4006


ความคิดเห็นที่ 30  เมื่อ 20 เม.ย. 10, 05:10

ประมวลจดหมายของพระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าปฤษฎางค์ราชทูตองค์แรกของไทยประจำทวีปยุโรป
คณะกรรมการชำระประวัติศาสตร์ไทย  พิมพ์ ๒๕๓๔

หน้า ๑๒๔ - ๑๒๕



29 August 1884

กราบทูล กรมหมื่นเทววงษ์ ฯ

     ด้วยข้าพระพุทธเจ้าได้รับพระราชทานโทรเลขฝ่าลอองพระบาท   ซึ่งทรงมีประทานออกมาวันนี้
มีความข้างต้นว่าด้วย   เรื่องไอ้สำอาง  รายที่อีแฟนนี(ไอ้และอี  เป็นคำนำหน้าของนักโทษผู้ต้องคดี/นักอ่าน)     
เอาไปยักยอกไว้ที่ห้างยุเกอร์ ซิกกัมปนี
ซึ่งโปรดเกล้าให้ข้าพระพุทธเจ้าจัดแจงชำระเสียให้เสรจที่กรุงปารีส     
อย่าให้ต้องส่งความเข้าไปชำระที่กรุงเทพ ฯ นั้น     
ได้ทราบเกล้าทุกประการแล้ว

     การเรื่องนี้  ข้าพระพุทธเจ้าได้กราบทูลมาในเมลวันที่ ๒๒ เดือนนี้แล้วว่า   
มองซิเออร์มาเลิบปฎิเสศหมด       ว่ามิศเตอร์ซิกเปนผู้รู้แต่ผู้เดียว     
แลมิศเตอร์ซิกเอง  ก็ไม่ยอมที่จะใช้เงินที่ปารีศ         จะขอไปชำระกันที่กรุงเทพ .................
ข้าพระพุทธเจ้าคิดด้วยเกล้าว่า  การนั้นก็จำเปนไปตกลงกันที่กรุงเทพ
เพราะยุเกอร์เปนหัวหน้าก็อยู่กรุงเทพ         
ที่เขาจะขอให้ไปเสร็จกันที่กรุงเทพ ฯ นั้น  ก็เป็น ธรรมดาอยู่แล้ว

มิศเตอร์ซิกมาพูดไม่แข็งแรงอย่างใด
เปนแต่ว่า       ใคร ๆ บ้างก็ต้องคิดทำอย่างนั้น         เพราะสงสารกับบุตรผู้ตาย

แต่เงินรายนี้  เขามิได้ปฎิเสธว่าไม่ใช่เงินหลวง (ราย ๒๔๐๐๐ เหรียญ)

ถ้าใครมีใบรับไปให้เขา ๆ ก็จะให้กับผู้นั้น




12 September 1884
กราบทูลกรมหมื่นเทววงษ์ ฯ

       ด้วยเรื่องแฟนนีนั้น     ข้าพระพุทธเจ้ามีความเสียใจเป็นล้นเกล้า ฯ  ที่การล่วงเลยไปเสียแล้ว
หาได้ทราบเกล้า ฯ ตามพระดำริห์ที่จะให้อลุ่มอล่วยตนถึงกับไม่ได้เงินก็ไม่เปนไร
คิดด้วยเกล้าว่าเปนโอกาสอันใหญ่ที่จะได้พระราชทรัพย์คืน

     แต่การเรื่องนี้  มิศเตอร์ซิก  ก็ได้รับอยู่ว่า  มีเงินของเกาเวอนเมนต์อยู่ที่เขาจริง
จะเอาเมื่อใดเขาก็จะให้
ถ้าแฟนนีไม่อ้างว่าเปนของเขาแล้ว  เกาเวอนเมนต์ทำใบรับไปให้เวลาใด   ก็จะให้เวลานั้น
จะให้แล้วกันที่นอกนั้นเขาไม่ยอม
เพราะการเรื่องนี้เกิดขึ้นที่กรุงเทพ   แลยูเกอร์อยู่ในกรุงเทพด้วย
เขาขอไปทำกันที่กรุงเทพ

     แต่เงินรายอื่น ๆ นั้น    ไม่รับออกมาตรง ๆ ว่า เกาเวอนเมนต์ได้ไปหมดแล้ว

     การเรื่องนี้      จำเปนต้องไปแล้วกันที่กรุงเทพ       ข้าพระพุทธเจ้าจึงได้สำเนาบาญชีรับเงิน
แลกอเรศปอนเดนซ์ฉบับเดิมซึ่งแฟนนีมามอบให้ไว้ทูลเกล้าถวายพร้อมกับหนังสือทั้งปวงด้วยแล้ว

     ควรมิควรสุดแล้วแต่จะโปรดเกล้า

     หนังสือเขียนกรุงปารีศ ..................
บันทึกการเข้า
Wandee
หนุมาน
********
ตอบ: 4006


ความคิดเห็นที่ 31  เมื่อ 20 เม.ย. 10, 05:51

วันที่ ๒๖ เซบเตมเบอร์  คฤสตศักราช ๑๘๘๔

ทูล กรมหมื่นเทวะวงษ์


   (กล่าวถึงเงินสำอางที่มีอยู่กับห้าง มาเลิบยุเลียน)


     อนึ่งแฟนนีได้มาพูดขอให้ข้าพระพุทธเจ้า       ส่งตัวแลบุตรเข้าไปกรุงเทพ ฯ
ว่าตัวและบุตรเปนไทย      ข้าพระพุทธเข้าต้องเปนธุระ

     ข้าพระพุทธเจ้าได้ตอบว่า       บุตรสำอางทั้งสองนั้น        ข้าพระพุทธเจ้ารับส่งกรุงเทพ ฯ ได้

แต่ตัวแฟนนีกับบุตรของเขาแลอุ่นคนใช้ที่มาด้วยนั้น      ข้าพระพุทธเจ้ารับส่งไม่ได้
ด้วยยังไม่ทราบแน่ว่าเกาเวนเมนต์อังกฤษจะว่าเขาเปนไทยหรือไม่            ถ้าแฟนนีได้หนังสือสำคัญมาว่า
ตัวเธอมิใช่สับเยกต์อังกฤษแล้ว              ข้าพระพุทธเจ้าจะส่งเปนคนไทย

แฟนนีให้ข้าพระพุทธเจ้า  มีหนังสือไปถามที่เกาเวอนเมต์อังกฤษ
แต่ข้าพระพุทธเจ้าบอกว่ามิใช่ธุระกงการของข้าพระพุทธเจ้า
เขาต้องถามตัวเขาเองถึงจะถูก
มิฉะนั้นต้องถามราชทูตที่ลอนดอน


     ครั้นไม่ตกลงกันแล้ว      แฟนนีจะขอยืมเงินทดลองใช้       ว่ากลับกรุงเทพ ฯ แล้ว         จะส่งเงินมาใช้
และขอให้ข้าพระพุทธเจ้ามีหนังสือมากราบทูลให้ฝ่าพระบาททรงทราบว่า         เขาคิดจะมากรุงเทพ
ตั้งใจจะมาพึ่งพระบารมี          ข้าพระพุทธเจ้าก็เฉยเสียทั้งสองอย่าง
แต่นั้นมาก็หายกวนไป


     แต่บัดนี้ข้าพระพุทธเจ้าได้ความว่า      แฟนนีจะกลับกรุงเทพ       ในอาทิตย์หน้านี้
จะพาบุตรคนเล็กกับหญิงคนใช้กลับเข้าไป

แต่บุตรสำอาง ๒ ตนนั้น     จะให้อยู่สกูลไปก่อน


ข้าพระพุทธเจ้ามีความรังเกียจเปนล้นเกล้า ฯ  ที่แฟนนีจะกลับเข้ามากรุงเทพ
ด้วยเป็นคนสอพลอประจบประแจงช่างพูดนัก

เหนด้วยเกล้า ฯ จะมาก่อความให้ได้ก็ตามต่อไป

แต่ตัวเขานั้นก็ต้องจำใจกลับกรุงเทพ ฯ  ด้วยสิ้นริดสิ้นทุนอยู่ไม่ได้ต่อไปแล้ว
เงินทองที่มีมาเท่าใด      ก็ทำฉิบหายด้วยการเผอเรอเสียหมด

     ควรมิควรสุดแล้วแต่จะทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ  ขอเดชะ





(หนังสือเล่มนี้ ราคาเต็ม ๑๒๐ บาท
ตะครุบมาในราคา ๘๐ บาท  ถือว่าไม่ถูกไม่แพง
อ่านได้หลายครั้งยังไม่เบื่อ)


เรื่องราวต่อมาของแฟนนี  ไม่มีข้อมูลที่น่าเชื่อถืออ้างอิงได้

ชีวิตจริง....บางที  ยิ่งกว่านวนิยาย
บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 12599



ความคิดเห็นที่ 32  เมื่อ 20 เม.ย. 10, 09:10


พระราชหัตถ์เลขา ถึง เสด็จกรมพระปวเรศวริยาลงกรณ์ (หน้า ๘๓๕ - ๘๔๑ ใน หนังสือสมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์)  มีว่า

     "ลูกสาวสองคนนี้  คนต่างประเทศไม่มีใครนับถือเลย
ไม่มีใครเอาเป็นภรรยาเป็นแน่

ไปมานอนค้างอยู่ในวังจนคนพูดว่ากงสุลถวายวังหน้าก็มีมาแต่ก่อน  
แต่พูดกันแต่ไทย ๆ  คนฝรั่งไม่พูด

มาในครั้งนี้เขาว่าเมื่อไปกาญจนบุรีนี้ออกหน้ามาก
ไปตามเสด็จวังหน้านั่งที่ไหนก็นั่งเคียงกัน

แลในบางกอกก็มีเถ้าแก่รับส่งเป็นเวลาขึ้นไปนอนวัง

ประทานเข้าของแต่งตัวมากนัก


แต่คำที่คนฝรั่งพูดกันนั้นเป็นการเยาะเย้ยกันมาก
ด้วยเขาไม่นับถือในตัวผู้หญิง
และก็ผิดธรรมเนียมในศาสนาเขามาก"

มีอีกตอนที่น่าสนใจ

....มีผู้ที่ควรจะเชื่อได้ ทราบความมาว่าเขากะสมเด็จเจ้าพระยาฯ เป็นแน่ว่าหม่อมฉันคงจะตายในเร็ว ๆ นี้เป็นแน่ ด้วยผอมนัก วังหน้าคงได้เป็นเจ้าแผ่นดิน ถ้าวังหน้าได้เป็นเจ้าแผ่นดินแล้วเหมือนกับลูกเขา ๆ สงสารจะต้องอุปถ้มภ์ช่วยว่าการงานทุกอย่าง ลูกเขานั้นคนใหญ่ที่ไปเรียนหนังสือเมืองนอกคนเดียวเขาจะให้เป็นฝรั่ง แต่ลูกนอกนั้นตามแต่ภรรยาเขาจะให้มีผัวไทยก็ตาม สมเด็จเจ้าพระยาฯ พลอยเห็นจริงด้วย ได้บอกมอบฝากบ้านเมืองถ้าสิ้นท่านแล้ว วังหน้าจะเป็นเจ้าแผ่นดิน ให้เขาช่วยทะนุบำรุงบ้านเมือง และฝากบุตรหลานของท่านด้วยเถิด การเป็นดังนี้สมกับคำที่สมเด็จเจ้าพระยาฯ พูดอยู่เสมอว่า หม่อมฉันคงตายในปีนี้ ๆ หลายปีมาแล้ว ว่าวังหน้าคงมาเป็นเจ้า คำนี้ท่านพูดอยู่ดัง ๆ กับบุตรหลานนั้นก็ให้มาฝากตัวอยู่ที่กงสุลอังกฤษจริง เป็นการสมกับที่คำพูด แต่คำที่ฝ่ายภรรยามิสเตอร์น็อกซ์กงสุลพูดนั้นว่า ถ้าวังหน้าเป็นเจ้าแล้ว ลูกสาวจะเป็นสมเด็จพระนาง ผัวจะเป็นผู้สำเร็จราชการแผ่นดิน ถ้ามีหลานจะให้เป็นเจ้าแผ่นดินต่อไปด้วย.....


พระราชหัตถเลขานี้บ่งบอกความขัดแย้งระหว่างวังหลวงและวังหน้าโดยมีนายน็อกซ์และสมเด็จเจ้าพระยาฯสังกัดอยู่ฝ่ายหลัง

ข้อสังเกตอีกขัอหนึ่งคือ

คุณปรางเธอใฝ่สูงอยู่มิใช่น้อย

 ยิ้มเท่ห์
บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 12599



ความคิดเห็นที่ 33  เมื่อ 20 เม.ย. 10, 10:30

จดหมายเหตุพระราชกิจรายวัน ปีเถาะ จุลศักราช ๑๒๔๑
หน้า ๑๑๔   วันที่ ๒๒ พฤศจิกายน ๒๓๒๒        
บันทึกไว้


         "เวลายามหนึ่ง       สั่งให้จำไอ้สำอาง ปรีชา ๕ ประการเต็มที่

เวลาสองยาม  เจ้าพระยามหินธร   พระยามหามนตรี   พระยารองเมือง   และนายพธามรงค์ทหาร
เอาตัวไอ้สำอางไปออกประตูรัตนพิศาล  แลประตูสุนทรทิศ   พาไปออกประตูลงท่าพระ

ลงเรือหาญหักศัตรู

เวลาออกเรือยิงปืนหาญหักศัตรู  ต่อสู้ไพรีทั้งสองลำ   กับเรือราชสีห์ลำหนึ่ง

ผู้ที่ไปนั้น   เจ้าพระยามหินทร   พระยารองเมือง   พระพิเรนทรเทพ   จมื่นวิไชยยุทธ   พระศักดิเสนี
หลวงสุริยามาตย์   นายพธำรงค์   ตำรวจ  ทหาร มาก


เมื่อลงเรือ  เจ้าพระยามหินธร  พระยารองเมืองขัดดาบด้วย

มีข้อมูลเพิ่มเติมจากจดหมายเหตุโหรของจมื่นก่งศิลป์ (หรุ่น) เกี่ยวกับวันประหารพระปรีชากลการดังนี้

ปีเถาะ จ.ศ. ๑๒๔๑ ณวัน ๕๕ ค่ำ เพลาบ่าย ๔ โมงเศษ จับนายสำอางเปนที่พระปรีชา ลงเหล็กจำไว้ณคลังวิเศษ ว่าฉ้อเงินฉ้อทองหลวง ว่าเปนขบถ ณวัน ๗๑ ค่ำ เพลา ๑๑ ทุ่มเอานายสำอางลง เรือไฟไปเมืองประจิม ณวัน ๒๑ ค่ำ ถึงเมืองประจิมเพลาเช้า ๔ โมง เพลาบ่าย ๔ โมงสำเร็จโทษนายสำอาง ณวัน ๔๑ ค่ำ เพลา ๔ ทุ่มเศษเรือไฟมาถึง กรุงเทพ ฯ

เรื่องปีและเวลาพอเข้าใจ แต่เรื่องวันนี้ต้องให้คุณหลวงเล็กช่วยอธิบายว่ามีรหัสในการตีความอย่างไร

อ่านจากประวัติพระปรีชาฯ ณ วันสำเร็จโทษ ๒๑ ค่ำ ปีเถาะ จ.ศ. ๑๒๔๑ ตรงกับวันจันทร์ที่ ๒๔ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๒๒

 เจ๋ง
บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 12599



ความคิดเห็นที่ 34  เมื่อ 20 เม.ย. 10, 10:52

จดหมายเหตุโหรของจมื่นก่งศิลป์ (หรุ่น) บันทึกได้กระชับมาก

ของแถม

บันทีกเกี่ยวกับวิกฤตการณ์วังหน้า

ณวัน ๓๑ ค่ำ รุ่งขึ้นข้าราชการต้องนอนประจำซองทุกกรม ณวัน ๖๑ ค่ำ กรมพระราชวังหนีเพลา ๘ ทุ่ม ออกจากวัง ไปอยู่กับนายห้างที่ ๒ กงสุลอังกฤษ ณวัน ๗๑ ค่ำ สมเด็จเจ้าพระยาให้เจ้าพระยาสุรวงษ์ไปเชิญเสด็จมาณจวน จึงเชิญให้เสด็จกลับวังก็ไม่กลับ ณวัน ๑๑ ค่ำ วังหลวงมีลายพระหัดถ์เชิญให้กลับก็หากลับไม่ ณวัน ๒๑ ค่ำ จึงประชุมข้าราชการผู้ใหญ่ผู้น้อยพร้อมกันว่า ทิ้งราชสมบัติไปอยู่กับกงสุล จะชอบจะผิดประการใดให้ทำจดหมายไปยื่น ณวัน ๓๑ ค่ำ มีลายพระหัดถ์ออกมาว่าที่จะยื่น นั้นให้งดไว้ จะเชิญเสด็จกลับ ตกลงกันจะกลับ

 ขยิบตา
บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 12599



ความคิดเห็นที่ 35  เมื่อ 20 เม.ย. 10, 11:27

รองอำมาตย์โท หลวงบำรุงรัฐนิกร (บุศย์ เอนกบุณย์) ได้บันทึกเหตุการณ์ก่อนการประหารชีวิตพระปรีชากลการให้เราทราบ ดังนี้

...พระปรีชาฯ เอาผ้าขึ้นเช็ดหน้า แล้วทิ้งลงดิน พูดออกมาอย่างน่าสงสารว่า โบสถ์สร้างขึ้นยังไม่ทันแล้ว เพราะได้เมียฝรั่ง ตัวจึงตาย...

 เศร้า

บันทึกการเข้า
luanglek
นิลพัท
*******
ตอบ: 2894


ความคิดเห็นที่ 36  เมื่อ 20 เม.ย. 10, 13:27

ค้นเจอพระราชหัตถเลขารัชกาลที่ ๕ เกี่ยวกับแฟนนี่  ฉบับหนึ่ง  แต่ยังไม่สามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมเพื่ออธิบายว่า  แฟนนี่ มาเกี่ยวข้องอะไรกับพวกจีนอั้งยี่  ได้อย่างไร?   




ที่   ๒๔/๕๕๔
พระที่นั่งจักรีมหาปราสาท

                
วันที่   ๑๐   กุมภาพันธ์   รัตนโกสินทร  ศก ๒๘ ๑๑๔

ถึง   กรมหมื่นนเรศร์วรฤทธิ์

        ด้วยได้รับหนังสือเธอที่   ๔๐/๒๖๓๕๗   ลลงวันวานนี้    ซึ่งว่าด้วยเรื่องแฟนนียื่นหนังสือขออนุญาตประชุมพวกจีนเข้าอั้งยี่     เธอได้ตอบไปไม่ยอมให้ประชุมการนี้    ส่งสำเนาหนังสือแฟนนีมีมาและที่เธอตอบไปมาให้ดูด้วยนั้น   ได้ทราบแล้ว   เห็นว่าตามที่เธอทำนี้ถูกต้องแล้ว

สยามินทร



หรือว่า แฟนนีในพระราชหัตถเลขาฉบับนี้ จะไม่ใช่ แฟนนี่ นอกซ์ ฮืม ฮืม
บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 12599



ความคิดเห็นที่ 37  เมื่อ 20 เม.ย. 10, 14:20

แฟนนี่เดินทางออกจากเมืองไทยหลังการเสียชีวิตของสามีเพียง ๒ วันคือในวันพุธที่ ๒๖ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๒๒ โดยนำสองพี่น้องลูกภรรยาเก่าของพระปรีชาฯไปด้วย เมื่อกลับมาเมืองไทยสองพี่น้องอายุประมาณ ๑๗ ปี ดังนั้นแฟนนี่น่าจะจากเมืองไทยไม่เกิน ๑๖ ปี ราว พ.ศ. ๒๔๓๘ = ร.ศ. ๑๑๔

หมอวิบูล วิจิตรวาทการได้บรรยายการใช้ชีวิตในกรุงเทพฯ ของแฟนนี่ไว้ว่า

แฟนนี่ใช้ชีวิตในกรุงเทพฯ ทำงานสังคมช่วยเหลือชาวบ้านที่ประสบเคราะห์กรรมถูกผู้อื่นกลั่นแกล้งกดขี่ เขียนบทความลงในหนังสือพิมพ์ไทยและอังกฤษ ชี้แจงให้เห็นถึงความแตกต่างระหว่างคนจนและคนรวย เจ้านายและชาวบ้านพลเมือง โดยมีจุดหมายให้ประชาชนชาวไทยตื่นตัวต้องการแก้ไขความไม่ยุติธรรมในระบบสังคมแห่งกรุงสยาม จนกระทั่งวันที่ ๑๗ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๖๘ เมื่ออายุได้ ๖๙ ปี จึงตายอย่างเงียบ ๆ โดยไม่ผู้ใดสนใจเหลียวแล

แฟนนี่คงมีโอกาสได้สัมผัสพวกอั้งยี่บ้างหรอก

 เจ๋ง

บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 38  เมื่อ 20 เม.ย. 10, 14:26

ใครมีโอกาสเห็นบทความของแฟนนี่บ้างไหมหนอ?
บันทึกการเข้า
luanglek
นิลพัท
*******
ตอบ: 2894


ความคิดเห็นที่ 39  เมื่อ 20 เม.ย. 10, 14:29


มีข้อมูลเพิ่มเติมจากจดหมายเหตุโหรของจมื่นก่งศิลป์ (หรุ่น) เกี่ยวกับวันประหารพระปรีชากลการดังนี้

ปีเถาะ จ.ศ. ๑๒๔๑ ณวัน ๕๕ ค่ำ เพลาบ่าย ๔ โมงเศษ จับนายสำอางเปนที่พระปรีชา ลงเหล็กจำไว้ณคลังวิเศษ ว่าฉ้อเงินฉ้อทองหลวง ว่าเปนขบถ ณวัน ๗๑ ค่ำ เพลา ๑๑ ทุ่มเอานายสำอางลง เรือไฟไปเมืองประจิม ณวัน ๒๑ ค่ำ ถึงเมืองประจิมเพลาเช้า ๔ โมง เพลาบ่าย ๔ โมงสำเร็จโทษนายสำอาง ณวัน ๔๑ ค่ำ เพลา ๔ ทุ่มเศษเรือไฟมาถึง กรุงเทพ ฯ

เรื่องปีและเวลาพอเข้าใจ แต่เรื่องวันนี้ต้องให้คุณหลวงเล็กช่วยอธิบายว่ามีรหัสในการตีความอย่างไร
 
อ่านจากประวัติพระปรีชาฯ ณ วันสำเร็จโทษ ๒๑ ค่ำ ปีเถาะ จ.ศ. ๑๒๔๑ ตรงกับวันจันทร์ที่ ๒๔ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๒๒

 เจ๋ง

ถ้าอ่านตามที่คุณเพ็ญไปคัดลอกมาอย่างนี้   บอกได้คำเดียวคือ งง   เพราะเลขวัน  ข้างขึ้นข้างแรม และเดือนจันทรคติ ดูไม่ออกเลย   เป็นต้นฉบับที่ใช้ยาก   ต้องเอาฉบับพิมพ์มาสอบ  ถึงจะอ่านรู้เรื่อง

ขอปรับแก้เป็น  


ปีเถาะ จ.ศ. ๑๒๔๑ ณวัน ๕ฯ๕ ค่ำ เพลาบ่าย ๔ โมงเศษ จับนายสำอางเปนที่พระปรีชา ลงเหล็กจำไว้ณคลังวิเศษ ว่าฉ้อเงินฉ้อทองหลวง ว่าเปนขบถ ณวัน ๗ฯ๑ ค่ำ เพลา ๑๑ ทุ่มเอานายสำอางลง เรือไฟไปเมืองประจิม ณวัน ๒ฯ๑ ค่ำ ถึงเมืองประจิมเพลาเช้า ๔ โมง เพลาบ่าย ๔ โมงสำเร็จโทษนายสำอาง ณวัน ๔ฯ๑ ค่ำ เพลา ๔ ทุ่มเศษเรือไฟมาถึง กรุงเทพ ฯ


ณวัน ๕ฯ๕ ค่ำ ปีเถาะ  ยัง จ.ศ. ๑๒๔๐ (วัน ๕ ขึ้น ๕ ค่ำ เดือน ๕ ตรงกับวันที่ ๒๗ มีนาคม ๒๔๒๒)  เพลาบ่าย ๔ โมงเศษ จับนายสำอางเปนที่พระปรีชา ลงเหล็กจำไว้ณคลังวิเศษ ว่าฉ้อเงินฉ้อทองหลวง ว่าเปนขบถ ตรงกันกับข้อความในพระราชกิจรายวัน  ว่า  "...ตำรวจไปหาตัวพระยากระสาปน์พระปรีชาเข้ามาในวัง..."

ณวัน ๗ฯ๑ ค่ำ จ.ศ. ๑๒๔๑ (วัน ๗  ขึ้น ๙ ค่ำ เดือน ๑ ตรงกับวันที่ ๒๒ พฤศจิกายน ๒๔๒๒ )  เพลา ๑๑ ทุ่มเอานายสำอางลง เรือไฟไปเมืองประจิม ปีเถาะ   ตรงกับความในพระราชกิจรายวัน

ณวัน ๒ฯ๑ ค่ำ จ.ศ. ๑๒๔๑ (วัน ๒ ขึ้น ๑๑ ค่ำ เดือน ๑  ตรงกับวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๔๒๒) ถึงเมืองประจิมเพลาเช้า ๔ โมง เพลาบ่าย ๔ โมงสำเร็จโทษนายสำอาง  ตรงกับข้อความในพระราชกิจรายวันว่า  "...วันนี้ที่เมืองปราจิณประหารชีวิตร  อ้ายสำอาง ปรีชา..."

ณวัน ๔ฯ๑ ค่ำ จ.ศ. ๑๒๔๑ (วัน ๔ ขึ้น ๑๓ ค่ำ เดือน ๑ ตรงกับวันที่ ๒๖ พฤศจิกายน ๒๔๒๒) เพลา ๔ ทุ่มเศษเรือไฟมาถึง กรุงเทพ ฯ ตรงนี้ไม่ตรงกับในพระราชกิจรายวัน  เข้าใจว่า คนเขียนจดหมายเหตุเขียนตามข้อเท็จจริงที่เรือขุนนางที่ไปจัดการประหารอ้ายสำอางที่ปราจีนกลับมาถึง  แต่พระราชกิจรายวันคงจดวันตามที่ขุนนางที่ไปนั้นได้เข้าเฝ้าฯ กราบบังคมทูลรายงานการประหารอ้ายสำอางในวันรุ่งขึ้นหลังจากเดินทางกลับมาถึงแล้ว  คือ วันที่ ๒๗ พฤศจิกายน ๒๔๒๒ (วัน ๕ ขึ้น ๑๔ ค่ำ เดือน ๑ จ.ศ.๑๒๔๑)

ฉะนั้นหลักฐานทั้ง ๒ ไม่ขัดกันแต่อย่างใด  ใช้ได้ทั้งสองเล่ม  (เอาไดอะรี่ปกหนังไปคืนพี่ที่ดูแลจัดเก็บก่อนได้) ยิงฟันยิ้ม
บันทึกการเข้า
Wandee
หนุมาน
********
ตอบ: 4006


ความคิดเห็นที่ 40  เมื่อ 20 เม.ย. 10, 14:30

เรื่องคดีพระปรีชากลการ  ยังมีเรื่องที่นักอ่านทั้งปวงหาอ่านศึกษาเพิ่มเติมเพิ่มเติมได้อีกมาก



สำอางไม่ได้ตายเพราะมีเมียฝรั่ง  สำอางตายเพราะความโลภของตนและละเมิดกฎหมายไทย ฆ่าคน

แฟนนีต่างหากขาดทุน  หาสามีได้คนหนึ่งก็อยู่กันได้เพียงสามเดือน
กุหลาบอังกฤษปนมอญก็กลีบกระจาย     วิ่งเก็บสมบัติเสียเหนื่อย




สกุลอมาตยกุลสายกสาปน์ก็ล่มสลายลงในครั้งนี้

ผู้ที่พิมพ์กฎหมายเล่มแรกของประเทศสยามก็โดนริบราชบาตร

ประวัติศาสตร์และรูปถ่ายรุ่นแรกของประเทศไทยก็ต้องระบาด   หายไปเข้าตู้ใครก็ไม่มีทางทราบ

อ้างอิง  จดหมายเหตุพระราชกิจรายวัน จุลศักราช ๑๒๔๑ (ที่หาอ่านยากเพราะไม่ได้พิมพ์ตั้งนาน)  หน้า ๑๑๕
"พระยามหามนตรีถวายบาญชี เมีย ทาษ โหมดกระสาปน์ "




นักประวัติศาสตร์บางคนก็บรรยายว่าแฟนนีกับสำอาง   อยู่ด้วยกันปีกว่า  ครองรักอยู่ด้วยกันปีกว่า  หอบท้องไปนอก  เขียนกันได้เมาหมัด
บางรายยังยกย่องว่านอกซ์มีบุญคุณกับเมืองไทย  กำเนิดสูง  การศึกษาสูง
นักอ่านขัดใจมาก เพราะนักผจญโชค  ฝึกทหารหันซ้ายหันขวาน่ะหรือ มีบุญคุณกับประเทศ

ทราบหรืออ่านหรือค้นกันบ้างไหมว่า น้อกซ์ น่ะตีรวนข้าราชการไทยปฎิบัติการในพระนามพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ขนาดไหน
เจ้าหน้าที่กงสุลสมัยนั้นมาแรง
กูลด์ก็ไม่มีมารยาท  ไพรวี่เคาซิลประชุมกัน  บุกไปฟังได้ลงคอ



แฟนนีคงไม่เคยคิดว่าตนเองต้องลำบากถึงปานนี้  ท้องอ่อนก็ต้องวิ่งตามเรื่องช่วยเหลือนายสำอางที่ติดคุก
หล่อนน่าจะไปปลูกหับเผยอยู่หน้าคุกส่งเสียสามีเหมือนนางแก้วกิริยา


น้อกซ์กลับไปอังกฤษ    ไปด้วยความล้มเหลว        คงโดนเจ้านายผู้บังคับบัญชา เฉือดเฉือนเสียยับเยินแทบจะเดินถนนไม่ได้
นโยบายอังกฤษที่จะเขยิบขยับเข้า โปรเทค เมืองไทย  ก็ต้องปรับแก้กันใหม่
เพราะลูกขาย...หรือลูกเขยเจ้าน้อกซ์ทีเดียว      ซู่ซ่านัก    สร้างเรือซันบีมจนชายชราอยากได้



เรื่องอั้งยี่ในสมัยโน้น  เป็นการเลี้ยงโต๊ะของ ชาวจีน เพื่อช่วยเหลือกันและกันในอาชีพ
แฟนนีคงยื่นมือเข้ามาช่วยบิดาทำงาน
ยังไม่ได้เป็นสมาคมลับอะไร
ข้อมูลของคุณหลวง แปลกมากค่ะ


น้อกซ์น่ะอาสัญเพราะบุตรดังกล่าวมา
บันทึกการเข้า
luanglek
นิลพัท
*******
ตอบ: 2894


ความคิดเห็นที่ 41  เมื่อ 20 เม.ย. 10, 14:47


เพราะลูกขาย...หรือลูกเขยเจ้าน้อกซ์ทีเดียว      ซู่ซ่านัก    สร้างเรือซันบีมจนชายชราอยากได้


อะฮ้า...ไม่ธรรมดา   อย่ากล่าวลอยๆ เลยครับ   สำแดงหลักฐานมาให้กระจ่างเถิด ยิ้มเท่ห์
บันทึกการเข้า
Wandee
หนุมาน
********
ตอบ: 4006


ความคิดเห็นที่ 42  เมื่อ 21 เม.ย. 10, 05:21

เรือระบาดนั้นไม่ได้มีลำเดียว    เรือลำอื่นก็มีหลายท่านอยากได้อยู่


เรือของพระปรีชากลการที่สร้างขึ้นที่ปราจีณนั้น ยาวประมาณ ๑๕๐ ฟุต  เป็นที่สนใจมีเอ่ยไว้ในบันทึกราชการ
หลายครั้ง  ชื่อไทย ชื่ออัษฎางค์

เรือลำนี้พระปรีชากลการพาแฟนนี น้อกซ์ไปเที่ยวบางปะอิน  ซึ่งต่อมาเรียกกันว่า ฟุ้งซ่านนัก
หนังสือประวัติศาสตร์บางเล่มบอกว่าไปเสพมธุจันทร์รส(ภาษาโบราณ)
มีเรื่องที่อ่านมาว่า ที่จริงภรรยาสองคนของพระปรีชากลการอยู่ในเรือด้วย
แต่ถ้าจะคิดอย่างสิวิไลซ์  หญิงสองคนนั้นไม่มีเกียรติหรือวัยหรือสกุลสูงพอที่จะเป็นชาเปอโรนของธิดากงสุล


พระปรีชากลการ คงอยากมี ภรรยาที่สาวสวยและเด่นดัง ธิดาของผู้มีอำนาจ  แถมเก๋ เพราะเป็นแหม่ม

เรื่องเปียนโนที่คุณนายแฟนนีเธอดีดกระหึ่มอยู่ในเรือนไม้นั้น  นักอ่านสงสัยว่าเล่นเพลงประเภทไหน
สหายนักอ่านที่ตอนนี้ สพายย่ามหนังสือร่วมยุคติดตัว     หัวเราะขบขันว่าสนใจอะไรมาก
พ่อเธอคงซื้อให้  และหามิชชันนารีมาสอน


นักอ่านผู้ได้รับการสั่งสอนอบรมมาจากชมรมนักอ่านมหากาฬ(แปลว่าอ่านมาเยอะไม่ได้พาดพิงถึงสีผิว) ว่า ถ้าไม่มีหลักฐานอย่าเชื่อ
ไม่เคยเห็นที่ไหนว่า แฟนนีไปเรียนที่อังกฤษ
ตำแหน่งกงสุล เยเนอราลนั้นก็มิใช่ว่ารุ่มรวย  มรดกนั้นคงเป็นมรโกร๋น เพราะไม่มีมรดก
ไม่เห็นมีการเลหลังเปียนโนที่ไหนสมัยนู้น

(เมื่อคุณหญิงของอาลาบาสเตอร์ เลหลังสมบัติ เธอบอกขายกระทั่งกระป๋องน้ำในสวน
อ้างอิง สยามไสมย ไม่เล่มใดก็เล่มหนึ่ง มี ๔ เล่มเอง)


มีคำให้การของภรรยาคนหนึ่งของพระปรีชากลการว่า  พระปรีชากลการกับแฟนนีรักกันที่ปราจิณ  พี่น้องก็ถูกกัน
(อ่านมาจากเล่มอื่นว่า    ตอนนั้นนอกซ์พาลูกไปเที่ยวและพักอยู่กับพระปรีชากลการ  ถ้าจำไม่ผิดเป็นเวลาสองอาทิตย์)




บันทึกราชการมีอยู่สั้นๆว่า  ทรงถามถึงเรือระบาด  ปรากฏว่าท่านผู้ใหญ่มาขอยืมไปใช้แล้ว

บันทึกการเข้า
Wandee
หนุมาน
********
ตอบ: 4006


ความคิดเห็นที่ 43  เมื่อ 21 เม.ย. 10, 05:43

"โบสถ์สร้างขึ้นยังไม่ทันแล้ว  เพราะได้เมียฝรั่งตัวจึงตาย............)

อันที่จริงมีต่อไปอีกว่า


"แดดร้อนดังนี้ทำไมจะได้สติ        เมื่อตายแล้ว  เราจะไปอยู่ที่หลังคาแดงโน้น"

หนังสืออนุสรณ์ คุณหลวงบำรุงรัฐนิการ ๒๔๘๓   ที่คุณณัฐวุฒิ อ้าง


"คุณพระปรีชากลการ  พูดแล้วสักครู่หนึ่ง  ก็เผอิญมีก้อนเมฆลอยมาบังพระอาทิตย์
กระทำให้บริเวณเหล่านั้นร่มครึ้ม  ปราศจากแสงแดด      มีละอองน้ำโปรยลงมาจากอากาศเป็นฝอยเยือกเย็นไปทั่ว"             




สงสัยว่า พระปรีชากลการ นั่งเหยียดขา หรือขัดสมาธิ
แล้วนายตำรวจที่เข้าไปนั่งตักตามข้อบังคับ     คือใคร

คิดไปคิดมา    คงนั่งเหยียดขามากกว่าเพราะจำครบ
บันทึกการเข้า
Wandee
หนุมาน
********
ตอบ: 4006


ความคิดเห็นที่ 44  เมื่อ 21 เม.ย. 10, 06:12


       ในปี ๒๔๒๑  เมื่อพระยาภาสกรวงศ์ ราชทูต   จมื่นสราภัยสฤษดิการ เป็นอุปทูต

ออกไปเจรจาการเมืองด้วยเรื่องนี้ ณ ประเทศอังกฤษนั้น

ได้เข้ากราบถวายบังคมลา ณ ออฟฟิศใน  บนพระที่นั่งจักรีมหาปราสาท

ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ พระราชทานน้ำมหาสังข์และทรงเจิม



ให้ทำพระราชพิธีตัดไม้ข่มนามด้วย


     ไม่ทราบว่าจะไปอ่านได้ที่ใดว่า  ใช้ไม้อะไรในครั้งนั้น





การที่เลือกจมื่นสราภัยนี้ก็เพราะท่านจมื่นคุ้นเคยกับเจ้าคุณภาสดี ราวกับ ควาน

จะเลือกท่านผู้อื่นคงไปโดนท่านเจ้าคุณอาละวาดฟาดงวงและงา

พี่ท่านที่เลี้ยงท่านมาท่านยังไม่เว้น

ความจงรักภักดีไม่เป็นที่สงสัยใด ๆ ทั่งสิ้น



เท่าที่ติดตามงานของท่านมาก็สนใจมาก  เพราะท่านมีบุคคลิกส่วนตัวเด่น

เถียงแทนพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้ แช้บ ๆ    ปากก็ร้าย   เหตุผลก็แปลกใหม่สดไม่ซ้ำกัน

เสียดายที่ไม่ได้เก็บงานสำคัญ ๆ ของท่านไว้เท่าที่หวัง

เนื่องจากป่วยจากโรคทรางจั๊บ(ขออภัยที่ใช้ภาษาไม่สุภาพ)



(แฟนนานุแฟนที่อยู่ต่างประเทศ ไม้ต้องโทรศัพท์มาถามความหมาย  แปลว่า  no money  ค่ะ)
บันทึกการเข้า
หน้า: 1 2 [3] 4 5 ... 7
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.088 วินาที กับ 20 คำสั่ง